บทที่4(50)

1284 Words
จากเมนูก๋วยเตี๋ยวผัดไทที่เป็นเมนูประจำกายเดือนจรัส ด้วยเพราะชอบกินมากจึงชอบทำเลยได้สูตรพิเศษมา อีกเจ็ดวันต่อมาก็มีข้าวผัดห่อใบบัวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง สองแม่ลูกยังคงมาค้าขายด้วยกันทุกวันไม่มีหยุด พออีกหนึ่งเดือนฝนเดือนหกเริ่มตกหนักจนสองแม่ลูกต้องวิ่งหลบฝนกันวุ่นวายอยู่แทบจะทุกวัน แต่โชคดีที่ยังขายของได้ดีและขายหมดทุกวัน วันไหนไม่หมดจริงสองแม่ลูกก็แจกจ่ายกับแม่ค้าที่ขายของร่วมกันอยู่ในตลาด พอหว่าหวาเอาขนมไปให้สุดท้ายแต่ละคนต่างก็แบ่งสิ่งของที่ตนเองได้ขายให้คืนกลับมาบ้าง ครั้นพอกลับมาถึงบ้านทั้งกับข้าวตลอดจนของกินต่าง ๆ ก็มากมายล้นมือไปหมด เผยหว่านอีก็นำไปแบ่งแจกจ่ายเพื่อนบ้านอย่างคนมีน้ำใจ พอเข้าช่วงหน้าฝนผักในสวนก็มากมายกินไม่ทัน เผยหว่านอีนั้นจึงไปขออนุญาตเถ้าแก่เนี้ยร้านสมุนไพรเสวียนว่าจะขอให้เผยหว่าหวานั้นตั้งโต๊ะขายผักสดอีกตัวซึ่ง จากความเป็นคนอัธยาศัยดีของคนแม่แล้วความน่ารักน่าเอ็นดูของคนลูก สองสามีภรรยาจึงอนุญาตแล้วแถมโต๊ะมาวางผักขายอีกด้วย “ผักสด ๆ จากสวนของหว่าหวาเองนะจ๊ะ เชิญมาเลือกซื้อกันหน่อยเร็ว” คนแม่นั้นก็กำลังวุ่นวายกับการหยิบของขาย ฝ่ายคนลูกที่ไปจำมาจากในตลาดในยามเขาขายของกันว่าจะต้องร้องเรียกลูกค้าเช่นไร แม่ค้า ‘ตัวน้อย’ จึงส่งเสียงแจ๋วสดใสร้องเรียกลูกค้าและผู้คนให้มาช่วยซื้อผักสวนของตนเองบ้าง “เชิญจ้า…เชิญมาอุดหนุนมาเลือกมารื้อดูกันก่อน ไม่ซื้อไม่ว่าขอเพียงมาจับดูสักนิดก็ยังดี หัวไชเท้าอวบอ้วน ผักกาดขาวหัวอวบอั๋น ผักขึ้นฉ่ายก็ต้นอ๊วบอวบ แตงกวาก็หวานกรอบ เชิญมาเลือก มาหยิบ มาจับ มาเลือกรื้อ มาชิมกันก่อนจ้า พี่สาวพี่ชายท่านน้าท่านอาทั้งหลายเชิญเจ้าค่ะ” ขนาดเผยหว่านอียังหันไปมองเจ้าตัวกลมแก้มเป็นพวงที่ไม่รู้ว่าไปจดจำวิธีการร้องเรียกลูกค้าเหล่านี้มาจากที่ใด แล้วผู้ใหญ่คนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมาจะไม่แวะมา ‘ชื่นชม’ ผักของแม่ค้าหว่าหวาได้อย่างไร เด็กหญิงชี้ชวนร้องขายผักของตนเองไม่มีเขินอาย มีแต่ความสนุกเท่านั้น ขนาดรถม้าคันโตที่มีบุรุษหนึ่งนั่งอยู่ด้านในยังอดใจจะเปิดผ้าม่านของรถม้าคันหรูออกมาดูเสียมิได้ “ไปจอดเทียบยังร้านเครื่องหอมฟางรุ่ยได้เลย ข้าจะออกไปดูสักหน่อยว่าบิดามารดาประเภทใดกันจึงปล่อยให้ลูกเด็กเล็กแดงมาร้องขายผักในตลาดตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่สว่างเช่นนี้” “ขอรับนายท่านหาน” คนที่ยังอยู่ในรถม้าออกคำสั่ง คนบังคับรถม้าก็พารถม้าคันหรูไปจอดเทียบยังที่ว่างข้างร้านขายเครื่องหอม ‘ฟางรุ่ย’ จากนั้นบุรุษซึ่งกายสูงใหญ่ราวกับนักรบแล้วยังมีใบหน้าคมคร้าม ผิวคมเข้มราวกับตรากตรำแสงแดดมานานก็ก้าวเดินลงมาจากรถม้าคันใหญ่ แต่ยังไม่แวะเข้าไปยังจุดหมายที่ตนเองจะมา หากทว่าเขาหันหน้ามุ่งเดินไปทางด้านที่ตนหมายตาเอาไว้ตั้งแต่แรกพร้อมกับร่มคันใหญ่ “นายท่านหานจะไปที่ใดขอรับ” บุรุษหนุ่มอีกคนที่ไม่ใช่คนบังคับรถม้า เขาเพียงนั่งด้านข้างเท่านั้นเอ่ยถามผู้เป็นนายหนุ่ม เจ้าของสำนักคุ้มภัย ‘ซ่างหาน’ ที่ก่อตั้งมานานกว่าสิบปี ทั้งยังมีสาขาอยู่แทบจะทุกแคว้นของอาณาจักรหนานฉู่เลยก็ว่าได้ ถึงปกติผู้เป็น ‘นายใหญ่’ แทบจะไม่ค่อยเปิดเผยโฉมหน้าดังเช่นวันนี้ที่เขาจะเดินลิ่วไปยังกลุ่มคนมากหน้าหลายตา ‘หานเฟยฉี’ นั้นเขาก็ยังสวมหน้ากากอสูรสีทองแดงชวนสยองขวัญไม่ต่างจากปีศาจร้าย หากแต่หานเฟยฉีกลับไม่ตอบคำถามใดกับคนสนิทนาม ‘ฟ่านเฉิน’ ทำเพียงก้าวเท้าเดินตรงดิ่งไปยังกลุ่มคนที่ยืนรุมล้อมต้นเสียงใสแจ๋วของเด็กหญิงผู้หนึ่งที่ยังตะโกนเรียกลูกค้าเสียงสดใส ผ่านมาหลายปีแล้วสินะที่น้องสาวของเขาตายจากไปเพราะไอ้คนชั่วใจคออำมหิตสังหารเด็กเพียงสี่ขวบกับสตรีครรภ์แก่ได้ลงคอ ขอเพียงมันได้ผลงานก็เพียงพอ ซึ่งหากบัดนี้น้องสาว พี่ชาย รวมถึงพี่สะใภ้และหลานสาวอีกคนในครรภ์ยังอยู่ ป่านนี้ก็เจ้าตัวน้อยในครรภ์พี่สะใภ้ของเขาก็คงจะวัยเดียวกับแม่หนูตัวอวบพวงแก้มกลมที่กำลังร้องเรียกคนมาซื้อสินค้าของตนเองด้วยกิริยาน่ารักน่าเอ็นดูเป็นแน่ “ท่านลุงสนใจผักของหว่าหวาไหมเจ้าคะ” ถึงบุรุษกายสูงใหญ่ราวหมีควายตัวขนาดยักษ์ไม่พอ อีกฝ่ายยังสวมหน้ากากรูปปีศาจร้ายน่าหวั่นใจ แต่เด็กน้อยกลับไม่หวาดกลัวนางยังคงทำหน้าที่ ‘แม่ค้าตัวอวบ’ ร้องเรียกลูกค้าไม่สนใจอันใดทั้งสิ้น เพราะถึงเขาจะมีหน้ากากน่ากลัว แต่อาภรณ์อีกฝ่ายสะอาดสะอ้าน นิ้วแกร่งเรียวยาวอีกทั้งเล็บมือของท่านลุงตรงหน้ายังสะอาดสะอ้าน ดูแล้วคงเป็นคนร่ำรวยผู้หนึ่งอย่างแน่นอน “เหมาหมดนี่เท่าใด?” คนตัวโตไม่พูดมากและไม่เลือก เขามองสายฝนแล้วจึงตั้งใจ ‘เหมาทั้งหมด’ ไม่ว่าจะเป็นแผงขายผักหรือแผงขายอาหารของพี่สาวเด็กน้อย ด้วยเพราะไม่ต้องการให้พวกนางนั้นต้องมายืนขายของตากฝนจนป่วยไข้ไปด้วยกันทั้งคู่ “ท่านแม่จ๋า ท่านลุงต้องการจะเหมาผักของเสี่ยวหวาทั้งหมด ท่านแม่ช่วยเสี่ยวหว่าคิดราคาด้วยเจ้าค่ะ” …ท่านแม่จ๋า? … หานเฟยฉีถึงกับเหลือบสายตาไปมองกายอรชรที่คาดเดาอายุได้ว่าไม่น่าจะเกินสิบแปดปีที่แต่งกายเรียบง่ายแต่ผิวพรรณดีราวกับเป็นคนหนูสกุลใหญ่ ทว่านางกลับแต่งงานมีสามีแล้วไม่พอนางยังมีบุตรสาววัยคงไม่น่าจะเกินสี่ถึงห้าขวบเสียด้วยซ้ำ “นายท่านต้องการจะเหมาไปทั้งหมดเลยหรือเจ้าคะ?” เผยหว่านอีขยับหันกายมาสอบถามบุรุษในหน้ากากที่สวมปกปิดใบหน้าทว่าการแต่งกายดูแล้วคงเป็นคุณชายสกุลใหญ่หรือไม่ก็เป็นพ่อค้าวาณิชย์ที่มีฐานะไม่ธรรมดา หญิงสาวจึงร้องถามออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสจนบุรุษที่ผ่านสตรีมาไม่น้อยด้วยวัยถึงสามสิบเอ็ดปีแล้วถึงกับใจสั่นหวั่นไหวกับรอยยิ้มของแม่ค้าคนงาม “ใช่ ทั้งผักและอาหารกับขนมนั่นด้วย” หญิงสาวมองอีกฝ่ายพลางกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยตั้งแต่เปิดร้านค้ามานั้นเผยหว่านอีเองก็ยังไม่เคยเจอ ‘พ่อบุญทุ่ม’ คนใดใจใหญ่เช่น ‘นายท่าน’ ที่สวมกากปีศาจตรงหน้าเลยสักครั้ง “นายท่านของเราเป็นเจ้าของสำนักคุ้มภัย ‘ซ่างหาน’ ที่ด้านนั้น คนในสำนักมีมาก นายท่านของเราจึงต้องการจะเหมาทั้งผักและอาหารไปเลี้ยงผู้คนของเราเท่านั้น เชิญเถ้าแก่เนี้ยคิดราคาข้าวของมาเถิด”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD