ตอนที่ 1. แลกสวาท1
“พี่ตายแน่ๆ ถ้าพวกมันไม่ได้เงิน คุณทัศนัยเป็นคนเดียวที่จะช่วยพี่ได้ แต่เขาอยากคุยกับน้องวิวก่อนถึงจะยอมช่วยพี่ ไปคุยกับคุณทัศนัยเถอะนะ”
พงศ์พลลงทุนคุกเข่าอ้อนวอนคนรัก ทำให้วรรณรวีไม่อาจนิ่งเฉย หากเธอมีเงินเธอคงช่วยเขาไปแล้ว แต่นี่เงินที่มีถูกพงศ์พลนำไปลงทุนจนหมด เขาบอกให้เชื่อมั่นในตัวเขาแต่ความเชื่อนั้นถูกทำลายลงไป เมื่อชายหนุ่มทำให้เงินก้อนนั้นสูญสลายลงไปกับการพนัน เธอไม่คิดว่าชายคนรักจะใช้วิธีลัดในการหาเงิน พงศ์พลกับเธอคบหากันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเขาเป็นรุ่นพี่เธออยู่สามปี หลังเรียนจบเขาได้งานในบริษัทของทัศนัยหรือเสี่ยทัศเจ้าของทีเอ็นเจมส์ ผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีส่งออกรายใหญ่ของประเทศ และมีหุ้นส่วนเหมืองเพชรในอินเดีย ทัศนัยร่ำรวยมากแต่ไม่ชอบเข้าสังคมจนได้ฉายาเศรษฐีแดนเถื่อน เพราะมักจะหมกตัวอยู่ในเกาะส่วนตัว นานๆ จะออกมาในเมืองสักครั้ง ธุรกิจส่วนใหญ่มีจิดาภาภรรยาเป็นคนดูแลให้ โดยพงศ์พลได้เข้ามาทำหน้าที่ผู้ช่วยของจิดาภา
พงศ์พลพาวรรณรวีไปพบกับทัศนัยที่บ้านพักของอีกฝ่าย แรกเห็นหน้าเจ้านายของแฟนหนุ่มวรรณรวีถึงกับตกตะลึงกับใบหน้ารกเรื้อราวกับโจรป่าของอีกฝ่าย ไม่คิดว่าทัศนัยจะปล่อยตัวเองให้มีสภาพดิบเถื่อนราวกับไม่ใช่เจ้าของกิจการใหญ่โตร่ำรวยมหาศาล ต่างจากจิดาภาภรรยาของเขาที่สวยมาก จิดาภาอายุมากกว่าเธอหลายปี แต่รักษารูปร่างและความงามไว้จนมองเผินๆ คล้ายคนวัยเดียวกัน หากเลือกเดินทางในวงการบันเทิงคงติดอันดับนางเอกแถวหน้า
“คุณทัศนัยนี่น้องวิวคู่หมั้นของผมครับ น้องวิวนี่คุณทัศนัยเจ้านายของพี่” พงศ์พลแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน
“พลออกไปรอข้างนอกก่อน ฉันอยากคุยกับแฟนเธอสองคน”
ทัศนัยโบกมือให้ลูกน้องออกไป ก่อนจะเริ่มคุยเรื่องสำคัญกับนางเอกสาวดาวรุ่ง
“เธอคงรู้ว่าฉันแต่งงานแล้วกับจีน่าเจ้านายของแฟนเธอ เราแต่งงานกันมาห้าปีแล้วแต่จีน่าสุขภาพไม่ดีมีลูกยาก”
ทัศนัยเริ่มต้นเล่าปัญหาของเขาให้วรรณรวีฟัง หญิงสาวรับฟังเงียบๆ อย่างสนใจ
“ฉันเป็นทายาทคนเดียวต้องมีผู้สืบสกุล ถ้าทางครอบครัวฉันรู้เรื่องนี้เข้าฉันกับจีน่าคงต้องหย่ากัน แต่ฉันรักจีน่ามากไม่อยากเลิกกับเธอ ถ้าเธอยอมช่วยอุ้มบุญให้ ฉันจะช่วยเรื่องหนี้สินของพงศ์พลเอง แลกกับการเก็บความลับเรื่องลูก เรื่องนี้ต้องไม่แพร่งพรายให้ใครรู้”
ข้อเสนอของทัศนัยทำให้วรรณรวีคิดหนัก เธอกำลังรุ่งในอาชีพการแสดงหากใครรู้ว่าตั้งท้องย่อมทำให้หมดโอกาสในวงการนี้ แต่ในเวลานี้จะหาเงินก้อนโตร่วมสิบล้านมาจากไหนเธอก็จนหนทาง หากเธอโด่งดังเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการคงไม่จนตรอก ต้องบากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่รู้จักแบบนี้
“แค่ทำหน้าที่แม่อุ้มบุญเท่านั้นใช่ไหมคะ” เธอถามอีกฝ่าย
“ใช่ แค่มีลูกกับฉันก็พอ หลังจากเธอคลอดฉันจะใส่ชื่อจีน่าเป็นแม่เด็ก เธอกับพลก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม ต่างคนต่างอยู่ สิบล้านคือค่าจ้างงวดแรก ถ้าคลอดฉันจะให้อีกสิบล้าน”
ทัศนัยหยิบสมุดเช็กมาเซ็นแล้ววางให้ต่อหน้า เหมือนวางปลาย่างล่อแมวหิวโซ
“พี่พลรู้ไหมคะ ว่าคุณขอให้ฉันอุ้มบุญให้”
วรรณรวีห่วงความรู้สึกของคนรัก แม้เขาจะทำให้เธอโกรธเพราะเอาเงินไปถลุงจนติดหนี้สินมากมาย แต่ความรักที่เธอมีให้เขาไม่ได้จางหายไป จนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขาปลอดภัย
“ไม่รู้ ฉันบอกพลแค่ว่าอยากให้เธอมาช่วยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ร้านทีเอ็นเจมส์ของฉัน เขาจะไม่รู้ถ้าเธอไม่บอก”
คำตอบของทัศนัยทำให้คนฟังใจชื้นขึ้น หากเธอยอมรับปากทำงานนี้ พงศ์พลต้องไม่รู้
“แล้วภรรยาคุณล่ะค่ะ เธอเห็นด้วยไหมกับการอุ้มบุญครั้งนี้”
คำถามนี้ทำให้ทัศนัยนิ่วหน้าเล็กน้อย ก่อนจะบอกเสียงเย็น
“จีน่าจะไม่รู้เรื่องนี้จนกว่าเธอจะคลอดลูก ฉันถึงให้ภรรยาฉันมาสวมรอยเป็นแม่ของลูก จีน่าคงรับไม่ได้หากรู้ว่า ฉันจ้างผู้หญิงมาอุ้มบุญให้ ฉันให้เวลาเธอคิดสามวัน ถ้าตกลงก็รับเช็กงวดแรกไปใช้หนี้ให้แฟนเธอได้เลย แต่คิดนานๆ อาจจะไม่ทันใจเจ้าหนี้นะ เสี่ยกวงเขาค่อนข้างโหดกับลูกหนี้จนขึ้นชื่อ เก็บไปคิดให้ดีๆ”
วรรณรวีกลับออกมาจากบ้านของทัศนัยอย่างครุ่นคิด เธออยากช่วยคนรักแต่ไม่อยากเอาตัวเองไปเสี่ยงกับการอุ้มบุญ เธอคงทำใจยกลูกให้ทัศนัยไม่ได้หากถึงเวลานั้นจริงๆ แต่ดูเหมือนทางออกของเธอจะแคบลงเมื่อพงศ์พลขับรถพ้นรั้วบ้านของทัศนัยไปทันจะออกไปถึงถนนหลวง รถกระบะคันหนึ่งก็แล่นมาขวางหน้า ทำให้พงศ์พลต้องหยุดรถกระทันหัน คนในรถกระบะราวห้าคน ลงมายืนล้อมกรอบรถไว้ จนพงศ์พลจำต้องเปิดประตูลงไปพูดคุยด้วย
“ไอ้พล เสี่ยกวงให้มาทวงหนี้ที่แกติดไว้ แกผิดนัดเสี่ยเลยเวลามาอาทิตย์หนึ่งแล้วนะ ถ้าไม่จ่ายวันนี้เสี่ยบอกว่าให้เก็บดอกเบี้ยมาก่อน”