บทที่6.1 ขายข้าว1

1546 Words
บทที่6 ขายข้าว หลายวันต่อมา หลังจากทดลองตลาดในครั้งแรกเพื่อตรวจสอบร้านค้าธัญพืชในเมืองแล้ว ฉีหรงกลับมาพร้อมข้อมูลเถ้าแก่และนิสัยการค้าขายของพวกเขาในมือ แน่นอนว่าเขาไม่ได้ละเอียดขนาดนั้น แต่สายตาของชาวบ้านนั้นโปร่งใสและไม่ใส่แว่นสีเพื่อมองผู้คน ยังพอมองออกว่าใครเป็นพ่อค้าหน้าเลือด ใครทำธุรกิจอย่างยุติธรรม เพราะอย่างนั้นวันนี้ฉีหรานจึงจะเข้าเมืองด้วย พอดีกับที่อาทิตย์หน้าก็จะถึงงานแต่งแล้ว ฉีหรงไม่จำเป็นต้องไปช่วยเหลือบ้านว่าที่ภรรยาในช่วงนี้ การเข้าเมืองเป็นไปอย่างราบรื่น คราวนี้พี่น้องแบกตะกร้าหกอัน ขึ้นเกวียนด้วยความภาคภูมิ ยังยอมจ่ายเงินจำนวนหนึ่งสำหรับพื้นที่วางตะกร้า ผู้คนในหมู่บ้านที่รู้จักอดไม่ได้ที่จะสอบถาม นางเซี่ยหยวนนั้นเป็นสะใภ้ที่แต่งงานกับคนในหมู่บ้านและมีครอบครัวมารดาอยู่ในหมู่บ้านเช่นกัน ย่อมรู้ถึงสถานะของตระกูลฉีในสายตาตลอดหลายปีที่ผ่านมา “ฉีต้าหลาง (ลูกชายคนโตบ้านฉี) พวกเจ้าขนอะไรไปขายในเมืองมากมายหรือ ไม่ใช่ทุกคราวมีเพียงตะกร้าสานไม้ไผ่ คราวนี้เป็นของป่ามากมายหรือไม่” มองตะกร้าที่ถูกปิดไว้ ผู้คนไม่กล้าเข้าไปเปิดอย่างเสียมารยาท ทำได้เพียงถามเท่านั้น ฉีหรงเหลือบมองน้องสาวเล็กน้อย ก่อนจะตอบตามคำที่ฝึกซ้อมกับบิดามา “ท่านป้าเซี่ย เมื่อไม่นานมานี้สหายของบิดาติดต่อมา เขาต้องการทำธุรกิจเล็กๆน้อยๆกับเรา ของเหล่านี้ล้วนเป็นของสหายบิดาทั้งสิ้น” เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางเซี่ยหยวนก็ไม่กล้าถามต่อไป ใครในหมู่บ้านไม่รู้บ้างว่านายฉีเคยเป็นทหารมาก่อน มีข่าวลือว่าก่อนปลดเกษียณยังมียศไม่ต่ำ หากไม่ได้รับบาดเจ็บถึงรากฐานเสียก่อน สุดท้ายผู้คนก็เลิกให้ความสนใจกับสามพี่น้อง วันนี้เป็นฉีเล่อที่ติดตามมาอีกครั้งเพื่อใช้แรงงาน เขายังเป็นพี่ชายที่มีลำแข้งแข็งที่สุดในบ้าน ฉีหยงจึงมอบหน้าที่ให้ดูแลปกป้องพี่ชายและน้องสาว ฉีหรานไม่รู้ความคิดของบิดาและพี่ชาย เมื่อเข้ามาในเขตเมือง ทุกคนก็ลงจากรถด้วยท่าทางสบายๆ แน่นอนว่าเป็นเพราะตะกร้าสะพายหลังยังว่างเปล่า ฉีหรงรู้จุดอับในตลาดอยู่บ้าง เขาให้น้องชายคอยดูต้นทางและปล่อยให้น้องสาวแลกข้าวขาวออกมาจำนวนหนึ่ง คราวนี้บ้านฉียอมขายข้าวขาวจริงๆ กำลังจะเข้าฤดูเก็บเกี่ยว ดังนั้นมีข้าวออกมาสู่ตลาดเร็วกว่าปกติเล็กน้อยเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาวนขายแต่ละร้านในจำนวนไม่มากนัก ฉีหรงแบกข้าวขึ้นหลังหนึ่งตะกร้า ยกด้วยมือหนึ่งตะกร้า ขณะที่ฉีเล่อจะยกด้วยมือข้างละตะกร้า บ่งบอกว่าเขาแข็งแกร่งกว่าทุกคนในบ้านจริงๆ ฉีหรานยังมองพี่รองด้วยความทึ่งในใจ นางยังจำได้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่ใฝ่เรียนวิชาต่อสู้กับบิดา แถมยังเป็นคนที่ดื้อรั้นไม่ยอมแพ้ เมื่อบิดาทุบตีบ่อยๆเข้าก็กลายเป็นการเรียนรู้ไปเอง ผู้รู้วิชา แรงกายจะมากกว่าคนธรรมดา ทหารทั่วไปก็แข็งแกร่งกว่าชายหนุ่มธรรมดาอยู่แล้ว ไม่แปลกที่บ้านฉีจะไม่โดนรังแกแม้จะยากจนมากก็ตาม ฉีหรงมุ่งหน้าไปยังร้านค้าที่ใหญ่โตเป็นอันดับสองของเมืองเสียก่อน ที่นี่เขาไม่ได้พูดคุยกับเจ้าของร้านแต่ได้รับการต้อนรับจากเหรัญญิก “นายท่านฉู่” ฉีหรงทำความเคารพชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมเล็กน้อยที่ยืนอยู่ในลานด้านข้างของร้านขายธัญพืช ตรงจุดนี้ยังเป็นประตูข้างที่ผู้คนใช้ติดต่อขายสินค้าและรับเข้าประตู หน้าที่ของเหรัญญิกฉู่ไม่ใช่การดูแลบัญชีร้าน แต่เป็นการรับซื้อสินค้า เขาจึงควบคุมส่วนนี้โดยเฉพาะ เมื่อเห็นชาวบ้านชายที่ดูคุ้นตาก็นึกขึ้นได้ เมื่อไม่นานมีนี้มีชาวบ้านมาขายธัญพืชหยาบ แม้จะบอกว่าเป็นธัญพืชหยาบแต่ก็มีคุณภาพดีกว่าที่เคยเห็น ดังนั้นเหรัญญิกฉู่จึงอดไม่ได้ที่จะจดชื่อเขาเอาไว้ในใจ “โอ้ นี่มัน...ไม่ใช่ฉีต้าหลางหรอกหรือ” “ยินดีที่ได้พบนายท่านฉู่อีกครั้ง คราวนี้ข้านำธัญพืชมาขายให้ท่านตามที่กล่าวในคราวก่อนแล้วขอรับ” “มามาเข้ามาก่อน เอามาดู หากมีคุณภาพเหมือนคราวก่อนทางร้านย่อมรับซื้อ” “ท่านฉู่ คราวนี้เรายังต้องการขายข้าวขาวแทน” “ข้าวขาวหรือ” เหรัญญิกฉู่ก้มมองตะกร้าที่ถูกเปิดออก ดวงตาเขาเป็นประกายในทันที เขาไม่เคยเห็นข้าวขาวที่เรียงเม็ดสวยงามขนาดนี้มาก่อน ไม่มีส่วนไหนหักหรือแตกเลย หากมันยังเป็นเมล็ดพันธุ์คงเป็นที่นิยมมากแน่ น่าเสียดาย… แม้คิดเช่นนั้นแต่เหรัญญิกฉู่ยังคงหยิบข้าวขึ้นมาตรวจสอบ ยื่นแขนลงไปวัดความชื้นจนถึงก้นตะกร้า เมื่อแน่ใจว่าข้าวเป็นคุณภาพเดียวกันทุกถังก็ยิ้มด้วยความจริงใจมากขึ้น “ฉีต้าหลาง ข้าวพวกนี้มาอย่างไรหรือ” มองด้วยตายังเห็นว่าคนกลุ่มนี้ไม่มีความสามารถสีข้าวออกมาได้ขาวปานนี้แน่นอน ต้องเป็นการรับมาอีกที “ไม่ปิดบังท่านฉู่ ข้าวนี้เป็นสหายของบิดาซึ่งเป็นทหารเกษียณเช่นกันขายอยู่ในเมืองที่ห่างไกลออกไป เมื่อไม่นานมานี้เขาต้องการขยับขยายการค้าและส่งมาให้เราลองดูในเมืองนี้” “นี่...ข้าวนี้ดีมาก...บิดาเจ้าเป็นทหารผ่านศึกหรือ” เหรัญญิกฉู่ชะงักไปเมื่อจะถามซอกแซ่กมากกว่านี้ เขาเริ่มเข้าใจบางอย่างและระงับความอยากรู้อยากเห็นทันที อูฐผอมยังใหญ่กว่าม้า ไม่ต้องพูดถึงเครือข่ายของทหารนั้นกว้างขวางที่สุดในแผ่นดิน แม้ปลดเกษียณแล้วยังมีเจ้านายอยู่ด้านบน ลูกน้องอยู่ด้านล่าง ใครจะคิดว่าจะบังเอิญโชคร้ายเตะแผ่นเหล็กหรือไม่ ทุกคนจะหลีกเลี่ยงสิ่งที่เรียกว่าทหารสุดชีวิตในยุคแห่งสงครามนี้ “ใช่ขอรับ” “โอ้ รับราชการรุ่นใดหรือ” แม้เหรัญญิกฉู่จะไม่อยากยุ่งกับทหาร เขายังต้องการตรวจสอบว่าเป็นความจริงหรือไม่ มีผู้คนมากมายแอบอ้างชื่อเสียงทหาร เขาไม่รู้ว่าชาวบ้านเหล่านี้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ มีเพียงต้องตรวจสอบด้วยคำถามเพื่อแยกแยะเท่านั้น ฉีหรงไม่ทำให้ผิดหวัง เขาเริ่มเล่าปีที่บิดาไปทหารและทั้งครอบครัวย้ายไปอยู่ในเขตสงครามและกลับมาอย่างไร แม้จะเป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ แต่เหรัญญิกฉู่ก็มั่นใจว่านี่คือครอบครัวทหารผ่านศึกจริงๆ “นายน้อยฉี ไม่ใช่ว่าข้าอยากตัดเส้นทางทำกินของเจ้า แต่อย่างที่เห็น ในเมืองแห่งนี้มีร้านขายธัญพืชเกิดขึ้นมากมายทุกวัน และปิดลงมากมายทุกวัน ท่านรู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด” “เหรัญญิกฉู่ชี้แนะด้วย” ฉีหรงไม่ค้าน เมื่ออีกฝ่ายให้คำแนะนำด้วยเจตนาใดก็ตาม แต่เขาจะนำไปใช้หรือไม่ก็อีกเรื่อง “นั่นเพราะการหาคู่ค้านั้นยาก เมืองหนานอันนั้นเล็กเกินไป ร้านค้าส่วนใหญ่ไม่อาจแข่งขันกับร้านใหญ่ได้ สงครามการค้าก็รุนแรงมากเช่นกัน แต่พวกเรายังยืนหยัดอยู่ที่นี่เป็นอันดับสองได้แม้จะเป็นร้านค้าท้องถิ่น จะบอกว่าเป็นร้านเดียวที่อยู่ได้นานที่สุดเมื่อต่อสู้กับหอการค้าอื่นๆก็ว่าได้” “ดังนั้นท่านดูเถิด ท่านจะชนะหอการค้าเหล่านั้นที่มีเส้นสายและเงินทุนจากเมืองใหญ่ๆได้หรือไม่ ผู้คนในเมืองหนานอันมีจำกัด แต่ร้านค้าธัญพืชกลับมีมากมาย ท่านจะสามารถขายแข่งกับพวกเขาได้หรือไม่...แม้ข้าวจะดีมากก็ตาม นั่นอาจเป็นอีกเหตุผลที่สหายของบิดาท่านไม่มาเปิดร้านที่นี่เอง” คำพูดของเหรัญญิกฉู่คล้ายบอกว่าสหายผู้นั้นดูเหมือนจะวางแผนเล็กน้อยในใจ หากให้ครอบครัวฉีลงทุนขายในเมืองหนานอันได้มั่นคงเขาก็ได้กำไร แต่หากไม่สำเร็จเขาก็ไม่เสียอะไรเลย ผู้ที่เสียคือครอบครัวฉีเท่านั้น “ขอบคุณที่เหรัญญิกฉู่ชี้แนะ ผู้น้อยจดจำไว้ในใจแล้ว” ฉีหรงไม่ได้ต่อปากต่อคำ เหรัญญิกฉู่จึงปล่อยไป เขาให้คนไปชั่งน้ำหนักข้าวและจ่ายเงิน “ข้าให้ราคาสูงกว่าข้าวขาวทั่วไปสิบอีแปะต่อจิน อย่างไรก็ตามนายน้อยฉี ข้าอยากให้ท่านขายข้าวให้ข้ามากกว่าเปิดร้านด้วยตนเอง...จริงๆ เมื่อเราเป็นคู่ค้ากัน ข้ายินดีให้ราคาสูงกว่าข้าวขาวทั่วไปสิบอีแปะต่อจินในทุกๆรอบการค้า” “ข้าจะนำคำของเหรัญญิกฉู่กลับไปคิด” ฉีหรงยิ้มทางการค้า หลังรับเงินเขาก็ขอตัวออกจากร้าน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD