บทที่ 7 เด็กเมื่อวานซืน

1932 Words
อาคารตรงหน้าเป็นอาคารเชิงพาณิชย์สูงสามชั้น ด้านหน้าเขียนป้ายประกาศว่าเป็นคลินิกศัลยกรรม เจนจิราหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นหลังจากบอดีการ์ดเปิดประตูให้ “สวัสดีค่ะ คุณลูกค้า คุณลูกค้าได้จองคิวไว้ไหมคะ” พอเข้ามาก็มีพนักงานเดินมาต้อนรับ เจนจิราขมวดคิ้ว เธอรู้สึกร้อนที่ใบหน้า ไม่พอใจสักเท่าไร “นี่! ดูหน้าฉันด้วยย่ะ หน้าอย่างฉันเนี่ยนะจะมาทำศัลยกรรม” เอ่ยพูดพร้อมกับทำหน้าตาอย่างคนไม่อยากจะเชื่อ “เอ่อ ขอโทษค่ะ พอดีว่าที่นี่เป็นคลินิกศัลยกรรม” “รู้ ไม่ต้องมาบอก” เอ่ยด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น “ฉันมาหาหมอที่ทำงานที่นี่” “เอ่อ หมอที่นี่มีหลายคนค่ะ” “หมอ หมอหน้าด้านที่แย่งแฟนฉัน” เจนจิราตอบด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนภายในคลินิกถึงกับตกใจ “เอ่อ คงมีอะไรเข้าใจผิดแล้วละค่ะ” “ไม่มี หมอคนที่มีคลิปนัวกับพี่พีร์เมื่อคืน ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้ดีว่าฉันหมายถึงใคร” ด้วยความที่รณพีร์เป็นลูกชายดาราดัง ไม่แปลกที่เขาจะเป็นคนที่มีคนรู้จักเยอะมาก “อ้อ หมายถึงหมอลลิตาเหรอคะ” “ถ้าใช่คนที่อยู่ในคลิปกับพี่พีร์ ก็คงงั้น” เจนจิรายกแขนขึ้นมากอดอก ท่าทีหยิ่งผยองของหล่อนทำให้พนักงานต้อนรับนั้นหมั่นไส้มาก แต่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ไว้ “โอเคค่ะ เดี๋ยวเราโทรเรียกให้นะคะ” “รีบด้วยล่ะ” พนักงานสาวกลืนน้ำลายลงคอ ปากบอกอยากรักษาภาพลักษณ์ แต่อีกใจหนึ่งก็หวั่นใจมากไม่น้อย ตอนแรกใบหน้าของแขกผู้มาใหม่นี้ไม่ค่อยชัด แต่ตอนนี้เริ่มนึกขึ้นได้แล้วว่าเธอคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีอิทธิพลมากแค่ไหน ...เจนจิรายืนกอดอกรอ เธอเลื่อนสายตามองคลินิกนี้ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ในอก ผู้หญิงที่อยู่กับเขาเมื่อคืนนั้นเป็นคนมีการศึกษา หน้าตาดี โพรไฟล์ก็คงไม่ธรรมดา พอคิดแบบนี้แล้วก็เกิดน้อยใจขึ้นมาเสียดื้อ ๆ “มีอะไรจ๊ะ” รอไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เจนจิราหันไปตามเสียงนี้ “เอ่อ พอดีว่าเธอคนนี้มาหาค่ะ” ทั้งสองสบสายตากัน เจนจิราเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย หน้าตาก็สวย แต่ถึงอย่างนั้นก็สวยน้อยกว่าเธอ “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลลิตาพอรู้ว่าเธอคนนี้เป็นใคร เจนจิราสาวไฮโซ ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลกีรติศรีสกุล “เธอรู้ดีว่าฉันมาที่นี่ทำไม” ว่าแล้วก็ก้าวขาเข้าหามากขึ้น เธออายุน้อยกว่าแต่กลับทำตัวกร่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น หากว่าโลกนี้เงินยังสามารถซื้อได้ทุกอย่าง ก็อย่าหวังว่าจะได้รับการเคารพจากคนอย่างเจนจิรา “มาทำหน้าเหรอคะ” ลลิตาว่าอย่างยียวน หล่อนรู้ว่าเจนจิราต้องการอะไร เพราะรู้เลยตั้งใจที่จะกวนประสาท ทว่า “ดูหน้าด้วยค่ะ ถ้าหน้าอย่างฉันต้องทำศัลยกรรม หน้าอย่างเธอก็คงต้องทุบทิ้งไปเลย” เจนจิรากลับสวนกลับได้อย่างเจ็บแสบ จนอีกฝ่ายได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ อย่างคนพูดไม่ออก “เธอ...ยัยเด็กเมื่อวานซืน” “ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว และนี่ก็ไม่ได้อยากพูดมากอะไร เลิกยุ่งกับพี่พีร์ ไม่งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” เจนจิรากดเสียงต่ำขู่อีกฝ่ายฟ่อ ๆ ทว่าลลิตากลับส่งรอยยิ้มกลับมา “พอเธอทำอย่างนี้ ฉันก็อยากที่จะทำความรู้จักเขามากขึ้นเลยแหละ” คำพูดของหล่อนทำให้เจนจิรากำมือเข้าหากันแน่น “อย่าแม้แต่จะคิด” ทว่า “โอ๊ะ...ไม่ใช่แค่คิดแล้วน่ะสิ” คำพูดต่อมาของลลิตานั้นก็ทำให้เจนจิราดวงตาลุกเป็นไฟ เธอกำลังจะสื่ออะไร “หมายความว่าไง” “หึ ไหนบอกว่าไม่เด็กแล้วนี่ ก็น่าจะเข้าใจนะว่าเมื่อคืน...” “หยุด! หยุดพูดพล่อย ๆ เดี๋ยวนี้นะ!!” เจนจิรารับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ รณพีร์จะทำอะไรกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ เขาไม่ใช่แฟนของเธอ แต่ว่าสาวเจ้าก็หวงเขามาก “หึ เธอเป็นใคร เท่าที่รู้เนี่ย...เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาไม่ใช่เหรอ” คำพูดของลลิตาทำเอาคนได้ยินจุกอก เป็นคำพูดที่จริงเสียยิ่งกว่าจริงเสียอีก “ไม่ต้องพูด ฉันไม่ได้มาให้เธอพูดอะไรเกี่ยวกับฉัน ฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกกับเธอว่า...ถ้าเธอยังติดต่อกับเขา ฉันจะทำให้คลินิกนี้ถูกปิด” เอ่ยเสียงเข้ม พร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นชี้ประตูคลินิก เพื่อย้ำกับลลิตาว่าเธอทำจริงแน่ “เธอจะทำยังไง ฉันมีลูกค้าประจำของฉัน ที่นี่อยู่ได้ด้วยตัวเองไม่เคยพึ่งพาหน่วยงานไหน ไม่มีหน่วยงานไหนที่เธอจะบีบบังคับได้หรอกนะ” ลลิตาว่าพลางเชิดหน้าขึ้นอย่างคนเหนือกว่า แต่ทว่า “เหรอ...แต่เท่าที่ฉันรู้เนี่ย ไอ้พวกศัลยกรรมหน้าอะไรเนี่ย มันต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือไม่ใช่เหรอ” เจนจิราว่าพลางยกปลายเล็บของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะปรายสายตามองด้วยใบหน้ายียวน “เธอจะพูดอะไร” “ก็แค่จะบอกว่า...จะเกิดอะไรขึ้นนะ ถ้าไม่มีบริษัทไหนขายอุปกรณ์ให้คลินิกนี้อีกแล้ว” เอ่ยพูดเสียงเนิบนาบจงใจกวนประสาทอีกฝ่าย ซึ่งมันก็ได้ผลเมื่อลลิตานิ่งไปเลย “ก็ลองคิดดูก็แล้วกัน...อยากจะปิดคลินิกนี้ หรืออยากจะไปต่อกับพี่พีร์” “_” “หึ ไปก่อนนะจ๊ะ ละอย่าลืมคิดล่ะ” ว่าด้วยรอยยิ้มอย่างคนชนะ พูดก็พูดเถอะ มีอะไรที่เธอทำไม่ได้บ้าง ตราบใดที่เงินยังสามารถซื้อได้ทุกอย่าง เจนจิราคนนี้ก็สามารถทำได้ทุกอย่างเช่นกัน ซึ่งพอพูดจบก็เดินออกไปทันที ทิ้งให้ลลิตายืนหัวเสียอยู่กับที่ “กรี๊ดด นังเด็กเมื่อวานซืน” เธอกำมือเข้าหากันแน่น ตราบใดที่เงินยังเป็นพระเจ้าอยู่ เจนจิราก็มีอำนาจทำให้คลินิกของเธอเจ๊งได้ ขืนเป็นอย่างนั้นก็คงหมดหนทางทำมาหากิน ขณะเดียวกันเธอเองก็ยังอยากสานต่อความสัมพันธ์กับรณพีร์อยู่ แน่นอนล่ะ...ก็เขาทั้งหล่อ ทั้งรวย เทพบุตรมาเกิดแบบนั้น แถมเรื่องเมื่อคืนก็ทำให้เธอประทับใจไม่ลืม แค่คิดมุมปากสวยก็ยกยิ้มขึ้นมาแล้ว ทว่าขณะนั้นเอง ติ้ง! เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น หญิงสาวล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อกาวน์ทันที [ทำไรอยู่ครับ] เป็นข้อความจากเขาคนที่เธอนึกถึงพอดี หญิงสาวลังเลที่จะตอบ ใจหนึ่งก็กลัวว่าคลินิกจะถูกปิด อีกใจก็กลัวว่านี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเธอที่จะได้สานต่อความสัมพันธ์กับหนุ่มในฝัน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก “เอาไงดี” เธอเดินวนไปมา หวั่นใจ หวาดกลัว และรู้ตัวว่าเจนจิราเอาจริงแน่ เธอเลื่องลือเรื่องนี้ ผู้หญิงคนไหนที่เข้าไปยุ่งกับรณพีร์ ต้องมีเรื่องเกิดขึ้นในชีวิต ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งเสมอ แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องเลวร้าย ติ้ง! [ผมรบกวนหรือเปล่าครับ] พอเธอไม่ตอบกลับ รณพีร์ก็ส่งข้อความมาหาอีกครั้ง ความรู้สึกกลัวนั้นทำให้เธอยังคงลังเลที่จะตอบกลับ เพราะคลินิกนี้สำคัญต่อชีวิตของเธอมาก ขณะเดียวกันหากได้คบหากับรณพีร์อย่างจริงจังก็ไม่จำเป็นต้องทำงานเสียด้วยซ้ำ เธอเชื่อว่าเขาจะเลี้ยงดูเธอได้ คิดได้อย่างนั้นปลายนิ้วมือสวยก็ค่อย ๆ พิมพ์ข้อความตอบกลับไปหาเขา “ขอโทษนะคะ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะค่ะ” โดยไม่ลืมที่จะบอกเรื่องของเจนจิรา [เกิดเรื่องไรครับ] เขาส่งข้อความกลับมาด้วยความรวดเร็ว ลลิตายิ้มมุมปากอย่างคนนึกสะใจ “พอดีว่าคุณเจนนี่ เธอมาที่คลินิกของฉันค่ะ” [เธอทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ] เขาพิมพ์กลับมาไวมาก แทบไม่ต้องรอเสียด้วยซ้ำ “เปล่าค่ะ เธอแค่มาขู่ไม่ให้ฉันยุ่งกับคุณค่ะ” ได้โอกาสก็รีบฟ้องเลยทันที แม้นจะหวั่นใจที่พูดอย่างนี้ แต่ก็เชื่อว่ารณพีร์จะจัดการให้เธอได้ [ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมไปคุยกับเจนนี่เอง] ยิ่งได้ยินอย่างนี้ก็ยิ่งรู้สึกดี เธอยิ้มบาง ๆ อย่างคนชนะ หลังจากนี้ก็คงเดินเกมเต็มกำลัง ยิ่งเจนจิราออกตัวแรงแบบนี้ก็ยิ่งอยากเอาชนะ ก็มาดูกันว่าเกมนี้...ใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายต้องพ่ายไป ...ด้านรณพีร์ พอได้อ่านข้อความจากลลิตาก็ทำเอาเขาโมโหสุดขีด กะแล้วเชียวว่าเจนนี่จะต้องไม่หยุดแค่นี้ เธอทำแบบนี้เป็นประจำที่ผ่านมา จนทำให้ไม่มีสาวคนไหนอยากสานสัมพันธ์กับเขาต่อ แต่รอบนี้ตนจะไม่ยอมอีกต่อไป เสียงของพัชรพลที่แนะนำให้เขามีแฟนนั้นยังดังก้องอยู่ในหัว และลลิตาก็เหมาะที่จะได้ตำแหน่งนั้นไป ตื๊ด ตื๊ด ~ ชายหนุ่มต่อสายหาเจนจิราทันที แม้นว่าเมื่อเช้านี้จะเพิ่งเจอกันไปหยก ๆ แต่สิ่งที่หล่อนทำก็ทำให้เขาทนอยู่เฉยไม่ได้ ซึ่งรอไม่นานเธอก็กดรับสาย ติ๊ด! [ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ พี่โทรหาฉัน!] รับสายก็พูดเสียงดังทันที “เธอรู้ตัวว่าเธอไปทำอะไรมา” [คะ? พี่กำลังพูดเรื่องอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ] “เจนนี่! เมื่อไรเธอจะเลิกตอแหลวะ” มันอดไม่ได้จริง ๆ เธอทำให้เขาทนไม่ไหว ถ้าหล่อนอยู่ใกล้เขาจะเขย่าตัวของเธอแรง ๆ [อย่าบอกนะว่านังนั่นคาบข่าวมาบอกพี่พีร์] ละดูสิ่งที่หล่อนพูดมา จะให้เขาคิดอย่างไร “ทำไมเธอถึงหน้าด้านหน้าทนอย่างนี้ รอบนี้ฉันจะไม่ทน ยังไงก็จะจีบคุณ​ลิตาให้ได้” [ไม่นะ พี่เป็นของฉันนะพี่พีร์ พี่จะมั่วแบบนี้ไม่ได้] “ใครเป็นของเธอ อย่าเพ้อเจ้อ” “เลิกเพ้อเจ้อแล้วอยู่กับปัจจุบันได้แล้ว” [ฉันไม่ได้เพ้อเจ้อนะ ฮึก แล้ว ฮือ~ ทำไมใจร้ายกับฉันแบบนี้ พูดมาได้ว่าจะจีบคนอื่น ผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไรนักหนา สวยกว่าฉัน? รวยกว่าฉันหรือไง...อึก] เสียงร้องไห้ของเธอไม่ได้ทำให้เขาเห็นใจเลยสักนิด “นี่เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ลิตาน่ะ...นิสัยดีกว่าเธอ เจนนี่ เธอช่วยยกกระจกมาส่องดูตัวเองสักทีเถอะ นิสัยเอาแต่ใจของเธอคงแก้ไม่หาย” [พี่พีร์...] น้ำเสียงของปลายสายอ่อนลง จนคนได้ยินรู้สึกแปลก ๆ ก่อนที่สาวเจ้าจะกดตัดสายไป ราวกับว่ากำลังน้อยอกน้อยใจเขาอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็ช่างปะไร เขาไม่แยแสเธออยู่แล้ว...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD