เรื่องของโจวเจ๋อผู่
เดิมทีจูเข่อเหรินที่คนในจวนสกุลโจวต่างพากันครหาว่าเป็นสตรีไร้ยางอายทำตัวแพศยาเข้ามาแทรกกลางระหว่างโจวเจ๋อผู่กับอดีตฮูหยินเฉินรุ่ยฟางนั้น แท้จริงจูเข่อเหรินพบพานกับโจวเจ๋อผู่และรักกันอย่างยาวนานมาก่อน
เพียงแต่อำนาจและบารมีของสกุลจูมิอาจสู้สกุลเฉิน
เฉินรุ่ยฟางผู้เกิดมีรักปักใจกับโจวเจ๋อผู่อย่างไม่สนใจดินฟ้า เพียรเข้าหาเขาอย่างเช่นสตรีหน้าหนา ถึงขั้นแย่งชิงอย่างไร้ยางอาย
นางทำทุกทางจนได้แต่งงานกับโจวเจ๋อผู่
เมื่อได้เป็นฮูหยินของเขาสมใจ นางกลับไม่หยุดอยู่แค่นี้ นอกจากไม่ยอมรับจูเข่อเหรินเป็นอนุยังพยายามทำร้ายอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยมไร้ไมตรี ด้วยหวังว่าจะหมดสิ้นเสี้ยนหนามตำใจ มิให้รักแรกมีโอกาสสานสัมพันธ์กับสามีตนอีก
บุรุษผู้หนึ่งแม้ไม่รักแต่ก็เลือกใช้วิธีประนีประนอมรอมชอมเพื่อความผาสุก สตรีอีกผู้หนึ่งที่มาก่อนยังถึงขั้นลดทอนศักดิ์ศรียอมเป็นเพียงอนุต่ำต้อยด้อยค่า ทว่าสตรีผู้มาทีกลังกลับไม่เคยยอมหรืออ่อนข้อเลยสักเสี้ยว นางไม่เคยรามือ ยังคงโหดเหี้ยมเลือดเย็น
จูเข่อเหรินจึงจำต้องหลีกเร้นเภทภัยจากเฉินรุ่ยฟางมิว่างเว้น
เฉินรุ่ยฟางลอบส่งคนไปใส่ร้ายป้ายสีจูเข่อเหรินให้เสื่อมเสียชื่อเสียงไปถึงต้นตระกูล
เมื่อบุตรีด่างพร้อยนำพาให้บุตรหลานถูกติฉินนินทาทั้งหมด โอกาสหาคู่ครองดีๆ ของชายหญิงคนอื่นๆ ในสกุลได้รับผลกระทบ นายท่านจูจึงทำโทษจูเข่อเหรินโดยการขับไล่นางให้ไปอยู่ชนบทห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร ระยะทางนับหมื่นลี้ ไม่มีโอกาสได้กลับมาเจอคนในเมืองหลวงอีก
เฉินรุ่ยฟางกระทำอย่างแนบเนียนไร้ร่องรอย และคิดว่าตนทำสำเร็จ เพราะโจวเจ๋อผู่อยู่กับนางตลอดเวลา ไม่เคยออกตามหาจูเข่อเหรินแม้แต่สักวัน กระทั่งข่าวคราวยังไม่อาจล่วงรู้ด้วยซ้ำ กระนั้นสิ่งที่นางไม่รู้คือคนของโจวเจ๋อผู่แอบช่วยจูเข่อเหรินเอาไว้ คนผู้นั้นช่วยนางได้ขณะถูกลอบฆ่ากลางทางรกชัฏเปลี่ยวร้าง และพาจูเข่อเหรินมาซ่อนที่เรือนเร้นแล้วแอบส่งข่าวมาให้เขา
ต่อหน้าเฉินรุ่ยฟาง โจวเจ๋อผู่ไร้พิรุธ แสร้งรักให้นางตายใจ กักเก็บความเกลียดชังไว้มิเคยเผย แต่ลับหลังเขากลับส่งคนไปดูแลจูเข่อเหรินอย่างไม่ย่อท้อ
ช่วงนั้นคู่รักคู่หนึ่งเรียกว่าลำบากยากเข็ญถึงขีดสุด
นับว่าโชคดีที่หลายครั้งเมื่อสบโอกาสออกทำงานตามหน้าที่ยังต่างเมือง เขาได้พาจูเข่อเหรินปลอมตัวไปด้วยกันโดยสะดวก เรียกว่าความรักความสัมพันธ์ไม่เคยห่างหาย ยามต้องเดินทางไกลร่วมทุกข์ร่วมสุขยิ่งรักมั่นแน่นแฟ้น
โจวเจ๋อผู่ทำเช่นนี้มาเนิ่นนาน ยามอยู่กับจูเข่อเหรินเขาคือหนุ่มน้อยแรกรัก อบอุ่นอ่อนหวาน ยิ้มเก่ง เป็นตัวของตัวเอง แต่ยามกลับเข้าบ้านก็เป็นอีกคนที่สุขุมเคร่งขรึมและซื่อสัตย์จริงใจ รักใคร่เพียงฮูหยินของตน
การรับอนุเข้ามาล้วนทำไปด้วยเหตุผลเชื่อมสัมพันธ์ทางการเมืองเสริมอำนาจให้สกุล
ซึ่งแน่นอนว่าล้วนเป็นคนของเฉินรุ่ยฟางเพื่อง่ายต่อการควบคุมหลังเรือน
นางควบคุมอนุอยู่หมัด หากอนุคนใดคลอดบุตรชาย มิทันครบขวบเป็นอันต้องสิ้นชีพทุกรายโดยไร้หลักฐานเอาผิดใคร
และยังควบคุมสามีโดยอนุอย่างมีชั้นเชิงไร้ที่ติ บุรุษผู้หนึ่งจึงถูกควบคุมขนาบข้างซ้ายขวาและด้านหน้าด้านหลังตลอดเวลา
อีกทั้งการแต่งอนุคนแล้วคนเล่ากลับทำให้สตรีอันเป็นที่รักต้องชอกช้ำแสนสาหัสมิเว้นวัน
ครั้งหนึ่งจูเข่อเหรินถึงขั้นหอบลูกในครรภ์หนีโจวเจ๋อผู่ไปเพื่อตัดปัญหา เป็นเขาที่ออกตามหานางแทบพลิกแผ่นดินแคว้นฉิน เบื้องหน้ากระทำการใดล้วนสุขุมด้วยระวังแต่เบื้องหลังคนแทบคลั่ง กว่าจะได้ตัวนางในดวงใจกลับคืนมาไม่ง่ายเลย
เรียกได้ว่าอุปสรรคทางรักระหว่างโจวเจ๋อผู่กับจูเข่อเหรินล้วนเต็มไปด้วยขวากหนามและเข็มร้อนแหลมคมนับหมื่นแสน
ทางฝั่งเฉินรุ่ยฟาง นางเริ่มระแคะระคายถึงความสัมพันธ์ที่ไม่เคยจบสิ้นระหว่างจูเข่อเหรินกับสามีของตัวเองมากขึ้นทุกที
ทว่าจนแล้วจนรอดนางพิสูจน์ไม่ได้ พยานหลักฐานล้วนไม่มี
ไม่มีสิ่งผิดปกติอันใดปรากฏให้เห็นแม้สักนิด หากแต่สัญชาตญาณของอิสตรีทำให้นางปักใจเชื่อในสิ่งที่คิดตลอดเวลา
โจวเจ๋อผู่เองก็เริ่มสังเกตเห็นอาการระแคะระคายนี้
เขาย่อมระมัดระวังมากกว่าเดิม แนบเนียนมากยิ่งขึ้น เพียงแต่ด้วยนิสัยร้ายกาจของเฉินรุ่ยฟาง นางทำให้จวนร้อนเป็นไฟในทุกวัน
ท้ายที่สุด เพลิงผลาญที่รุ่มเร้าในจิตใจย่อมกัดกินร่างกายจนเสียสุขภาพ เฉินรุ่ยฟางล้มป่วยเพราะมารริษยาในใจคอยกัดกิน และค่อยๆ ตายอย่างไร้ทางเยียวยา
นางนอนตายทั้งน้ำตา ดวงหน้าซีดขาวแต่หลากอารมณ์นั้นช่างน่าเวทนา ทว่าปราศจากความเห็นใจจากสามี...
ห้องบรรพชนสกุลโจว ป้ายวิญญาณหนึ่งคล้ายเดียวดายกว่าป้ายวิญญาณอื่น
ร่างสูงสง่าของโจวอวี่ยืนสงบนิ่งมองป้ายนี้เงียบงันเนิ่นนาน เป็นป้ายวิญญาณที่มองแล้วให้รู้สึกถึงความเศร้าและความเหงาที่กัดกินลึกไปถึงกระดูกของคนเป็นลูกเช่นเขาอย่างยิ่ง
ภาพของมารดาผู้งดงามที่มักเอาแต่ใจอยู่เสมอไม่ว่าบิดาจะคอยเอาอกเอาใจเพียงใดยังคงสะท้อนอยู่ในห้วงภวังค์ตั้งแต่ครั้งที่เขายังเป็นเพียงเด็กชายตัวน้อย