บทที่ 8 เอาอกเอาใจ

2389 Words
เจนจิรามาถึงบ้านพร้อมน้ำตา...ถ้อยคำวาจาที่เขาเปล่งออกมาไม่มีสักคำที่เห็นใจเธอเลย มันเต็มไปด้วยน้ำเสียงแสดงออกว่ารังเกียจเธออย่างกับอะไรดี “ฮึก ฮือ~” เสียใจที่พยายาม แต่กลับไร้ความหมาย เขาทำอย่างกับว่าที่ผ่านมานั้น ไม่เคยมีเยื่อใยต่อกัน ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็ก ๆ เขาดูแลเธออย่างดี เด็กชายวัยสิบสี่ปีนั้นไม่เด็กมากจนไม่รู้เรื่องรู้ราว เป็นเธอต่างหากที่เด็กมาก แต่กลับไม่เคยลืม ...เขามักเข้ามาช่วยทุกครั้งที่ถูกรังแก แบ่งปันขนมให้ราวกับว่าสนใจเธอ เขาทำให้เด็กน้อยในวันนั้นไม่เคยลืม เขาเป็นคนเริ่มก่อนเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่เขาทำมันทำให้เธอฝังใจมีแค่เขา ทว่าเขากลับมีคนอื่นเสียอย่างนั้น “เกิดไรขึ้น!” หญิงสาวนั่งร้องไห้เงียบ ๆ บนโซฟาภายในห้องรับแขก ก่อนที่คนเป็นพ่อจะมาเห็น พร้อมกับส่งเสียงเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจที่เห็นลูกสาวร้องไห้ “ฮึก ฮือ~” เธอไม่ตอบ เลือกที่จะลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินหนี ตอนนี้ไม่อยากพูดอะไรกับใครทั้งนั้น “เจนนี่ หนูเป็นอะไรไม่บอกพ่อล่ะลูก” แก้วตาดวงใจร้องไห้ โชคอานันต์ก็อยากจะร้องไห้ตามไปด้วย “ไม่ต้องมายุ่งค่ะ อึก หนูไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น” เผลอทำตัวไม่น่ารักใส่ผู้เป็นพ่อไม่รู้ตัวด้วยอารมณ์หงุดหงิด ซึ่งคำพูดของคนเป็นลูกก็ทำเอาจุกอกไม่น้อย โชคอานันต์ยื่นมือไปข้างหน้า แต่ก็คว้าได้แค่อากาศ ทำไมหนอ ทำไมถึงไปรักคนที่ไม่รักลูกแบบนั้น “เกิดอะไรขึ้นคะคุณ...” จารวีเดินออกจากห้องครัว เห็นคนเป็นสามียืนเหม่ออยู่ก็เกิดสงสัยขึ้นมา “ก็เมื่อกี้น่ะสิ เจนนี่น่ะ...กลับมาแล้วร้องไห้หนักเลย” ได้ยินอย่างนั้นภรรยาคู่ชีวิตก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ “เมื่อไหร่ลูกจะรู้ว่าพ่อกับแม่ทุกข์ใจแค่ไหน” “_” “เจนนี่แทบไม่สนใจเราเลย เอาแต่สนใจรณพีร์ ผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัว” จารวีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อน ๆ ทั้งคู่ไม่ติดหรอกหากว่าลูกจะรักใคร ชอบพอกับใคร แต่อีกฝ่ายนั้นต้องรักลูกของเขาด้วย แต่นี่...รณพีร์แทบไม่เคยสนใจไยดียัยหนู แล้วอย่างนี้คนเป็นพ่อเป็นแม่จะปล่อยไปได้อย่างไร “เอาเถอะ ความสุขลูก” “ความสุขลูก ความทุกข์พ่อกับแม่ หวังว่าลูกเราจะคิดได้สักวันนะคะคุณ” ร่างบางขยับเข้าสวมกอดคนเป็นสามี ​อยากให้เจนนี่กลับมาสนใจชีวิตตัวเอง ตั้งใจฝึกงานที่บริษัทเพื่อขึ้นเป็นกรรมการบริหารแทนผู้เป็นพ่อ ทว่าเธอกลับเอาเวลาทั้งหมดคอยตามผู้ชายที่ไม่แม้นแต่จะชายตามองความดีของคนเป็นลูก ขณะเดียวกันไม่ไกลจากคนทั้งคู่ กรกรรณ์ยืนมองสองผัวเมียกอดกันกลม เขาได้ยินบทสนทนาของทั้งสอง ยิ่งได้ยินก็ยิ่งหงุดหงิด แทนที่สองคนนี้จะบังคับเจนนี่ให้แต่งงานกับลูกชายของเขาให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่กลับเอาแต่ให้ท้ายอีกฝ่าย จนตอนนี้มันไม่ง่ายอย่างที่ต้องการแล้ว กรกรรณ์คิดหาแผนสองไม่หยุด เขาไม่ยอมให้ลูกชายพลาดโอกาสนี้โดยเด็ดขาด ทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลนี้ต้องตกเป็นของเขาให้ได้... ลลิตาอายุไล่เลี่ยกับเขา เธอเป็นศัลยแพทย์ชื่อดังที่เป็นที่รู้จัก ชาติตระกูลก็ดี หน้าตาสะสวยแม้นจะออกไปทางหมวย ๆ หน่อย แต่พอดูโดยรวมก็ตรงสเป็กเขาไม่น้อย หุ่นของเธอก็ดีเลิศไม่น้อยหน้า ถึงจะไม่อึ๋มเท่าเจนจิรา ภายนอกเจนจิราชนะเลิศทุกข้อ แต่เนื้อในรณพีร์เชื่อว่าหมอลลิตาดีกว่า “ฮึก ฉันตกใจมากเลยค่ะ อยู่ ๆ เธอก็บุกมาถึงที่นี่แถมยังต่อว่าฉันต่าง ๆ นานา” ลลิตาฉวยโอกาสนี้ร้องไห้ให้เขาเห็นใจ แน่นอนว่าคนที่ไม่ชอบเจนจิราอยู่แล้วเป็นทุนเดิมนั้นก็ยิ่งเห็นใจเธอมากขึ้น “ผมโทรไปต่อว่าเธอแล้วละครับ ดีใจที่คุณบอกผมนะ” คนอื่นที่ผ่านมาหายหัวไปเลย ทำเอาเขาไม่มั่นใจในตัวเอง แต่พอรู้ว่าคนที่กำจัดผู้หญิงไปนั้นคือเจนจิรา เขาก็ยิ่งเกลียดหล่อนมากขึ้น “เธอขู่ว่าจะทำให้คลินิกของฉันโดนปิด ฮึก แต่ฉันก็ไม่อยากเสียโอกาสที่จะได้รู้จักคุณมากขึ้น” มุมปากหนากระตุกยิ้มบาง ๆ เขารู้สึกชื่นใจที่ได้ยินเช่นนี้ “ครับ ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ทำให้คลินิกของคุณถูกปิด” ลลิตาได้ยินอย่างนี้ก็ฉีกยิ้มออกมา ไม่แปลกเลยที่สาว ๆ หลายคนตกหลุมรักเขา ไม่เว้นแต่เจนจิราที่คลั่งเขาจนเป็นบ้า ผู้ชายตรงหน้านั้นนอกจากหล่อรวยแล้ว เขายังอบอุ่นมากอีกด้วย “ขอบคุณนะคะ” “ครับ เอ่อ...ว่างหรือเปล่าครับ ไปกินข้าวกันไหมครับ” ไหน ๆ ก็ออกมาแล้ว รณพีร์เอ่ยปากชวนลลิตาไปกินข้าวเพื่อชดเชยเรื่องวันนี้ “ว่างสิคะ” เธอรีบตอบรับ “โอเคครับ ไปกินข้าวกัน” รณพีร์ลุกขึ้นยืน ผายมือให้เธอเดินก่อน ก่อนที่เขาจะยื่นแขนไปโอบเอวของเธออย่างคนถือวิสาสะ ทว่าลลิตากลับชอบใจเสียอย่างนั้น แน่นอนว่าทันทีที่ทั้งสองออกไปด้วยกัน สายลับที่คอยตามรณพีร์เป็นเงาก็รีบรายงานข่าวให้กับเจนจิราทันที “คุณหนูครับ คุณพีร์ออกไปกับหมอลลิตาแล้วครับ” [ตามไป อย่าให้คลาดสายตา] น้ำเสียงของคุณหนูเจนนี่นั้นแหบแห้ง ราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก “ครับผม” ชายหนุ่มร่างใหญ่ตอบรับ ไม่มีงานไหนง่ายเท่างานนี้แล้ว การตามรณพีร์อย่างไรไม่ให้จับได้นั้นง่ายแสนง่าย เขาตามตั้งแต่หมอนี่อายุยี่สิบ จนตอนนี้อายุสามสิบแล้ว คุณหนูเจนนี่ก็ยังไม่หยุดรักเลย... ด้านเจนจิรา เธอกัดฟันกรอดอย่างคนเคียดแค้น สงสัยว่านางนั่นอยากโดนเล่นงานของจริงแบบไม่ใช่แค่การขู่ เธอเปิดอินเทอร์เน็ตค้นข้อมูลของคลินิกศัลยกรรม เพื่อจะได้เอาไปบอกให้คนเป็นพ่อจัดการให้ ทว่าไม่ทันที่จะเดินออกจากห้อง ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเสียก่อน เจนจิราเดินไปเปิดประตูโดยไม่ได้คิดอะไร เธอคิดว่าเป็นป้าน้อยที่เดินมาหา แต่กลับเป็นแขกไม่ได้รับเชิญที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด “พี่ก้อง...” เจ้าของชื่อฉีกยิ้ม เขาได้รับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อให้มาเอาใจเจนนี่ หลังเห็นว่าเธอร้องไห้มาจากรณพีร์ “ดีขึ้นหรือยังเจนนี่ พี่เป็นห่วงเธอนะ” ชายหนุ่มฉีกยิ้ม ก่อนจะถือวิสาสะยกมือขึ้นวางบนศีรษะของเธอหวังจะลูบหัวเสียหน่อย ทว่าสาวเจ้ากลับยกมือขึ้นปัดอย่างแรง “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!” แว้ดออกมาเสียงดัง สำหรับคนอื่นเธอไม่รู้ แต่สำหรับเธอนั้นก็พอดูออกว่าก้องเกียรติไม่ได้เข้าหาเธอเพื่อมาปลอบใจในฐานะพี่ชาย “โธ่เจนนี่ พี่ก็แค่เป็นห่วง” เอ่ยเสียงอ่อน พยายามระงับอารมณ์เดือดดาลภายในที่กำลังลุกโชนจากสายตาเหยียดหยามของคนตรงหน้า “ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกค่ะ เป็นห่วงตัวเองเถอะ ถ้าเกิดฉันได้แต่งงานกับพี่พีร์ พี่ก็หมดประโยชน์” เปลือกตาหนากระตุกทันที ก้องเกียรติข่มอารมณ์หงุดหงิดไว้ภายในอก “หึ พี่ทำงานให้กับบริษัทของหนู ไม่ต้องห่วงหรอกนะถ้าเธอได้แต่งงานกับรณพีร์ ยังไงพี่ก็คงทำงานต่อไป” พูดเอาดีไปงั้น อย่างไรเขาก็ไม่ให้เธอได้มีโอกาสแต่งงานกับรณพีร์หรอก “หึ เอาเถอะ อยากทำไรก็ทำ...แต่ว่าตอนนี้หลีกทางให้ฉันด้วย” น้ำเสียงห้วน ๆ ไร้หางเสียงนี้ทำเอาชายหนุ่มไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เขายอมถอยหลังหลีกทางตามที่เธอขอ ด้วยความที่เกรงว่าสาวเจ้าจะส่งเสียงดังจนทำให้พ่อของเธอมาเห็น “ทีหลังก็อย่ามาหาฉันดึก ๆ แบบนี้อีก” เจนจิรารู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อครู่สายตาของก้องเกียรติก็หลุดโฟกัสมองมาที่หน้าอกของเธอหลายครั้ง แม้นจะเป็นคนชอบแต่งตัวโป๊ แต่ก็ไม่อยากให้ใครมามอง ยกเว้นคนที่เธออยากให้มองเท่านั้น เจนจิราเดินมาหาผู้เป็นพ่อที่ห้องนอน เวลาใกล้เข้านอนนี้ทั้งพ่อและแม่รู้สึกตกใจไม่น้อย ที่ลูกสาวยังคงหมกมุ่นแต่กับเรื่องของรณพีร์ “คุณพ่อ ช่วยจัดการให้หนูด้วยนะคะ ผู้หญิงคนนี้กำลังแย่งพี่พีร์ไปจากหนู” ว่าเสียงออดอ้อน ทำหน้าตาเว้าวอนให้คนเป็นพ่อตามใจ แน่นอนว่ามันก็ได้ผลเสมอ “โอเค เดี๋ยวพ่อจัดการให้” “เย่ คุณพ่อน่ารักที่สุดเลย” เธอเขย่งปลายเท้าหอมแก้มคนเป็นพ่อเบา ๆ เห็นอย่างนั้นมารดาก็รู้สึกไม่สบายใจเท่าไรนัก “จะดีเหรอลูก ดูแล้วผู้หญิงคนนี้คงไม่มีพิษมีภัยอะไร กว่าจะเปิดคลินิกได้ไม่ง่ายเลยนะ ถ้าเราทำอย่างนี้เหมือนกับกำลังทำลายชีวิตคนคนหนึ่งเลยนะลูก” มารดาไม่เห็นด้วยเท่าไรนัก “หนูเตือนไปแล้วว่าอย่ายุ่งกับพี่พีร์ แต่นังนี่ก็ยุ่งไม่หยุด” น้ำเสียงไม่พอใจของลูกสาวทำให้โชคอานันต์รีบโอบไหล่ของคนเป็นลูกเบา ๆ “เถอะน่าคุณ...ลูกบอกว่าลูกเตือนแล้ว แบบนี้มันหยามกันชัด ๆ ใช่ไหมลูก” จารวีตกใจ ไม่คิดว่าคนเป็นสามีจะเข้าข้างลูกสาวหนักจนไม่รู้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด “หนูรักพ่อที่สุด” เจนจิราโผเข้ากอดผู้เป็นพ่อ ส่วนมารดานั้นก็ได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ คิดแค่ว่าลูกยังไม่โตทั้ง ๆ ที่อายุยี่สิบสามแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตอนต้นแล้วแท้ ๆ แต่กลับเอาเวลาไปสนใจแต่กับผู้ชาย “อ้อ หนูมีอะไรจะขอพ่ออีกหนึ่งเรื่องค่ะ” “เรื่องไรล่ะลูก” “หนูไม่ชอบให้พี่ก้องมาหาเวลาดึก ๆ ค่ะ เมื่อกี้ก็เพิ่งมาหา แบบ...หนูรู้สึกไม่ปลอดภัย” ว่าด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยจริง ๆ “แต่พี่เขาอาจจะมาหาด้วยความเป็นห่วงนะลูก” “ไม่ค่ะ หนูรู้สึก...ไม่สิ ไม่ชอบค่ะ” ยืนกรานว่าไม่ชอบ “คุณพ่อไปจัดการให้ด้วยนะคะ” “โอเค ๆ แต่ถ้าเป็นตอนเช้าก็ให้พี่เขาคุยด้วยหน่อยนะ” “นี่คุณพ่อยังอยากให้หนูแต่งงานกับพี่ก้องอีกเหรอคะ” ขึ้นเสียงเล็กน้อยอย่างคนไม่พอใจ “โอเค ๆ พ่อไม่บังคับหนูนะ พ่อบอกแล้วไงว่ายังไงก็จะไม่บังคับหนู แต่ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งลูกตัดใจจากรณพีร์ได้ พ่อก็อยากให้หนูลองเปิดใจให้กับพี่ก้องเขาดูนะ” โชคอานันต์พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เพราะรู้ว่าลูกสาวคงไม่ยอมง่าย ๆ ซึ่งรอบนี้เจนจิราแค่เงียบฟัง เธอยังคิดภาพไม่ออกว่าตนจะเลิกรักเขาไปได้อย่างไร เพราะนี่ก็ผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปีแต่เธอก็ยังรักเขาแต่เพียงผู้เดียว “หนูไปนอนก่อนนะคะ วันนี้เหนื่อยมากเลย” หนึ่งวันพันเหตุการณ์จริง ๆ มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในวันเดียวราวกับนัดกันมา เจนจิราบอกฝันดีพ่อแม่ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป คล้อยแผ่นหลังของเธอ...สองสามีภรรยาก็หันมามองหน้ากัน กังวลในอนาคตหากว่าทั้งคู่ไม่อยู่แล้ว ใครจะดูแลลูกสาวคนนี้ได้ “เดี๋ยวผมไปบอกพี่กรก่อนก็แล้วกัน” อะไรที่ลูกสาวกังวล คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็กังวลตามไปด้วย “โอเคค่ะ ถึงฉันจะเชียร์ให้ก้องแต่งงานกับลูกของเรา แต่ก็ไม่อยากให้ไปหาลูกดึก ๆ แบบนี้” โชคอานันต์พยักหน้า ก่อนที่เขาจะเดินไปหาพี่ชายคนละสายเลือดของภรรยาสาว เคาะประตูไม่นานบานประตูก็ถูกเปิดออกจากเจ้าของห้อง “อ้าว ผมก็นึกว่าแม่บ้านซะอีก” กรกรรณ์แปลกใจมากเลยทีเดียว ปกติแล้วน้องเขยคนนี้ไม่เคยมาหาเขาดึกดื่น “เข้ามาข้างในก่อนสิ” “ไม่เป็นไร แค่จะมาพูดนิดหน่อยน่ะ” “หืม...” “คือว่าผมฝากไปบอกก้องหน่อยว่าอย่าไปหาน้องที่ห้องตอนค่ำ” กรกรรณ์ได้ยินแล้วก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทว่าก็ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกนี้ไว้ภายในอก “ทำไมล่ะครับ ผมว่าดีซะอีก เด็กทั้งสองจะได้สนิทกันมากขึ้น” “พอดีเจนนี่ไม่พอใจน่ะ ช่วยไปเตือนหน่อยก็แล้วกัน” กรกรรณ์สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะทำใจพยักหน้ารับ “ได้ครับ เดี๋ยวผมไปบอกให้” “โอเค ค่อยสบายใจหน่อย ผมขอไปนอนก่อน” โชคอานันต์เอ่ยแล้วก็หมุนตัวเดินจากไป ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตอนนี้กรกรรณ์โมโหมากเพียงใด “โธ่เว้ย!!” เขาสบถออกมาอย่างคนหัวเสีย อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ปากบอกว่าอยากให้เจนนี่แต่งงานกับลูกชายของเขา แต่กลับไม่ให้เข้าใกล้ “มันจะเอาไงของมันวะ” กรกรรณ์เดินวนภายในห้องของตัวเอง อยากจะฆ่าทิ้งยกครัวให้รู้แล้วรู้รอดไป ถ้าเกิดว่าลูกชายไม่ได้แต่งงานกับเจนจิรา เขาก็คงหมดหนทางหากว่าไม่กำจัดคนพวกนี้ให้สิ้นซาก...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD