@ห้องทำงานเคน
“มึงไปเข้าก่อนเลย พอดีกูปวดขี้ เดี๋ยวมึงจะรอนาน”
“เค” ฉันรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำเพราะกลัวว่าอีซิลมันจะไม่ไหวแล้วเรี่ยราดเอาซะก่อน เมื่อเดินเข้ามาในห้องน้ำฉันก็ไล่มองไปรอบๆ ห้องน้ำ อย่างไม่เชื่อสายตาว่านี้คือห้องน้ำของผู้ชาย
“สะอาดจัง” ใช้เวลาไม่นานฉันก็ทำธุระในห้องน้ำเสร็จก่อนจะเดินออกมานั่งรอซิลฟี่ที่โซฟาตัวยาวสุดหรู
ดวงตาคู่สวยไล่มองไปรอบๆ ห้องทำงานของเคน ที่ดูสะอาดสะอ้านเขาตกแต่งห้องทำงานดูเรียบๆ แต่มีเสน่ห์น่าหลงใหลและดูน่าค้นหา ซึ่งมันบ่งบอกถึงบุคลิกภายนอกของเขาที่เซลีนเห็นได้ชัดมาก
ร่างเล็กเดินสำรวจไปทั่วห้องทำงานใหญ่ของเคน ก่อนจะหยุดที่โต๊ะทำงานสุดหรู เธอถือวิสาสะกระโดดขึ้นไปนั่งไขว่ห้างด้านบนโต๊ะทำงานสุดหวงของเคน...
โดยที่เธอลืมตัวไปเลยว่าในห้องทำงานของเขานั้นมีกล้องวงจรปิดซึ่งตอนนี้มันกำลังบันทึกภาพเธอทุกอิริยาบถไว้เรียบร้อยแล้ว
เซลีนยังคงนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของเคนเธอใช้มือลูบมันไปมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จนกระทั่งประตูห้องน้ำเปิดออก ร่างเล็กถึงกระโดดลงจากโต๊ะแต่ก็ไม่ทันกับสายตาของซิลฟี่เพราะเธอเห็นภาพตรงหน้าแล้ว
“มึงขึ้นไปนั่งทำอะไรบนนั้นวะ?”
“กูแค่อยากลองนั่งดูว่าโต๊ะมันจะนิ่มและแข็งแรงดีไหม” ฉันตอบพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก
“โต๊ะที่ไหนจะนิ่มวะ”
“นั่นสิ” จากนั้นฉันกับซิลฟี่ก็รีบเดินลงไปข้างล่าง แต่เมื่อกำลังจะก้าวลงบันไดขั้นสุดท้าย เสียงโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้นก่อน
ครืดดดด~
“มึงเดินไปก่อนนะ กูขอคุยโทรศัพท์แป๊บ” มันพยักหน้าตอบก่อนจะเดินไปที่โต๊ะที่มีพี่เคนกับพี่ธามนั่งพูดคุยกันอยู่ ฉันจึงหันมาสนใจโทรศัพท์ในมือและกดรับมันทันที
“ว่าไง”
(เบบี้ทำไร)
“แดกเหล้า เลิกเรียกกูเบบี้สักที แสลงหู”
(ได้ไงวะ แดกเหล้าไม่มีกู) ไอ้ไวฟายเริ่มพูดโวยวายขึ้นมา
“มึงก็ตามมาสิ”
(ทำเหมือนอยู่ใกล้)
“แต่ก็ไม่เกินใจไวฟายคนหล่อหรอกใช่ไหม” ฉันพูดหยอกล้อมัน เพราะรู้ดีว่าคนแบบมันบ้ายอเป็นที่สุด
(อย่าท้านะ ถ้ากูไปจริงๆ มึงจะจุก)
“เดี๋ยว! จุกอะไรก่อน” ฉันกับมันชอบพูดสองแง่สองง่ามเป็นเรื่องปกติ แต่ระหว่างเราสองคนไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อนสนิทเลย
(จุกกับท่อนเอ็นใหญ่ของกูไง ฮ่า)
“ใหญ่ไม่จริงอย่าทำคุยเยอะวะ” ขณะที่ฉันกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่บันไดนั้น และกำลังจะหันไปมองดูว่าตอนนี้คนที่โต๊ะกำลังทำอะไรกันอยู่ แต่เมื่อหันกลับไปมองทางด้านหลังก็ถึงกับสะดุ้งตกใจ...
“ว๊าย!” ทำให้โทรศัพท์ในมือฉันร่วงหล่นลงไปที่พื้นด้านหน้าพี่เคน ซึ่งเขาก็ยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองหน้าฉันดูสายตาเรียบนิ่ง
“พี่มาตั้งแต่ตอนไหน หนูตกใจหมดเลย” เพราะเธอเคยชินกับการที่ต้องเรียกแทนตัวเองว่าหนูกับพ่อแม่ เซลีนจึงเผลอเรียนแทนตัวเองว่าหนูกับเคนออกไป ซึ่งร่างสูงที่ได้ยินก็ถึงกับขมวดคิ้วงุนงงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่สายตาคมกลับจ้องมองมือเล็กที่กำลังยกขึ้นลูบลงที่หน้าอกของเธอที่กำลังปลอบขวัญให้กับตัวเองกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่อยู่
“พึ่งมาครับ” เขาเลือกที่จะตอบโกหกออกไปทั้งที่เขายืนตรงนั้นสักพักแล้วและได้ยินบทสนทนาของเซลีนที่คุยกับไวฟายทั้งหมด แต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจเพราะมันเป็นเรื่องของเธอ
“อ่อ”
“ขอทางหน่อยครับ” เพราะร่างเล็กยืนขวางบันไดทางขึ้นเขาอยู่
“อ่อได้ แป๊บนะคะ” ก่อนที่เธอจะก้มลงตรงหน้าเคนเพื่อเก็บโทรศัพท์ที่ตกอยู่ด้านหน้าเขา โดยเธอนั้นตั้งใจที่จะก้มลงตรงหน้าเขาเพื่อให้เขานั้นเห็นเต้าอวบของเธอที่ทะลักออกมาจากเสื้อเกาะอก
สายตาคมจ้องมองเซลีนที่ก้มเก็บโทรศัพท์ของเธออยู่ด้านหน้า ด้วยท่าทียั่วยวนเขาจ้องมองเธอตาไม่กะพริบและไม่ได้หลบสายตาไปทางอื่น ในเมื่อมาก้มให้มองนม มีเหรอคนอย่างเขาจะไม่มอง
“ได้แล้วค่ะ” ร่างเล็กลุกขึ้นพร้อมกับเสยผมที่มันปกปิดใบหน้าเธอออก ซึ่งท่าทีที่เธอกำลังแสดงออกมาก็ตั้งใจจะยั่วยวนเคนอีกเหมือนเดิม
“ครับ” เคนขยับแว่นตาเล็กน้อย พร้อมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องของเขาทันที โดยมีสายตาของอีกคนมองตามเขาเดินขึ้นไปจนสุดสายตา
"หึ ครับๆ คนอะไรมันช่างน่าโดนฉันจับรอบตึงจริงๆ"
เราสี่คนนั่งดื่มกันปกติจนถึงช่วงเวลาเป่าเค้ก ซึ่งซิลฟี่กับพี่ธามเป็นคนซื้อเค้กมาให้พี่เคนในวันนี้โดยฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย เอาง่ายเหมือนมาแดกฟรีงานวันเกิดเขาแค่นั้นเอง
แต่แล้วไง คนหน้าด้านอย่างฉันไม่แคร์อยู่แล้ว....
ตอนนี้ฉันยืนอยู่กับซิลฟี่สองคนที่ข้างบันไดทางขึ้นไปบนห้องทำงานของพี่เคน มันเรียกให้ฉันออกมาเพื่อจะเซอร์ไพรส์เค้กวันเกิดพี่เคนนั่นเอง
“อ๊ะ” อีซิลยื่นเค้กมาด้านหน้าฉัน
“อะไร?”
“ถือเค้กไงกูจะจุดเทียน” เมื่อได้ยินคำตอบของมัน ฉันก็ยื่นมือไปรับเค้กมาถือทันที จากนั้นซิลฟี่ก็เริ่มจุดเทียนวันเกิดที่ปักอยู่บนเค้กก้อนใหญ่จนเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่มันจะหันไปส่งสัญญาณให้กับพนักงานในร้านเพื่อปิดไฟบริเวณที่เราล็อกโซนโต๊ะเอาไว้เพื่อจะได้ไม่รบกวนลูกค้าท่านอื่น
พรึบ! เมื่อไฟดับลง แต่ก็ไม่ได้มืดที่มองไม่เห็นทางเดินเลย ยังพอมีแสงไฟสลัวจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาให้ฉันเดินไปหาพี่เคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะได้ ฉันเดินถือเค้กและร้องเพลงเบิร์ดเดย์ให้พี่เขาไปด้วยราวกับว่าเป็นเมียเจ้าของวันเกิดยังไงยังงั้น...
Happy birthday to you~
จนกระทั่งฉันเดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าเขา ดวงตาคมจ้องมองฉันเรียบนิ่งจนกระทั่งฉันร้องเพลงจบ พี่เขาก็เตรียมจะอ้าปากเพื่อเป่าเทียน แต่ฉันรีบเอาเค้กหลบก่อน
“พี่ไม่อธิษฐานก่อนเหรอ?” เราสบตากันใต้แสงไฟสลัวครู่หนึ่งก่อนที่พี่เคนจะหลับตาลงเพื่ออธิษฐานตามที่ฉันบอก ตอนนี้เรายืนห่างกันนิดเดียวจึงทำให้ฉันได้โอกาสจ้องมองพิจารณาใบหน้าของเขาอย่างละเอียด ขนตางอน บวกกับริมฝีปากแดงนิดๆ รับกับจมูกโด่งๆ มันช่างลงตัวมาก...
พรึบ! ฉันเผลอจ้องมองหน้าเขานานเกินไปกระทั่งดวงตาคมจากที่ปิดสนิทก็ลืมขึ้นทำให้เราสองคนสบตากัน....
แต่ทว่าสายตาที่เขามองฉันอยู่ภายใต้แว่นหนาตอนนี้มันช่างแตกต่างจากที่เจอกันครั้งแรก แต่ฉันก็เห็นมันเพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะเขาเลือกที่จะหลบสายตาของฉันเลื่อนลงมองเค้กด้านหน้าก่อนจะเป่าเทียน....
“เบิร์ดเดย์นะไอ้เคน” เจ้าของใบหน้าหล่อหันไปส่งยิ้มให้เพื่อนและพยักหน้ารับอย่างซึ่งใจที่เพื่อนของเขามาร่วมงานวันเกิดของเขาวันนี้
“เบิร์ดเดย์นะพี่เคนมีความสุขมากๆ นะพี่”
“ขอบใจมากนะ แค่ทุกคนมากูก็ดีใจแล้ว” ปากหนาพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ธามและซิลฟี่ ก่อนจะหันมามองร่างเล็กที่ยืนถือเค้กอยู่ด้านหน้าเขา
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะคะพี่เคน ขอโทษด้วยนะที่วันนี้หนูไม่มีอะไรมาให้พี่เลย แต่ถ้าวันหลังพี่อยากได้….." เซลีนยังพูดไม่จบร่างสูงก็พูดขึ้นก่อน
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้ต้องการอะไรจากเราอยู่แล้ว เราไม่ต้องพยายามจะให้พี่ก็ได้ครับ” ร่างสูงตอบเหน็บเธอและส่งยิ้มด้วยท่าทีสุภาพให้เธอ ก่อนจะเลือกนั่งลงยังโซฟาตัวเดิม
ไม่ต้องการงั้นเหรอ แต่ ถ้าเสิร์ฟให้ไม่หยุดล่ะ อยากรู้เหมือนกันว่าจะเอาไหม....