เช้าวันต่อมา…
ภาดาในชุดนักศึกษาเดินลงมาจากห้องพักพร้อมกับกระเป๋าสะพายข้าง เธอแต่งตัวแบบสบายๆเพื่อให้คล่องตัวในการทำงานมากขึ้น เธอลงมาชั้นที่13ก่อนจะเดินไปหาพนักงานที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องอาหาร
“สวัสดีค่ะคุณภาดา”
“สวัสดีค่ะ มีอาหารเช้าของภาดามั้ยคะ”
“มีค่ะเชิญทางนี้เลยค่ะ”
พนักงานพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะผายมือเชิญให้เธอตามเข้าไปข้างใน โต๊ะอาหารเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วทำให้พิเศษต่างหากแยกกับลูกค้า แต่ว่าต้องกินกับชายหนุ่มอีกคนซึ่งตอนนี้กำลังนั่งจิบกาแฟร้อนๆอยู่
“ตื่นเช้าเชียวนะ ตื่นเต้นเหรอที่จะได้ไปทำงานอ่ะ ทำเหมือนไม่เคยทำงานเนาะ”
เจอหน้าเธอก็แขวะชายหนุ่มไม่หยุด เขาเหลือบสายตามองหญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะหยิบขนมปังเข้าปากพร้อมกับยักคิ้วอย่างกวนๆ
“ฉันไม่ได้นอนกินบ้านกินเมืองแบบเธอ”
“อ่าวไอ้นี่…”
ภาดาตั้งท่าจะเข้าไปจัดการชายหนุ่มแต่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองควรจะมีภาพลักษณ์ที่สวยงามกว่านี้จึงหยุดชะงักไปก่อนจะหันไปมองพนักงานแล้วยิ้มออกมา
“ไม่มีอะไรแล้วขอบคุณมากนะคะ”
“ยินดีค่ะ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟนะคะ”
หญิงสาวพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกีต้าร์จากนั้นก็หาอะไรกินรองท้องระหว่างรอพนักงานเอามาเสิร์ฟ
“ขอกินด้วยดิ”
“อ่ะนี่แบ่งให้”
เขายื่นขนมปังให้หญิงสาว เธอรับมาก่อนจะกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย เป็นผู้หญิงที่หุ่นดีมากแต่ว่ากินเก่งสุดๆ เห็นว่าเข้าฟิตเนสตลอดไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองน้ำหนักขึ้นแต่ก็กินไม่หยุดเช่นกัน
“ไม่ขอบคุณนะ”
“ก็ไม่ได้คาดหวัง”
เขาส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะนั่งมองหญิงสาวที่หยิบนั่นกินนี่อย่างเอร็ดอร่อย และอาหารเช้าของคุณภาดาก็หนักท้องเหลือเกินบอกตามตรงว่าไม่มีใครเลี้ยงไหวหรอกแบบนี้
“รีบกินสิจะได้รีบไป”
“ไม่เอาอ่ะจะให้คนขับรถไปส่ง นายไปดิฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าเรารู้จักกัน”
“โหยยยย อยากรู้จักตายแหละถ้าพ่อกับแม่เธอไม่สั่งไว้ฉันไม่เอาไปด้วยหรอก กลัวสาวๆจะเข้าใจผิดว่าฉันมีแฟนแล้ว”
ภาดาเบะปากใส่อย่างหมั่นไส้ ไม่มีใครเข้าใจว่าเธอเป็นแฟนหมอนี่หรอกเพราะเธอสวยขนาดนี้ไม่มีอะไรเหมาะสมกันสักนิดเดียวด้วยซ้ำการันตีด้วยดีกรีดาวมหาลัย ส่วนหมอนี่อ่ะมันพูดหวานแถมสายเปย์สาวๆก็เลยชอบ หน้าตาก็งั้นๆแหละ
“ฉันสวยขนาดนี้ไม่ตาต่ำไปเอานายหรอก”
“จ้ะแม่ดาวมหาลัย แม่คนสวย”
“ตั้งแต่นายควงผู้หญิงมามีดีกว่าฉันมั้ยล่ะ”
เธอยิ้มภูมิใจในความเพอร์เฟคของตัวเอง ไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้ยกเว้นแต่ไม่อยากทำเอง ส่วนแฟนยังไม่คิดตอนนี้ สวยๆแบบเธอนั่งสวยไปก่อนถึงเวลาค่อยหายังไม่สาย
“เอาจริงเธอก็ขี้โม้อยู่นะเนี่ย”
“ชิ!”
กีต้าร์หัวเราะออกมาขำๆก่อนจะเก็บช้อนจานให้เรียบร้อย คนเป็นเชฟอย่างเขาเห็นแล้วมันอดไม่ได้ ทุกอย่างบนโต๊ะอาหารต้องไม่รกรุงรัง สกปรกนิดหน่อยก็ไม่ได้เห็นแล้วมันขัดลูกตา
หลังจากที่ทั้งสองคนทานอาหารเรียบร้อยก็ขับรถออกมาจากโรงแรมและถึงที่บริษัทก็ประมาณสิบห้านาที ไม่ห่างไกลจากที่พักมากซึ่งเดินทางค่อนข้างสะดวก
“จอดหน้าประตูเลยฉันจะเดินเข้าไปเอง”
“ถ้าจะขนาดนั้นมาเองเถอะ”
ภาดาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินไปทักทายลุงยามที่หน้าประตู ส่วนเขาก็ยิ้มทักทายก่อนจะขับรถเข้าไปจอดข้างใน และก็ถึงเวลาที่ต้องเข้าอบรมหนึ่งชั่วโมงทั้งสองคนตั้งใจฟังการบรรยายอย่างตั้งใจและมีนักศึกษาคนอื่นอีกหลายคนที่ผ่านการคัดเลือกนั่งอยู่รวมกันในห้องประชุม
จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปแต่ละแผนก กีต้าร์ได้ไปฝึกที่ห้องอาหารโดยมีเชฟระดับโลกสอนงานอยู่ ส่วนภาดาเธอไปฝึกที่แผนกต้อนรับลูกค้าและเน้นทำงานในออฟฟิศเป็นหลัก เรียนรู้งานเอกสารโดยตรงซึ่งจริงๆพวกนี้เธอศึกษามาจากคุณพ่อบ้างแล้วจึงคิดว่าน่าจะทำได้ไม่ยาก
“เดี๋ยวน้องๆแยกย้ายกันไปเลยนะ ในใบจะมีแผนกของตัวเองอยู่เข้าไปได้เลย ส่วนมื้อกลางวันที่เรามีเลี้ยงพนักงานนะห้องอาหารพนักงานอยู่ด้านหลังของห้องครัวทางเข้าไปขวามือเลย ส่วนรถจอดที่ลานจอดของพนักงานไม่จอดที่ลูกค้านะคะ”
“รับทราบค่ะ/ครับ”
ทุกคนแยกย้ายกันไปยังแผนกของตัวเอง ภาดามาถึงที่ออฟฟิศแผนกต้องรับก็ยกมือไหว้ทักทายพี่ๆพนักงานในห้องทำงาน
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อภาดามาเป็นฝึกงานที่นี่สามเดือนค่ะ”
“สวัสดีจ้ะน้องภาดา”
ทุกคนเอ่ยทักทายเด็กสายด้วยความเป็นมิตร ที่นี่เราทำงานกันเป็นทีมและใครที่เข้ามาทำงานก็จะต้องเข้ากันได้ดีกับออฟฟิศที่นี่ เฮฮาสบายๆเน้นงานออกมาดีที่สุดไม่กดดันพนักงานมากมาย
“น้องภาดาเหรอ… น่ารักน่าชังเชียวเด็กสมัยนี้ มานั่งตรงนี้สิ พี่ชื่อแมนตำแหน่งผู้จัดการเป็นพี่เลี้ยงของเราตลอดสามเดือนนี้ครับ”
หญิงสาวก้มตัวค่อยๆเดินไปหาผู้จัดการที่ยืนรอเธออยู่ตรงโต๊ะที่ว่างมันเขียนไว้ว่านักศึกษาฝึกงาน เธอวางกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะก่อนจะยิ้มให้ผู้จัดการที่มองเธออยู่
“ให้หนูทำอะไรบ้างคะ”
“ยังไม่ต้องทำอะไรหรอกเอาแค่อ่านรายละเอียดงานก่อนก็ได้ ไปเอาที่ห้องพี่สิตามมา”
“ได้ค่ะ”
หญิงสาวเดินตามผู้จัดการไปอย่างกระฉับกระเฉง ถามว่าตื่นเต้นมากรึเปล่าที่ได้มาทำงานก็คงใช่ เพราะเพื่อนร่วมงานและบรรยากาศในการทำงานเปลี่ยนไป อีกอย่างเธออยู่ที่นี่ในฐานะพนักงานคนหนึ่งส่วนที่โรงแรมของพ่อเธอเป็นระดับบริหาร บรรยากาศในการทำงานมันจึงต่างกันมากและทุกคนที่นี่สามารถใช้เธอทำงานได้อย่างเต็มที่ ก็พอเข้าใจเหตุผลที่อาจารย์ไม่ให้ฝึกงานที่บริษัทของที่บ้านคงเพราะแบบนี้แหละ
ทางด้านของกีต้าร์เขามาในห้องอาหารและเจอเชฟที่เขารู้จักชื่อเสียงในวงการอาหารก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ชายหนุ่มยกมือไหว้เขาก่อนจะเอ่ยทักทายเสียงสดใส
“สวัสดีครับเชฟวี่ ผมกีต้าร์มาเป็นนักศึกษาฝึกงานที่นี่ครับ”
“สวัสดีครับกีต้าร์ รู้จักผมด้วยเหรอ… แสดงว่าคงคุ้นเคยกับวงการนี้แน่เลย ไหนลองทำอาหารให้ผมดูหน่อยสิอยากรู้ฝีมือของคุณ”
เชฟวี่ผายมือเชิญให้นักศึกษาฝึกงานคนใหม่ลองทดสอบฝีมือดูว่าระดับการทำอาหารอยู่ในขั้นไหน จะได้สอนถูกขั้นตอนในลำดับต่อไป…
“ได้เลยครับ ผมจะตั้งใจทำสุดฝีมือเลย”