ผู้จัดการขับรถกลับมาถึงที่บ้านเขาก็กดดูข้อมูลประวัติส่วนตัวของภาดาในใบสมัครฝึกงาน และเขาก็ต้องเอะใจในนามสกุลเพราะมันคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหน
“ทำไมคุ้นมากเลยนะ”
เขานิ่วหน้าอย่างประหลาดใจก่อนจะเอาชื่อนามสกุลของเธอไปค้นหาในอินเตอร์เน็ต เพราะนามสกุลมันคล้ายๆคนมีชื่อเสียงหรือไม่ก็อาจจะแค่คล้ายกันเท่านั้น
“ภารดา ไพบูลย์นิภัค”
เขาพิมพ์เข้าไปค้นหาก่อนจะนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อชื่อที่ขึ้นมาเป็นชื่อของคุณภวิน ไพบูลย์นิภัค เขาเป็นเจ้าของโรงแรมดังที่มีสาขามากมายทั่วประเทศ ก็คือมหาเศรษฐีระดับประเทศนั่นแหละพูดชื่อเขาใครก็รู้จัก
“แล้วทำไมนามสกุลถึงเหมือนกัน”
เขากดเข้าไปอ่านตามสำนักข่าวต่างๆและไปเจอภาพถ่ายครอบครัวฉลองวันเกิดของลูกสาวคนโตของตระกูลไพบูลย์นิภัค และภาพของผู้หญิงคนนั้นคือภาดา ไพบูลย์นิภัคลูกสาวคนโตของเขา
“คุณภวินมีลูกสาวสองคนชื่อภาดาและญาดา นี่เป็นลูกคนรวยเหรอเนี่ย มิน่าล่ะถึงอยู่ที่นั่นได้แถมยังทำงานเก่งไม่เหมือนนักศึกษาฝึกงาน ดูมีความรู้กว่าคนทั่วไปที่แท้มีประสบการณ์จากโรงแรมของคุณพ่อนี่เอง”
เขามองอย่างอึ้งไปไม่คิดว่าเธอจะกลายมาเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีชื่อดัง แล้วถ้าเขาจีบเธอติดและเราคุยกันถูกคอนี่ไม่ตกถังข้าวสารเลยเหรอ
“ไม่อยากจะเชื่อเลย”
เขายังงงไม่หายทำไมหญิงสาวถึงไม่ฝึกงานที่บริษัทของตัวเอง แต่เคยได้ยินมาว่ามหาวิทยาลัยที่เธอเรียนมีกฎว่าห้ามฝึกงานกับบริษัทของที่บ้านหรือญาติของตัวเอง นี่คงเป็นเหตุผลที่เลือกมาที่นี่
“อย่างนี้นี่เอง”
เขายิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์จากนั้นก็มานั่งคิดว่าจะเดินหน้าจีบหญิงสาวต่อ และจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับความจริงที่รับรู้มา ปล่อยให้เธอเข้าใจแบบนั้นแหละดีที่สุดแล้วส่วนเรื่องต่อจากนั้นมันเป็นเรื่องของอนาคตและเขาก็ถูกใจหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็นยังไงก็ยังยืนยันจะเดินหน้าจีบ…
ทางด้านของภาดาเธออ้อนชายหนุ่มให้อาบน้ำให้ จากนั้นก็อุ้มเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยหญิงสาวเอาเสื้อเชิ้ตของเขามาใส่เพราะที่นี่มันห้องพักของเขา
“ตัวเองพาไปกินข้าวหน่อย ไหนดินเนอร์อ่ะ”
หญิงสาวกระโดดขี่หลังชายหนุ่มเดินออกไปข้างนอกห้องนอนก็เจอโต๊ะที่มีอาหารสุดหรูอยู่ เขาวางภาดาลงที่พื้นให้หญิงสาวไปนั่งลงบนเก้าอี้จากนั้นก็ไปจุดเทียนบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“ไง… ดูโรแมนติกป่ะ”
“ก็ดีนะแต่ไม่ชอบอ่ะ มันเหมือนพวกซีรี่ย์โลกสวย ไหนอ่ะของกินหิวแล้ว”
เธอไม่สนใจแสนเทียนอะไรของเขาเลย สายตาสอดส่องหาของอร่อยด้วยสายตาลุกวาว หญิงสาวใช้ส้อมตักกินนั่นนี่อย่างหิวโหย โดนกีต้าร์ดูดพลังไปเยอะพอสมควรเพราะฉะนั้นเธอต้องกินเข้าไปเยอะๆเพื่อทดแทน
“กินเยอะไปเปล่าหืม”
เขาลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดู ก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงที่กินเก่งมากแล้วมาเจอเขาที่ทำอาหารเก่ง ดูเหมือนว่าพรหมลิขิตจะพามาคู่กัน แล้วใครจะคิดว่าคนที่ทะเลาะกันมาตลอดตั้งแต่เด็กจะมาลงเอยกันแบบนี้
“ไม่นะกินปกติ เดี๋ยวค่อยไปออกกำลังกายก็ได้แป๊บเดียวน้ำหนักไม่เพิ่มหรอกน่า”
หญิงสาวป้อนชายหนุ่มให้กินด้วยกัน เขาอ้าปากงับเค็มคำก่อนจะนั่งทานอาหารมื้อค่ำไปด้วยกัน นั่งคุยกันไปเรื่อยๆไม่เร่งรีบ และไม่ว่าจะมีใครโทรศัพท์เข้ามาหาเขาหญิงสาวก็จะมองเหมือนไม่ค่อยพอใจซึ่งเขาก็ต้องทำการบล็อกไปทุกรายเพราะสัญญาไว้แล้วว่าจะเลิกยุ่งกับผู้หญิงทุกคน
“อย่าให้รู้นะว่าแอบไปคุยหรือไปแอบแซ่บกับผู้หญิงคนไหน ให้จำไว้เลยนะว่าฉันคนนี้ไม่ใช่ของตายถ้านายมีฉันก็จะมี รับได้ก็รับรับไม่ได้ก็ออกไปจากชีวิตซะ ตัวเองมีตัวเลือกแค่นี้นะคะ”
หญิงสาวยื่นมือไปจับคางชายหนุ่มเอาไว้ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงข่มขู่ คนอย่างเธอพูดจริงทำจริงและอย่าคาดหวังว่าเธอจะนั่งร้องไห้อ้อนวอนขอให้กลับมา ผู้ชายชั่วๆไม่ให้อภัยทั้งนั้นถ้าเกิดว่านอกใจเธอ ส่วนเรื่องในอดีตก็ถือว่าจบไปเพราะไม่ได้ทำในช่วงเวลาที่เราคบกัน และตั้งแต่วันนี้ที่เราสองคนมีความสัมพันธ์กันเขาไม่มีทางที่จะไปยุ่งกับใครได้อีกเพราะถือว่าเลือกแล้ว
“เค้ารู้แล้วค่ะ ไม่ต้องย้ำเยอะรู้ว่าทำจริงจ้ะ”
เขาจุ๊บมือหญิงสาวก่อนจะส่งแก้วน้ำส้มไปให้ เธอรับมาถือไว้ก่อนจะดื่มกินอย่างเอร็ดอร่อย ได้กินของอร่อยแบบนี้ทุกวันเธอมีความสุขมากหรือเพราะมีเขาอยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้
“เดี๋ยวกินเสร็จเค้าจะกลับไปนอนที่ห้องแล้วนะ ต้องกลับไปทาครีมบำรุงอีกเยอะแยะ ตอนนี้ง่วงแล้วจะนอน”
“ขอนอนด้วย นะๆ”
เขากุมมือหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงหวาน ใครจะยอมนอนคนเดียวกันละมีเมียแล้วด้วย นอนกอดคนรักมันอบอุ่นมากกว่าเป็นไหนๆ เพราะฉะนั้นไล่ยังไงก็ไม่ไปและเขาจะทำตัวติดเธอทุกครั้งที่มีโอกาส ภาดาเหลือบสายตามองชายหนุ่มอย่างครุ่นคิด เธอกำลังคิดว่าจะเอายังไงดีกับการที่เขามาขอนอนด้วย ก็รู้ว่าเขาอยากนอนด้วยแต่เธอไม่ค่อยชินนะสิ
“ไม่คิดเยอะแล้วนะ เป็นแฟนกันแล้ว”
“เออๆก็ได้นอนก็นอน แต่ว่าไม่ทำแบบเมื่อกี้แล้วนะเค้าเหนื่อย เค้าอยากนอน”
“โอเคตกลงตามนี้”
เขายิ้มออกมาก่อนจะหันไปทานอาหารตาต่ออย่างอารมณ์ดี ปล่อยให้นอนพักผ่อนไปก่อนเดี๋ยวตอนเช้าค่อยตื่นขึ้นมาปล้ำเมีย ถือว่าได้พักผ่อนเต็มอิ่มแล้วตอนนั้นคงไม่ปฏิเสธ
“ตัวเองเค้าอยากกินอันนี้อีกอ่ะ”
“เดี๋ยวสั่งเพิ่มให้นะ”
“ขอบคุณค่ะเอาใจเก่งแบบนี้ค่อยน่าคบหน่อย”
ภาดายิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปบีบแก้มชายหนุ่มอย่างแกล้งหยอก เขาขยับใบหน้าเข้าไปใกล้จุ๊บริมฝีปากของหญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดโทรไปสั่งอาหารเพิ่ม
ทางด้านของคุณแม่หนูเล็กเธอกังวลว่าเด็กทั้งสองคนจะเข้ากันไม่ได้จึงแอบโทรศัพท์ไปถามพนักงานที่ล็อบบี้ว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันเป็นยังไงบ้าง
(คุณภาดากับคุณกีต้าร์เหรอคะ ก็ลงมาทานข้าวด้วยกันแล้วก็ไปทำงานด้วยกันนะคะ หนูว่าทั้งสองคนก็ปกติกีค่ะ)
“งั้นเหรอ… ขอบใจมากนะจ้ะ”
ได้ยินแบบนั้นคนเป็นแม่อย่างเธอก็สบายใจ ปกติทะเลาะกันตลอดไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยก็หวังว่าจะยอมเป็นเพื่อนคุยดีๆต่อกันได้ แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อยขอให้ทั้งสองคนเข้าใจและสามารถเป็นเพื่อนกันได้