บทที่ 4 หว่าหวาอยากได้ คัชชู

1179 Words
หลังจากได้รับของขวัญวันเกิดจากคนในครอบครัวแล้วและทานมื้อเช้ากับครอบครัวเสร็จหว่าหวาก็ได้แค่ช่วยงานท่านย่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทุกคนยังไม่ยอมให้นางทำงานหนักเพราะให้เหตุผลว่านางเพิ่งจะฟื้นจากอาการป่วย ส่วนบุรุษก็แยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองยกเว้นน้องเล็กไท่ฮั่นที่เอาแต่เดินตามติดหว่าหวาไม่ยอมไปไหนเลยตั้งแต่เช้าแล้ว “เอ๊ะ..นี่เจ้าจะตามพี่ต้อยๆ อยู่แบบนี้ทำไมกันอาฮั่น” “ก็ข้าอยากจะให้พี่รองเล่าเรื่องที่พี่รองไปเที่ยวมาให้ข้าฟังนี่นาใช่มั้ยท่านย่า ท่านย่าก็อยากจะฟังด้วยใช่มั้ยขอรับ” ‘นั่นไงเจ้าตัวเล็กกำลังหาพรรคพวก’ “นั่นน่ะสิอาหวาย่าก็อยากจะรู้ว่าเจ้าไปท่องเที่ยวยังที่แห่งไหนมา” ชิ..ไท่ฮั่นหาพวกจนได้ในที่สุดหว่าหวาก็ได้เล่าเรื่องที่ตัวเองไปพบเจอมาโดยอาศัยอยู่ในบ้านของท่านย่าผู้หนึ่งที่หว่าหวาเรียกว่าอาม่า โดยนางได้ดำเนินการใช้ชีวิตอยู่ในรูปแบบของวิญญาณ “แล้วท่านย่าที่เจ้าว่าก็มีหน้าตาเหมือนย่ายังกับฝาแฝดยังงั้นหรือ โอ..ช่างพิลึกนัก แล้วนั่นเจ้าทำอันใดกันทำไมถึงใช้ถ่านไม่ใช้พู่กันวาดเล่า” ไท่ซวงถามหลานสาวอย่างสงสัยที่เห็นนางหยิบถ่านเป็นก้อนแล้วเอามาขีดๆ เขียนๆ “อาหวาเห็นคนที่โน่นเขาใช้ถ่านขีดเขียนและวาดภาพกันก็เลยอยากลองทำบ้างเจ้าค่ะ” เมื่อตอบคำถามท่านย่าเสร็จนางก็ให้น้องชายไปเอาถ่านไม้มาเหลาจนได้ที่แล้วก็วาดบางอย่างขยุกขยิกลงบนกระดาษ “ภาพวาดนี้งามหรือไม่เจ้าคะท่านย่า” นางถามพร้อมกับยื่นแผ่นกระดาษที่เพิ่งวาดบางอย่างลงไปให้ท่านย่าดู “อืมม..มันก็งาม มันดูเหมือนรองเท้านะแต่ทำไมพื้นมันถึงได้สูงแบบนั้นล่ะ” “นั่นน่ะสิพี่รองสูงแบบนั้นมันจะสวมใส่ได้รึ ขนาดข้าลองสวมเกี๊ยะที่ข้ากับพี่ใหญ่ทำให้ท่านยังเดินลำบากพลิกแล้วพลิกอีกอยู่เลย” “ท่านย่ากับน้องรองไม่รู้อะไร คนที่โน่นน่ะสวมใส่รองเท้าที่มีพื้นส้นสูงกว่านี้หลายเท่านักอันนี้ไม่นับว่าสูงสักนิดเลย แม้แต่บุรุษก็ยังสวมรองเท้าส้นสูงๆ แบบนี้เลยนะ” “ห๊าาาาา” ท่านย่ากับน้องเล็กอุทานขึ้นพร้อมกัน “ก็บุรุษแบบที่อาหวาเล่าให้ท่านย่าฟังยังไงเล่าเจ้าคะ” “หืม อึก ฮ่าฮ่าฮ่า” เสียงหัวเราะของท่านย่าไท่ซวงถึงกับดังออกไปข้างนอกจนหนุ่มๆ ที่พึ่งลงมาจากเขาพร้อมกับท่านพ่อที่กำลังนั่งทำงานไม้อยู่ด้านหลังของจวนต่างก็พากันสะดุดกับงานที่กำลังทำอยู่ “สิ่งใดกันที่ทำให้ท่านแม่ถึงกับหัวเราะเสียงดังได้ขนาดนั้น” ไท่หยางหันไปคุยกับน้องชายที่เพิ่งจะเดินเข้ามาจากประตูด้านหลังของจวนพร้อมกับบุตรชายคนโต “อยากจะรู้เราก็เข้าไปดูกันพี่ใหญ่” อีกด้านหนึ่งที่เรือนของหว่าหวากับท่านย่า เสียงหัวเราะก็ยังคงดำเนินต่อไปคาดว่าคงจะไม่หยุดลงโดยง่าย “เอ่อ..ท่านย่าเจ้าคะ ท่านย่าหัวเราะอันใดหรือเจ้าคะ” “ก็ย่ากำลังคิดว่าถ้าหากบุรุษของบ้านเราสวมใส่รองเท้าแบบนั้นแล้วเดินไปเดินมาในบ้านจะเป็นเช่นไรนะสิ ฮ่าฮ่าฮ่า” ว่าแล้วท่านย่าไท่ซวงก็หัวเราะขึ้นอีกครั้งแล้วคราวนี้เสียงหัวเราะของนางกลับดังขึ้นยิ่งกว่าเดิม ‘อุ๊บส์ ท่านย่าก็ช่างคิดได้เนาะ’ “ท่านย่าก็ช่างคิดได้นะเจ้าคะ ท่านพ่อกับท่านอาตัวใหญ่ล่ำปานนั้นแต่ถ้าเป็นพี่ใหญ่กับน้องเล็ก ก็คงพอดูได้เจ้าค่ะ คิคิ” “........” น้องเล็ก ‘เอาอีกแล้วโถๆ วงวารน้องเล็กแท้โดนพี่สาวแซะอีกแล้ว’ “หัวเราะอะไรกันหรือขอรับท่านแม่ เสียงดังไปไกลถึงท้ายจวนแน่ะ” ไท่หยางเอ่ยถามมารดาเมื่อเข้ามาในเรือน “คงมิใช่ว่ากำลังนินทาอาหรอกนะอาหวาหื้ม” ไท่หยุนถามหลานสาวบ้างเพราะคิดว่าสาเหตุคงจะมาจากนางเป็นแน่ “อาหวาเปล่านินทาท่านอานะเจ้าคะ ข้าก็แค่เล่าเรื่องขำขันให้ท่านย่าและน้องเล็กฟังก็เท่านั้นเอง” ‘ท่านอาอย่ามาว่าข้านะท่านย่าต่างหากที่นินทาพวกท่านน่ะ’ “ดูหน้าเจ้ามีพิรุธนัก ว่ายังไงล่ะเล่าให้อาฟังบ้างสิเรื่องขำขันน่ะอาก็อยากจะฟังเหมือนกันนะ” ‘ใครจะกล้าเล่าให้ฟังกันล่ะพุทโธ่’ หว่าหวาได้แต่โอดครวญในใจ “ท่านพ่อเจ้าคะ ท่านพ่อดูนี่ให้อาหวาหน่อยเจ้าค่ะ” หว่าหวาเลี่ยงที่จะไม่พูดคุยกับอาของตนและหันไปกล่าวกับบิดาพร้อมกับยื่นภาพประกอบ “ท่านพ่อทำแบบนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ อันนี้เขาเรียกว่าคัชชูเจ้าค่ะ” “กัจ กัจจู รึ” “คัช ชู เจ้าค่ะ คัชชู” “อ่อ พ่อจะลองทำดูก็แล้วกันแต่คงจะช้าสักหน่อยและคงจะต้องวัดขนาดเท้าของเจ้าด้วย” “ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพ่อใจดีที่สุดเลย” หว่าหวาอวยผู้เป็นบิดาอีกครั้ง ส่วนผู้เป็นบิดาก็ได้แต่คิดเช่นนี้ ‘อะไรที่นางอยากจะได้ขอแค่ไม่เกินความสามารถเขาก็อยากจะทำให้นางทั้งนั้นแค่เห็นนางมีความสุขก็พอ’ ไท่หยางท่านช่างเป็นบิดาที่ประเสริฐยิ่งนัก… “ถ้าอย่างนั้นมื้อค่ำนี้ให้หว่าหวาทำกับข้าวให้ทุกคนทานดีหรือไม่เจ้าคะ” หว่าหวาเสนอที่จะทำอาหารให้ทุกคนได้กินเพื่อเป็นการตอบแทนกลายๆ การทำอาหารของนางก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่นางคิดว่าตัวเองทำได้ดีทีเดียว “ไม่..ไม่ดี เจ้ายังไม่แข็งแรงให้เป็นหน้าที่ของอากับเจ้าใหญ่ดีกว่า ไปอาหลางเราเข้าครัวกัน” ไท่หยุนปฏิเสธหลานสาวแทบไม่ทันและรีบคว้ามือของหลานชายเดินหนีเข้าโรงครัวทันที “อ่า..ขอรับ” “..........” ‘ตอนนี้อาหวาสบายดีอาหวาแข็งแรงแล้วนะเจ้าคะทุกคน’ หว่าหวาแค่คิดในใจ ก็แค่ทำกับข้าวนะทำไมถึงไม่ยอมให้นางทำเล่านางก็ทำอาหารอร่อยนะจะบอกให้ ที่โรงครัวเล็กๆ ของจวน… “ใครอยากให้นางทำกับข้าวกัน ครั้งหลังสุดข้าถ่ายท้องอยู่ตั้งสองวันหรือเจ้าว่าอย่างไรอาหลาง” “ขอรับ” ไท่หลางตอบรับท่านอาของตนแบบสีหน้าที่ไร้อารมณ์ พี่ใหญ่หลางก็เป็นคนเช่นนี้ถึงจะพูดน้อยไปหน่อยแต่ก็ต่อยหนักนะเจ้าคะ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD