สิ่งที่ขอ

1093 Words
บ้านหรูใจกลางกรุง "ครับพิมพ์ เดี๋ยวผมจะรีบไปรับ" มาร์คัสยกมือถือขึ้นมาแนบที่หู ประโยคสนทนาที่แสนสั้น เมื่อบอกปลายสายไปแล้วก็รีบกดวาง จากนั้นเขาก็เก็บมือถือลงกระเป๋าเสื้อสูทตามเดิม ส่วนคนที่โทรเข้ามา เธอคือ พิมพ์รดา เป็นคู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มกับแฟนสาวคบหาดูใจกันมาถึงหนึ่งปีด้วยคำแนะนำของผู้เป็นพ่อ พ่อของพิมพ์รดาเป็นเพื่อนรักของพ่อเขา ส่วนพิมพ์รดาก็มีหน้ามีตาเป็นคนในวงการธุรกิจ มาร์คัสไม่รอช้าเร่งรีบออกจากตัวบ้าน บ้านหลังใหญ่ที่เขาอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ส่วนพ่อกับแม่อยู่ต่างประเทศกันหมด ระหว่างที่รถหรูเคลื่อนตัวออกจากที่ ชายหนุ่มฉุกคิดได้ว่าสั่งลูกน้องคนสนิทเดินทางไปจัดการกับเด็กคนนั้น มาร์คัสหยิบมือถือขึ้นมาอีกรอบ แล้วต่อสายไปหาสิงห์ที่คอนโด โทรศัพท์ "เป็นไงบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า" (ไม่มีครับนาย จะมีก็แค่ เธออยากติดต่อกับแม่ของเธอเท่านั้น) "อืม....เดี๋ยวกูเข้าไปจัดการเอง" ในเมื่อบอกปลายสายไปแล้วก็กดวาง การมารับพิมพ์รดาที่บ้านตัวเขาไม่ได้เป็นคนขับรถเองหรอกนะ จะไปไหนก็ต้องมีลูกน้องคอยตามไม่ห่าง รถหรูแล่นมาถึงตัวบ้านของพิมพ์รดา ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ เมื่อมาถึงแล้ว ก็รีบลงจากรถมุ่งหน้าเข้าสู่บ้านหลังใหญ่ ภายในบ้านมีพ่อของหญิงสาวนั่งอยู่ "คุณอาสวัสดีดีครับ" ชายหนุ่มรีบยกมือไหว้ ส่วนคนที่นั่งอยู่ก็รับไหว้แล้วก็เชิญว่าที่ลูกเคยให้นั่งลง "นั่งก่อนสิ มาร์ มารับยายพิมพ์ไปหาหมอเหรอ" ชายวัยกว่าหกสิบเอ่ยถาม ติณภพ เป็นเพื่อนพ่อของเขาแถมยังเป็นเจ้าของบ้านจัดสรรหลายโครงการ "ใช่ครับ วันนี้หมอนัดพิมพ์ ก็คงต้องตรวจอีกรอบ เห็นว่าช่วงนี้เวียนหัวบ่อย" "เฮ้ย แบบนี้แหละ อาถึงเป็นห่วง ยายพิมพ์สุขภาพไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก จะมีเมียทั้งทีก็ได้เมียขี้โรค ทำใจ มาร์เอ๊ย" ชายหนุ่มยิ้มขึ้น ไม่นานนักแฟนสาวที่ก็เดินลงมาจากบ้าน พิมพ์รดา อายุน้อยกว่า มาร์คัส แค่ปีเดียว หญิงสาวรูปร่างบอบบาง เพราะเธอมีโรคประจำตัว แต่หากถามว่าทำไม มาร์คัส ถึงเลือกเธอเป็นเจ้าสาว เพราะจิตใจที่แสนดีของเธอต่างหาก "คุยอะไรกันค่ะ" เธอหันไปถามผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่ พร้อมรอยยิ้มแสนหวาน จากนั้นก็ตวัดสายตามาทางคนรัก มาร์คัส เผยรอยยิ้มด้วยความอ่อนโยนที่มีให้เธอ พร้อมประโยคคำตอบ "ไม่มีอะไรหรอก เราไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสาย" มาร์คัสยกมือขึ้นไหว้พ่อตา จากนั้นก็พาแฟนสาวมาที่รถ เมื่อขึ้นรถมาแล้ว พิมพ์รดาก็ไม่ลืมที่จะถาม "เมื่อคืน พิมพ์โทรหาคุณตั้งหลายสาย ติดธุระหรือคะ" ชายหนุ่มเงียบอยู่สักพัก จากนั้นก็เอื้อมมือมาจับมือแฟนสาวแน่น "ใช่ แต่ผมก็ไม่ลืมนัดของเรานะ ยังไงคุณก็สำคัญเสมอ!" พิมพ์รดายิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย สายตาจ้องมองหน้ามาร์คัสอยู่ตลอด ในหัวของเธอมันรับรู้ได้ว่า ทุกครั้งที่เขาไม่รับสาย ไม่ใช่ว่าเขายุ่งเรื่องงาน แต่เพราะชายหนุ่มคงสุขสำราญตามประสาผู้ชาย รู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องแบบนี้ไม่อาจเปลี่ยนเขาได้ แต่ที่เธอยอมและอยู่เงียบๆ มันมีแค่คำว่ารักที่ไร้เหตุผลมาประกอบทั้งนั้น เมื่อมาถึงโรงพยาบาล หญิงสาวและแฟนหนุ่มก็มุ่งหน้ามาห้องหมอ หมอที่นัดไว้เป็นหมอประจำตัวของเธอ ส่วนโรคที่เธอเป็นนั้น มันบอกไม่ได้เลยว่ามันเป็นโรคอะไรเพราะ1ใน100คนที่จะเป็นกัน ส่วนอาการของโรค เวียนหัว เบื่ออาหาร บางครั้งถึงกับเลือดต่ำ ต้องได้แอดมิด แต่หมอก็ไม่อาจวินิจฉัยได้ว่าเธอป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่ "วันนี้เลือดดีขึ้นนะ พยายามทานยาตามที่หมอสั่ง อีกอย่างห้ามเครียดรู้ไหม" "รู้ค่ะ" น้ำเสียงอ่อนนุ่มของหมอที่คุยกับคนไข้ บ่งบอกถึงความห่วงใย พิมพ์รดาไม่ใช่แค่คนป่วยธรรมดา แต่คุณหมอที่รักษาเธอเป็นรุ่นพี่ที่เธอรู้จักอีกต่างหาก หลังจากที่พบหมอแล้ว อาการต่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง หมอได้จัดยาพร้อมคำแนะนำเหมือนปกติให้เธอ หลังจากเสร็จจากตรงนั้น มาร์คัส ก็เอ่ยถามขึ้น "จะไปไหนต่อไหม" "ถามแบบนี้แสดงว่ามีธุระที่อื่นหรือคะ" "ผมมีงานต้องไปจัดการ หากจะให้คุณไปด้วยก็เกรงจะไม่สะดวก" "อ๋อ....งั้นไปส่งพิมพ์ที่บ้านเลยก็ได้ ดีเหมือนกันพิมพ์จะได้พักผ่อน" ชายหนุ่มยกมือมาลูบที่กลุ่มเส้นผมจากนั้นก็ก้มลงไปสูดดม พร้อมรอยยิ้ม ในเมื่อบอกมาร์คัสให้มาส่งที่บ้าน ชายหนุ่มก็สั่งคนขับรถวนกลับมาที่บ้านในเวลาเกือบเที่ยง เมื่อมาส่งแล้วเขาก็ไม่ได้ลงจากรถ เพราะพิมพ์รดาเธอคิดแค่ว่างานที่มาร์คัสทำคงจะมีปัญหา เลยไม่ซักถามอะไรมาก เมื่อชายหนุ่มกลับไปแล้ว เธอก็เดินขึ้นไปพัก เหมือนปกติทุกวัน คอนโด ร่างสูงมุ่งหน้าขึ้นลิฟต์ เด็กสาวที่เขาได้เสพสุขรออยู่บนห้อง เมื่อขึ้นมาแล้วภายในห้องยังมีลูกน้องของเขาเฝ้าเทียนหอมอยู่สองคน รวมทั้ง สิงห์คนสนิท "เป็นไง เด็กคนนั้น!" "ยังอยู่ในห้องครับ" ต้องบอกก่อนว่าคอนโดหรูแห่งนี้มีห้องนอนแยกออกไป เป็นห้องชุดมีครบทุกอย่าง หลังจากที่ถามลูกน้อง เขาก็มุ่งหน้าเข้าไปในห้อง เทียนหอมนั่งกอดเข่าคุดคู้อยู่ข้างเตียง เมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องตัวสูงเปิดประตูเข้ามา เธอถึงขั้นผวาไปเล็กน้อย "คะ คุณ" ทันทีที่ประตูปิด เสียงเข้มก็เอ่ยถาม "ไปนั่งทำไมตรงนั้น" เทียนหอมไม่ได้ตอบ แต่สิ่งที่เธอถามต่อมันทำให้มาร์คัส ถึงขั้นย่นคิ้ว "หนูขอกลับบ้านได้ไหม"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD