#วันต่อมา
@สนามบิน
“หนูถึงแล้ว แม่โทรบอกน้าให้หน่อย” ฉันกดโทรหาแม่ทันทันทีเมื่อถึงสนามบิน
(เดี๋ยวแม่ให้เบอร์น้าเราไปนะ แล้วลูกก็โทรไปหาน้าเอง)
“ค่ะ” หลังจากได้เบอร์ของคุณน้าเรียบร้อย ไม่รอช้าฉันรีบกดเบอร์โทรหาท่านทันที ซึ่งรอสายไม่นานปลายสายก็กดรับ
“สวัสดีค่ะคุณน้า”
(สวัสดีจ้า) หญิงวัยกลางคนตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ต่างจากลูกสาวของเธอโดยสิ้นเชิง
“หนูเซลีนนะคะ พอดีว่าหนูถึงสนามบินแล้วค่ะ”
(อ่าว เซลีนเหรอลูก แล้วทำไมพึ่งโทรมาบอกน้าตอนนี้ละ)
“ลืมค่ะ” ฉันลืมจริงๆ เพราะฉันไม่คิดว่าฉันจะได้บินมาที่นี่จริงๆ เลยไม่ได้วางแผนชีวิตอะไรเลย เอาง่ายๆลงเครื่องมาแบบงงๆ
(ตายแล้วหลานคนนี้นิ งั้นเดี๋ยวน้าโทรถามซิลฟี่ก่อนนะ)
“ได้ค่ะ” หลังจากวางสายฉันก็ยืนกอดอกมองดูผู้คนที่เดินไปมาที่สนามบิน อากาศและบรรยากาศมันช่างต่างจากที่นั่นจริงๆ
“เอ่อ ฉันจะอยู่ที่นี่ได้นานแค่ไหนเนี่ย” ถึงแม้จะเป็นคนไทยแท้แต่ด้วยความที่โตต่างประเทศอะเนอะ เมื่อยืนคิดอะไรเพลินๆ โทรศัพท์ในมือก็สั่นขึ้น เมื่อเห็นเป็นเบอร์แปลกฉันก็กดรับทันที
ครืดดดด~
“ฮัลโหล”
(มึงอยู่ไหน) เสียงแจ๋นขนาดนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร
“สนามบินไง”
(เออ เดี๋ยวกูแวะไปรับ)
“รีบมากูร้อน” ฉันพูดพร้อมกับใช้มือตัวเองพัดความร้อนออกจากร่างกาย ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมายืนรอมันข้างนอกให้ร้อนทำไมก่อน....
หลังจากที่ยืนรอซิลฟี่ไม่นาน รถสปอร์ตหรูก็ขับมาจอดอยู่ด้านหน้าฉัน ถ้าเป็นที่ต่างประเทศฉันก็คงไม่ว้าวหรอก แต่ที่นี่มันประเทศไทยคนที่ได้ขับรถคันนี้คงต้องรวยมากแน่ๆ ฉันยืนมองรถสปอร์ตหรูคันนั้น โดยไม่ละสายตาไปไหนเพราะอยากรู้ว่าใครจะเป็นเจ้าของรถคันนั้น...
เมื่อประตูรถฝั่งด้านข้างคนขับเปิดออกฉันก็จ้องมองตาไม่กะพริบดวงตาสองข้างจะเบิกกว้าง
“อีซิล!”
“อีเซลีน” ด้วยความดีใจเราสองคนก็วิ่งเข้าไปกอดกันตามสัญชาตญาณของความดีใจของคนที่สนิทและโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ถึงจะได้เจอกันปีละครั้งสองปีครั้งแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความสนิทของเราสองคนลดน้อยลงไปเลย เมื่อผลักออกจากกันฉันก็มองสำรวจมันและพูดออกไปตามประสาคนปากดี
“ไม่เจอกันนานอึ้มขึ้นไหมวะ?”
“ธรรมดามีผัวคั้นให้” มันพูดพร้อมกับสะบัดผมไปด้านหลังด้วยท่าที มั่นๆ จนฉันอดหมั่นไส้ไม่ได้
“หูย มีผัวแล้ว อิจฉา ว่าแต่ตอนไหนวะทำไมไม่เห็นเล่าให้กูฟังเลย” เพราะระหว่างที่ฉันอยู่ต่างประเทศเราสองคนคุยแชทกันตลอด อัปเดตชีวิตของกันและกัน แต่มีอยู่อย่างที่มันไม่เคยอัปเดตให้ฉันได้รู้เลยคือมันมีผัวแล้วนั่นเอง....
“ไม่ได้หรอกคนนี้กูหวง ว่าแต่มึงจะมาอิจฉากูทำไม ตัวมึงเองก็ใช้ย่อยที่ไหน” เพราะมันคงคิดว่าฉันเองก็มีผัวแล้วเหมือนกัน จะไม่คิดได้ไงก็ดูการใช้ชีวิตของฉันสิไม่รู้ว่าผ่านมาแต่ละวันได้ยังไง...
“ถ้าไม่สอดใส่เรียกผัวได้ไหม?”
“ยังไงวะ ถูไถด้านนอกเหรอ?” มันถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย
“ประมาณนั้น ถ้าถูไถด้านนนอกแล้วนับเป็นผัว ของกูคงแถวยาวเป็นหางว่าวแล้ว”
“ฮ่าๆ กูไม่เชื่อหรอก ระดับมึงเนี่ยนะ จะแค่ถูไถ สอดใส่จนข้างในกลวงหมดแล้วมากกว่า แต่ช่างเถอะรีบไปขึ้นรถกันเถอะ”
“เออๆ แต่เมื่อกี้แรงอยู่นะ” ฉันเบะปากส่งให้มันก่อนจะลากกระเป๋าเดินตามมันไปที่รถ แต่เมื่อฉันเปิดประตูรถเพื่อขึ้นไปนั่งด้านหลังของรถก็ทำให้ฉันเบิกตากลางอีกครั้ง เมื่อสบสายตาเข้ากับใครบางคนซึ่ง....
“โห้ หล่อเหี้ยๆ” ฉันเผลออุทานออกมาเสียงดังลั่น โดยไม่สนใจเลยว่าคนด้านหน้าสองคนจะมีสีหน้ายังไง
“หยุดคิดและหยุดอ่อย นี้ผัวกู”
“มีผัวหล่อไม่คิดจะแนะนำให้ญาติได้รู้จักเลยนะมึง” ฉันพูดหยอกล้อซิลฟี่เล่นๆ ไม่ได้คิดอะไร
“ไม่คิด!” แต่สำหรับมันก็คงไม่คิดเหมือนกัน แต่คงหวงผัวมันมากกว่าถึงตอบออกมาแบบนั้น
“เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่บ้านก่อนนะ พรุ่งนี้กูถึงจะกลับบ้าน”
“ทำไมละ”
“พอดีกูจะไปงานวันเกิดเพื่อนผัวกู คืนนี้เลยไม่ว่าง” ปาร์ตี้งานวันเกิดงั้นเหรอ แล้วสายตี้อย่างฉันจะพลาดได้ยังไงกัน
“กูขอไปด้วยดิ”
“ได้เหรอ ถ้าพ่อมึงรู้กูไม่ตายห่าเหรอวะ”
“ไปกับมึงพ่อกูไม่ว่าอะไรหรอกน่า” ฉันยื่นหน้าไปพูดตรงกลางคอนโซลเกียร์ระหว่างมันกับผัวของมัน
“เนี่ย กูจะไม่อยากให้ไปด้วยก็เพราะแบบนี้แหละ” อีซิล รีบผลักหัวฉันให้หงายหลังไปนั่งลงที่เบาะหลังเหมือนเดิม
“กูเป็นแบบนี้มึงถึงต้องพากูไปเลยแหละมันถึงจะสนุก ใช่ไหมผัวซิลฟี่” ฉันหันไปถามผัวของอีซิลที่กำลังตั้งใจขับรถด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง คนอะไรหล่อแต่แม้งโคตรนิ่งเลย
“ซิลฟี่ว่าไง” เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองหน้าแฟนสาวของเขาที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“เออ ไปก็ไป” เพราะอย่างน้อยนี่ก็เป็นวันแรกของการกลับมาของเซลีน ซิลฟี่จึงอยากพาเธอไปเปิดหูเปิดตาและเลี้ยงต้อนรับเธอด้วย
“น่ารักที่สุด”
“งั้นคืนนี้มึงก็นอนที่คอนโดกูก่อนแล้วกัน”
“โอเค”
@คอนโด
ฉันกับซิลฟี่แยกกันแต่งตัว ซึ่งฉันแต่งตัวอยู่ที่ห้องของมัน ส่วนมันแต่งตัวอยู่ที่ห้องของผัวมันซึ่งก็อยู่ห้องข้างๆที่ฉันใช้อาศัยหลับนอนในคืนนี้นี่เอง ฉันหยิบเกาะอกผูกหน้าที่ปิดแค่เต้าอวบสองเต้าไว้เท่านั้นขึ้นมาสวมใส่แมทซ์กับกระโปรงสั้นๆ ซึ่งธรรมดาคนสวยแซ่บอย่างฉันก็ต้องจัดเต็มกับการไปปาร์ตี้อยู่แล้วงานใหญ่ไม่ใหญ่ไม่รู้ฉันต้องเต็มไว้ก่อน ฉันยืนเติมสีปากให้ตัวเองอีกนิด ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้นฉันจึงรีบเดินไปเปิด…..
แอด!
“โอ้โห้ชุดมึง กะจะฆ่ากูให้ตายเลยงี้”
“ชุดมึงก็ไม่ต่างจากกูเท่าไหร่นะ” เพราะชุดมันก็เซ็กซี่ไม่ต่างจากฉัน แต่แค่ไม่วาบหวิวเท่าฉันเท่านั้นเอง อย่างว่าคนมีผัวแล้วกับคนที่ยังไม่มีผัวมันก็จะต่างกันนิดหนึ่ง...
“เสร็จยัง”
“อืม เสร็จแล้ว”
“ไปเลยไหม?” ฉันพยักหน้าเป็นการตอบก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าและเดินตามมันออกไปจากห้องทันที
@BoumBoum
“คนเยอะวะมึง” ฉันเอ่ยบอกซิลฟี่เมื่อทิ้งตัวนั่งลงยังโซฟาหรู ชั้นสองโซนวีไอพีเรียบร้อยแล้ว
“ก็เจ้าของคลับนี้ทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนั้นใครจะไม่มา” มันกระซิบข้างหูของฉันก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก
“ใครวะ?”
“ก็เพื่อนของผัวกูไง ที่เรามาฉลองวันเกิดของเขาคืนนี้ไง” ซิลฟี่พูดถึงเพื่อนพี่ชายของเธอให้เซลีนฟังอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่คิดแบบนั้น
“จริงดิ แซ่บไหม?” เจ้าของร่างเล็กถามขึ้นด้วยแววตาลุกวาวเป็นประกาย
“ถามเหมือนมึงสนใจเลยนะ”
“กูยังไม่ได้บอกเลย ว่าสนใจพี่เขา”
“แต่แววตามึงบอก” ซิลฟี่พูดขึ้นอย่างรู้ทัน เมื่อหันไปมองเซลีนที่ตั้งใจฟังเธอพูดด้วยแววตาลุกวาว ซิลฟี่จึงรีบพูดดักไว้ก่อน
“มึงอย่าไปยุ่งเลย” เพราะรู้ว่าเคนนิสัยเป็นยังไง ซิลฟี่จึงไม่อยากให้เซลีนเข้าไปยุ่งกับตัวอันตรายอย่างเขา เพราะกลัวว่าเซลีนนั้นจะเสียใจและเสียตัวให้ฟรีๆกับแบดบอยหื่นกามตัวพ่ออย่างเคน
“มึงอะคิดมากเห็นกูยังงี้กูก็ไม่ได้หลงใครง่ายๆนะเว้ย”
“นั่นแหละ ให้จริง” ฉันไม่เข้าใจว่ามันจะหวงพี่เขาอะไรหนักหนา
....แต่เอาจริงฉันชักอยากเห็นหน้าของเจ้าของงานวันเกิดนี้แล้วสิ อยากจะรู้ว่าเขาจะหล่อจริงอย่างที่อีซิลมันนำเสนอสรรพคุณให้ฉันฟังจริงไหม แต่คงดูเป็นผู้ชายร้ายๆ เหมือนพี่ธามและพี่เทอร์นั่นแหละมั้ง ก็เพื่อนกันอะเนอะแบบ ผีเห็นผีไรงี้...
ขณะที่ฉันกำลังนั่งคุยกับซิลฟี่อยู่นั้น ร่างสูงของใครบางคนก็ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามของฉันก่อน
พรึบ! ฉันละสายตาจากซิลฟี่หันไปมองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง และคิดในใจ ‘ตาแว่นนี่ใคร?’
“กว่าจะลงมาได้นะเจ้าของงานวันเกิดเนี่ย” เจ้าของงานวันเกิดงั้นเหรอ คนนี้เนี่ยนะ ฉันนึกถึงคำพูดของอีซิลเมื่อสักครู่ก่อนจะมองสำรวจผู้ชายด้านหน้าอีกครั้ง....
“แล้วรอทำไมก็บอกแล้วไงว่าอยากกินอะไรก็สั่งเลยไม่ต้องรอ” เคนตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาเอ่ยบอกธามกับซิลฟี่แต่สายตากับเหลือบมองหญิงสาวด้านข้างซิลฟี่ไม่หยุด
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวพี่เคนกลับลำ”
“เห็นพี่เป็นคนแบบนั้น”
“ยิ่งกว่านั้น”
“หึ” ปากหนายกยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะยกมือขึ้นเพื่อเรียกเด็กในร้านมารับออเดอร์
“คนนี้เหรอเพื่อนพี่เทอร์คนที่มึงบอกเจ้าของงานวันเกิดและเจ้าของคลับนี้” ฉันหันไปกระซิบถามซิลฟี่อย่างไม่เชื่อสายตาและคำพูดของมัน
“เออ คนนี้แหละ พี่เคน” หล่อนะแต่ เด็กเนิร์ดเหรอวะ ฉันได้แต่คิดในใจโดยที่ไม่กล้าจะพูดออกมา....
“หน้าตาไม่ต่างจากลุงข้างบ้านกูเลย”
“ฮ่าๆ มึงก็พูดเกินไป” ดวงตาคู่สวยหันไปมองเจ้าของใบหน้าหล่อของเขาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขากลับส่งยิ้มมาให้เธอเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นและสุภาพ....