“จะไม่ไปเล่นด้วยกันเหรอวะไอ้เว” แฟรงค์เอ่ยถามเมื่อเห็นเวคาเอาแต่นั่งนิ่ง ๆ เอาศอกทั้งสองข้างค้ำลงบนโต๊ะหินอ่อน แล้วนั่งหันหน้าออกไปทางลานกิจกรรมของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ตอนนี้กำลังมีการเล่นเกมของสายรหัสอยู่
“ไม่อะ กูขี้เกียจ พวกมึงไปเล่นเองเหอะ”
เขาตอบกลับไปด้วยสีหน้านิ่ง ๆ ให้มานั่งดูน่ะมาได้ แต่จะให้ร่วมเล่นคงไม่ถนัดเท่าไหร่นัก และอีกอย่าง ตัวเขาเองก็ไม่ได้ชอบเล่นเกมอะไรแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“แต่รุ่นน้องน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลยนะมึง” แฟรงค์ยังคงพูดต่อ ทำให้เวคาต้องตวัดสายตาไปมองอย่างเอาเรื่อง นั่นแหละ เพื่อนตัวดีถึงหยุดพูด
“เออ...กูลืมไปว่ามึงรักเมียมาก” แต่ก็ไม่วายพูดยียวนทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มกับรุ่นพี่และรุ่นน้องที่กำลังทำกิจกรรมอยู่
เพื่อนเดินไปแล้ว เวคาก็ก้มมองโทรศัพท์ที่มีคนส่งข้อความมาหาพอดี มันมีอยู่ไม่กี่คนหรอกที่เขาตั้งหน้าตั้งตารอ
เชอร์ : วันนี้เชอร์ไปกินไอติมกับฝันนะ
รอยยิ้มบาง ๆ แต้มอยู่บนใบหน้าคม แค่เห็นข้อความที่คนตัวเล็กส่งมาให้เขายังมีความสุขขนาดนี้ แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปเลิกกับเธอ
แค่คิดว่าชีวิตนี้จะไม่มีเชอร์รีลอยู่ข้างกาย หัวใจข้างในก็บีบรัดจนปวดหนึบไปหมด
“พี่เวคะ”
เสียงที่เอ่ยทักทำให้เวคาละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นมามอง “ตุ๊กตาเองเหรอ มีอะไรหรือเปล่า”
ตุ๊กตา คือรุ่นน้องผู้หญิงที่เพิ่งเข้าปีหนึ่ง และเธอก็เป็นน้องรหัสของเขา
หญิงสาวตัวเล็กน่ารักสมชื่อยืนบิดตัวไปมาราวกับกำลังเขินอาย ก่อนที่จะยื่นห่ออะไรสักอย่างที่ผูกโบสีชมพูเอาไว้มาให้เขา
“อะไร” เวคาเอ่ยถามพร้อมสีหน้าสงสัย
“คุกกี้ค่ะ ตุ๊กตาลงมือทำเองเลยนะคะ เอามาให้พี่เวเป็นของขวัญค่ะ”
“ของขวัญ?”
ผู้ชายตัวโตทวนคำพูดของเธอ คิ้วเลิกสูงผูกเป็นปมอย่างสงสัยหนักกว่าเก่า วันนี้ไม่ใช่วันเกิดของเขา ไม่ใช่วันปีใหม่ ไม่ใช่วันพิเศษอะไรทั้งนั้น หรือถ้าเป็นวันพิเศษอะไรจริง ๆ เขาก็ไม่เคยรับของขวัญจากผู้หญิงคนอื่นนอกจากเชอร์รีลอยู่แล้ว
“ค่ะ ตุ๊กตาทำมาให้ ตอบแทนที่พี่เวดูแลตุ๊กตาอย่างดีน่ะค่ะ” น้องรหัสตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มและใบหน้าที่ขึ้นสีเรื่อ
สองมือของเธอยังยื่นห่อคุกกี้ค้างอยู่แบบนั้นเพื่อรอให้เขารับเอาไป และในที่สุดเวคาก็ตัดสินใจรับมันมาจากเธอ
“ไอ้แฟรงค์! ไอ้ตูน! แดกคุกกี้ปะ” เขาตะโกนเรียกเพื่อนที่กำลังหยอกสาว ๆ รุ่นน้องอยู่ไม่ไกลพร้อมกับชูห่อคุกกี้ที่เพิ่งได้รับมาให้ดู
และเพื่อนทั้งสองก็พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง ทั้งยังรีบวิ่งเข้ามาหาคว้าเอาห่อขนมไปถือไว้เสียเอง
“พอดีกูไม่ชอบกินขนม พวกมึงเอาไปแบ่งกันแดกเหอะ จะให้สาว ๆ ที่พวกมึงเล็งอยู่ก็ได้”
การกระทำของเวคาทำให้ตุ๊กตาได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ทั้งที่เธอตั้งใจเอามาให้เขาแค่คนเดียว แต่อีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกดีใจหรือไม่แม้แต่จะคิดรักษาน้ำใจเธอเลยแม้แต่น้อย
ตุ๊กตาเลือกที่จะเดินเลี่ยงไปจากตรงนี้อย่างเงียบ ๆ เธอแอบรักพี่รหัสตั้งแต่เข้าเรียนที่นี่ สืบประวัติมาบ้างแล้ว และก็รู้ว่าเวคานั้นได้เลิกรากับแฟนไปเมื่อไม่นานนี้เอง ถึงแม้จะเสียหน้า แต่ว่าคนอย่างเธอก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก
จนกิจกรรมทุกอย่างจบลง คนตัวสูงลุกจากม้านั่งจะเดินกลับไปยังรถของตัวเอง แต่ว่าน้องรหัสคนเดิมก็มาขวางทางเอาไว้เสียก่อน
“เรามีอะไรกับพี่อีกหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าทำท่าเหมือนมีเรื่องจะคุยด้วย
“พี่เวคะ!”
ตุ๊กตาเรียกชื่อเขาเสียงดังจนเวคาเองยังสะดุ้ง ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสีหน้าจริงจัง
“ครับ ตกลงเรามีอะไรกับพี่หรือเปล่า”
“คือตุ๊กตาชอบพี่ค่ะ ชอบมาตั้งแต่แรกเห็นเลย พี่เวช่วยรับตุ๊กตาเป็นแฟนหน่อยได้ไหมคะ”
คำพูดของหญิงสาวตรงหน้าไม่ใช่แค่เขาที่อึ้ง นักศึกษาทั้งรุ่นเดียวกัน รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่อยู่บริเวณนี้ต่างก็ยกมือขึ้นป้องปากอึ้งไปตาม ๆ กัน ด้วยเพราะทราบกันดีว่า เวคาแห่งวิศวะไม่เคยชอบผู้หญิงคนอื่นนอกจากเชอร์รีลจากคณะนิเทศศาสตร์
“แต่พี่ไม่ได้ชอบน้อง คงเป็นแฟนไม่ได้หรอก”
เขาปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาโดยที่ไม่ได้คิดจะรักษาน้ำใจแต่อย่างใด
“แต่พี่ไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอคะ ตุ๊กตาชอบพี่มากนะคะ ชอบมากจริง ๆ เป็นแฟนตุ๊กตานะคะพี่เว”
จากที่ทุกคนกำลังอึ้ง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นจับกลุ่มซุบซิบกันเสียแล้ว เพราะจู่ ๆ ตุ๊กตาก็โผเข้ากอดเวคาเอาไว้แล้วก็สารภาพรักอยู่แบบนั้นซ้ำ ๆ
“ปล่อย” เสียงเข้ม ๆ เอ่ยบอกอย่างไม่มีหางเสียงเหมือนกับในตอนแรกที่คุยกัน ทั้งยังใช้มือตัวเองแกะแขนของคนที่กอดเอวอยู่ออกอย่างแรง
“ทำไม...”
“ฉันมีเมียแล้ว และไม่ชอบให้ใครมาทำอะไรแบบนี้” สรรพนามที่ใช้แทนตัวเองก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เขาไม่ได้เสียหายอะไรก็จริง แต่ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวลือจนไปเข้าหูของหญิงสาวที่อยู่ในปกครองของตัวเอง
“แต่ว่า...พี่เว”
“หูหนวก?” คราวนี้สีหน้าของเวคาแสดงออกชัดว่ากำลังไม่พอใจ และหากเธอยังดื้อดึงจะพูดเรื่องนี้ต่อ เขาเองก็ไม่รับประกันว่าจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้ตวาดด่าผู้หญิงคนนี้ได้
“ตุ๊กตา พี่ว่ากลับไปก่อนดีกว่านะ”
ตูนที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้ามาดึงตัวน้องรหัสของเพื่อนออกไปก่อนที่จะถูกอาละวาด
“ใช่ ๆ กลับไปก่อนดีกว่า” แฟรงค์เองก็รีบสนับสนุนความคิดนี้ด้วยอีกแรง หากช้ากว่านี้อีกสักวินาที มีหวังเพื่อนของพวกเขาคงได้จับน้องรหัสหักคอแน่ ๆ
เธอยังทำท่าดื้อดึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่พอเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายแล้วก็จำใจก็เดินกลับไปแต่โดยดี อีกอย่าง สายตาของเหล่าบรรดานักศึกษาที่อยู่บริเวณนี้ก็จ้องมาทางเธอเป็นตาเดียว ต่อให้มั่นอกมั่นใจแค่ไหน ความรู้สึกในตอนนี้ก็คงมีแต่คำว่า ‘อาย’
พอน้องรหัสของเพื่อนซี้เดินออกไปแล้ว ทั้งแฟรงค์และตูนต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างคนโล่งอก
“ไอ้เหี้ยเว มึงจะโหดไปไหนวะ น้องก็ตัวแค่นั้น”
เป็นแฟรงค์ที่หันกลับมาถาม
“เออ...มึงพูดดี ๆ ไม่เป็นหรือไง”
เวคาได้แต่ส่ายหน้าพร้อมส่งสายตาดุ ๆ ให้กับเพื่อนตัวเอง “แล้วทำไมกูต้องพูดดี ๆ”
“ก็น้องเป็นผู้หญิง แถมยังเป็นน้องรหัสมึงอีกนะเว้ย”
“น้องรหัสแต่ไม่ใช่เมียกู พวกมึงได้ยินชัดหรือยัง”
เขาตอบเพื่อนเพียงแค่นั้นก็เดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกลมากนัก
เวคาเป็นคนเด็ดขาด นอกจากคนในครอบครัวแล้วละก็ ก็คงมีแค่เชอร์รีลที่เขาจะยอมอ่อนข้อให้ ถึงแม้ช่วงนี้จะดูใจร้ายกับเธอไปหน่อยก็ตามที
เข้ามานั่งในรถ ก็รีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาอีกครั้งเพื่อเปิดอ่านข้อความ เพราะตอนที่กำลังยืนพูดอยู่กับตุ๊กตาเหมือนกับว่าเชอร์รีลจะส่งข้อความมาหา
เชอร์รีล : เชอร์มากินขนมจริง ๆ นะ คืนนี้เชอร์นอนคอนโดนะเว
เป็นข้อความสั้น ๆ ที่มาพร้อมกับรูปของเธอถ่ายคู่กับขนมเค้กรสโปรด
ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มให้กับโทรศัพท์ ปลายนิ้วไล้สัมผัสใบหน้าสวย ๆ ผ่านจอมือถือแผ่วเบา
“ถ้าไม่มีเชอร์ เวตายได้เลยนะรู้หรือเปล่า”
มันไม่เกินจริงหรอก หากไม่มีเธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ไปได้ยังไง ถึงภายนอกจะดูเป็นผู้ชายโหดร้าย ดิบเถื่อน แต่เชอร์รีลก็เป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวของเขา ไม่เคยมีแม้แต่เสี้ยวความคิดที่อยากจะเลิกกับเธอแล้วไปคบกับคนอื่น
แต่ในขณะที่เขากำลังอมยิ้มอยู่กับรูปที่เธอส่งมาให้ ก็มีข้อความจากลูกน้องคนสนิทเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ เวคารีบกดเข้าไปอ่านเมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องของนายชลิต
‘นายชลิตกำลังร่วมมือกับกรวิท พยายามที่จะทำให้สองบริษัทรวบเข้าด้วยกัน เพื่อหาทางให้หลุดจากการควบคุมของ PN กรุ๊ป’
ดูเหมือนพ่อของเธอจะทำเรื่องให้มันแย่ลงอีกแล้วสินะ
///////////////////////////////////////////////////////