บทที่ 3 คนร้ายคือคนรู้จัก?(1)

1539 Words
การถ่ายทำวันนี้คือฉากสุดท้ายของเรื่องเป็นฉากจบ โดยมีพระอาทิตย์ยามอัสดงเป็นฉากหลัง แต่ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมทำให้ทีมงานและนักแสดงต้องนั่งรอกันก่อน ครองภพนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย สายตาเอาแต่จ้องมองข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ใจลอยไปถึงไหนต่อไหนทำให้ไม่ได้ยินเสียงเรียกของนางเอกสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ติดกัน “พี่ไม้คะ พี่ไม้” น้องหยก หรือหยกสวรรค์นางเอกหน้าสวยราวกับนางฟ้าเรียกครองภพเสียงหวาน แต่ชายหนุ่มยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมหันมาคุยกับเธอ “...” “พี่ไม้คะ” “...” “พี่ไม้” คราวนี้หญิงสาวเอื้อมมือไปสะกิดแขนชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ คิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้รวมถึงเรื่องคนร้ายรู้สึกตัว “ครับ น้องหยกเรียกพี่เหรอ” เขาหันมาถามด้วยความงุนงง ลืมไปเลยว่าไม่ได้นั่งเพียงลำพัง “ค่ะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ ดูพี่ไม้ใจลอยจังเลย” เธอถามด้วยความกังวล เพราะปกติไม่เคยเห็นครองภพมีอาการแบบนี้ วันนี้ชายหนุ่มดูเงียบผิดปกติเหมือนมีอะไรในใจ “ไม่มีอะไรครับ พี่แค่คิดว่าต่อไปไม่ได้ถ่ายละครแล้วคงคิดถึงกองน่าดู” เพราะทำงานนี้มาหลายปี บทจะต้องจากลาก็แอบใจหายไม่น้อย ครองภพกวาดสายตามองบรรยากาศรอบตัวอีกครั้งเพื่อเก็บความทรงจำ ต่อไปเขาจะไม่มีโอกาสทำแบบนี้อีกแล้ว “ตกลงพี่ไม้จะออกจากวงการจริงเหรอคะ” หยกสวรรค์เพิ่งเข้าวงการบันเทิงได้ไม่นาน แต่ได้ประกบคู่กับพระเอกคนดัง ทำให้เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว “จริงครับน้องหยก” ถ้าไม่จริงเขาจะประกาศอำลาวงการบันเทิงทำไม ครองภพเอ่ยในใจก่อนจะยิ้มโปรยเสน่ห์ เรียกคะแนนนิยมทำให้หยกสวรรค์ใจเต้นแรง รู้สึกเขินยามที่ได้รับรอยยิ้มละมุนของพระเอกหนุ่ม “น่าเสียดายจังเลย เพิ่งได้เล่นละครด้วยกันเรื่องเดียวเอง” ไม่ใช่เสียดายธรรมดา ต้องบอกว่าเสียดายมาก เธออยากสานสัมพันธ์กับเขา ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนหรือพี่น้องตามที่เขาให้สัมภาษณ์ บอกตามตรงครองภพคือผู้ชายในฝัน “พี่ต้องกลับไปช่วยธุรกิจครอบครัวครับ” ครองภพคิดถึงบุพการีกับน้องสาวก็อดยิ้มไม่ได้ เขาอยากให้ท่านทั้งสองได้ไปใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ มารดาของเขางอแงถามอยู่ตลอด ลูกไม้จะมาทำงานตอนไหนคุณแม่จะไปฮันนีมูนกับคุณพ่อ ถ้าลูกไม้ไม่ยอมรับงานเต็มตัวคุณพ่อก็ไม่ยอมไปกับคุณแม่ เพราะแบบนี้อย่างไรเล่าเขาถึงต้องกลับไปรับตำแหน่งประธานบริษัทแทนบิดาในเร็ววัน “พี่ไม้ทั้งหล่อ ทั้งรวย ไม่มีแฟนจริงเหรอคะ หยกไม่อยากเชื่อเลย” ใครๆ ก็รู้ว่าคุณพระเอกหนุ่มยังไม่มีหวานใจ แต่โสดสนิทไหมอันนั้นคือสิ่งที่หยกสวรรค์อยากฟัง “โสดสนิท คนคุยก็ไม่มีเลย ไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ” บอกด้วยรอยยิ้มจริงใจ เขาไม่มีแฟนไม่มีคนคุยไม่มีใครเลย เพราะงานทำให้คุณพระเอกสุดฮอตไม่มีเวลาไปสนใจสาวคนไหน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือนางแบบ นางเอกที่เล่นละครด้วยกันก็ไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษให้สักคน “ไม่น่าเชื่อจริงๆ คนหล่ออย่างพี่ไม้เหรอจะโสด” หญิงสาวตาวาวด้วยความดีใจโอกาสทอดสะพานมาถึงแล้วใช่ไหม เธอทั้งสาวทั้งสวยมีเหรอผู้ชายไม่อยากได้ หยกสวรรค์คิดในใจ “พี่ทำแต่งาน เอาเวลาไหนไปจีบสาว ผู้หญิงที่คุยมากสุดตอนนี้ก็มีคุณแม่ น้องสาวแล้วก็น้องหยกนี่แหละ” คำพูดคำจาของชายหนุ่มทำให้คนฟังเริ่มคิดไปไกล คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะกำลังบอกเป็นนัยว่าเธอคือคนสำคัญ “หยกก็เหมือนกันค่ะ นอกจากครอบครัวก็สนิทกับพี่ไม้ที่สุด” ไม่ใช่ความจริง เธอสนิทกับผู้ชายหลายคนตามประสาคนชอบบริหารเสน่ห์ แต่กล้าพูดแบบนี้เพราะอยากให้ชายหนุ่มรู้ว่าเธอมีใจให้เขา “ไม่มีใครจีบน้องหยกเลยเหรอ พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะครับ” ครองภพยิ้มมุมปากเหมือนรู้อะไรมาบางอย่าง แววตาของเขาฉายแววไม่พอใจขึ้นมา ก่อนจะหายไปชั่วพริบตากลายเป็นพระเอกแสนอบอุ่นเหมือนเดิม “คนจีบก็มีค่ะ แต่หยกไม่เล่นด้วย ดูก็รู้จีบเล่นๆ ฆ่าเวลา ไม่เอาด้วยหรอก หยกไม่อยากเป็นของเล่นของใคร” “เหรอครับ แล้วแบบนี้น้องหยกจะมีแฟนตอนไหน แต่น้องหยกอายุยังน้อยค่อยๆ มองไปก็ไม่เสียหาย คนสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ บางคนดูดีแต่ใจร้าย บางคนดูร้ายแต่ใจดี” “ใช่ค่ะ เห็นจากข่าวทุกวันนี้แล้วสยอง ถ้าหยกจะเปิดใจให้ใครสักคนคงต้องขอใช้เวลาศึกษาดูหน่อย เขาเป็นคนดีไหม” หญิงสาวเอ่ยได้อย่างหน้าตาเฉยทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสะอิดสะเอียนแต่ไม่แสดงอาการออกมา เขายังคงยิ้มโปรยเสน่ห์เหมือนตัวเองไม่ได้รู้อะไรมาก่อนเลย เบญญาพรรับอาสาเสิร์ฟน้ำให้คนในกอง หลังจากเอาไปให้คนนั้นคนนี้เสร็จก็ถึงคิวของพระเอกกับนางเอก เธอค่อยๆ วางขวดน้ำตรงหน้าทั้งสองคนอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางสายตาจ้องจับผิดของพระเอกหน้าหยก ที่กำลังมองขวดน้ำอย่างชั่งใจ มันกินได้ใช่ไหม เธอไม่ได้ใส่อะไรลงไปใช่รึเปล่า “แก้วนี้เป็นน้ำของคุณหยกค่ะ ส่วนแก้วนี้น้ำของคุณครองภพ” หญิงสาวชี้ไปยังแก้วน้ำทั้งสองที่ไม่มีชื่อแปะเพราะไม่มีอุปกรณ์ ปกติแก้วน้ำของดาราจะมีชื่อติดอยู่เพื่อบอกให้รู้ว่าเป็นของใคร “ยังเรียกครองภพอีกเหรอ เรียกผมว่าไม้ก็ได้นะครับคุณเหมือนฝัน” ทำไมเขาถึงได้รู้สึกขัดหูก็ไม่รู้ เธอเรียกคนอื่นด้วยชื่อเล่นแต่กับเขากลับเรียกชื่อเต็ม คำพูดของพระเอกหนุ่มทำให้นางเอกสาวเกิดคำถามจึงหันไปจ้องหน้าเบญญาพรด้วยความสงสัย ก่อนจะหันกลับมาตั้งคำถามกับครองภพที่ยังไม่ละสายตาไปจากสาวแว่น “พี่ไม้กับทีมงานคนนี้รู้จักกันเหรอคะ ว่าแต่ทำไมหยกไม่คุ้นหน้าเลย” “ครับเรารู้จักกัน แต่เพิ่งรู้จักได้ไหมนาน ใช่ไหมคุณเหมือนฝัน” ชายหนุ่มอารมณ์ดีอย่างประหลาด หลังจากได้เห็นสีหน้าของคุณป้าแว่นหน้าจืด เขาอยากไปซื้อลิปสติกให้เธอสักแท่งเหลือเกิน ปากที่กำลังเม้มอยู่นั้นจะได้มีสีสัน คนอะไรหน้าไม่แต่งปากไม่เติมซีดเหมือนศพเดินได้ไม่มีผิด “คือฝันเพิ่งมาทำงานในกองได้ไม่นานค่ะ ปกติอยู่ที่บริษัท” คนที่ได้รับฉายาคุณป้าแว่นยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบ ถ้าไม่ใช่เพราะหนึ่งในทีมงานลาออกกะทันหันเธอคงไม่ต้องมาทำงานนี้ บอกตามตรงทำงานในออฟฟิศสนุกกว่าอีก “อ้อ แบบนี้เอง ขอบคุณมากนะคะสำหรับน้ำ” “ยินดีค่ะ ฝันขอตัวก่อนนะคะ” “เดี๋ยวสิคุณยังไม่ตอบคำถามผมเลย แล้วแก้วนี้ผมดื่มได้ใช่ไหม” “ทำไมจะดื่มไม่ได้ล่ะคะ แก้วนี้เป็นน้ำของพี่ไม้ไม่ใช่เหรอ” “พี่ก็ถามไปงั้นแหละ เผื่อคุณเหมือนฝันหยิบมาผิด” “ถูกแน่นอนค่ะ งั้นฝันขอตัวก่อนนะคะ” เบญญาพรรีบเดินออกไปหลังได้ยินทีมงานเรียก ครองภพยังคงมองหญิงสาวอย่างไม่ละสายตาทำให้นางเอกสาวรู้สึกไม่ค่อยพอใจจึงกำมือแน่นด้วยความอิจฉา เขาไม่เคยให้ความสนใจเธอขนาดนี้เลย “พี่ไม้รู้จักกับเธอมาก่อนเหรอคะ ทำไมดูสนิทกันจัง” “ครับ บังเอิญรู้จัก สนิทไหม ก็ไม่ได้สนิท เราไปกันเถอะถึงเวลาถ่ายแล้ว” “ค่ะ” ถึงจะไม่พอใจอย่างไรแต่หยกสวรรค์ก็ยังคงยิ้มหวานให้พระเอกหนุ่มก่อนจะเดินเคียงข้างกันเพื่อไปเข้าฉากสำคัญ หลังจากทุกอย่างพร้อมสองนักแสดงก็เริ่มทำตามบท พระเอกกับนางเอกจ้องตากันอย่างหวานซึ้ง ทว่าครองภพกลับเห็นใบหน้าของเบญญาพรซ้อนทับขึ้นมาบนใบหน้าของหยกสวรรค์จึงผละออกด้วยความตกใจ ก่อนจะสะบัดหัวเบาๆ แล้วมองอีกครั้ง คนตรงหน้ายังเป็นนางเอกสาวไม่ใช่คุณป้าแว่น เขาถอนหายใจเล็กน้อย จากนั้นก็ตะโกนบอกทีมงาน ที่กำลังจ้องมองด้วยความใคร่รู้ว่า ครองภพเป็นอะไรทำไมถึงทำท่าทางเหมือนเห็นผี “ขอโทษครับ ผมเสียสมาธิไปหน่อย ขออีกรอบ” “พี่ไม้เป็นอะไรไหมคะ ทำไมหน้าซีด” “เปล่าครับ ไม่ได้เป็นอะไร เรามาต่อกันเถอะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD