อาคารตรงหน้าเป็นอาคารเชิงพาณิชย์สูงสามชั้น ด้านหน้าเขียนป้ายประกาศว่าเป็นคลินิกศัลยกรรม เจนจิราหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นหลังจากบอดีการ์ดเปิดประตูให้
“สวัสดีค่ะ คุณลูกค้า คุณลูกค้าได้จองคิวไว้ไหมคะ” พอเข้ามาก็มีพนักงานเดินมาต้อนรับ เจนจิราขมวดคิ้ว เธอรู้สึกร้อนที่ใบหน้า ไม่พอใจสักเท่าไร
“นี่! ดูหน้าฉันด้วยย่ะ หน้าอย่างฉันเนี่ยนะจะมาทำศัลยกรรม” เอ่ยพูดพร้อมกับทำหน้าตาอย่างคนไม่อยากจะเชื่อ
“เอ่อ ขอโทษค่ะ พอดีว่าที่นี่เป็นคลินิกศัลยกรรม”
“รู้ ไม่ต้องมาบอก” เอ่ยด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น “ฉันมาหาหมอที่ทำงานที่นี่”
“เอ่อ หมอที่นี่มีหลายคนค่ะ”
“หมอ หมอหน้าด้านที่แย่งแฟนฉัน” เจนจิราตอบด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนภายในคลินิกถึงกับตกใจ
“เอ่อ คงมีอะไรเข้าใจผิดแล้วละค่ะ”
“ไม่มี หมอคนที่มีคลิปนัวกับพี่พีร์เมื่อคืน ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้ดีว่าฉันหมายถึงใคร” ด้วยความที่รณพีร์เป็นลูกชายดาราดัง ไม่แปลกที่เขาจะเป็นคนที่มีคนรู้จักเยอะมาก
“อ้อ หมายถึงหมอลลิตาเหรอคะ”
“ถ้าใช่คนที่อยู่ในคลิปกับพี่พีร์ ก็คงงั้น” เจนจิรายกแขนขึ้นมากอดอก ท่าทีหยิ่งผยองของหล่อนทำให้พนักงานต้อนรับนั้นหมั่นไส้มาก แต่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ไว้
“โอเคค่ะ เดี๋ยวเราโทรเรียกให้นะคะ”
“รีบด้วยล่ะ” พนักงานสาวกลืนน้ำลายลงคอ ปากบอกอยากรักษาภาพลักษณ์ แต่อีกใจหนึ่งก็หวั่นใจมากไม่น้อย ตอนแรกใบหน้าของแขกผู้มาใหม่นี้ไม่ค่อยชัด แต่ตอนนี้เริ่มนึกขึ้นได้แล้วว่าเธอคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีอิทธิพลมากแค่ไหน
...เจนจิรายืนกอดอกรอ เธอเลื่อนสายตามองคลินิกนี้ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ในอก ผู้หญิงที่อยู่กับเขาเมื่อคืนนั้นเป็นคนมีการศึกษา หน้าตาดี โพรไฟล์ก็คงไม่ธรรมดา พอคิดแบบนี้แล้วก็เกิดน้อยใจขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
“มีอะไรจ๊ะ” รอไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เจนจิราหันไปตามเสียงนี้
“เอ่อ พอดีว่าเธอคนนี้มาหาค่ะ” ทั้งสองสบสายตากัน เจนจิราเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย หน้าตาก็สวย แต่ถึงอย่างนั้นก็สวยน้อยกว่าเธอ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลลิตาพอรู้ว่าเธอคนนี้เป็นใคร เจนจิราสาวไฮโซ ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลกีรติศรีสกุล
“เธอรู้ดีว่าฉันมาที่นี่ทำไม” ว่าแล้วก็ก้าวขาเข้าหามากขึ้น เธออายุน้อยกว่าแต่กลับทำตัวกร่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น หากว่าโลกนี้เงินยังสามารถซื้อได้ทุกอย่าง ก็อย่าหวังว่าจะได้รับการเคารพจากคนอย่างเจนจิรา
“มาทำหน้าเหรอคะ” ลลิตาว่าอย่างยียวน หล่อนรู้ว่าเจนจิราต้องการอะไร เพราะรู้เลยตั้งใจที่จะกวนประสาท ทว่า
“ดูหน้าด้วยค่ะ ถ้าหน้าอย่างฉันต้องทำศัลยกรรม หน้าอย่างเธอก็คงต้องทุบทิ้งไปเลย” เจนจิรากลับสวนกลับได้อย่างเจ็บแสบ จนอีกฝ่ายได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ อย่างคนพูดไม่ออก
“เธอ...ยัยเด็กเมื่อวานซืน”
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว และนี่ก็ไม่ได้อยากพูดมากอะไร เลิกยุ่งกับพี่พีร์ ไม่งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” เจนจิรากดเสียงต่ำขู่อีกฝ่ายฟ่อ ๆ ทว่าลลิตากลับส่งรอยยิ้มกลับมา
“พอเธอทำอย่างนี้ ฉันก็อยากที่จะทำความรู้จักเขามากขึ้นเลยแหละ” คำพูดของหล่อนทำให้เจนจิรากำมือเข้าหากันแน่น
“อย่าแม้แต่จะคิด” ทว่า
“โอ๊ะ...ไม่ใช่แค่คิดแล้วน่ะสิ” คำพูดต่อมาของลลิตานั้นก็ทำให้เจนจิราดวงตาลุกเป็นไฟ เธอกำลังจะสื่ออะไร
“หมายความว่าไง”
“หึ ไหนบอกว่าไม่เด็กแล้วนี่ ก็น่าจะเข้าใจนะว่าเมื่อคืน...”
“หยุด! หยุดพูดพล่อย ๆ เดี๋ยวนี้นะ!!” เจนจิรารับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ รณพีร์จะทำอะไรกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ เขาไม่ใช่แฟนของเธอ แต่ว่าสาวเจ้าก็หวงเขามาก
“หึ เธอเป็นใคร เท่าที่รู้เนี่ย...เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาไม่ใช่เหรอ” คำพูดของลลิตาทำเอาคนได้ยินจุกอก เป็นคำพูดที่จริงเสียยิ่งกว่าจริงเสียอีก
“ไม่ต้องพูด ฉันไม่ได้มาให้เธอพูดอะไรเกี่ยวกับฉัน ฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกกับเธอว่า...ถ้าเธอยังติดต่อกับเขา ฉันจะทำให้คลินิกนี้ถูกปิด” เอ่ยเสียงเข้ม พร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นชี้ประตูคลินิก เพื่อย้ำกับลลิตาว่าเธอทำจริงแน่
“เธอจะทำยังไง ฉันมีลูกค้าประจำของฉัน ที่นี่อยู่ได้ด้วยตัวเองไม่เคยพึ่งพาหน่วยงานไหน ไม่มีหน่วยงานไหนที่เธอจะบีบบังคับได้หรอกนะ” ลลิตาว่าพลางเชิดหน้าขึ้นอย่างคนเหนือกว่า แต่ทว่า
“เหรอ...แต่เท่าที่ฉันรู้เนี่ย ไอ้พวกศัลยกรรมหน้าอะไรเนี่ย มันต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือไม่ใช่เหรอ” เจนจิราว่าพลางยกปลายเล็บของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะปรายสายตามองด้วยใบหน้ายียวน
“เธอจะพูดอะไร”
“ก็แค่จะบอกว่า...จะเกิดอะไรขึ้นนะ ถ้าไม่มีบริษัทไหนขายอุปกรณ์ให้คลินิกนี้อีกแล้ว” เอ่ยพูดเสียงเนิบนาบจงใจกวนประสาทอีกฝ่าย ซึ่งมันก็ได้ผลเมื่อลลิตานิ่งไปเลย “ก็ลองคิดดูก็แล้วกัน...อยากจะปิดคลินิกนี้ หรืออยากจะไปต่อกับพี่พีร์”
“_”
“หึ ไปก่อนนะจ๊ะ ละอย่าลืมคิดล่ะ” ว่าด้วยรอยยิ้มอย่างคนชนะ พูดก็พูดเถอะ มีอะไรที่เธอทำไม่ได้บ้าง ตราบใดที่เงินยังสามารถซื้อได้ทุกอย่าง เจนจิราคนนี้ก็สามารถทำได้ทุกอย่างเช่นกัน ซึ่งพอพูดจบก็เดินออกไปทันที ทิ้งให้ลลิตายืนหัวเสียอยู่กับที่
“กรี๊ดด นังเด็กเมื่อวานซืน” เธอกำมือเข้าหากันแน่น ตราบใดที่เงินยังเป็นพระเจ้าอยู่ เจนจิราก็มีอำนาจทำให้คลินิกของเธอเจ๊งได้ ขืนเป็นอย่างนั้นก็คงหมดหนทางทำมาหากิน ขณะเดียวกันเธอเองก็ยังอยากสานต่อความสัมพันธ์กับรณพีร์อยู่
แน่นอนล่ะ...ก็เขาทั้งหล่อ ทั้งรวย เทพบุตรมาเกิดแบบนั้น แถมเรื่องเมื่อคืนก็ทำให้เธอประทับใจไม่ลืม แค่คิดมุมปากสวยก็ยกยิ้มขึ้นมาแล้ว ทว่าขณะนั้นเอง
ติ้ง!
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น หญิงสาวล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อกาวน์ทันที
[ทำไรอยู่ครับ] เป็นข้อความจากเขาคนที่เธอนึกถึงพอดี หญิงสาวลังเลที่จะตอบ ใจหนึ่งก็กลัวว่าคลินิกจะถูกปิด อีกใจก็กลัวว่านี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเธอที่จะได้สานต่อความสัมพันธ์กับหนุ่มในฝัน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
“เอาไงดี” เธอเดินวนไปมา หวั่นใจ หวาดกลัว และรู้ตัวว่าเจนจิราเอาจริงแน่ เธอเลื่องลือเรื่องนี้ ผู้หญิงคนไหนที่เข้าไปยุ่งกับรณพีร์ ต้องมีเรื่องเกิดขึ้นในชีวิต ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งเสมอ แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องเลวร้าย
ติ้ง!
[ผมรบกวนหรือเปล่าครับ] พอเธอไม่ตอบกลับ รณพีร์ก็ส่งข้อความมาหาอีกครั้ง ความรู้สึกกลัวนั้นทำให้เธอยังคงลังเลที่จะตอบกลับ เพราะคลินิกนี้สำคัญต่อชีวิตของเธอมาก ขณะเดียวกันหากได้คบหากับรณพีร์อย่างจริงจังก็ไม่จำเป็นต้องทำงานเสียด้วยซ้ำ เธอเชื่อว่าเขาจะเลี้ยงดูเธอได้ คิดได้อย่างนั้นปลายนิ้วมือสวยก็ค่อย ๆ พิมพ์ข้อความตอบกลับไปหาเขา
“ขอโทษนะคะ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะค่ะ” โดยไม่ลืมที่จะบอกเรื่องของเจนจิรา
[เกิดเรื่องไรครับ] เขาส่งข้อความกลับมาด้วยความรวดเร็ว ลลิตายิ้มมุมปากอย่างคนนึกสะใจ
“พอดีว่าคุณเจนนี่ เธอมาที่คลินิกของฉันค่ะ”
[เธอทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ] เขาพิมพ์กลับมาไวมาก แทบไม่ต้องรอเสียด้วยซ้ำ
“เปล่าค่ะ เธอแค่มาขู่ไม่ให้ฉันยุ่งกับคุณค่ะ” ได้โอกาสก็รีบฟ้องเลยทันที แม้นจะหวั่นใจที่พูดอย่างนี้ แต่ก็เชื่อว่ารณพีร์จะจัดการให้เธอได้
[ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมไปคุยกับเจนนี่เอง]
ยิ่งได้ยินอย่างนี้ก็ยิ่งรู้สึกดี เธอยิ้มบาง ๆ อย่างคนชนะ หลังจากนี้ก็คงเดินเกมเต็มกำลัง ยิ่งเจนจิราออกตัวแรงแบบนี้ก็ยิ่งอยากเอาชนะ ก็มาดูกันว่าเกมนี้...ใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายต้องพ่ายไป
...ด้านรณพีร์ พอได้อ่านข้อความจากลลิตาก็ทำเอาเขาโมโหสุดขีด กะแล้วเชียวว่าเจนนี่จะต้องไม่หยุดแค่นี้ เธอทำแบบนี้เป็นประจำที่ผ่านมา จนทำให้ไม่มีสาวคนไหนอยากสานสัมพันธ์กับเขาต่อ แต่รอบนี้ตนจะไม่ยอมอีกต่อไป เสียงของพัชรพลที่แนะนำให้เขามีแฟนนั้นยังดังก้องอยู่ในหัว และลลิตาก็เหมาะที่จะได้ตำแหน่งนั้นไป
ตื๊ด ตื๊ด ~
ชายหนุ่มต่อสายหาเจนจิราทันที แม้นว่าเมื่อเช้านี้จะเพิ่งเจอกันไปหยก ๆ แต่สิ่งที่หล่อนทำก็ทำให้เขาทนอยู่เฉยไม่ได้
ซึ่งรอไม่นานเธอก็กดรับสาย
ติ๊ด!
[ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ พี่โทรหาฉัน!] รับสายก็พูดเสียงดังทันที
“เธอรู้ตัวว่าเธอไปทำอะไรมา”
[คะ? พี่กำลังพูดเรื่องอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ]
“เจนนี่! เมื่อไรเธอจะเลิกตอแหลวะ” มันอดไม่ได้จริง ๆ เธอทำให้เขาทนไม่ไหว ถ้าหล่อนอยู่ใกล้เขาจะเขย่าตัวของเธอแรง ๆ
[อย่าบอกนะว่านังนั่นคาบข่าวมาบอกพี่พีร์] ละดูสิ่งที่หล่อนพูดมา จะให้เขาคิดอย่างไร
“ทำไมเธอถึงหน้าด้านหน้าทนอย่างนี้ รอบนี้ฉันจะไม่ทน ยังไงก็จะจีบคุณลิตาให้ได้”
[ไม่นะ พี่เป็นของฉันนะพี่พีร์ พี่จะมั่วแบบนี้ไม่ได้]
“ใครเป็นของเธอ อย่าเพ้อเจ้อ”
“เลิกเพ้อเจ้อแล้วอยู่กับปัจจุบันได้แล้ว”
[ฉันไม่ได้เพ้อเจ้อนะ ฮึก แล้ว ฮือ~ ทำไมใจร้ายกับฉันแบบนี้ พูดมาได้ว่าจะจีบคนอื่น ผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไรนักหนา สวยกว่าฉัน? รวยกว่าฉันหรือไง...อึก] เสียงร้องไห้ของเธอไม่ได้ทำให้เขาเห็นใจเลยสักนิด
“นี่เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ลิตาน่ะ...นิสัยดีกว่าเธอ เจนนี่ เธอช่วยยกกระจกมาส่องดูตัวเองสักทีเถอะ นิสัยเอาแต่ใจของเธอคงแก้ไม่หาย”
[พี่พีร์...] น้ำเสียงของปลายสายอ่อนลง จนคนได้ยินรู้สึกแปลก ๆ ก่อนที่สาวเจ้าจะกดตัดสายไป ราวกับว่ากำลังน้อยอกน้อยใจเขาอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็ช่างปะไร
เขาไม่แยแสเธออยู่แล้ว...