ญาดานั่งกอดเข่าอยู่ตรงระเบียงในห้องทำงานของเฮียอาร์ต โดยมีชายหนุ่มยืนกอดอกเฝ้าอยู่หน้าประตู เธอเหลือบสายตามองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่องมือเล็กกำแน่นอย่างโกรธจัด เธอเป็นคนถูกกระทำมาโดนตลอดทั้งโดนแฟนนอกใจมีผู้หญิงมาแย่งไปยังไม่พออีกเหรอ ทำไมถึงต้องมาถูกขังอีกมันจะมากเกินไปแล้ว
“หิวมั้ยเดี๋ยวพาไปกินของอร่อย”
ชายหนุ่มพยายามชวนเธอคุย เขาไม่ได้อยากทำแบบนี้แค่อยากให้เธอมูฟออนออกมาจากตรงนั้น มันไม่ใช่เรื่องของใครแย่งใครแต่ที่เขาทำเพื่อให้เธอมูฟออนไปข้างหน้าและมีอนาคตที่ดีกว่า เป็นผู้หญิงที่เพรียบพร้อมทุกอย่างควรจะได้ดีกว่านี้ ผู้ชายเค้ามีพันธะไปแล้วเธอไม่ควรไปอยู่ตรงจุดนั้นเพราะมันไม่มีความสุขหรอก
“ไม่! หนูไม่กินจะอดข้าวให้มันขาดสารอาหารตายไปเลย”
“มันไม่ตายหรอกแค่นี้อ่ะ”
“คืนโทรศัพท์หนูมาเดี๋ยวนี้นะ หนูมาที่นี่เพื่อฝึกงานถ้าไม่ได้ฝึกงานหนูจะกลับ คุณเป็นเจ้านายไม่ใช่เจ้าชีวิตอย่ามาบังคับหนู”
เธอตะโกนด่าชายหนุ่มอย่างไม่กลัวเกรง ทำขนาดนี้คิดว่าคนอย่างเธอจะเคารพนับถืออีกเหรอ เป็นผู้ใหญ่เสียเปล่าทำตัวเหมือนอันธพาลโทษคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยทั้งที่ตัวปัญหาคือน้องสาวของเขาแท้ๆ
“ให้เธอสงบสติอารมณ์ให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน แต่ว่าตอนนี้ไปกินข้าวก่อน นั่งตรงนี้มาหลายชั่วโมงแล้วนะเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”
เขาขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาวจะพาเธอไปหาของอร่อยกินแต่มีหรือที่หญิงสาวจะยอม เธอต้องได้ของที่ต้องการก่อนถึงจะคุยกันได้ ถึงแม้ว่าจะพูดดีทำดีกับเธอขนาดไหนก็ตามแต่ถ้ายังเข้าข้างเห็นดีเห็นงามกับน้องสาวของเขาเธอไม่ยอมญาติดีด้วยแน่นอน
“ไม่ไป”
“ญาดาเธอกำลังดื้อนะ”
เขาเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น ยิ่งเขาทำเพื่อช่วยผู้หญิงสารเลวคนนั้นเท่าไหร่เธอยิ่งเกลียดแค้นอยากเอาคืนมากเท่านั้น
“คุณคืนโทรศัพท์มาให้หนูก่อนสิแล้วจะยอมกินข้าว ถ้าไม่อย่างนั้นหนูจะอดข้าวประท้วง”
เธอยังไม่ยอมแพ้ยังไงก็จะประท้วงชายหนุ่มจนถึงที่สุด แต่ทางนี้ก็ไม่ยอมเช่นกันเขาอยากจะแน่ใจว่าเธอจะยอมหยุดทุกอย่างถึงตอนนั้นจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ เฮียอาร์ตคุกเข่านั่งลงตรงหน้าหญิงสาวก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงอ่อนโยน
“ญาดาที่ฉันทำไม่ได้เข้าข้างใครเลยนะ เธอเป็นเด็กอนาคตยังอีกไกล ถ้าน้องสาวฉันไม่ท้องไม่มีทางที่จะให้แต่งงานกับผู้ชายที่มีผู้หญิงหลายคนหรอก ยังไงเด็กก็ต้องมีพ่อแต่เธอยังมีโอกาสได้เลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเองต่างจากเอิงเอยที่ไม่มีสิทธิ์เลือก”
เขาพยายามอธิบายเหตุผลให้เธอฟังว่าสิ่งที่เขาทำไปเพราะหวังดีกับเธอจริงๆ ญาดาเงียบไปอย่างใช้ความคิด เธอคิดว่าถ้าแข็งใส่เขายิ่งขังเธอไว้แบบนี้เพราะฉะนั้นต้องยอมอ่อนลงและเออออไปก่อน ถึงตอนนั้นถ้าได้โทรศัพท์คืนมาเธอจะโทรไปหาพี่แบงค์และให้ความหวังเขาอีกครั้งเพื่อที่ยัยผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นจะได้ไม่มีความสุข ตอนแรกเธอจะจบทุกอย่างแต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมหยุดแถมยังใส่ร้ายเธอให้พี่ชายฟังทั้งที่คนผิดคือหล่อนเองแท้ๆ และคิดว่าคงไปใส่ร้ายให้คนอื่นฟังอีกเพราะฉะนั้นคนแบบนี้ต้องสั่งสอน
“ไปกินข้าวนะญาดา แล้วเดี๋ยวพาไปดูห้องนอนสวยนะบรรยากาศดีมาก ตรงระเบียงเป็นน้ำตกด้วย”
“คุณจะคืนโทรศัพท์ให้หนูตอนไหนคะ”
“ถึงเวลาจะให้เอง แต่ถ้าอยากคุยกับคุณพ่อคุณแม่ก็บอกจะให้ยืมโทรศัพท์โทรตกลงตามนี้มั้ย”
“ก็ได้ค่ะ”
เธอตัดสินใจที่จะไม่ดื้อกับเขาต่อแล้วทำเป็นเออออยอมเขาไปจะได้ยอมคืนโทรศัพท์ให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้นเธอจะตามเช็คบิลทุกคนรวมถึงชายตรงหน้าด้วย เห็นเธอใจดีไม่ทำร้ายใครก็เอาใหญ่ถ้าได้ร้ายบอกเลยว่าใครก็ห้ามไม่อยู่
“ก็แค่นี้แหละ ป่ะลุกขึ้นเดี๋ยวพาไปหาของอร่อยกิน ที่นี่มีคาเฟ่นะอาหารอร่อยมาก”
ญาดามองมือชายหนุ่มก่อนจะยอมจับมือแต่โดยดีแล้วเดินตามเขาไปเงียบๆ อาร์ตมองหญิงสาวอย่างเอ็นดู จริงๆเธอดูเป็นเด็กดีไม่ทำร้ายใครมองยังไงก็มองไม่ออกว่าเธอแย่งแฟนของเอิงเอย เพราะฉะนั้นเขาควรจะถามน้องสาวอีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ยังไงเขาก็ยังยืนยันคำเดิมว่าที่ทำอยู่ตอนนี้คือช่วยให้หญิงสาวหลุดพ้นจากเรื่องทุกอย่าง
เขาพาเธอนั่งรถกอล์ฟขับชมไร่ไปเรื่อยๆก่อนจะวนมาจอดที่คาเฟ่ใจกลางไร่ของเขา ที่นี่กว้างใหญ่สวยงามมากไม่แปลกใจที่อาจารย์เอามาเป็นหนึ่งตัวเลือกให้นักศึกษาได้มาฝึกประสบการณ์
“ลงมาสิ”
“ค่ะ”
ญาดาเดินตามเขาไปข้างในก่อนจะมองดูทางหนีทีไล่ กว้างใหญ่ขนาดนี้เธอคงหนีออกไปลำบากอย่างน้อยถ้ายืมโทรศัพท์ใครสักคนโทรไปหาโรงแรมเธออาจจะมีวิธีกลับบ้านก็ได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ไม่อยากได้โทรศัพท์คืนแล้วอยากออกไปจากที่นี่มากกว่า
“อยากกินอะไรวันนี้เลย”
“อะไรก็ได้ค่ะ”
เธอไม่เรื่องมากและไม่มีอารมณ์จะมาหาของอร่อยกิน เอาจริงเขาเหมือนตบหัวแล้วลูบหลังมากกว่า ใจร้ายกับเธอสารพัดทั้งยึดโทรศัพท์ให้เธอไปพักที่บ้านของเขาจับตามองตลอดเวลาเหมือนนักโทษยังไงอย่างนั้น มาตอนนี้พาเธอมาเลี้ยงข้าวทำดีด้วยบอกเลยนะว่ามันไม่สามารถชดเชยความรู้สึกที่เธอเสียไปได้หรอก
“อย่าทำหน้าบึ้งสิหมดสวยเลย”
เขาเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ญาดาไม่สนใจเพราะเธอคิดในใจว่าไม่มีใครจริงใจกับเธอเลยสักคน ทุกคนเห็นแก่ตัวหวังแต่ได้และเขาก็เป็นอีกคนที่อยากจะช่วยน้องสาวจนไม่ลืมหูลืมตาว่าความจริงมันคืออะไร
เฮียอาร์ตถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะตามอาหารให้หญิงสาว และเมื่อพนักงานมาเสิร์ฟเธอก็นั่งกินเงียบๆไม่สนใจชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย ภายในหัวคิดหาวิธีที่จะหนีออกไปจากที่นี่เท่านั้น
“อร่อยมั้ย”
ญาดาไม่ตอบนั่งเขี่ยอาหารเล่นจนเฮียอาร์ตไม่รู้จะเอายังไงกับเธอดี เหมือนจะเป็นเด็กน่ารักแต่ดื้อเอาเรื่องเหมือนกัน ใช้เวลานั่งทานอาหารอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะพาหญิงสาวกลับบ้านของเขา
ญาดามองไปโดยรอบสอดส่องหาทางออกภายในบ้านโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันเอะใจเลยสักนิด
“นี่ห้องของเธอนะญาดาเข้าไปดูสิ”
หญิงสาวเดินเข้าไปภายในห้องและก็เป็นอย่างที่เขาบอก บรรยากาศดีและระเบียงติดน้ำตกวิวสวยมากและถ้าไม่มีเรื่องให้รบกวนใจเธอคงมีความสุขมากกว่านี้
“ชอบมั้ย”
“ถ้าไม่โดยขังไว้ที่นี่และโดนยึดโทรศัพท์คงชอบมั่งคะ”
เธอเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาก่อนจะดันตัวชายหนุ่มให้ออกไปจากห้องของเธอ เฮียอาร์ตยืนอยู่หน้าห้องของหญิงสาวพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เขาคงต้องให้เวลาเธออีกสักหน่อยเดี๋ยวคงดีขึ้นเองแหละ ญาดาหลังจากที่ปิดล็อกประตูเรียบร้อยก็ร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น ทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ไม่รู้ว่าไปทำเวรทำกรรมอะไรมาแต่ชาติปางไหนทั้งที่ถูกกระทำแต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังไงอย่างงั้น
“ฮึก! ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย”
เฮียอาร์ตเดินลงมาชั้นล่างสั่งแม่บ้านให้ดูแลญาดาให้ดีอย่าให้คาดสายตาและถ้าเธอต้องการอะไรก็หามาให้อย่าไปขัดใจเด็ดขาด
“ดูแลคุณญาดาด้วยนะ ผมจะไปออฟฟิศ”
“ได้ค่ะเฮียอาร์ต”