8
1574 Words
นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าความรัก...
“ห้องนอนของหนูดี น่ารักไหมคะ”
เธอลูบเตียงเย็นเยียบแล้วสะท้าน คิดถึงเตียงอุ่นๆ ที่เป็นที่หลบภัยและซุกหัวนอน เธอนอนคนเดียว พ่อแม่ไม่เหลียวแล
“เตียงก็น่ารัก สีชมพูแบบนี้อานอนแล้วจะกลายเป็นเพื่อนสาวหรือเปล่านะ”
คำพูดของเขาทำให้เธอหัวเราะเสียงใส ความเศร้าเหมือนจะลอยห่างไปจากหัวใจในทันที
“คืนนี้อาจะนอนเป็นเพื่อนดีไหม”
“ค่ะอา เปลี่ยนบรรยากาศ”
“ยังกับมาปีนบ้านผู้หญิงเพื่อจับลูกสาวเขากินตับ พ่อแม่เขาก็ไม่อยู่”
“ก็ไม่อยู่จริงๆ นี่คะ”
เธอโน้มคอของเขาลงมาหา ณัฐบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มที่ยั่วยวนเขาอยู่ไม่ห่าง นับว่าเขาหลงเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น แค่เธอยั่วนิดหน่อยเขาก็หักห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
เสียงรถที่แล่นมาจอดหน้าบ้านทำให้ทั้งสองผละออกจากกัน เด็กสาวหน้าตาตื่นเล็กน้อยเมื่อไปชะโงกทางหน้าต่างและเห็นว่าเป็นบิดา
“คุณพ่อของหนูดีกลับมาค่ะ”
“เอาไง ลงไปบอกท่านเลยนะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว”
ณัฐเป็นคนตัดสินใจ เขาไม่อยากเห็นแก่ตัว อย่างไรก็ต้องรับผิดชอบนุดีอยู่แล้ว
“ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวบ้านแตก”
เธอได้ยินบิดาไล่เจ้าดุ๊กดิ๊กด้วย มันเห่าท่านเสียยกใหญ่ ก่อนจะโดนท่านขว้างปาข้าวของใส่ มันเลยวิ่งกลับบ้านของมันไป
เธอใจหายใจคว่ำ เพราะบิดาเป็นคนอารมณ์ร้อน กลัวจะควักปืนออกมายิง ดีที่เจ้าดุ๊กดิ๊กรีบวิ่งกลับบ้านไป
“เอาไงดี” ณัฐเอ่ยถาม
“อาณัฐซ่อนอยู่ในห้องหนูดีก่อนนะคะ”
“เอางั้นเหรอ”
“ค่ะ เชื่อหนูดีนะ จุ๊บๆ”
เธอจุ๊บแก้มเขาสองที บอกให้เขาใจเย็น เธอรู้ว่าเขาเป็นลูกผู้ชายพอและอยากรับผิดชอบ แต่คงไม่ใช่เวลานี้เป็นแน่
เธอคิดว่าจะพาเขาไปกราบปู่ย่าตายายมากกว่าจะไปกราบบิดามารดาเพราะคงบ้านแตก เธอนึกสภาพออกว่าคนทั้งสองต้องเถียงกันคอเป็นเอ็นโทษอีกฝ่ายว่าเลี้ยงลูกไม่ดี ทำให้เสียผู้เสียคน ทำตัวอย่างไม่ดีให้ลูกเห็น ลูกเลยใจแตกชิงสุกก่อนห่ามแบบนี้ และมันก็จะทะเลาะกันยาวยืดจนน่าปวดหัว
นุดีย่องลงมาจากชั้นบน บิดาแทบไม่สนใจเลยว่าจะมีใครมาเห็น พอมาถึงโซฟาก็ตะโบมจูบลูบไล้เด็กสาวที่พามาด้วย อายุอานามคงไม่ต่างจากเธอมากนัก
แต่จะว่าไปเธอก็ตื่นเต้นกับการมองบทรักโจ่งครึ่มของบิดาและเด็กสาวของท่านอยู่มาก
“ทำอะไรน่ะ”
“ว๊ะ อุ๊บ!”
เธอทำท่าจะกรีดร้องแต่ณัฐปิดปากเอาไว้เสียก่อน เขามองผู้ชายที่กำลังแสดงบทรักกับเด็กสาวคนหนึ่งแล้วเบือนหน้าหนี หันไปทำท่าจะดึงมือคนข้างกายให้เดินตาม แต่เขาก็ต้องชะงักเพราะเธออ้าปากค้างน้ำลายเกือบยืดไปถึงตาตุ่มเพราะติดใจหนังสด
“ยัยเด็กบ๊อง” เขาดีดหน้าผากเธอให้มีสติ
“อาณัฐอย่าเพิ่งไปสิคะ”
เธอดึงเสื้อของเขาเอาไว้เหมือนเด็กๆ ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาอยากจะจับเธอตีก้นนัก
“แอบดูผู้ใหญ่ไม่ดีนะ”
เขาทำเสียงดุ เธอไม่ยอมละจากภาพวาบหวิวทีเห็น ณัฐขยับทำท่าจะเดินหนี แต่เธอก็ยังดึงเสื้อเขาไม่หยุด
“เอาไว้ไปทำกับอาณัฐ”
“ยัยเด็กบ๊อง”
เขาจิ้มหน้าผากเธอ ก่อนทำเสียงดุ แต่ใครจะรู้ว่าน้ำเสียงของเขาแหบพร่าเหลือเกิน
“อาณัฐก็อยากดูใช่ไหมคะ บอกหนูดีมาเถอะ”
“เดี๋ยวพ่อเราก็เห็นหรอก”
เขาอุดปากเด็กสาวก่อนจะพาหนีขึ้นห้อง ในขณะที่บิดาของเธอไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง นอกจากร่างอวบๆ ของคนที่กำลังคลุกเคล้าอยู่บนโซฟาตัวยาว
“อาณัฐน่ะ หนูดีจะดูหนังสด”
เธอโวยวายเสียงหอบ ในขณะที่เขาจุ๊ปากปรามเอาไว้ กลัวใครจะได้ยิน
“อาณัฐกลัวอะไรคะ”
“เดี๋ยวจับตีก้นเลย พ่อเขาเห็นเข้าจะทำยังไง”
เธอหน้างอ กอดอกสะบัดหน้าพรืดใส่เขา เรียกว่านั่งงอนป่องอยู่บนเตียงนอนสีชมพูหวาน
“อาณัฐกลัวพ่อเหรอ”
“ไม่ได้กลัวแต่ไม่ใช่เวลา ให้พ่อเราทำภารกิจเสร็จก่อน จะลงไปบอกเขาตอนนี้เลยก็ได้ว่าอาเป็นอะไรกับหนูดี”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”
เธอรีบดึงแขนเขาเอาไว้ ก่อนทำสีหน้าซุกซน ณัฐรู้สึกไม่ชอบมาพากลเหลือเกิน
“หน้าตาไม่น่าไว้วางใจ”
ณัฐแทบจะร้องเสียงหลงเมื่อเด็กสาวกดเขาลงบนเตียงและขึ้นมาทาบทับ แต่เขาก็ตั้งสติได้ดี กระชับสะโพกของเธอเอาไว้
นุดีหัวเราะเสียงใส เขากลัวเสียงเธอจะลอดออกไปนอกห้องเหลือเกิน
“อาณัฐล็อกห้องแล้วนะคะ ระแวงอะไรคะ”
เธอเห็นเขามองไปที่ประตูก็รีบบอก
“เสียงของเราไม่เล็ดลอดออกไปนอกห้องหรอกค่ะ ห้องหนูดีก็เก็บเสียงพอสมควรนะคะ”
“เรานี่เหลือเกินจริงๆ”
เขาโครงศีรษะไปมา มองด้วยสายตาที่อ่อนแสงลง
“อาณัฐขา...”
เธอจิ้มหน้าอกของเขาอย่างแสนซน ณัฐเหมือนจะรู้ว่าเธอต้องการอะไร เขาดึงเธอมาจุ๊บๆ เบาๆ ในขณะที่เด็กสาวค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของเขาออก
ทุกครั้งที่กระดุมเสื้อหลุดออกจากรังดุม นิ้วของเธอสัมผัสกับผิวเรียบตึงของเขา เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
ริมฝีปากเต็มอิ่มก้มลงไปจุมพิตผิวเรียบตึงหอมกรุ่นของเขา ณัฐครางเบาๆ เขาลูบศีรษะเล็กๆ ของเธออย่างเอ็นดู
กระดุมถูกปลดไปจนถึงเม็ดสุดท้าย เธอแหวกสาบเสื้อของเขาออก ก่อนจะก้มลงดูดเลียยอดอกสีเข้มของเขาเบาๆ
“อาณัฐจั๊กจี้ไหมคะ คิกๆ”
สาวน้อยแสนซนเอ่ยถาม ณัฐลูบใบหน้าซุกซนของเธอ ก่อนจะพยักหน้าให้กำลังใจสาวน้อย เธอยิ่งได้ใจทำเหมือนที่เขาเคยทำกับเธอ ลากลิ้นสีชมพูสดไปตามหน้าท้องแกร่ง
“หน้าท้องของอาณัฐแข็งจังเลยค่ะ”
ซิกแพ็กน่าลูบไล้ของเขา บ่งบอกว่าเขาเป็นคนรักสุขภาพ ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ นึกสงสัยว่าเขาเอาเวลาที่ไหนไปออกกำลังกาย สงสัยจะเป็นช่วงเย็นๆ กระมัง หรือวันหยุด
เขาครางเสียงแหบพร่า เผยอริมฝีปากทุกครั้งที่เธอแตะลิ้นลามเลียไปตามผิวกาย
“ถอดออกนะคะ”
เธอบอกเขาอย่างตื่นเต้น ไม่ได้รอให้เขาอนุญาตเลยแม้แต่น้อย ปลดซิปของเขาออกด้วยมืออันสั่นเทา
“ไม่ต้องรีบก็ได้ เด็กลามก”
“ว่าหนูดีอีกแล้วนะคะ แล้วอาณัฐชอบหรือเปล่าล่ะ”
“ชอบครับ”
“ตอบได้น่ารักมาก วันนี้หนูดีจะกินอาณัฐ”
“อนุญาตให้กินทั้งวันทั้งคืนเลยจ้ะเด็กน้อย”
“อาณัฐใจดีจังค่ะ”
“ก็เด็กอยากรู้อยากเห็น อาเลยขัดไม่ได้”
“คิกๆ ต้องใจดีกับหนูดีแบบนี้ตลอดไปนะคะ”
เธอทิ้งตัวลงนอนทาบทับบนตัวเขา ก่อนจะแนบใบหน้ากับอกด้านซ้าย ได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นแรงแทบกระหน่ำออกมานอกอก เธอเองก็หัวใจเต้นแรงไม่แพ้เขา
“เด็กบ๊อง มาบีบหัวนมอาทำไม”
เขาแทบจะหลุดขำเมื่อเธอบดบี้ยอดอกของเขาแรงๆ เขาประท้วงน้อยๆ เธอก็เลื่อนใบหน้าไปกัดหัวนมเขา ฟันคมๆ ของเธอทำให้เขาสะดุ้ง เด็กขี้แกล้งเห็นแบบนั้นก็ลามเลียเหมือนปลอบโยน
“มันเขี้ยวค่ะ”
เธอตอบเสียงใส
“ก็คงเหมือนกับที่อามันเขี้ยวหนูนั่นแหละ”
เขาลูบศีรษะเล็กๆ ของเธอ บางครั้งแค่กอดกันก็ทำให้เขารู้สึกดีมากๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีอะไรกันลึกซึ้งเสมอไป
แต่ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาเขากับเธอจะไม่ได้ออกจากห้องหับกันเลยทีเดียว เขาขำกับความคิดอันวาบหวามของตัวเอง
“อาณัฐยิ้มทำไมคะ”
“ยิ้มเอ็นดูเด็กลามก”
“แน่ะ!”
“โอ้วว์...”
เขาสะดุ้งเมื่อโดนกัดหน้าอกอีก
มือนิ่มเริ่มอยากดึงกางเกงเขาออก ปลดซิปค้างเอาไว้นานแล้ว เขายอมยกสะโพกให้เธอปลดกางเกงสีเข้มออก ยัยเด็กน้อยตาวาวน่ะสิเมื่อเห็นแก่นกายของเขา บางทีณัฐก็คิดว่าจะเสียผู้เสียคนกับเด็กนี่แหละ แต่จะทำไงได้ หลวมตัวไปแล้ว ยังไงเขาก็ต้องรับผิดชอบเธออยู่ดี
“ทำท่าเหมือนจะกินอาแบบนี้ เหมือนจะกัดให้กระจุย น่ากลัวจริงเชียว”
“ไม่กระจุยหรอกค่ะ อันนี้น่ะของหนูดี ต้องเก็บรักษาเป็นอย่างดี กัดขาดกระจุยไป เวลาอยากเสียวจะเอาที่ไหนมาใช้ล่ะคะ”
เธอลูบไล้แก่นกายของเขาหลังจากดึงกางเกงในสีขาวของเขาออกไปค้างที่เข่า
“อารู้สึกเหมือนจะโดนข่มเหงเลย”
- Writer
