PROLOGUE : ยามฝันร้ายมาเยือน

860 Words
คุณเชื่อเรื่องอดีตชาติหรือหรือการกลับชาติมาเกิดมั้ย.. บางทีการกลับมาพบเจอกันของใครสักคน ก็เพราะสัญญาจากชาติที่แล้วตามติดตัวมา สัญชาตญาณเดิมที่บางครั้งอาจถูกส่งผ่านความฝันอันเลือนราง แต่กลับฝังแน่นในความรู้สึกอย่างไม่อาจลืมเลือน เพราะครั้งนี้ฝันร้ายได้กลับมาเยือนอีกครา.. แววตาของหญิงสาวในความฝันช่างดูสิ้นหวัง กำลังก้าวขาขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ มือจับบ่วงเชือกมาคล้องคอ ไร้ซึ่งหยาดน้ำตาแต่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเธอเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ในวินาทีที่ปลายเท้าปัดเก้าอี้ให้ล้มลง ร่างที่ห้อยอยู่บนขื่อของบ้านก็ดิ้นเร่าเพราะกำลังจะขาดอากาศหายใจ ทว่ากลับมีเสียงฝีเท้าของใครสักคนดังใกล้เข้ามา น้ำเสียงร้อนรนของใครคนนั้นกำลังเรียกหาเธอจนสุดเสียง ฉุดรั้งคนที่คิดสั้นให้เกิดเปลี่ยนใจ แต่หญิงสาวที่ตัดสินใจทำร้ายตัวเองกลับไม่มีแม้แต่แรงจะตอบกลับ สายเกินไปแล้ว.. ขณะเดียวกันประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมแสงสว่างสาดส่องไปที่เธอ ในจังหวะนั้นปลายเท้าเล็กก็หยุดดิ้นกลางอากาศ เปลือกตาปิดลงพร้อมความสงบนิ่งของร่างกายไปโดยปริยาย เสียงร่ำร้องในใจไม่ได้ทำให้ใครได้ยิน มีเพียงแค่เสียงขื่อของบ้านที่เสียดสีกับเชือกเท่านั้น กว่าจะรู้ว่าตัดสินใจผิดพลาด ก็ตอนที่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว.. “ช่วย..” ริมฝีปากของหญิงสาวที่เผชิญฝันร้ายแห้งผาด พึมพำประโยคบางอย่างที่ฟังจับใจความไม่ได้ หากทว่าใบหน้าอันงดงามราวกับรูปที่ปั้นอย่างประณีต กำลังดำดิ่งสู่ฝันร้ายแสนมืดมน จนยากที่จะฉุดรั้งตัวเองขึ้นมา ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนนับครั้งไม่ถ้วน.. “ช่วยด้วย..” เสียงร้องขอให้ช่วยดังผะแผ่ว หยาดน้ำใสไหลรินออกทางหางตาของหญิงสาว เธอสะอื้นเบาๆ กับความรู้สึกที่บีบคั้นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ลมหายใจเธอติดขัดเหมือนคนที่กำลังจมน้ำ มือเรียวบางจิกผ้าปูที่นอนแน่น พยายามปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝัน แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง “ฮึก” หญิงสาวที่อยู่ในห้วงภวังค์ฝันร้ายสะอึกสะอื้น ท่ามกลางเสียงทุ้มต่ำที่ตะโกนกู่ร้องอย่างเจ็บปวดในความฝัน อีกทั้งกลิ่นคาวเลือดยังคละคลุ้งโพรงจมูก เหมือนว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเคยเกิดขึ้นจริง หยาดเหงื่อเริ่มไหลอาบโทรมกายให้เปียกชื้นผ้าปูที่นอน ร่างบางนอนตัวแข็งทื่อด้วยความกลัดเกร็ง พยายามสลัดตัวออกมาจากเสียงกรีดร้องของชายหนุ่มที่เธอแทบจะทนฟังไม่ไหว หัวใจเต้นรัวแรงราวกับจะหลุดออกจากอก ใบหน้าซีดเซียวดูไร้เรี่ยวแรง เมื่อต้องเผชิญกับภาพเหตุการณ์เลวร้ายนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาพฝันดูขมุกขมัวเหมือนมีกลุ่มไฟขนาดใหญ่ลอยในอากาศ มีเสียงฝีเท้าของผู้คนอยู่รอบตัว แต่ดันมีเสียงร่ำไห้ของชายหนุ่มแปลกหน้าร้องขอให้ช่วยเจียนขาดใจ ‘ยายจ๋า.. หนูขอโทษ’ สิ้นเสียงของหญิงสาวที่ดังแว่วเข้ามาในหู ทุกอย่างรอบข้างก็ค่อยๆ เลือนหายไป สลับภาพไปยังแผ่นหลังของชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ที่นั่งหันหลังให้เธอท่ามกลางหมู่ดอกไม้กลิ่นหอมแทน เสียงกรีดร้องและความเจ็บปวดเหล่านั้นหายไปแล้ว.. จากที่พยายามจะหลุดออกจากความฝัน ร่างบางกลับถูกฝันหวานดึงดูดให้หยุดดิ้น พลันลมหายใจที่ขาดห้วงก็ผ่อนปรนเป็นปกติในฉับพลัน ใบหน้าสวยหวานราวกับน้ำผึ้งเดือนห้าผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ความรู้สึกที่หวาดกลัวก็เริ่มแทรกซึมด้วยความรู้สึกผูกพันขึ้นมา แต่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายตรงหน้าเป็นใคร.. เธออยากพูดคุยกับใครคนนั้นที่มักจะโผล่มาช่วยเธอจากฝันร้าย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นเขา แต่พยายามแทบตายยังไงก็เห็นเพียงข้างหลังของอีกฝ่ายเท่านั้น “อือ” ร่างกายของหญิงสาวบนเตียงพยายามฝืนตัวเองในความฝัน เธอก้าวเดินเข้าไปให้ใกล้เขามากขึ้น เพียงเพราะรู้สึกได้ถึงความโหยหาบางอย่าง รู้สึกดีจนไม่อยากตื่นเลย.. ผู้ชายแปลกหน้าในความฝันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก แค่ได้เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างก็อยากจะซบอิงแล้วทิ้งตัวนอนหลับไป “คุณ..” เสียงเรียกในห้วงความฝันดังกังวาน ส่งผลให้ชายตรงหน้าเอี่ยวลำคอเพียงสี่สิบห้าองศา ปรายหางตามองเธอ พลางยกยิ้มบนมุมปากเล็กๆ ท่ามกลางหมอกสีหม่นที่ทำให้ภาพมันพร่าเบลอ เธอพยายามจะเพ่งมองให้แน่ชัด ทว่าต่อให้เธอรีบก้าวเท้าตรงเข้าไปหา ระยะทางข้างหน้าก็ยิ่งไกลห่างออกไป เสี้ยววินาทีที่แสงสีขาวสาดส่องกระทบใบหน้าของเขา พลันทุกอย่างรอบกายก็ขาวโพลนจนดับวูบไปในพริบตา มีแค่คำภาวนาที่หวังว่าจะได้พบเขาอีกครั้งนึง..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD