CHAPTER 6 : ผู้ชายที่ชื่อคียติณณ์

1395 Words
เสียงหัวใจของเทียร์รดาเต้นล่ำไม่เป็นส่ำอยู่ในอก สายตาจ้องมองคู่กรณีที่ถอดแว่นดำออก แล้วไล่มองเหยียดเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ผู้จัดการส้มจี๊ดเริ่มหน้าถอดสี รู้ได้ทันทีว่าเรื่องราวต้องใหญ่โต ทั้งบรรยากาศยังคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ คงจะคุยยากพอสมควรเลย “คุณทับทิมใจเย็นก่อนนะครับ เดี๋ยวผมให้น้องเข้าไปคุยในห้อง แต่ตอนนี้ใจเย็นๆ กันก่อนดีกว่า” เสียงผู้กำกับช่วยปราม สีหน้าดูหนักใจบ่งบอกถึงสถานการณ์ที่เคร่งเครียด จากประสบการณ์ที่เคยเป็นผู้จัดการตกอับมาก่อน ทำให้ส้มจี๊ดรู้ได้ทันทีว่านี่คือลูกสาวผู้มีอิทธิพลแน่นอน “นิสัยเมียน้อยเหมือนกันหมดเลยสินะ ชั้นต่ำเหมือนกันไม่มีผิด” ทับทิมกล่าวเสียงสั่นเครือคล้ายว่าสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ ก่อนจะสะบัดแขนออกจากผู้กำกับ ไม่แยแสกับสายตาผู้คนที่จับจ้องมา “พูดเรื่องอะไรของคุณ ฉันเป็นเมียน้อยใคร” “จะไม่ยอมรับใช่มั้ย” “ยอมรับอะไร..” เทียร์รดาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพล่ามเลยสักนิดเดียว “ประธานโชเป็นคู่หมั้นของฉัน เธอจะไม่รู้เลยเหรอ” “นั่นมันเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน” สิ้นประโยคนั้นอีกฝ่ายก็ยิ่งเดือดดาลเข้าไปใหญ่ ผิดกันกับเทียร์รดาที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประธานโชมีคู่หมั้นแล้ว เธอไม่เคยคิดเกินเลยกับเขาแม้แต่ครั้งเดียว บวกกับความที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวคนอื่นนอกจากเรื่องงาน คงทำให้เธอพลาดอะไรบางอย่างไป “แน่ใจเหรอว่าไม่เกี่ยว” "คะ" "แน่ใจจริงเหรอที่ไม่รู้หรือแกล้งโง่.." “แทนที่จะหาเรื่องฉัน ทำไมไม่ถามผู้ชายของคุณดู” เทียร์รดาตอกกลับด้วยแววตาแข็งกร้าว ส้มจี๊ดได้แต่ส่งสายตาให้ผู้กำกับช่วยห้ามเธออีกแรง เกรงว่าหากทั้งคู่ได้ปะทะคารมกันอีกรอบ มีหวังได้เจ็บตัวกันมากกว่านี้แน่ “เพราะแกกำลังอ่อยผัวคนอื่นอยู่ไง คิดว่าฉันไม่มีหลักฐานความหน้าด้านไร้ยางอายของแกใช่มั้ย” “ถ้ามีหลักฐานก็คุยกันด้วยหลักฐานสิคะ ไม่ใช่ใช้กำลังกับฉัน” “แกคงไม่รู้สินะว่าฉันเป็นใคร” “ค่ะ เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แล้วฉันก็ไม่คิดว่าคนที่ไม่รู้จักกัน จะตบหน้าคนอื่นได้ด้วย” ส้มจี๊ดเขย่าแขนให้เทียร์รดาใจเย็นลง ในดวงตาคู่สวยตวัดมองหญิงสาวอย่างคาดโทษ นั่นเลยยิ่งเป็นชนวนให้อีกคนกัดฟันกรอดด้วยความขุ่นเคือง “เตรียมตัวโดนแฉได้เลย..” เธอคนนั้นกล่าวด้วยสีหน้าของคนที่ถือไพ่เหนือกว่า พาให้ใจคนฟังถึงกับวูบโหวงไปชั่วขณะ “ส้มว่าใจเย็นแล้วค่อยคุย..” ส้มจี๊ดปรามเสียงค่อย ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับกล้องนักข่าวที่ตามมาทีหลัง “นะ.. นักข่าวมาจากไหน” สิ้นเสียงอันสิ้นหวังของผู้จัดการสาว เทียร์รดาก็ขยับสายตามองตามเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้น พลันดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างอย่างตั้งตัวไม่ทันกับสถานการณ์ตรงหน้า เห็นผู้คนที่วิ่งกรูเข้ามารุมทีไร เธอก็ยิ่งนึกถึงอดีตที่เคยถูกรังแกตอนอยู่โรงเรียน.. เทียร์รดารีบหันหลังให้กล้องด้วยหัวใจสั่นแรง ภาพจำในอดีตฉายซ้ำทับซ้อนขึ้นมาในหัว ว่าเธอเคยถูกรุมสัมภาษณ์กับข่าวที่แทบไม่มีมูลความจริง ไม่ต่างอะไรจากการถูกรังแกในที่สาธารณะ มือบางรีบยกขึ้นลูบหน้าลูบตาด้วยความวิตกกังวล มือไม้เย็นเฉียบกับใบหน้าสวยหวานที่ซีดเผือดคล้ายว่าจะเป็นลม เมื่อได้ยินเสียงชุลมุนวุ่นวายจากการห้ามนักข่าวไม่ให้เก็บภาพในเวลานี้ 'อ้วนอย่างกับหมู ไปนอนในคอกโน่นไป' 'กินให้มันน้อยๆ หน่อย น่าเกลียดจริงๆ' เทียร์รดาหอบหายใจหนัก วินาทีที่แข้งขากำลังจะอ่อนแรงเสื้อสูทสีดำก็พาดคลุมมาที่ศีรษะ พร้อมกับเรียวแขนแกร่งที่ดึงเธอไปไว้ในอ้อมแขน ฉับพลันความตื่นกลัวในใจก็เริ่มสงบลง ลมหายใจที่ผ่อนปรนถี่กระชั้นเริ่มกลับมาเป็นปกติ พร้อมหยาดน้ำตาที่รื้นคลอเบ้า ใต้เสื้อสูทที่ดูไร้ซึ่งแสงสว่างกลับทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย ก่อนเสียงคุ้นหูจะเอ่ยขึ้นพร้อมออกตัวป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้าถึงตัวเทียร์รดาได้ “ไม่เป็นไรใช่มั้ย อย่าเพิ่งออกมานะครับ นักข่าวเต็มเลย” “คุณติณณ์..” “ไปหลบข้างในก่อน แล้วไว้ค่อยคุยทีหลัง” ใช้เวลาร่วมสิบห้านาทีกว่าที่จะเคลียร์เหตุการณ์ทั้งหมดให้กลับมาเป็นปกติ โดยที่จับทั้งสองฝ่ายแยกห้องกันในทันที ทับทิมกำลังเข้าไปคุยกับผู้กำกับระหว่างรอต้นเหตุอย่างประธานโช ที่ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนปะทะคารมกัน ส่วนเทียร์รดาก็ปลีกตัวเข้ามานั่งสงบสติอารมณ์ในห้องแต่งตัว พลันเสียงลอบถอนหายใจก็ดังขึ้น เทียร์รดาที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าทำสิ่งแย่ๆ ลงไปไม่ได้รู้สึกดีกับตัวเองเลยสักนิด เธออยากจะกรีดร้องให้สุดเสียงตอนนี้เลยด้วยซ้ำ ความบ้าบิ่นของหญิงสาวคนก่อนหน้านี้หายไปแล้ว.. “เมื่อกี้ฉันทำอะไรลงไป..” สุ้มเสียงของเทียร์รดาดูหมดอาลัยตายอยาก สองมือก็ขยุ้มเส้นผมตัวเองไปด้วย “ฉันถูกผีสิงหรือเปล่า ลองเอาน้ำมนต์สาดใส่ฉันก่อนดีมั้ยที่ไปตบเธอกลับแบบนั้นน่ะ” “เป็นฉันก็สวนกลับสักตั้งเหมือนกัน มีอย่างที่ไหนตบหน้าคนอื่นทั้งที่ไม่รู้จัก” ส้มจี๊ดเองก็เห็นไม่ต่างจากเทียร์รดา แต่ในความเป็นจริงตอนนี้เรื่องราวเริ่มใหญ่โตอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ผู้หญิงที่ชื่อทับทิมน่าจะเป็นคู่หมั้นของประธานโชจริงๆ “ว่าแต่ทำไมเขาถึงมากล่าวหาแกแบบนี้วะเทียร์” ผู้จัดการสาวถามขึ้นอย่างคิดไม่ตก “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันพี่ ขอโทษที่ทำให้พี่ซวยไปด้วย” "แล้วแกโอเคไหม" เทียร์รดาระบายลมหายใจพรืดยาว พลางส่ายหน้าช้าๆ แทนคำตอบ “ผู้ชายอย่างประธานโชก็เหมือนกัน ถ้ามีคู่หมั้นอยู่แล้วทำไมถึงทำเหมือนจะจีบแก” ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นกัดเล็บอย่างครุ่นคิด พลางเสตาไปด้านข้างแล้วยกยิ้มมุมปาก รีบขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้เทียร์รดาทันที “อะไรของพี่เนี่ย ยังไงช่วยติดต่อคุณโชให้หน่อยก็แล้วกัน” “ว่าแต่แกไปรู้จักคุณติณณ์ได้ยังไง” “หือ” เรียวคิ้วสวยขมวดมุ่น มองสีหน้าคนช่างพูดอย่างส้มจี๊ดที่กำลังตั้งท่าเล่า “เดิมทีเขาเป็นคนหาตัวยากมากเลยนะแก โรงแรมที่เขาเปิดกำลังจะขยายไปต่างประเทศด้วย แล้วเขาก็บินไปกลับเหมือนสนิทกับท้องฟ้าไปแล้ว อะไรทำให้มาเจอแกได้วะเทียร์.. หือ” “พี่ส้ม” “หรือว่าประธานติณณ์ก็ชอบแกอีกคน ดีเลยไอ้เทียร์ มีแต่คนบอกว่าเขานิสัยดี เป็นสุภาพบุรุษ สาวๆ รอต่อคิวยาวเป็นแถบ” “พี่ส้ม” สีหน้าของเทียร์รดาเริ่มเจื่อนทีละนิด ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากผู้จัดการสาว พร้อมกับจับหน้าเธอให้หันไปมองด้านหลัง “ดีใจนะครับที่คุณได้ยินคนอื่นพูดถึงผมในทางที่ดี ปกติคนชอบบอกว่าผมดุเวลางาน” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยพลางค้อมศีรษะเล็กน้อย “คุณติณณ์” ส้มจี๊ดผงะถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้ ก่อนจะเหลือบสายตาขอความช่วยเหลือจากเทียร์รดาทันที ใบหน้าสวยหวานรีบหลบตามองไปทางอื่น “อ่า แก้มฉัน” “ไอ้เทียร์” “อะไรเล่า” เทียร์รดาเบิกตากว้างเชิงปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ ก่อนส้มจี๊ดจะหยิบมือถือขึ้นมาแล้วทำท่าร้อนรนจะออกจากห้องไป “ถ้างั้นเดี๋ยวฉันออกไปโทรศัพท์ก่อนนะเทียร์ ฝากเทียร์ไว้ก่อนนะคะคุณติณณ์” “พะ.. พี่ส้ม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD