ตอนที่ 4
“คารวะท่านอาทั้งสองขอรับ ข้าน้อยหลิวมู่ฉวน” กล่าวจบก็แนะนำตัวเองทันที พลางส่งยิ้มให้สาวงามไปหนึ่งครั้ง แต่กลับได้ค้อนอันใหญ่กลับมาให้ทันที ฟางหรูหน้างอใส่ชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าชายคนนี้สายตาแพรวพราวช่างเจ้าเล่ห์นัก ผิดกับข่าวลือที่นางได้ยินมา ดูเหมือนว่างานงอกเสียแล้ว
“ที่แท้ก็รองแม่ทัพหลิวเองนี่นา เชิญนั่งก่อน” เถ้าแก่เถากล่าวขึ้นมา เหวินซื่อนึกไม่ถึงว่าจะเป็นชายหนุ่มองอาจเช่นนี้ พลางสำรวจเบื้องต้นก็พอใจยิ่งนัก เห็นทีว่าลูกสาวของนางจะมีคนดูแลแล้ว ต่อไปนี้นางจะได้หมดห่วงเสียที
เหวินซื่อแม้จะเป็นเพียงแค่แม่เลี้ยง แต่รักและเอ็นดูลูกสาวคนนี้เหมือนกับเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ฟางหรูน่ารักและร่าเริงสนุกสนาน เป็นเด็กสดใสไม่คิดมาก อีกอย่างนางเป็นเด็กดีเชื่อฟังคำสอนสั่ง แต่ทว่าแอบดื้อเงียบ มีนิสัยประหลาดคล้ายกับเด็กผู้ชาย ดังนั้นจึงเข้ากันได้ดีกับจื่อหมิงลูกชายของนาง ทั้งสองคนเป็นพี่น้องที่รักใคร่กันกลมเกลียวกันนัก คนหนึ่งร้อง คนหนึ่งรับเสมอ
“หรูเอ๋อร์ คารวะท่านรองแม่ทัพเจ้าค่ะ” ฟางหรูรู้ว่าตนเองจะต้องทำเช่นไร ดังนั้นนางจึงไม่อาจทำให้ท่านพ่อและท่านแม่เสียหน้าเอาได้ ถึงจะไม่ชอบหน้าของอีกฝ่ายก็ตาม นึกไม่ถึงว่าตนเองจะเพลี่ยงพล้ำตอบตกลงแต่งงานไปแล้ว หากรู้เช่นนี้ขอปฏิเสธทีหลังจะได้หรือไม่นะ
“เรียกพี่มู่ฉวนก็ได้ พี่ไม่ถือ” ว่าแล้วพลางยักคิ้วหลิ่วตาเล็กน้อยใส่สาวงาม แต่ก็ถูกค้อนวงใหญ่ปามาให้อีกครั้ง ดูเหมือนว่านางจะไม่ชอบหน้าเขาแล้วสิเนี่ย ดูสนุกไม่น้อย คงจะต้องปราบพยศเด็กน้อยคนนี้ให้อยู่ในโอวาทแล้วกระมัง
เขาเป็นถึงรองแม่ทัพ ผู้คนต่างก็หวาดกลัวในความโหดเหี้ยมของเขา แต่ทว่าสาวงามกลับมีทีท่าไม่ละความ มิหวาดกลัวเขาสักนิด ยังคงตีสีหน้าราบเรียบ แต่แอบเบะปากใส่เขาเล็กน้อย นางช่างเป็นสตรีที่แสนแสบเสียจริง แบบนี้สิถูกใจใช่เลย เขาแย้มยิ้มอย่างถูกใจนัก
จู่ ๆ ก็มีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องรับรอง สีหน้าของเด็กคนนี้ดูจะมีแต่ความกังวลใจ ฝีเท้าของเขาเร่งรีบวิ่งเข้ามาจนคนด้านในหันมองเป็นตาเดียวกัน
“พี่ใหญ่เร็ว ๆ เข้า พวกอันธพาลกำลังทำร้ายเพื่อนของข้า” น้องชายตัวแสบไม่สนว่าจะมีใครพูดคุยกันอยู่ในห้องนี้ เขาออกไปได้เพียงแค่ครึ่งก้านธูปก็ก่อเรื่องขึ้นมาอีกจนได้ แล้วใครเล่าจะช่วยเหลือน้องชาย นอกเสียจากจะเป็นพี่ใหญ่ผู้เก่งกาจเรื่องของการต่อยตี
“อีกแล้วรึ! คนพวกนี้ ช่างไม่เข็ดเสียจริง ๆ ” ฟางหรูหลงลืมตนเอง เมื่อนึกได้จึงยิ้มเก้อเขิน “ขออภัยเจ้าค่ะท่านลุง หรูเอ๋อร์ขอตัวออกไปข้างนอกกับหมิงเอ๋อร์สักครู่นะเจ้าคะ” ว่าแล้วก็ไม่รอให้ใครออกปากอนุญาต น้องชายช่างมาได้จังหวะพอดิบพอดี เห็นทีว่าจะต้องให้รางวัลน้องชายเสียแล้ว
เพราะนางกำลังอึดอัดกับแววตาราวกับหมาป่าจะเขมือบลูกกวาง แต่นางไม่ใช่กวางน้อยเสียด้วย แต่เป็นกวางป่าที่ดุร้ายต่างหากเล่า
“พี่ใหญ่ หากชักช้า คนพวกนั้นคงจะต่อยตีเพื่อนของข้าตายไปแล้วกระมัง” เจ้าตัวแสบเร่งพี่สาวอย่างร้อนใจ กลัวว่าสหายรักจะถูกเจ้าอันธพาลต่อยตีจนสลบหมดสติไป จะมีใครกล้าท้าดวลเหมือนพี่สาวของเขาไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นคิดว่าพี่สาวของตนจะต้องเอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน เพราะบ่อยครั้งที่เขาต้องมาขอความช่วยเหลือจากพี่สาว ในเมื่อเขามันอ่อนแอเกินไป
พี่สาวผู้งดงามถูกกระชากลากออกจากเรือนด้วยน้ำมือของน้องชายที่ดึงข้อมือของพี่สาวอย่างเร่งรีบ จากนั้นพี่น้องคู่นี้ก็รีบวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุ ดีที่ว่าไม่ได้ห่างจากจวนตระกูลเถามากมายนัก เพียงแค่ครู่ใหญ่สองพี่น้องก็วิ่งมาถึงแล้ว
“นั่น ๆ มันกำลังทำร้ายเพื่อนของข้า” จื่อหมิงชี้มือไปยังชายรูปร่างอวบอ้วน กำลังลงมือรังแกสหายรักอยู่ตรงนั้นพอดี หลักฐานคาตาเห็นชัดแจ๋วแจ่มแจ้ง ฟางหรูมองเห็นแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปห้ามปราบก่อน หากไม่ฟังนางยินดีที่จะประเคนส้นเท้าน้อย ๆ ให้พวกมันได้ลิ้มลองเสียหน่อย
“หยุดนะ นั่นจะทำอะไร ปล่อยเด็กคนนั้นซะไม่งั้นเจอดีแน่ ๆ!” สาวงามตวาดแผดเสียงอันเกรี้ยวกราด คล้ายกับว่าทรงพลังนัก ยกมือชี้ไปยังใบหน้าอันอวบอ้วนของอีกฝ่าย มุ่งหมายให้คนพวกนี้หวาดกลัว แต่ทว่าคนกลุ่มนี้ไม่หยุดลงมือ สายตาของพวกมันพุ่งเป้ามายังสาวงามส่งเสียงอู้อี้มาแต่ไกล
เมื่อสาวงามเดินมาใกล้ ๆ ได้เห็นโฉมงามชัด ๆ แบบนี้ก็ทำให้พวกมันยิ้มกรุ้มกริ่ม แววตาเย้ยหยัน เหยียดหยามยังส่งเสียงก้าวร้าวและคุกคามอีกด้วย “ดูสิวะ หน้าตาของพี่สาวเจ้าจื่อหมิง งดงามไม่เบา แถมยังเป็นคนต่างแคว้นอีกด้วย วันนี้ข้าจะจับสตรีผู้นั้นทำภรรยาเลย” ชายรูปร่างสูงใหญ่ อายุก็น่าจะมากกว่าน้องชายของฟางหรูหลายปี กล่าวขึ้นมา
สีหน้าชายรูปร่างอวบอ้วนดูแย้มยิ้มพลางเหยียดหยามและคุกคามฟางหรูไม่น้อย เมื่อเห็นสาวงามรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นเช่นนี้ มีหรือที่จะปล่อยนางไป ขืนใจนางจับนางเป็นภรรยาคงจะดีไม่น้อย ไหน ๆ นางก็เป็นลูกสาวเถ้าแก่เถาที่ร่ำรวยในเขตนี้ เขาจะได้เป็นลูกเขยเศรษฐีก็คราวนี้แหละ
ท่านรองแม่ทัพหลิวทะยานกายมา แต่ทว่าแอบมานั่งอยู่บนหลังคา อยากจะรู้นักว่า สาวงามของเขาจะช่วยเหลือน้องชายตนเองได้อย่างไร แต่ถ้าหากนางพลาดท่าเสียที เขาจะเป็นคนยื่นมือช่วยเหลือนางเอง เรื่องเล็ก ๆ เพียงเท่านี้ แค่กระบวนท่าเดียว พวกกลุ่มอันธพาลคงจะนอนสลบไปสามวันสามคืน
“นี่จื่อหมิง เจ้าคงต้องกลับไปนุ่งกระโปรงพี่สาวเจ้าแล้วกระมัง ถึงได้ตามนางมาช่วยแบบนี้” คนตัวโตพ่นคำพูดดูถูกไปให้เถาจื่อหมิงมักทำตัวอ่อนแอปวกเปียก ถึงขั้นต้องไปตามสตรีรูปร่างบอบบางให้ออกมาช่วยเช่นนี้ ช่างดูน่าขบขันนัก
แต่เปล่าหรอก เถาจื่อหมิงกลัวใบหน้าอันหล่อเหลาของตนจะฟกช้ำมีร่องรอยบาดเจ็บ เกรงว่าจะทำให้สตรีน้อยใหญ่เจ็บปวดใจที่เห็นใบหน้าอันงดงามราวกับเทพสวรรค์บาดเจ็บ นั่นเพราะเขากำลังหลงตัวเองว่าหล่อเหลาราวกับเทพสวรรค์
“ไม่ต้องไปสนใจพวกมัน จะพูดอะไรให้มันพูด เดี๋ยวพี่ใหญ่จะเลาะฟันหน้าของพวกมันออกมาให้เจ้าได้เห็นเป็นบุญตาเอง รออยู่ตรงนี้นะ” จะเรียกได้ว่า น้องข้าใครอย่าแตะ มิเช่นนั้นแล้วฟางหรูจะไม่อภัยคนพวกนี้อย่างเด็ดขาด
สิ้นคำพูดฟางหรูสะบัดรองเท้าไปกระแทกหนึ่งในหน้าพวกนั้น พวกมันหลบไม่ทัน ฟางหรูวิ่งเข้าใส่กระโดดเตะปากจนฟันหน้าของคนที่พ่นคำดูถูกน้องชายเมื่อครู่นี้ ฟันหน้ากระเด็นออกมาสองซี่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ใบหน้าของเจ้าตัวอวบอ้วนนั้นสะบัดตามแรงฝ่าเท้าอย่างเต็มแรง จนฟันของมันกระเด็นออกมาในที่สุด