เชอร์รีลขัดขืนเล็กน้อยเมื่อถูกเขาโอบเอวเอาไว้ แต่ก็เหมือนเดิม อย่างไรเสียแรงของเธอก็สู้แรงของเวคาไม่ได้อยู่ดี ในขณะที่มือข้างหนึ่งลูบคลำอยู่ที่สะโพกกลม มืออีกข้างเขาก็ยกแก้วเครื่องดื่มกระดกเข้าปากอย่างสบายใจ
“เวมาได้ยังไง” จำได้ว่ายังไม่ได้บอกว่าตัวเองมาที่นี่
“มันยากเหรอที่จะตามหา” พูดพร้อมกับก้มมองเด็กดื้อที่ยังอยู่ในอ้อมแขน “ถึงไม่บอกฉันก็ตามเธอเจออยู่ดี”
ที่เขาพูดมามันก็จริงนั่นแหละ ต่อให้ไปหลบอยู่มุมไหนของโลกใบนี้ หากเขาอยากตามก็สามารถหาตัวเธอได้ไม่ยาก และนั่นก็เป็นอีกเหตุผลว่าทำไมเมื่อบอกเลิกแล้วเธอถึงไม่หลบไปอยู่ที่อื่นก่อน
เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรน่ะสิ
“แล้วมาทำไม เชอร์บอกแล้วว่าจะมาเที่ยวกับฝัน”
แก้วเครื่องดื่มที่เขากำลังจะยกขึ้นกระดกเข้าปากถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะเสียงดัง ทำให้ทั้งเธอและปลายฝันสะดุ้งตกใจ พร้อมกับนัยน์ตาคมที่ตวัดมองเขม็ง
“ฉันมาดูเมียตัวเองไม่ได้เลยหรือไง หรือว่าเธออยากจะให้ไอ้ผู้ชายคนเมื่อกี้เกาะแกะแทน” เขาตอบกลับเสียงเข้ม “แล้วทำไมไม่ไปเซอร์เลส หรือว่ากลัวผัวตัวเองเห็น”
“อย่ามาหาเรื่องนะเว” เมื่อเห็นว่าเดี๋ยวเรื่องจะไปกันใหญ่เชอร์รีลจึงพูดตัดบท แล้วยกแก้วตัวเองขึ้นดื่ม ซึ่งเวคาก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น
วงแขนแกร่งยังโอบรั้งอยู่ที่เดิมราวกับกลัวว่าใคร ๆ ที่อยู่ในนี้จะไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขา และมันก็ยิ่งแน่นกระชับขึ้นเมื่อเวคาสังเกตเห็นว่ายังมีผู้ชายคนอื่นมองมาที่เธอ
“เว กอดแน่นไปแล้ว เชอร์เต้นไม่ได้”
เวคายอมคลายวงแขนของตัวเองออกปล่อยให้ร่างเล็กได้เป็นอิสระ และการกระทำของเขาก็ทำให้เธอแปลกใจอยู่ไม่น้อย ดูเหมือนวันนี้จะพูดง่ายเป็นพิเศษ
“อยากดื่มอะไรสั่งเลยนะ ไม่อั้น ฉันเลี้ยงเอง”
คำพูดของเขาทำเอาสาว ๆ ที่อยู่ในโต๊ะหันขวับมามองกันเป็นตาเดียวอย่างไม่เชื่อหูนัก ไม่ใช่แค่เชอร์รีลหรอกที่แปลกใจ ปลายฝันกับเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนก็แปลกใจไม่แพ้กัน ดูเหมือนวันนี้ชายหนุ่มจะใจดีเป็นพิเศษ
ไม่ใช่เรื่องเงินทอง แต่เป็นเรื่องอารมณ์ที่ดูแปลกไปต่างจากทุกวัน
“นายพูดเองนะ ถ้างั้นพวกเราไม่เกรงใจละนะ” ปลายฝันพูดขึ้น
“อืม...” เวคาพยักหน้าเบา ๆ เป็นคำตอบว่าเขาพูดจริง แล้วสาว ๆ ก็หันไปเรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่มที่ตัวเองต้องการเพิ่มคนละอย่างสองอย่าง เชอร์รีลเองก็เช่นกัน
เมื่อเห็นเธอสั่งค็อกเทลตัวแรงไปวงแขนที่คลายออกจากเอวบางแล้วก็ตวัดกอดแน่นอีกครั้ง โน้มใบหน้าชิดกระซิบข้างใบหูเล็กด้วยเสียงแหบพร่า
“ดื่มตัวแรง ๆ ไป ระวังเมาไม่รู้เรื่องแล้วจะโดนลักหลับนะ ฉันยิ่งชอบอะไรที่มันตื่นเต้นอยู่ด้วยสิ”
แก้มสาวร้อนผ่าว แม้ว่าภายใต้แสงสีในความมืดจะมองไม่เห็นว่าใบหน้าขาวเนียนนั้นขึ้นสีแดงแค่ไหน แต่ก็พอเดาได้ว่ามันคงแดงลามไปจนถึงติ่งหูแล้วเรียบร้อย
พูดจบ เวคาก็คลายวงแขนออกอีกครั้งให้ร่างบางเป็นอิสระ ส่วนเชอร์รีลก็เขยิบไปเต้นใกล้ ๆ กับกลุ่มเพื่อนเพื่อกลบอาการของตัวเอง ถึงแม้จะคบกันมาสี่ปีแล้ว แต่คำพูดของเขาที่สื่อความหมายตามตรงก็ทำให้ใจเต้นแรงได้อยู่เสมอ
“เชอร์ วันนี้เวมันลืมกินยา หรือว่ากินแบบไม่เขย่าขวดมาวะ ทำไมอารมณ์ดีแปลก ๆ”
ปลายฝันขยับเข้ามากระซิบถามพลางเหลือบสายตามองชายหนุ่มเจ้าของรอยสักรูปหัวกะโหลกที่ลำคอเป็นระ ในตอนแรกที่เห็นเวคาเดินเข้ามา เธอคิดว่าร้านนี้คงจะโดนพังราบเป็นหน้ากลองแล้วแน่ ๆ
“ไม่รู้ดิ สงสัยดีลงานผ่านไปด้วยดีมั้ง”
เชอร์รีลเองก็ตอบกลับไปอย่างคนไม่รู้เช่นกัน ยอมรับว่าตอนที่เห็นหน้าเขาที่นี่ หัวใจของเธอตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วเรียบร้อย กลัวว่ามันจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ยิ่งตอนที่เวคาชักปืนออกมาจ่อหน้าผู้ชายคนนั้น เธอนี่ได้แต่สวดมนต์ในใจ โชคยังดีที่เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ได้ ไม่อย่างนั้นคงมีใครนอนจมกองเลือดแน่ ๆ
เขาปล่อยเธอให้เต้นได้อย่างอิสระแค่เพียงครู่เดียว วงแขนก็ตวัดโอบรอบเอวบางอีกครั้งพร้อมกับกระชับกอดเธอเอาไว้หลวม ๆ
“เว กอดแบบนี้เชอร์จะเต้นได้ยังไง”
“กอดเมียตัวเองไม่ได้หรือไง” ผู้ชายตัวโตตอบกลับทั้งทำหน้าตาใสซื่อ “ก็เต้นไปดิ เต้นยั่วผัวตัวเองหน่อย เผื่อคืนนี้ฉันจะให้รางวัลสักสามสี่ยก”
ดวงสวยเฉี่ยวช้อนขึ้นมองก็ได้เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของผู้ชายตัวโตที่ยืนกอดเธออยู่ เชอร์รีลจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย อยากกอดก็กอดไป เธอก็จะเต้นตามที่ตัวเองอยากเต้นเหมือนกัน
ริมฝีปากหยักยกขึ้นเป็นรอยยิ้มมุมปากอย่างนึกมันเขี้ยวคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขน เวลาที่ไม่ได้ทะเลาะกันเธอก็น่ารักดี แต่เวลาดื้อขึ้นมาก็น่าตีไม่ใช่เล่น
ผ่านไปนานพอสมควร ดูเหมือนสาว ๆ ทั้งสี่คนจะเริ่มเหนื่อยกันแล้ว สังเกตจากจังหวะการโยกย้ายร่างกายเริ่มจะช้าลง และมีบางคนหยุดเต้นไปแล้ว
บางคนที่ว่าก็คือหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา
“เชอร์ กลับกันดีกว่าไหมพวกฉันเหนื่อยแล้ว” ปลายฝันเอ่ยถามพร้อมกับทำท่าบิดตัวไปมา
“เอาดิ นี่ก็ง่วงแล้วเหมือนกัน”
“อืม...ถ้างั้นพวกฉันกลับก่อนนะ ยังไงแกก็กลับกับเวใช่ปะ เจอกันที่มหา’ลัยวันจันทร์นะแก”
“อืม...ไว้เจอกัน”
เธอพยักหน้ารับแล้วโบกมือให้เพื่อนทั้งสามคนที่เพิ่งเดินออกไป ก่อนที่จะหันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง
“เว คืนนี้เชอร์กลับไปนอนคอนโดตัวเองได้หรือเปล่า ไม่ได้กลับไปนอนหลายวันแล้ว” เธอเอ่ยถาม แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าเขาจะตอบตกลงหรือเปล่า
“เอาดิ ฉันก็จะค้างกับเธอ”
“แต่ว่า...”
“แต่อะไร ผัวนอนด้วยไม่ได้แล้ว?”
ริมฝีปากบางที่กำลังจะขยับบอกเหตุผลต้องปิดลงจนสนิท ที่จริงอยากจะบอกว่ากลัวพ่อรู้แล้วจะเป็นปัญหาขึ้นมาอีก แต่ก็ช่างมันเถอะ บอกไปคนอย่างเขาก็ไม่ฟังอยู่ดี
“เว เรื่องพ่อน่ะ” แต่สุดท้ายเชอร์รีลก็ตัดสินใจพูดขึ้น ตอนนี้เขายังอารมณ์ดี ไม่แน่อาจจะยอมรับฟังอะไรบ้างก็ได้
“พ่อเธอทำไม”
“ถ้าเชอร์ทำตัวดี ๆ เชื่อฟังเวทุกอย่าง เวจะไม่ไปยุ่งกับพ่อแบบวันนั้นอีกใช่ไหม” เธอไม่อยากมีปัญหาทั้งกับเขาและกับพ่อ อยากให้ต่างคนต่างอยู่
“ตอนนี้มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะทำตัวดีหรือไม่ดี เพราะยังไงเธอก็เป็นของฉัน ไม่มีสิทธิ์ไปเป็นของคนอื่นถ้าฉันไม่อนุญาต” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกผ่านสีหน้าเรียบนิ่ง “แต่ถ้าพ่อเธอยังพยายามจะทำให้เธอไปคบกับคนอื่น ถึงตอนนั้นก็รอดูหายนะได้เลย”
เธอรู้ดีว่าเวคาไม่ได้ขู่ ตอนนี้บริษัทของพ่ออยู่ภายใต้การดูแลของ PN กรุ๊ป หากเขาต้องการจะทำลายมันก็ไม่ยากเลยแม้แต่น้อย
ระหว่างที่ขับรถ สายตาคมก็เหลือบมองคนที่นั่งข้างคนขับเป็นระยะ เขาไม่ได้อยากจะใช้วิธีนี้เพื่อบีบบังคับ แต่มันเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดนายชลิตได้ ไม่เช่นนั้น บริษัทของพ่อที่เธอภูมิอกภูมิใจหนักหนาจะต้องตกไปเป็นของคนอื่นแน่นอน
“อาทิตย์หน้าฉันมีงานกิจกรรมสายรหัส คงไม่มีเวลามาตามเธอเท่าไหร่ ถือว่าฉันให้อิสระเธออาทิตย์หนึ่งก็แล้วกัน”
น้ำเสียงของเขาอ่อนลง ทำให้เชอร์รีลได้แต่หันมามองอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่
“เวหมายความว่า อาทิตย์หน้าเชอร์จะกลับมานอนคอนโดตัวเอง จะไปไหนมาไหนก็ได้ใช่ปะ”
“อืม...” เขาตอบเพียงสั้น ๆ “แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไปกับผู้ชายคนอื่นได้นะ อย่าให้ฉันต้องรู้ว่ายังมีการไปดูตัว”
“ไม่มีหรอกเว เชอร์ก็ไม่ได้ชอบที่จะทำแบบนั้นสักหน่อย”
เพราะจนถึงตอนนี้เธอเองก็ยังรักผู้ชายที่ชื่อเวคาไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เคยคิดอยากจะมีคนอื่น ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อไม่อยากให้พ่อลำบากใจ และหากเป็นไปได้ ก็อยากจะอยู่กับเขาไปแบบนี้ โดยที่ทั้งพ่อของเธอและเวคานั้นไม่ต้องทะเลาะกันอีก
“เว แล้วถ้าพ่อเลิกจับคู่ให้เชอร์ เวจะคืนบริษัทให้พ่อดูแลเองหรือเปล่า”
“ตอนนี้ฉันก็ให้พ่อเธอดูแลอยู่นี่”
เขาไม่เคยต้องการบริษัทนี้มาครอบครองตั้งแต่แรก ในตอนนี้เลยยังให้นายชลิตเป็นคนดูแลเหมือนเก่า แต่อยู่ภายใต้ข้อตกลง หากว่าอีกฝ่ายเล่นตุกติกก็คงต้องใช้ไม้แข็ง
“เธอคบฉันมาตั้งสี่ปี ไม่รู้จักฉันสักนิดเลยเหรอเชอร์”
น้ำเสียงที่เอ่ยถามราวกับกำลังน้อยใจอยู่ในที เชอร์รีลเงยมองหน้าเขาอีกครั้ง แวบหนึ่งที่ได้เห็นแววตาวูบไหวนั้น
“ไม่รู้สิ แต่ก่อนเวไม่เคยเป็นแบบนี้”
“นั่นสินะ ถ้าหากฉันรักเธอน้อยลงสักหน่อย ก็คงไม่ต้องปวดหัวแทบบ้าอยู่อย่างนี้”
ก็รักไปแล้วและเลิกรักไม่ได้ ต่อให้ต้องร้ายแค่ไหน ถ้าหากมันทำให้ยังมีเธออยู่ข้างกายเขาก็ไม่สนวิธีการทั้งนั้น
///////////////////////////////////////////////////////