สีหน้าขุ่นเคืองใจของเจ้านายค่อยคลายลง ในสายตาของลูกน้อยที่ตั้งใจรอ...
กระดาษแต่ละใบสอดไว้ข้างใต้ล่างสุด แต่ละรูป ดวงตาที่ฉายแววเย็นยะเยือกอยู่เสมอใช้เวลาจับจ้องมันอยู่สักพัก
ใบหน้าหวานหมดจดลงตัวไม่มีส่วนไหนที่เขาไม่ชอบเลย ดวงตาคู่กลมโตดูใสซื่อบริสุทธิ์กับเดรสทรงคุณหนูเฉิ่ม ๆ ดูยังไงก็เป็นผู้หญิงเรียบร้อย ช่างห่างไกลจากผู้หญิงในอุดมคติ...
สเปคของเมธพนธ์ต้องนมโตเท่าหัวเด็ก! แต่ถึงเขาจะเป็นอย่างนั้น หัวสมองกลับโลดแล่นจินตนาการฉากสวาท วาบหวามน้ำรักน้ำกามเต็มหน้าสวย ๆ และก็ยังคิดอยู่ว่าเธอมีใครจับจองเป็นเจ้าของหรือยัง ทั้งที่เห็นอยู่ว่าเธอมีความสัมพันธ์อย่างไรกับศัตรูตัวฉกาจ
เจ้าของฟาร์มม้า รีสอร์ตเชิงท่องเที่ยวธรรมชาติ ดำเนินกิจการมาก่อนฟาร์มองุ่นของเขาถึงสามสิบปี ก็คงจะต้องเขม่นกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
ปลายนิ้วยกขึ้นรูปไล้ใบหน้าของหญิงสาวในภาพถ่ายอย่างหลงใหล ราวกับว่าตกอยู่ในห้วงมนต์ ก่อนยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
“เด็กไอ้พิภพงั้นเหรอ...?”
“ลูกสาวของพลตำรวจเอกปรีชา ผู้หญิงที่ไอ้พิภพกำลังติดพัน พวกผมตามสืบอยู่ น่าสนใจกว่านังอริสเยอะ นังนั่นมันไล่ยิงพวกเราตั้งหลายคน มาป่วนฟาร์มเราอีก” คนพูดมีท่าทีโกรธแค้น แววตาวาวโรจน์บอกนายที่ยกมือแตะคางด้วยท่าทางครุ่นคิด
“จริงอย่างที่แกว่า... วิทยา หัวดีเหมือนกันนะ ไม่เสียแรงที่ฉันนับเป็นน้องเป็นนุ่ง” นายยกมือลูบศีรษะผู้ชายตัวโตที่แค่ยิ้มแหย ก่อนจะหน้าเข้มเครียดขึ้น
“ผมได้ยินมาจากชาวบ้านว่าเธออัธยาศัยดีเข้ากับคนง่าย ช่วงนี้พวกผู้หมวดผู้กองยุ่งกับคดีใหญ่ของท่านรองฯ คดียาเสพติดจับปลาใหญ่ไม่ได้สักตัว เธอเลยไม่มีตำรวจคอยตาม ถ้านายอยากแก้แค้นไอ้พิภพเพื่อความสะใจ ผมว่าเหมาะ”
“อืม... สงสัยจะมีเรื่องสนุกทำ แกไม่ต้องยุ่งอะไรทั้งนั้นนะ ฉันจะจัดการเอง”
ความคิดร้ายกาจบอกเมธพนธ์ได้ทันทีว่าควรทำอย่างไรกับแม่สาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอสรพิษอย่างอริสา ยังมีอีกเรื่องที่เขาเพิ่งจะนึกออกพอพิจารณาวงหน้าหวานงามดูให้ดี ๆ ทำหน้าเครียดให้ลูกน้องคนสนิทเกิดสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่าครับ? นายหัว...”
ใบหน้าหล่อเหลาเหลือบขึ้นมองคนถามแต่เขาคงไม่บอก แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เพราะไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะปกปิดเรื่องอะไรได้จากวิทยาได้บ้างไหม
“เปล่า... ไม่มีอะไร แกไปสืบเรื่องผู้หญิงคนนี้มาให้ฉัน” แล้วส่งสายตาคมวับไปยังแก้วทรงสวยบนโต๊ะ
“จะรอให้ยุงไข่ในไวน์รสเลิศของฟาร์มฉันก่อนหรือยังไง? เสียมารยาทสุด ๆ ไปเลยนะไอ้วิทย์”
ความสนิทสนมกันไม่มีใครถือสาใคร วิทยาโน้มตัวลงจับก้านแก้วใสขึ้นดมกลิ่นหอมขององุ่นที่มักบ่มมานาน ด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มก่อนยกขึ้นแตะริมฝีปาก จิบชิมทีละเล็กละน้อย
ฟาร์ม ‘พีควัลเลย์’ เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ด้วยบรรยากาศสุดแสนธรรมชาติท่ามกลางขุนเขา
ไวน์คุณภาพของเมืองไทยหมักบ่มจากองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ ใครจะรู้ว่าทีแรกนั้นนายทุนใหญ่นำเงินหมุนเวียนจากธุรกิจสีเทา ๆ มาลงไว้ เพื่อให้เงินพวกนั้นให้กลายเป็นเงินสะอาด
“เธอชื่ออะไร?” เสียงเข้มถามขึ้นมา ทำคนเป็นลูกน้องแปลกใจแต่ก็รีบตอบ
“คุณพายครับ”
“ชื่อ นามสกุล...”
“ขณิกา อรรถ..? อะไรสักอย่างน่ะครับ นามสกุลเธอยาวมาก เอ๊ะ..? นายไม่เคยถามชื่อใครนี่” ลูกน้องหนุ่มมีสีหน้างุนงงสุดๆ เพราะแม้แต่คู่นอนของนายแต่ละคน สาวคนโปรดนายยังเรียกหาแบบส่ง ๆ ยัยนางแบบ ยัยขายาว ยัยนมโต...
“ก็แค่ถาม มันจะไปแปลกอะไร เหมือนคุณกิ้บ... ฉันยังเรียกหล่อนว่าคุณกิ้บเลย” แก้ตัวพลางคว้าขวดสีเขียวเข้มรินลงในแก้วอีกใบหนึ่งให้ตัวของเขาเอง กลบเกลื่อนอาการโกหกที่คนสนิทนับสิบปีอย่างวิทยาต้องรู้
“นายเรียกยัยแม่บ้านนมโต... ผมเพิ่งได้ยินนายเรียกคุณกิ้บ เพราะว่าเธอแทนตัวเองว่ากิ้บแค่หนเดียว”
“แกจะมาเถียงฉันเรื่องชื่อให้มันได้อะไรล่ะ? หืม...” เลิกคิ้วถามพร้อมด้วยรอยแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ ร่างสูงโน้มตัวลงจับก้านแก้วทรงสวยขึ้น ยื่นไปข้างหน้าเพื่อแตะแก้วกับลูกน้องหนุ่มเบา ๆ พอวิทยาจิบชิมไวน์รสชาติดีอย่างชื่นใจ เขาถึงได้วนน้ำสีแดงสดไปมาอย่างนึกอารมณ์ดี ทว่าประกายไฟเดือดดาลปะทุขึ้นในดวงตา
“ไอ้โคแก่คิดจะกินหญ้าอ่อนสินะ... ฉันคงต้องรีบไปแย่งน้องพายมาซะแล้ว”
สามเดือนที่แล้ว...
“เลี้ยวซ้ายข้างหน้านี้ก็ถึงฟาร์มนายภพ รุ่นน้องพ่อแล้วล่ะ อย่าลืมที่พ่อบอกนะลูก” ปรีชาหันไปย้ำเรื่องสำคัญอีกครั้งหนึ่งในที่ข้างหลังของเขากับลูกสาว
“ค่ะพ่อ ห้ามพูดเรื่องรัก ๆ กับอาภพ เท่านี้สบายมาก พายทำได้ รูดซิบปิดปากสนิทไม่มีปัญหาแน่นอน” เสียงเจื้อยแจ้วตอบพลันส่งยิ้มหวาน มือกอดรัดแขนพ่อประสาคนช่างอ้อน ก่อนจะชะเง้อคอหาคนขับรถยนต์ส่วนตัวข้างหน้า “ลุงนิ่มไปเที่ยวกับพายด้วยนะ”
“ได้เลยครับคุณพาย”
ลุงนิ่มทำงานให้ครอบครัวอรรถจิรานนท์มานาน คอยรับส่งหญิงสาวมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ช่วงนี้คงบ่อยขึ้นพอขณิกามาอยู่เขาใหญ่กับครอบครัว ไปกรุงเทพเป็นบางครั้งบางคราวเฉพาะเวลาเข้าไปเคลียร์งานที่บริษัท
ปรีชาคิดว่าลูกสาวคงกำลังตื่นเต้นเพราะเป็นลูกคุณหนูผู้ดีมาแต่เกิด จึงเดินห้างสรรพสินค้าเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่เคยได้มีโอกาสท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ถึงได้รีบลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้า
ในเดรสสีครีมหวานเข้ากันกับหมวกปีกกว้างและกระเป๋างานแบรนด์เนมใบเล็กๆ ดวงตากลมโตเปล่งประกาย ริมฝีปากได้รูปอมชมพูแย้มยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“พายอ่านรีวิวก่อนมาแล้วพ่อ รีสอร์ตฟาร์มม้าของคุณอาสวยมาก ข้างในมีห้องพักเห็นภูเขา 360 องศาด้วยค่ะ เขาบอกกันว่าเป็นรีสอร์ตที่สวยที่สุดในเขาใหญ่”
คนพ่อเลื่อนมือไปจับมือเรียวเล็กของลูกสาวไว้ พลางเอ่ยชมไม่ขาดปาก “รับรองว่าลูกจะติดใจ จนต้องขอนอนชมวิวที่นี่บ่อย ๆ”
“แน่ ๆ เลยค่ะพ่อ นี่พอพายบอกเพื่อนในไลน์กลุ่มว่าจะมาที่นี่ ยัยฟ้ายัยพิมพ์อิจฉากันใหญ่ พ่อเลิกงานแล้วมาเที่ยวกับพายนะ”
“อืม... พ่อเสร็จงานแล้วจะโทรหา ฝากพายด้วยตานิ่ม ฉันขับรถไปทำงานเอง เย็น ๆ ฉันมารับแกกับพายเนอะ” ปลายเสียงบอกกับสารถีคนดีประจำบ้าน หนุ่มวัยหกสิบตอบรับด้วยรอยยิ้ม ผ่านกระจกมองหน้า
“ครับ ท่าน”
เป็นความหวังดีของพ่อที่กลัวลูกสาวเบื่อหน่ายระหว่างที่เขาติดภารกิจสำคัญ คดีใหญ่ระดับชาติ ตั้งแต่พลตำรวจเอกปรีชาพาครอบครัวย้ายมาลงหลักปักฐานอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ตัวของเขาเองก็ไม่ค่อยจะมีเวลา การพาลูกสาวมาเที่ยวมาฝากรุ่นน้องที่ฟาร์มม้าแห่งนี้ ลูกได้เที่ยวแล้วตัวเขายังไม่ต้องเป็นห่วงลูกสาวมาก
“ช่วงนี้เราเที่ยวให้หนำใจไปเลยนะ วันไหนพ่อกลับดึก จะได้ไม่ต้องอยู่รอ อยู่กับนายภพกับลูกสาวแกจะได้ไม่เหงา”
คุณหนูของบ้านยังคงมีสีหน้าสงสัยอยู่ “อืม... พ่อบอกว่ารู้จักอาภพมานานแล้วใช่เปล่า?”
“ตั้งแต่พ่อเป็นตำรวจใหม่ ๆ เลยล่ะลูก ตอนนั้นแก้วใจ เมียแกก็ยังอยู่ เป็นรุ่นน้องพ่อทั้งสองคนนั่นแหละ”
ในหน้าตาเข้มเครียดขึ้นเล็กน้อยพอเอ่ยถึงอดีตภรรยาของนายหัวฟาร์มม้า ปรีชารู้จักกับสองสามีภรรยาที่รักใคร่กันมาก เสียอยู่เรื่องเดียวคือพิภพเป็นคนสูบบุหรี่จัด ทว่าพอภรรยาต้องมาเสียชีวิตไปเพราะควันบุหรี่มือสอง เจ้าตัวจึงเลิกบุหรี่เป็นการถาวร
คุณพ่อนั้นแน่ใจว่าเพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักกันมานานนับหลายสิบปีจะดูแลลูกสาวเป็นอย่างดี ไม่มีนอกลู่นอกทาง โดยไม่ได้เอะใจอะไร...
กระทั่งใบหน้าสดสวยเผยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม หรี่ตาเล็กจนเหยียดตรง
“พายว่าพายเคยได้ยินอยู่ค่ะ นายหัวฟาร์มม้าเป็นคนดังละแวกนี้ แปลว่าตอนนี้คุณพิภพโสดน่ะสิ”
คนพ่อหัวเราะเสียงดัง “ตั้งแต่เมียตายตาภพก็อย่างนั้น อยู่คนเดียวน่ะสิลูก ทำไมรึ?”
“พายจีบเพื่อนพ่อได้เปล่า?”