3. ไม่อยากเก่งกับผู้หญิง

905 Words
ช่วงบ่าย "ได้ข่าวว่าขับรถชนรุ่นน้องเหรอว่ะ ถึงขั้นพิการเลยไหม" พอลเอ่ยทักทายขึ้น เมื่อเห็นใบหน้ามิลตันไม่สบอารมณ์ กำลังเดินก้าวเข้าห้องส่วนตัวเฉพาะพวกเขา "รู้แล้วมึงจะถามทำไมอีก" ร่างสูงโปร่งทิ้งกายอย่างเหนื่อยหน่าย นอกจากจะพาคนเจ็บไปโรงพยาบาล เขาเองยังต้องแอบไปฉีดยากันบาดทะยักด้วย เสื้อช็อปถูกถอดวางพาดบ่ากว้าง เหยียดแขนข้างที่เป็นรอยเขี้ยวโชว์ญาติห่างๆ "อย่าบอกนะตอนที่มึงขับรถชน ยังโดนหมากัดอีก" คำพูดของพอลยิ่งทำให้เพื่อนอีกคนรุมดูรอยเขี้ยว พบเป็นวงกว้างเกือบลงชั้นใต้ผิวหนัง "ในมหาลัยเรามีหมาจรด้วยเหรอว่ะ" ชนัตถ์ถาม หลังสนิทกับอีกฝ่ายมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนรู้นิสัยกันดี "หมาบ้าอะไรล่ะ คนชัดๆ " แค่นึกถึงใบหน้าสวยเมื่อช่วงก็พาลให้หงุดหงิด แถมยังต้องขับรถมาส่งกลับมหาลัย ไม่ได้ซักถามอะไรต่อเพราะไม่อยากเจอหน้าอีก "เอ้าเชี้ย! ใครกล้ามาทำมึงว่ะ! ให้กูยกพวกไปตีแมร่งเลยไหม" พอลเตรียมคว้าไม้เมตรข้างลำตัว "มึงเป็นนักเลงหรือไง ใจเย็นๆ กว่ามันสิว่ะ..แล้วมึงจะเอาไง" ชนัตถ์ถาม "ช่างแมร่ง! ไม่อยากเก่งกับผู้หญิง" "ผู้หญิง?" "ผู้หญิงด้วยเหรอ?" ทั้งชนัตถ์และพอลต่างมองหน้ากัน ในเมื่อเพื่อนชายมีดีกรีความหล่อติดทอประดับเครือมหาลัย ทำสาวๆ ต่างกรี๊ดกร๊าดแต่ไหงถึงโดนทำร้ายได้ "มึงเอางานอาจารย์วิชาคาบเมื่อเช้ามาดูเหอะ แมร่งเสียเวลาเรียนฉิบ" เขาเลือกจะมองข้าม เพราะคงไม่ต้องเจอหน้าอีกฝ่ายต่อไปแล้ว "เออๆ อยากรู้จังใครแมร่งได้ชิมเลือดมึง คงสยองน่าดู" "คนนะไม่ใช่แวมไพร์ ว่าแต่เย็นนี้มึงอยู่สอนรุ่นน้องออกแบบโครงสร้างต่อได้ใช่ไหม" ชนัตถ์บอก "อืม" มิลตันพยักหน้าส่งๆ รับสมุดเลคเชอร์เพื่อนชายมาอ่าน เขาก็มองออกแล้วว่าคำตอบโจทย์ที่อาจารย์สอนต้องเขียนแบบไหน "จะไปช่วยพ่อมึงหาเสียงเหรอ" พอลพูดก่อกวนอารมณ์ทันที ไม่ได้มองว่าน้ำเสียงของเขามันข้ามหัวคนนั่งอยู่ "ใช่...อย่าลืมบอกพ่อมึงด้วย ให้เลือกป๊ากูเป็นนายกล่ะ" ชนัตถ์รีบตอบทันควัน ให้สมกับความสนิทที่แทบจะกัดกันเลือดสาด โดยลืมว่ามีเพื่อนอีกคนนั่งอยู่ตรงกลาง "อย่าลืมบอกป๊ากูล่ะ อยากเลือกพ่อมึงอยู่พอดี" คนก้มหน้าอ่านหนังสือพูดขึ้น ก่อนจะเงยมองสบตาเพื่อนชายทั้งสองคน ส่งยิ้มราบเรียบเกินคาดเดาให้ ซู่ซ่าส์~ ซู่ซู่~ ซ่าส์ซ่าส์~ "อดไปเต้นกับคนอื่นเลย มันน่าสาปซะให้เข็ด!" เพลงพิณยังนึกอารมณ์เสียไม่หาย ในขณะที่คนอื่นต่างสนุกร่วมกิจกรรมรอบสุดท้ายของวันนี้ เธอต้องนั่งเพียงลำพัง ทำได้แต่ตบมือร่วมจังหวะ ส่วนผู้เป็นต้นเหตุพอมาส่งถึงมหาลัยได้ ก็ไร้ความรับผิดชอบอีก "น่าสงสารเพลงจัง แต่โมเน่เต้นเผื่อแล้วนะ ไม่ต้องเศร้าไป" เพื่อนสาวรีบมานั่งลงข้างๆ พอเสร็จพิธีรับน้องทุกคนก็พากันแยกย้าย "ระหว่างที่ทุกคนเต้น เราสาปคนทำไปหลายรอบแล้วโมเน่ มีอย่างที่ไหน...ขับรถเร็วในมหาลัยได้" "ในมหาลัยเรามีแต่ลูกคนรวยนะ ไม่แปลกหรอกที่จะมีแต่คนไม่สนใจกฏระเบียบหน่ะ แต่เพลงไม่ต้องคิดมากหรอก" "เราแทบเดินไม่ได้อีกหลายวันเลยนะโมเน่" เพื่อนสาวที่พึ่งจะรู้จักวันเดียว เอื้อมมาบีบมือให้กำลังใจ จนเธอรู้สึกตื้นตันในมิตรภาพ "โมเน่จะช่วยสาปให้อีกคน ถ้ารู้ว่าเป็นใครนะ จะแอบไปเจาะยางรถให้แหลกสะบั้น!" ครืน~ ครืน~ "เพลงพิณแป๊บนึงนะ พี่ชายเราโทรมา" โมเน่รีบคว้าโทรศัพท์มือถือ เดินไปตรงมุมเงียบๆ ให้ได้ยินเสียงปลายสาย "โมเน่รับน้องเสร็จแล้ว แต่ว่าเพื่อนโมเน่โดนรถเชี่ยวมา จะให้เพื่อนไปด้วยอีกคนได้ไหม" ระหว่างนั้นเธอคอยมองดูเพื่อนสาวตลอด เผื่อจะวานให้ช่วยเรื่องใด "โมเน่ก็ไม่รู้นะว่าใคร แต่ช่างเถอะ...ทั้งโมเน่กับเพื่อนสาปให้ไม่หยุดแล้ว" "ค่ะ เดี๋ยวรอที่คณะนะคะ" "จะลำบากโมเน่ไหม? เรียกแท็กซี่ให้เราได้นะ" เพลงพิณรีบถามตอนเพื่อนสาวเดินกลับมานั่งที่เดิม กลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระคนอื่นให้เดือดร้อน "พี่เราใจดี แต่รถพี่เราเล็กนะนั่งเบียดๆ กันหน่อย" "ต่อให้เป็นมอเตอร์ไซค์เก่าๆ เราก็ไม่กล้ารังเกียจน้ำใจเพื่อนหรอก" ใบหน้าสวยปริยิ้มกว้าง เธอเองก็ไม่กล้าเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้คนที่พึ่งรู้จักกันวันเดียว แม้ว่าอีกฝ่ายจะแสดงน้ำใจที่มากล้นเหลือ "ดีจัง โมเน่อยากรู้จักบ้านเพื่อนนะ ไว้เวลาหนีพี่ชายไปนอนด้วยคน" "มีงี้ด้วย" คำพูดของเพื่อนสาวพาเธอหลุดหัวเราะ แล้วระหว่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์มาพิมพ์ข้อความคุยกับบุพการีแทน ..........................................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD