ตอนที่ 5

1359 Words
ตอนที่ 5 เจ้าคนตัวอวบอ้วนล้มลงนอนที่พื้น ร้องโอดโอยเสียงหลง มืออวบ ๆ กุมที่แก้มของตนเอง มองเห็นโลหิตไหลเต็มฝ่ามือก็ร้องโวยวายเสียยกใหญ่ ส่วนเถาจื่อหมิงกระโดดดีใจราวกับเด็กน้อยสี่ขวบปี เห็นพี่สาวล้มคนตัวโตราวกับดึงหัวผักกาดออกจากดิน ดูเหมือนจะช่างง่ายดายเกินไปแล้ว ท่านรองแม่ทัพหลิวมองดูหญิงสาวและตกตะลึงนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำว่านางจะเก่งเกินไปแล้ว เพียงแค่กระโดดเตะปากของอีกฝ่ายจนฟันหน้ากระเด็นหลุดออกมา เขาเผลอกุมแก้มของตนเองเข้าให้อย่างไม่รู้ตัว เขาจะถูกนางทำร้ายแบบนี้หรือไม่นะ ช่างเป็นสตรีที่น่ากลัวไม่น้อย หลิวมู่ฉวนยังคงดูต่อไป เห็นนางจับที่คอเสื้อของอีกคนหนึ่งที่ยืนตกตะลึงไม่ต่างกันกับเขา จากนั้นนางก็กระแทกด้วยเข่าเข้าให้ที่ปลายคางของอีกฝ่าย จนทำให้เจ้าหมอนั่นหลับกลางอากาศไปเลยทีเดียว หลิวมู่ฉวนขนแขนลุกซู่กลืนน้ำลายลงคอทันที นางทำให้เขาแปลกใจนัก และนางดูน่าสนใจยิ่ง เขาชื่นชมความสามารถของคู่หมั้นสาวแสนสวย นางทำให้เขาอยากจะรู้จักนางให้มากขึ้น อยากจะพูดคุยกับนางให้มากขึ้น อีกทั้งยังอยากจะปราบม้าพยศเช่นนางด้วย นางดูท้าทายเขายิ่งนัก แบบนี้สิถึงจะคู่ควรเป็นภรรยาของรองแม่ทัพ “พี่ใหญ่ พอแล้วเดี๋ยวพวกมันตาย” เถาจื่อหมิงเอ่ยห้ามขึ้นมา เมื่อครู่ตนเองยังดีใจกระโดดโลดเต้นอยู่เลย นึกไม่ถึงอึดใจเดียวก็เปลี่ยนท่าที เป็นสงสารฝ่ายตรงข้ามเสียแล้ว ที่เห็นเจ้าพวกอันธพาลนอนแอ้งแม้งไม่เป็นท่า แต่ละคนนอนหลับไม่รู้เรื่อง อีกคนก็เลือดออกเต็มปาก เพราะถูกพี่สาวของเขาเตะเข้าให้ จากนั้นก็เตะท้องไปอีกครั้ง จนนอนแน่นิ่งเช่นนี้ พี่สาวของเขาช่างน่ากลัวยิ่งนัก เกรงว่าหากแต่งงานออกเรือน สามีของนางก็คงจะไม่ต่างกับกระสอบทรายในจวนแน่ ๆ ยิ่งคิดยิ่งสงสารว่าที่พี่เขยของเขาเสียเหลือเกิน จะรับมือพี่สาวของเขาไหวหรือไม่นะ ฟางหรูกล่าวขึ้นมา พลางยกมือขึ้นมาซับเหงื่อบนหน้าผากมนของตนเองไปสองครั้ง นางดูเย่อหยิ่งและยังดูผยองพองตัวข่มอีกฝ่ายเข้าให้ “เป็นไง เชื่อมือพี่ใหญ่หรือไม่ ข้าตัวเล็ก ๆ เพียงเท่านี้แต่กลับล้มคนตัวโตเช่นเจ้านั่นได้” แววตาของหญิงสาวช่างดูเย้ยหยันคู่ต่อสู้ยิ่งนัก “พี่ใหญ่ของข้าเก่งที่สุด แต่ข้ากลัวว่า” จื่อหมิงเข้าไปพยุงสหายของตนเองที่บาดเจ็บ ประคองให้เขาอยู่ในท่าที่สบาย ฟางหรูเหลือบตามองน้องชายอย่างแปลกใจนัก เจ้าสหายคนนี้รูปร่างคล้ายสตรียิ่งนัก ทำให้นางอยากรู้จริงว่า เจ้าเด็กน้อยคนนี้เป็นลูหลานตระกูลใดกันแน่ “กลัวว่าอะไร” หญิงสาวเท้าเอวคล้ายดั่งแจกันหยกมีหู เมื่อครู่นางยังช่วยเจ้าน้องชายตัวแสบจัดการกลุ่มอันธพาล นึกไม่ถึงทำดีแล้วไม่ได้ดี เจ้าน้องชายตัวแสบจะต้องพูดอะไรไม่เข้าหูอีกเป็นแน่ “กลัวว่า ว่าที่พี่เขยหากเห็นท่านเป็นเช่นนี้เขาจะทำสีหน้าอย่างไร” จื่อหมิงกล่าวขึ้นมา หัวเราะเบา ๆ อีกด้วย ส่วนคนที่นั่งอยู่บนหลังคาก็ขำขันกับพี่น้องสองคนนี้เหลือเกิน เมื่อครู่ยังเห็นรักใคร่กันอยู่เลย เผลอครู่เดียวน้องชายก็พูดใส่ความเข้าให้อีกจนได้ ฟางหรูนึกไม่ผิด เจ้าน้องชายตัวดีปากสุนัขอีกแล้ว มันน่าจะฟาดปากสักทีสองทีให้เข็ดเสียจริง ดังนั้นนางจึงได้ส่งเสียงคำรามอันกึกก้องใส่ใบหูของน้องชายตัวแสบว่า “มันก็เรื่องของเขา จะมีสีหน้าเหมือนเห็นผี ข้าก็หาได้ใส่ใจไม่!” คนที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็กระโจนลงมา พลางปรบมือเอ่ยชมนางไปสองสามคำ แต่แล้วก็ได้สีหน้าที่เมินเฉยกลับมาแทน แถมนางยังไม่ปริปากพูดกับเขาสักคำ ก้มหน้าก้มตาเก็บรองเท้าใส่อย่างเรียบร้อย แต่ทว่าเส้นผมงดงามดำคลับดุจสีน้ำหมึกนั้นส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้เขาผ่อนคลายไม่น้อย เหมือนว่าเคยได้กลิ่นนี้มาจากที่ไหนสักแห่ง นึกอย่างไรก็นึกไม่ออกเสียที “คุณหนูเถา รอเดี๋ยวก่อน” หลิวมู่ฉวนให้ความสนใจกับว่าที่คู่หมั้นคู่หมายของเขายิ่งนัก ยามเมื่อนางทำหน้าบูดบึ้งเมินเฉย กระทั่งส่งแววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกเช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาสนใจนางยิ่งขึ้น ก้อนเนื้อข้างซ้ายนั้นเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ รุนแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอกแกร่งของเขาเสียแล้ว “พี่ชายขอโทษแทนพี่สาวของข้าด้วยที่เสียมารยาท” จื่อหมิงเอ่ยขอโทษก้มหัวลงเล็กน้อยก่อนจะกระชับร่างคนตัวเล็กให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตนเองให้ดี เด็กน้อยคนนี้คือคนที่เขาชมชอบ นางมักแต่งกายเป็นบุรุษเลียนแบบพี่สาวของเขา นั่นเพราะว่าเถาจื่อหมิงเคยกล่าวว่า หากเขาจะมีสตรีในดวงใจแล้วไซร้ คนผู้นั้นจะต้องมีลักษณะคล้ายคลึงกับพี่สาวของตน นึกไม่ถึงว่าจะมีคนตัวเล็กใจกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ แต่งกายคล้ายบุรุษไม่พอยังถ้าต่อยตีกับกลุ่มอันธพาลนี้อีก ตัวเล็กเพียงเท่าลูกแมวกลับทำตัวราวกับพยัคฆ์ นี่มันหนูแอบอ้างเป็นราชสีห์ชัด ๆ “หมิงเอ๋อร์ ทำไมต้องขอโทษคนอื่นด้วย ในเมื่อเราไม่ผิด” ฟางหรูดุน้องชายเข้าให้เล็กน้อย เหลือบตามองชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ ถึงจะเป็นว่าที่คู่หมั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นทางการ หนังสือหมั้นหมาย หนังสือสินสอดก็ยังไม่มี ดังนั้นนางเองก็หาได้ใส่ใจอีกฝ่าย “ผิดที่เจ้าเป็นเด็กไม่ตอบผู้ใหญ่เช่นข้าอย่างไรคุณหนูเถา” หลิวมู่ฉวนกล่าวขึ้นมา ดูท่าแล้วเขาคงจะต้องปราบนางให้อยู่หมัดเร็ว ๆ นี้ มิเช่นนั้นตัวเขาเองจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบนางแน่ ๆ “...” ฟางหรูผู้ไม่สนคำพูดใคร นางไม่ตอบคำถามของเขาอีกด้วย ยังคงตีหน้ามึนไม่สนใจอีกฝ่ายที่พูดไม่หยุด และยังเดินตามนางกับน้องชายมาอีก ดังนั้นแล้วสาวงามทนความอึดอัดไม่ไหว จึงได้ขึ้นเสียงใส่อีกฝ่าย “จะตามมาทำไม!” ฟางหรูตวาดใส่ชายหนุ่มอย่างไม่นึกหวาดกลัว เขาเป็นถึงรองแม่ทัพหลิวแห่งเมืองหลวง นางเป็นแค่สตรีรูปร่างบอบบาง แต่ก็หาได้หวาดกลัวอีกฝ่ายไม่ เพราะนางไม่ชอบที่เขากำลังเล่นหูเล่นตา พลางเล่นลิ้น หยอกเย้านางเช่นนี้ เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึงวัน เขาก็ทำตัวตีสนิทกับนางจนเกินไปแล้ว ‘พวกบุรุษเจ้าสำราญคงทำตัวแบบนี้กระมัง’ ฟางหรูครุ่นคิดอยู่ในใจมิได้พูดออกมา เถาจื่อหมิงรีบอุ้มเด็กสาวในอ้อมกอดของตนเองเร่งรีบส่งที่จวนของนาง โดยทิ้งพี่สาวไว้ตามลำพังกับชายหนุ่มแปลกหน้า เห็นว่าเข้ากันได้ดีเขาก็สบายใจแล้ว แต่ทว่าเข้ากันได้ดีก็คือต่างฝ่ายต่างลับฝีปากกันไปมา เช่นนี้เขารู้สึกชมชอบว่าที่พี่เขยไม่น้อย “คือข้าจะไปจวนของสตรีว่าที่คู่หมั้นของข้า ผ่านจวนของเจ้าพอดี” เขาเล่นลิ้นเข้าให้ สีหน้าของเขาเบิกบานใจนัก เมื่อได้กลั่นแกล้งนางให้หงุดหงิดรำคาญใจ ดูเหมือนกำลังจะมีเพลิงโทสะอยู่ในแววตาคู่งามอีกด้วย ลำแขนทั้งสองไพล่หลังเอาไว้ จากนั้นก็หัวเราะขบขันเบา ๆ กับกิริยาท่าทางเกินสตรีของนาง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD