บทนำ
สองคนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร และไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกเกลียดขี้หน้ากันมากขนาดนี้ แต่ไม่เข้าใจว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรถึงทำให้โคจรมาเจอกันตลอด
“แต่ก็เอาเถอะ ฝึกงานคนละแผนกกันคงไม่ซวยมาเจอกันหรอก”
“เออ ฉันก็ไม่ได้อยากเจอเธอนักหรอกยัยพาเจ๊ง หวังว่าการฝึกงานครั้งนี้จะไม่ต้องเจอกันนะจ้ะ”
เขายื่นมือไปผลักหน้าผากหญิงสาวเล่นอย่างหมั่นไส้ก่อนจะเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ภาดามองตามเขาไปอย่างโกรธจัดกำมือแน่นระงับอารมณ์ของตัวเองไว้ ครั้งนี้เธอจะปล่อยไปก่อนเพราะว่าที่นี่มันบริษัทถ้าคนอื่นมาเห็นกิริยาไม่งามมันจะยุ่ง
“อย่าให้เจอนะไอ้บ้า ฉันเอานายตายแน่ไอ้กีต้าร์”
ช่วงเย็นภาดาก็เดินทางมาถึงที่บ้านด้วยความเหนื่อยล้าเพราะเดินทางไกล แต่ดีนะที่มีคนขับรถไปส่งก็เลยมีเวลาได้งีบนิดหน่อย
“โอ๊ยยยยย เหนื่อยจัง”
“มาแล้วเหรอลูกเป็นยังไงบ้างผ่านมั้ยคะ”
คุณแม่เดินมานั่งลงข้างลูกสาวก่อนจะเช็ดใบหน้าให้เธออย่างห่วงใย ภาดาเป็นเด็กที่ค่อนข้างห้าวหาญเอาเรื่องเธอจึงห่วงเป็นพิเศษ ส่วนอีกคนไม่เท่าไหร่เพราะเรียบร้อยเชื่อฟังพ่อแม่
“ผ่านสิคะระดับหนู อ่อ หนูไปเจอกีต้าร์ด้วยนะคะไปยื่นฝึกงานที่เดียวกับหนูด้วย”
“จริงเหรอ… แล้วเป็นยังไงบ้างผ่านมั้ยคะ”
“ก็ผ่านแหละค่ะหนูถึงมาอารมณ์เสียอยู่เนี่ย ซ๊วยซวยไปเจอกันที่นั่น ก็หวังว่าจะไม่เจออีกนะคะ”
ภาดาเอ่ยออกมาพร้อมกับเบะปากเมื่อพูดถึงชื่อชายหนุ่ม คุณแม่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาทันทีเพราะว่าลูกจะได้มีเพื่อนอยู่ด้วย ต่างจังหวัดไกลจะตายถ้าลูกอยู่คนเดียวก็คงลำบาก แบบนี้คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
“เรานี่ยังไงกันกีต้าร์เค้าน่ารักออกไปเกลียดเค้าทำไม”
“น่ารักกับแม่คนเดียวรึเปล่า”
“กับพ่อก็น่ารักน้า”
ภาดาสะบัดหน้าเล็กน้อยอย่างงอนๆ ก็แค่คนที่เข้าหาผู้ใหญ่เป็นเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่มันคือความจริงและมันแก้ไขยากมากก็คือคุณพ่อของเธอกับคุณแม่พ่อของเขาไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ ซึ่งสาเหตุไม่รู้เหมือนกันเพราะผู้ใหญ่ไม่มีใครเล่าเลย
“หนูไม่คุยกับคุณแม่แล้วค่ะ ไปอาบน้ำพักผ่อนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปส่งงานที่มหาวิทยาลัยอีกเตรียมตัวไปฝึกงานด้วย อ่อ ที่บริษัทมีห้องพักให้ด้วยนะคะอยู่ฟรีเลย”
“ไปนอนที่โรงแรมคุณพ่อค่ะ แม่จะให้เชฟทำกับข้าวให้หนูเช้าเย็นหนูอยากกินอะไรก็สั่งได้เลย ซักผ้ารีดผ้าให้แม่บ้านดูแลหนูสบายกว่าไปอยู่หอพักที่บริษัทนะ”
ภาดาพยักหน้าคิดตามที่คุณแม่พูดและก็เป็นความคิดที่ดีเพราะเธอไปทำงานทุกวันก็เหนื่อยอยู่แล้วถ้าต้องมาหาของกินเองซักผ้าทำความสะอาดห้องคงเหนื่อยน่าดู
“ก็จริงนะคะ งั้นไปนอนโรมแรมก็ได้ค่ะ”
“เดี๋ยวแม่จัดการให้เองค่ะหนูแค่เตรียมของไปเฉยๆก็พอ ไปอาบน้ำเถอะ”
“ค่ะแม่ รักนะคะ”
หญิงสาวหอมแก้มคุณแม่สุดที่รักก่อนจะลุกขึ้นเดินขึ้นไปชั้นบน เจอคุณพ่อกำลังออกจากห้องนอนมาพอดีก็วิ่งไปสวมกอดท่านด้วยความคิดถึง
“ปะป๊าคิดถึงจังเลยค่ะ”
“ไงคะคนเก่งของปะป๊า ไปสมัครฝึกงานมาเป็นยังไงบ้านเค้ารับเด็กดื้อคนนี้รึเปล่า”
คุณพ่อเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหยอกล้อลูกสาว ภาดานิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
“ปะป๊าอ่ะระดับหนูเรียนเก่งขนาดนี้มีหรือจะปฏิเสธ”
“เก่งมากลูกสาวของปะป๊า”
คุณพ่อลูบผมเด็กสาวอย่างเอ็นดู เขาตั้งใจว่าจะมีลูกสองคนอยากให้ได้ผู้หญิงและผู้ชายแต่ดั้นออกมาเป็นผู้หญิงทั้งคู่ เขาจึงสอนลูกตั้งแต่เด็กให้ฝึกการเป็นผู้นำและสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมภาดาถึงได้ดูเป็นผู้ใหญ่และสามารถทำอะไรด้วยตัวเองเป็นทุกอย่าง
“งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะเดี๋ยวลงมากินข้าวด้วยค่ะ”
“จ้ะตามสบายเลย ปะป๊าให้ลุงน้อยไปรับน้องอยู่เดี๋ยวคงมาถึงจะได้กินข้าวพร้อมกัน”
“โอเคค่ะ”
เธอหอมแก้มคุณพ่อก่อนจะวิ่งเข้าห้องนอนของตัวเองไปอย่างอารมณ์ดี คุณพ่อมองตามลูกสาวไปจนลับสายตาก่อนจะยิ้มออกมาบางๆแล้วเดินไปหาภรรยาข้างล่าง เมื่อมาถึงภรรยาของเขาก็ปรึกษาเรื่องที่พักของลูกในช่วงฝึกงานและเขาก็เห็นด้วยกับภรรยาที่ให้ไปพักที่โรงแรมของครอบครัว มีอะไรจะได้ดูแลสะดวก
“เดี๋ยวพี่จะริชจัดการให้ค่ะ”
“งั้นขอสองห้องนะคะเผื่อกีต้าร์ด้วย บังเอิญเด็กสองคนไปฝึกงานด้วยกันค่ะก็เลยคิดว่าอยู่ที่เดียวกันจะได้ปรึกษาอะไรกันได้”
คุณพ่อมองภรรยาอย่างลังเล ไอ้ให้อยู่มันก็ไม่ติดอะไรแต่ว่าผู้ปกครองฝั่งนู้นเค้าจะยอมเหรอไง โดยเฉพาะไอ้พ่อตัวดีนั่นแหละน่าหมั่นไส้ จนถึงตอนนี้เขายังเหม็นขี้หน้าอยู่เพราะภรรยายังไปมาหาสู่กับครอบครัวนั้นเสมอซึ่งเขาไม่ชอบไงก็คนมันหวงอ่ะ
“ไปถามพ่อแม่เค้าก่อนจะให้อยู่มั้ย”
“เดี๋ยวหนูเล็กคุยกับแพรวาเองค่ะไม่ต้องห่วง รับรองว่าผ่านฉลุย”
“ก็คุยกับแพรวาพอนะ ไอ้นั่นไม่ต้องไปคุยมันล่ะ”
เขาทำหน้าทำตาก่อนจะเบือนหน้ามองไปทางอื่น ภรรยามองสามีถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังขี้หวงไม่เคยเปลี่ยน ส่วนต้นรักตอนนี้ไม่มีเธออยู่ในสายตาแล้วรายนั้นหลงเมียหนักกว่าพี่ภวินอีกลืมความขี้หึงหวงไปได้เลย
ทางด้านของกีต้าร์เขาเดินทางกลับมาที่บ้านในเวลาต่อมา เมื่อมาถึงก็คุยกับคุณพ่อคุณแม่เกี่ยวกับเรื่องฝึกงานและอยากรบกวนหาที่พักให้หน่อย เขาไม่อยากพักหอพักของบริษัทท่าทางจะกฎระเบียบเยอะและคงไม่สะดวกที่จะอยู่
“จะให้แม่หาที่อยู่ให้เหรอ”
“ใช่ครับแม่ พอดีว่าผมไม่อยากนอนที่บริษัท”
คุณแม่ลูบผมลูกชายอย่างหวงใย เขานอนหนุนตักคุณแม่หลับตาลงด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี ต้นรักที่เห็นลูกชายหนุนตักภรรยาก็สะกิดให้เขาตื่น
“อะไรครับพ่อ”
“นั่นของพ่อนะห้ามนอน”
คุณพ่อเริ่่มงอแงใส่ลูกชายเพราะเขาหวงภรรยาหนักมากแม้กระทั่งกับลูกชายและลูกสาวก็ยังไม่เว้นเลย
“เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยนะ”
คุณแม่ชี้นิ้วใส่สามีอย่างคาดโทษ กีต้าร์เห็นแบบนั้นก็กอดคุณแม่แน่นขึ้นยั่วโมโหคุณพ่อเพราะทุกวันนี้เขากับน้องมีคุณแม่ให้ท้ายตลอด ส่วนคุณพ่อท่านก็ตามใจนะแต่ว่ารายนั้นมีกฎระเบียบในบ้านอยากให้ลูกอยู่ในกรอบ
“ตัวเองอ่ะ เชอะ!”
“งั้นเดี๋ยวแม่หาให้นะจ้ะ เดี๋ยวนะ…”
คุณแม่หยิบโทรศัพท์มาดูหน้าจอก่อนจะกดรับสาย เป็นหนูเล็กที่โทรเข้ามาและคุยเรื่องที่พักของเด็กๆ เธอคุยสักพักก็กดวางสาย
“ใครโทรมาเหรอครับแม่”
“แม่หนูเล็กไงลูก เค้าบอกว่าจะให้ลูกไปพักที่โรงแรมในระหว่างที่ฝึกงาน อยู่ไม่ไกลกันมาก”
“จะไม่เจอยัยพาเจ๊งใช่มั้ยครับ โอ๊ย แม่อ่ะ”
เขาถูกคุณแม่ตีแขนอย่างหมั่นไส้ ท่านไม่ชอบให้เขาเรียกภาดาแบบนั้นแต่ขอโทษนะเขาฟังใครที่ไหนไม่สนใจเลยว่าจะถูกดุรึเปล่า แต่แปลกใจคือนิสัยแย่แบบนั้นมีแต่ผู้ใหญ่รักและเอ็นดู
“ทำไมว่าหนูภาดาแบบนั้นเจ้าคนนี้นี่”
“ก็ผมหมั่นไส้อ่ะ”
“เป็นผู้ชายไปว่าผู้หญิงเอานิสัยเสียๆแบบนี้มาจากไหน พ่อเหรอไง”
“อ่าว… ลามมานี่ซะงั้น”
ต้นรักสะดุ้งอย่างร้อนตัวก่อนจะเอามือยีหัวลูกชายอย่างหมั่นไส้โทษฐานที่ทำตัวไม่ดีทำให้ภรรยามาด่าเขาเนี่ย
“เรานี่สร้างแต่เรื่องให้พ่อนะ”
“สร้างอะไรผมไม่เกี่ยว พ่อประวัติไม่ดีเองรึเปล่า”
“เอ้าไอ้นี่!”