สกุลหวง 2

1091 Words
“ถานเทียนสวี่ นี่! เจ้าได้ยินข้าหรือไม่” “หือ อะไรหรือ” “ข้าถามว่าเจ้าหิวหรือไม่” หวงสือหลิวยื่นไข่ที่ปอกเสร็จแล้วแก่เขา “กินเสียหน่อย เดี๋ยวปวดท้อง” ถานเทียนสวี่รับไข่ต้มมาแล้วนั่งลงข้างหญิงสาว เขาสังเกตท่าทางที่ดูไม่ทุกข์ร้อนของหวงสือหลิวเงียบๆ ก่อนตวัดตาไปทางสุ่ยเกาเจี้ยที่เดินกลับไปที่เรือนพร้อมไหสุรา ผ่านไปพักใหญ่ หวงสือหลิวคิดว่าจะเข้าไปลาหวงซ่างเพื่อขอตัวกลับเรือน เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องรับรองแขก เสียงหัวเราะพูดคุยของทุกคนพลันเงียบลงในทันใด “พวกเจ้ามีอะไร” ฉางรั่วตวัดตามองไม่พอใจ “พวกข้าจะมาลาเจ้าค่ะ” หวงสือหลิวกล่าวอย่างนอบน้อม “อ้าว จะกลับแล้วหรือ ไม่อยู่ร่วมแสดงความยินดีกับพี่สาวเจ้าก่อนเล่า” หวงซ่างที่เริ่มหน้าแดงเพราะสุรา พูดพลางหัวเราะอย่างมีความสุข “ได้ดองกับสกุลสุ่ย ช่างน่ายินดียิ่งนัก! หยานถิง เจ้านี่เป็นตัวนำโชคของข้าจริงๆ” “ท่านพ่อพูดอะไรเจ้าคะ ข้าอายนะ” หวงหยานถิงบิดตัวส่งสายตาเขินอายให้คู่หมั้น “ในวันที่หยานถิงเกิดเป็นช่วงฟ้าเปิด แสงแดดเจิดจ้าสุกสว่างสดใสนัก ว่าแล้วว่านางจะต้องนำสิ่งดีๆ มาให้สกุลหวง” ฉางรั่วพูดยกย่องบุตรสาวอีกแรง หวงสือหลิวเม้มปาก รู้สึกว่าตนและครอบครัวเป็นส่วนเกินอย่างไรอย่างนั้น นางยิ้มและกล่าวแสดงความยินดีกับหวงหยานถิง “น้องสาวยินดีกับพี่ใหญ่ด้วย ขอให้ชีวิตรักของท่านมั่งคงยืนยาวเจ้าค่ะ” ฉางรั่วยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ “ลูกสาวข้ามิจำเป็นต้องให้คนอย่างเจ้ามาอวยพรหรอก ดูจากสภาพเจ้าและ...สามี มันก็ต่างกันชนิดฟ้ากับเหวแล้วละ” “ฉางรั่ว เจ้าก็พูดเกินไป” หวงสือหลิวหันมองบิดาอย่างมีความหวัง ดูแล้วหวงซ่างก็คงมีความรักแก่หวงสือหลิวอยู่ไม่มากก็น้อย “นางอาภัพ ทั้งยังนำแต่ความซวยมาให้ข้านับครั้งไม่ถ้วน นางได้แต่งออกไปถือเป็นเรื่องดีแล้วไม่ใช่หรือไง” อ้าว... อีพ่อ! ไม่ช่วยไม่พอยังมาซ้ำเติมกันอีก! “สือหลิว เจ้าน่ะโชคดีนักหนาที่มีคนอย่างถานเทียนสวี่มาสู่ขอ อย่างไรก็ดูแลครอบครัวกระจ้อยร่อยของตัวเองให้ดีก็แล้วกันนะ” ให้มันได้อย่างงี้สิน่า...แล้วจะให้เด็กที่เติบโตมากับครอบครัวอย่างนี้เป็นจิตใจเอื้อเฟื้อไม่คิดริษยาได้อย่างไร! “เจ้าค่ะ ข้าจะดูแลครอบครัวของข้าอย่างดี” พูดจบก็เดินควงแขนถานเทียนสวี่ออกมา ในใจได้แต่สะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออก “เดี๋ยวสิ” หวงหยานถิงเดินตามออกมา ท่าทางนวยนาดน่าหมั่นไส้นัก “วันแต่งของข้า... ข้าอาจไม่ได้เชิญพวกเจ้าหรอกนะ คนรู้จักของคุณชายสุ่ยมีแต่คนใหญ่คนโต ข้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าข้ามีน้องสาว...แบบเจ้า” หวงสือหลิวนิ่งอึ้ง นางสูดหายใจเข้าลึกก่อนตอบกลับ “ดีเลยเจ้าค่ะ! ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาเหตุผลเลี่ยงไม่มางานของท่าน” “เจ้าหมายความว่าอย่างไร” “ท่านคิดว่ามีแค่ท่านที่ไม่อยากเป็นพี่น้องกับข้าหรือไง” หวงหยานถิงกัดฟันกรอด เงื้อมือจะตบน้องสาว แต่เมื่อเห็นว่าสุ่ยเกาเจี้ยจับตาดูอยู่ นางจึงเปลี่ยนเป็นปัดตะกร้าในมือของหวงสือหลิวแทน “ตายแล้ว! ขอโทษจริงๆ ข้าช่วยเจ้าเก็บนะ...แต่เอ๊ะ นี่มันของบ้านข้าไม่ใช่หรือ สือหลิว นี่เจ้าอดยากขนาดขโมยอาหารที่เรือนข้าเชียวหรือนี่” ฉางรั่วที่ได้ยินรีบปรี่วิ่งเข้ามาดูทันที “ต๊าย!!! สือหลิว! นิสัยขี้ขโมยของเจ้านี่แก้ไม่หายจริงๆ นะ” “อะไรน่ะ! นังลูกไม่ดี นี่เจ้า...เจ้าขโมยของบ้านข้าหรือ” หวงซ่างวิ่งเข้ามาสมทบ ร่วมตวาดด่าหวงสือหลิวอีกคน “ข้าเป็นคนให้นางทำเอง” ถานเทียนสวี่รีบออกหน้ารับ “เพราะต้องนำเงินมาซื้อของขวัญให้ท่านพ่อตา ข้าจึงนำเงินที่ควรจะซื้อของกินมาใช้จนหมด” หวงซ่างโกรธจนสร่างเมา จากที่ชมชอบลูกเขยเมื่อตอนสาย ตอนนี้กลับกลายมาก่นด่าสาปส่งแทน “ไม่แปลกใจว่าทำไมเจ้าสองคนถึงเป็นคู่ที่เหมาะสมกันนัก! นิสัยชั่วช้าเหมือนกันไม่มีผิด!” เฉ่าเหมยที่ยืนเกาะขาหวงสือหลิวเริ่มร้องไห้ด้วยความกลัว ในมุมมองของเด็กน้อย นางต้องมาเห็นภาพท่านตาท่านยายด่าทอบิดามารดาที่รักของตน เฉ่าเหมยทั้งหวาดกลัวและตื่นตระหนกจนตัวสั่นไปหมด “มีลูกสาวก็แบบนี้! เหมือนกับน้ำที่สาดทิ้ง! พอแต่งออกไปก็กลายเป็นคนสกุลอื่น!” หวงสือหลิวยกยิ้มมุมปาก ก้มลงเก็บของใส่ตะกร้าอย่างไม่เร่งรีบ “จริงดั่งท่านพ่อว่า ลูกสาวที่ออกเรือนไปแล้วก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดทิ้ง ฉะนั้นที่ข้ามาในวันนี้หาได้มาในฐานะบุตรสาว แต่เป็นแขกที่มาร่วมอวยพรวันเกิดให้ท่าน แต่ว่า...” หวงสือหลิวยืดตัวขึ้น มองไปที่ฉางรั่ว “แขกที่มาเยือนเรือนสกุลหวง ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ทุกคนหรือ นี่ไม่เท่ากับแม่ใหญ่บกพร่องหน้าที่ของฮูหยินที่ดีหรือเจ้าคะ” “นี่เจ้า!” “ข้าและครอบครัวไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน กับข้าวมื้อเดียวยังไม่ได้รับการรับรอง แต่กับพวกท่านกลับอิ่มหนำสำราญโดยไม่คิดถึงข้าหรือหลานสาวของพวกท่านแม้แต่น้อย ข้าขอเพียงแบ่งไข่และเนื้อ... พวกท่านจำต้องโมโหข้าถึงเพียงนี้เลยหรือ” ทั้งหวงซ่างและฉางรั่วต่างพากันพูดไม่ออก ไม่คิดว่าหวงสือหลิวผู้โง่เขลาคนนั้นจะยกเอาเหตุผลมาพูดเป็นตุเป็นตะเช่นนี้ “อีกอย่าง..” หวงสือหลิวส่งตะกร้าให้ถานเทียนสวี่ ยกมือขึ้นกอดอกและเดินเข้าใกล้ฉางรั่วจนนางผวาถอยหลังไปหลายก้าว “ถอนคำพูดที่ว่าถานเทียนสวี่ชั่วช้าเสีย ข้าชั่วคนเดียวก็พอ สามีข้า...เขาเป็นคนดี มีความสามารถ อีกทั้งรูปงามเกินใคร คนที่จะตำหนิเขาได้มีเพียงข้าคนเดียว แม่ใหญ่ไม่มีสิทธิ์ เข้าใจหรือไม่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD