รถม้าจากสกุลหลิวเคลื่อนเข้ามาในทุ่งหญ้ากว้างแห่งหนึ่ง ดูจากตาเปล่าอันหรานก็รู้แล้ว ว่าที่นี่ต้องมีคนดูแลอยู่เป็นประจำ เพราะพื้นหญ้าถูกตัดสั้นพองาม ดอกไม้ต่างๆ ก็ไม่เหี่ยวเฉา “โอ้โห~ อากาศสดชื่นมากเลยเจ้าค่ะ เหมาะแก่การมาพักผ่อน” “คิกๆ คำพูดคำจาเหมือนผู้ใหญ่เข้าไปทุกวัน” อันหรานเอ่ยเย้าบุตรสาวที่ทำหน้าตื่น มือเล็กทั้งสองกอดคอผู้เป็นบิดาไว้แน่น พลันเหลียวมองไปทั่วบริเวณ “แหะๆ” “ว่าแต่ที่นี่คือที่ใดหรือเจ้าคะ ท่านพาพวกข้ามาทำไม” “ที่นี่เป็นสุสานของพี่ใหญ่ ตอนมีชีวิตอยู่เขารักความสงบ พอเขาสิ้นลมไป ข้าจึงซื้อที่นี่ไว้เป็นสุสานให้กับเขา” หลิวอี้เฟิงเอ่ยเล่า พลางอุ้มบุตรสาวเดินนำไปยังป้ายสุสานของหลิวจิ้งหยาง เซี่ยอันหรานที่รู้เรื่องราวมาจากบิดา ก็ไม่คิดจะเอ่ยถามต่อ เพราะรู้ดีว่าครอบครัวสกุลหลิวคงจะยังเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ นางจึงเดินตามไปเงียบๆ ครอบครัวช่วยกันปัดกวาดเช็ดถูหน้าแท่นส