“เซ็นซะ ถ้าอยากให้ฉันช่วยแฟนเธอ หรือจะไม่เซ็นก็ได้นะ ฉันจะให้คนไปส่งที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นก็เอาตัวเองให้รอดจากพวกเสี่ยกวงเถอะ” เขาบีบบังคับเธออีกหน
“ฉันจะเซ็น ตรงหน้าไหนบ้างคะ”
วรรณรวีกัดริมฝีปาก ข่มใจให้ทนการกดดันให้ได้
“ดีมาก เซ็นตรงนี้กับตรงนี้ สัญญาก็จะสมบูรณ์ทันที”
ทัศนัยยิ้มกริ่มขณะชี้นิ้วไปยังจุดที่ต้องเซ็นชื่อจนครบทุกแผ่น เขาดึงปากกากับเอกสารมาถือไว้ แล้วหมุนกายเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คู่สัญญาหมาดๆ ได้พักหายใจอยู่คนเดียวในห้องนั้น
“พี่พล วิวจำเป็นต้องทำเพื่อช่วยชีวิตพี่ อย่าโกรธวิวนะ”
เธอพึมพำบอกคนรักเสียงขื่น ภาวนาให้เขาปลอดภัยให้สมกับความเสียสละที่เธอได้ทำเพื่อเขา กว่าจะมีวันนี้เธอกับเขาต้องผ่านอุปสรรคมาด้วยกันหลายอย่าง ครอบครัวของเธอรังเกียจผู้ชายจนๆ อย่างพงศ์พล พ่อของเธอถึงกลับกล่าวหาว่าชายหนุ่มเป็นคนไม่ดี ไม่สมควรจะคบหาด้วย แต่ท่านไม่บอกเหตุผลว่าทำไมถึงได้กล่าวหาคนรักของลูกสาวแบบนั้น ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูครอบครัวของเธอเข้า พงศ์พลกับเธอคงไม่มีโอกาสได้แต่งงานกัน แค่หมั้นกันก็ขัดใจผู้ใหญ่มากแล้ว หากรู้ว่าพงศ์พลทำให้เธอต้องเดือดร้อน อนาคตที่จะได้อยู่ร่วมกันคงดับวูบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดึงคนตกภวังค์ให้รู้สึกตัว ก่อนที่ประตูจะเปิดออกแล้วร่างสูงใหญ่ของทัศนัยจะเดินเข้ามา
“เมื่อกี้ฉันโทรไปถามอาการของแฟนเธอให้แล้วนะ หมอบอกว่าอาการปลอดภัยดีแล้ว พักรักษาตัวอีกไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว” ทัศนัยนำข่าวดีมาบอก
“จริงเหรอคะ ขอบคุณมากนะคะ ฉันอยากไปเฝ้าพี่พลคุณช่วยให้คนไปส่งฉันได้ไหมคะ”
เมื่อรู้ว่าคนรักปลอดภัยวรรณรวีก็โล่งอก หญิงสาวมีสีหน้าคลายกังวลดูสดชื่นกว่าเดิมมาก
“ไปไม่ได้” ทัศนัยกางมือออก ขวางไม่ให้เธอเดินออกไป
“ทำไมคะ ไหนคุณบอกว่าถ้าฉันเซ็นสัญญาแล้ว จะช่วยพี่พลทุกอย่าง ฉันยอมเซ็นแล้วคุณน่าจะปล่อยให้ฉันไปดูแลพี่พล” หญิงสาวขยับถอยห่าง เริ่มรู้สึกหวาดระแวงเขาขึ้นมา
“เธอเซ็นสัญญาแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำตามสัญญา”
เขาเอ่ยเสียงขรึม ดวงตาคมดุจ้องมองใบหน้าของเธอนิ่ง บางอย่างในประกายของเขาทำให้วรรณรวีรู้สึกอึดอัด
“พรุ่งนี้ฉันจะไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับการทำกิ๊ฟ คุณติดต่อหมอที่โรงพยาบาลไหนไว้คะ"
“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งหมอ” เขากดยิ้มร้าย
“หมายความว่ายังไงคะ ฉันตกลงอุ้มบุญมีลูกให้คุณ ก็ต้องให้หมอผสมเทียมแล้วนำตัวอ่อนของเด็กฝากไว้ในท้องของฉันไม่ใช่หรือคะ”
หญิงสาวพอจะรู้ขั้นตอนการทำกิ๊ฟอยู่บ้าง เพราะเคยได้ยินพี่ๆ ในวงการที่ประสบปัญหามีบุตรยากเล่าถึงการทำกิ๊ฟให้ฟัง มันมีขั้นตอนวิธีการโดยแพทย์ เขาจะบอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้แพทย์ได้อย่างไร
“ฉันไม่ชอบวิธีผสมเทียม ฉันชอบผสมเอง ลูกของฉันคนเป็นพ่ออย่างฉันต้องผลิตเองสิ ถึงจะมั่นใจว่าเด็กที่เกิดมามีสายเลือดของฉันจริงๆ ไม่ใช่เอาเชื้อใครไปผสม” เขาตอบหน้าตาย แต่คนฟังหัวใจจะวาย
“คุณพูดเล่นใช่ไหม ฉันไม่ทำนะแบบนั้น ฉันขอยกเลิกสัญญา”
วรรณรวีส่ายหน้าปฏิเสธ หัวใจหล่นไปกองกับพื้น ใครจะบ้าไปให้เขาทำแบบนั้นล่ะ เขาจะมาตีขลุมเอาเองแบบนั้นได้อย่างไรกัน เธอไม่มีทางยอม
“เธอเซ็นสัญญาไปแล้ว ในสัญญาระบุว่าเธอยินยอมมีเพศสัมพันธ์กับฉันเพื่อมีลูกให้ฉัน เมื่อตั้งท้องและคลอดลูกออกมา เด็กจะกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของฉันแต่เพียงผู้เดียว ถ้าเธอยกเลิกสัญญาก่อนที่จะตั้งท้อง เธอจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้ฉันหนึ่งร้อยล้านบาท เป็นค่าเสียเวลาหรือค่าน้ำเชื้อที่เธอเอาไปแล้วไม่ได้ปฏิสนธิ”
เขาแจงรายละเอียดสัญญาที่เธอเพิ่งเซ็นไปเมื่อครู่นี้ให้ฟัง ทำเอาวรรณรวีถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความโมโหที่เสียรู้คนเจ้าเล่ห์
“คุณหลอกฉันให้เซ็นสัญญา” เธอชี้หน้าเขามือสั่น
“หลอกอะไร เธอเต็มใจเซ็นเองนะ หรือถ้าอยากยกเลิกสัญญาก็เอาเงินร้อยล้านมาแก้สัญญาสิ มีไหม”
เสี่ยกวงที่ว่าร้ายคงพ่ายเสี่ยทัศหนนี้ วรรณรวีเจ็บใจตัวเองที่เสียรู้คนเจ้าเล่ห์ร้ายกาจคนนี้ เขาช่วยคนรักของเธอโดยหวังสิ่งแลกเปลี่ยน ซึ่งมันก็คือร่างกายของเธอนั่นเอง!
“คุณมัน...” วรรณรวีสั่นไปทั้งตัวด้วยความโมโห
"ถ้าไม่มีปัญญาหาเงินมา ก็รีบถอดผ้าสิ ฉันอยากเห็นคามสวยของน้องวิวนางเอกดาวรุ่งชัดๆ "
ทัศนัยยกยิ้มหยัน มองใบหน้างามของคนใต้อาณัติสัญญาอย่างสมเพธเวทนาในความเขลาของเธอ วรรณรวีเข้าตำรา ‘สวยแต่โง่ นมโตแต่สมองเท่าเม็ดถั่ว’
“ฉันไม่ยอม... ไม่ยอมให้คุณทำแบบนั้นหรอก” วรรณรวีแผดเสียงใส่
“คิดดูให้ดี เธออยากให้แฟนเธอถูกพวกเสี่ยกวงฆ่าตายหรือไง เมื่อกี้ถ้าฉันไม่ช่วยไว้ ป่านนี้เธอก็ถูกพาตัวไปให้ไอ้เสี่ยนั่นปู้ยี่ปู้ยำ เงินก็ไม่ได้สักบาทแถมยังกลายเป็นตัวขัดดอกแบบไม่รู้ว่าจะมีทางรอดหรือเปล่า”
คำพูดของเขาทำให้คนฟังนิ่งคิดตาม เหตุการณ์น่ากลัวเมื่อครู่ทำให้เธอตัวสั่นด้วยความกลัวแข้งขาอ่อน จนต้องทรุดนั่งบนขอบเตียง
“ถ้าอยากให้มันรอด ก็เอาตัวเธอมาแลกชีวิตมันสิ!”