วันต่อมา…
ญาดาเดินทางมาแต่เช้าตรู่นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินแล้วก็มีรถโรงแรมมารับเพื่อพาไปส่งที่ฟาร์มอควัตร ที่นั่นมีห้องพักให้ด้วยและเธอเห็นรูปแล้วคิดว่าอยู่ได้เพราะบรรยากาศดีมากแถมยังใกล้ลำธารอีก ถ้าให้อยู่โรงแรมก็เดินทางไกลแถมยังเบื่อบรรยากาศด้วยก็เลยตัดสินใจว่าจะอยู่ที่นั่นในระหว่างฝึกงาน
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“ยินดีครับคุณหนู ถ้ามีอะไรโทรศัพท์มาที่โรงแรมได้ตลอดนะครับ เดี๋ยวผมมารับเอง”
พนักงานขับรถโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างใน ตอนแรกจะช่วยถือกระเป๋าแต่เธอบอกว่าไม่เป็นไรไม่อยากให้เป็นจุดสนใจมากนัก เธอหิ้วกระเป๋าเดินเข้ามาถึงหน้าอาหารเข้ามาไร่แป๊บเดียวเท่านั้นก็เจอเลย
“สวัสดีค่ะ หนูเป็นนักศึกษาฝึกงานจะมาฝึกงานที่นี่ค่ะ”
เธอยกมือไหว้พี่ยามหน้าอาคารอย่างนอบน้อม เขารับไหว้ก่อนจะเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน ที่นี่เป็นบริษัทเลยมีแผนกครบครัน เห็นว่าที่ไร่ทำผลไม้อบแห้งส่งออกด้วยเธอคิดว่าเจ้าของน่าจะทำธุรกิจหลายอย่าง
“เชิญข้างในเลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินตามพี่ยามเข้าไปข้างใน และมีพนักงานอีกคนพาเธอเข้าไปในห้องประชุมและบอกให้นั่งรอตรงนี้เดี๋ยวเฮียอาร์ตจะมาหาซึ่งเดาว่าเขาคงเป็นเจ้าของที่นี่แหละ แต่ทุกคนเรียกเขาว่าเฮียและเธอคงต้องเรียกตามพนักงาน
ไม่นานก็มีคนเดินเข้ามาสองคน ผู้หญิงถือแฟ้มเอกสารเดินตามมาส่วนอีกคนเป็นผู้ชายดูภูมิฐานแต่งตัวสบายๆเดินเข้ามาหาเธอด้วยใบหน้าราบเรียบ หน้าตาหล่อเหลาคมเข้มดูทีเลยทีเดียวคนนี้สินะเฮียอาร์ตนะ…
“สวัสดีค่ะ”
ญาดาลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ทั้งสองคนอย่างนอบน้อม อาร์ตมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าใบหน้าสวยมองยังไงก็ไม่มีเบื่อ เป็นผู้หญิงที่สวยมากทำไมถึงคิดสั้นไปแย่งแฟนคนอื่นแบบนั้น เสียดายมากจริงๆ
“ตามสบายเถอะนั่งลงก่อน”
“ค่ะ”
ญาดายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงที่เดิมโดยมีชายหนุ่มนั่งลงตรงข้ามพร้อมกับจ้องหน้าหญิงสาวอย่างไม่วางตา เธอรู้สึกว่าเขามองด้วยสายตาที่แปลกเหมือนจับผิด ทำไมดูเขาไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่เลยแต่ก็ช่างเถอะเธอฝึกงานกับเลขาของเขานี่นา
“ชื่ออะไรนะเราอ่ะ”
“ญาดาค่ะ”
“ญาดาเธอพักที่นี่ใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ เห็นว่ามีที่พักให้ด้วยแต่ถ้าไม่สะดวกหนูไปกลับก็ได้นะคะยังไงก็ได้”
เธอเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลแม้แต่น้อยสำหรับเรื่องนี้ ให้พนักงานมารับมาส่งทุกวันยังไหวแต่เธอไม่อยากรบกวนเพราะทุกคนต่างก็มีงานที่ต้องทำ และถ้าที่นี่อยู่ได้เธอก็จะอดทนอยู่
“อยู่ที่นี่แหละ คุณลี่ไปสั่งให้แม่บ้านจัดห้องให้ญาดา เอาห้องข้างผมนะจัดการให้ด้วย”
เลขาของเขานิ่วหน้าเล็กน้อยอย่างแปลกใจรวมไปถึงญาดาที่ดูตกใจว่าทำไมเขาถึงจัดห้องให้เธอนอนอยู่ข้างเขามันหมายความว่ายังไง
“หมายถึงว่าให้น้องญาดาอยู่ที่บ้านเฮียอาร์ตเหรอคะ”
“ใช่ จัดการให้ด้วย”
เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบหยิบแฟ้มเอกสารออกมาเปิดอ่านก่อนจะเหลือบสายตามองหญิงสาวที่ตอนนี้ใบหน้ามึนงงกุบการกระทำของเขา
“นี่มันอะไรกันคะ หนูงงไปหมดแล้ว”
“คุณลี่ไปจัดการที่ผมสั่ง”
“ค่ะเฮีย”
เลขาเหลือบสายตามองญาดาเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีพร้อมกับคำถามมากมายเต็มไปหมด ส่วนอีกคนที่อยู่ในห้องเธอต้องการคำอธิบายจากชายตรงหน้าสำหรับเรื่องนี้
“ญาดาฉันขอโทรศัพท์เธอหน่อย”
“คะ… โทรศัพท์เหรอคะ”
เธอเกาหัวอย่างมึนงงแต่ก็ยอมส่งโทรศัพท์ไปให้เขาแต่โดยดี อาร์ตเอาโทรศัพท์ของเธอใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเงยหน้ามองสบตากับหญิงสาวด้วยสีหน้าจริงจัง
“อยู่ที่นี่ไม่ต้องติดต่อกับใครทั้งนั้น จนกว่าน้องสาวของฉันจะแต่งงานกับคนรักของเค้า”
“อะไรนะคะ… น้องสาวคุณเกี่ยวอะไรกับหนูคะ”
ญาดายังไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังจะสื่อ และประเด็นสำคัญเลยคือเขาจะมายึดโทรศัพท์ของเธอไว้กับตัวเองแบบนี้ไม่ได้ เขาคือเจ้านายไม่ใช่เจ้าชีวิตเพราะฉะนั้นอะไรที่มันก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวเขาไม่ควรทำเด็ดขาด
“น้องสาวฉันก็คือคนที่เธอไปแย่งแฟนเค้าไง เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นเถอะเค้ากำลังจะเป็นพ่อคนมีครอบครัวที่อบอุ่น เพราะฉะนั้นถือว่าขอนะได้มั้ย”
ญาดานิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อเริ่มเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังจะสื่อ เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะมาฝึกงานที่นี่แต่ว่าจับฉลากได้จะบอกว่ามันบังเอิญมากเกินไปก็คงใช่ แต่เธอไม่คิดว่าผู้ชายตรงหน้าจะเป็นพี่ชายของยัยผู้หญิงสารเลวที่ชื่อเอิงเอย ดูท่าทางก็ออกจะร่ำรวยแต่ทำไมสิ้นคิดลดตัวลงมาแย่งของคนอื่น
“หนูไม่เคยแย่งของใคร”
“ฉันรู้นะว่ามันทำใจยาก แต่ถ้าเธอคิดให้ดีให้รอบคอบกว่านี้เธอจะรู้ว่าตัวเองยังเด็กยังมีสิทธิ์ที่จะเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง ในระหว่างอยู่ที่นี่ห้ามใช้โทรศัพท์ห้ามใช้อินเตอร์เน็ตติดต่อใครเด็ดขาด”
“ทำไมจะใช้ไม่ได้ คุณไม่มีสิทธิ์ขังหนูไว้แบบนี้”
ญาดาโวยวายออกมาเสียงดังลั่นห้องประชุม ถ้ามันลำบากมากเธอก็จะไม่ฝึกงานที่นี่แล้ว ถ้าต้องกลับมาฝึกอีกเทอมเธอก็จะทำเพราะไม่มีทางที่จะมาทนอยู่ในฟาร์มนรกแบบนี้แน่นอน
“ก็บอกให้เลิกยุ่งกับแฟนน้องสาวฉันไงทำไมถึงดื้อแบบนี้ เธอยังเด็กอนาคตยังอีกไกลผู้ชายคนเดียวหาใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ”
“น้องสาวคุณนี่มันเลวจริงๆเลยนะ มันพูดเหรอว่าฉันแย่งแฟนมันนะ”
ญาดากำมือแน่นอย่างโกรธจัด นี่มันมาบอกพี่ชายว่าเธอไปแย่งแฟนทั้งที่น้องสาวเขาเองมากกว่าที่เป็นชู้กับแฟนของคนอื่นแถมยังปล่อยตัวใจง่ายจนท้องเพื่อจับผู้ชาย สารเลวขนาดนี้ยังกล้าที่จะใส่ร้ายเธออีกทุเรศมาก!
“เอิงเอยบอกว่าเธอไม่ยอมจบสักที ยังวนเวียนมายุ่งวุ่นวายกับพ่อของลูก”
“สารเลวจริงๆ มันนั่นแหละที่แย่งแฟนหนู”
ญาดาไม่ยอมรับและคิดว่าถึงจะอธิบายไปคนมันเป็นพี่น้องกันยังไงก็ต้องเชื่อและเข้าข้างกันเสมอ ซึ่งเธอขอเป็นฝ่ายเดินออกไปจากตรงนี้ดีกว่า ส่วนเรื่องฝึกงานเธอไปขออาจารย์ฝึกที่อื่นก็ได้
“ญาดาน้องฉันท้องอยู่นะ เธอยังมีอนาคตที่ดียังสามารถหาได้ดีกว่านี้อีกเยอะ”
“ไม่มีทาง… น้องคุณมันทำกับหนูขนาดนี้คิดเหรอว่าจะยอมปล่อยให้มันเสวยสุขนะ หึ! ขอโทรศัพท์คืนด้วยค่ะแล้วหนูจะไม่ฝึกงานที่นี่แล้ว”
ญาดาแบมือขอโทรศัพท์จากเขาและจะโทรเรียกให้คนขับรถมารับ แต่มีหรือที่คนอย่างเฮียอาร์ตจะยอมปล่อยเธอออกไปง่ายๆ มาถึงขนาดนี้แล้วเขาต้องจัดการผู้หญิงคนนี้ไม่ให้ไปยุ่งกับแฟนน้องสาวของเขาจนกว่าทั้งสองคนจะแต่งงานจดทะเบียนสมรสกัน ถึงตอนนั้นเขาจะปล่อยเธอกลับไป
“ไม่ได้เธอต้องอยู่ที่นี่ จนกว่าที่เอิงเอยกับพ่อของลูกจะได้แต่งงานกัน ถึงตอนนั้นจะคืนให้”
เขายังยืนยันคำเดิมว่าจะไม่ยอมปล่อยให้เธอออกไปจากที่นี่และจะไม่ให้โทรศัพท์ติดต่อกับคนอื่นเพราะกลัวว่าเธออาจจะแอบโทรหาแฟนของเอิงเอยอีกเรื่องมันจะไม่จบสักที ญาดากำมือแน่นอย่างโกรธจัด เขาไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะขังเธอไว้และกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ที่นี่
“คืนโทรศัพท์มาแล้วปล่อยหนูกลับบ้านด้วย”
“ไม่ให้และไม่ปล่อย”
“กรี๊ดดดดดดด ปล่อยหนูกลับบ้านนะ”
ญาดาเริ่มโวยวายเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ปกติเธอเป็นคนที่เรียบร้อยมากไม่เคยก้าวร้าวขนาดนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เธอหมดความอดทนแล้วและไม่มีทางที่จะอยู่ที่นี่เด็ดขาด
“ไม่ปล่อย ฉันจะจับตาดูเธอตลอด24ชั่วโมงเลย คิดว่ารอดออกไปได้ก็ลองดูสิ… หึ”
“ไอ้คนเลว กรี๊ดดดดดดดดด จะทำแบบนี้กับหนูไม่ได้นะ”
“จะทำมีปัญหาอะไรมั้ย…”