หนูเล็กกำมือตัวเองแน่นอย่างคิดไม่ตก ในหัวตอนนี้มีแต่ความกังวลถ้าเกิดว่าไปเจอชายหนุ่มแล้วเขาจะทำอะไรเธอบ้างไม่อยากจะคิดเลย เป็นผู้หญิงของเขาต้องทำอะไรบ้างล่ะคงไม่ใช่….
“หรือว่าจะต้องนอนด้วย”
เธอลูบแขนตัวเองอย่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ก็เคยคิดว่าถ้าวันหนึ่งมีแฟนขึ้นมาจะมอบความบริสุทธิ์ให้แต่ไหงต้องมามอบให้ผู้ชายที่สารเลวข่มขู่คนอื่นเก่งแบบนั้นด้วย
“หรือว่าจะเปลี่ยนใจดี”
เธอมองไปโดยรอบของห้อง บริษัทนี้คุณพ่อท่านสร้างมาด้วยมือของตัวเองมีทุกอย่างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองทั้งนั้น แต่ต้องมาพังเพราะความไว้ใจที่เรียกว่าเพื่อนรักเนี่ยแหละ และถ้าเธอไม่รับข้อเสนอของเขาบริษัทของพ่อก็จะต้องปิดตัวลงไหนจะต้องมีประวัติล้มละลายอีกเพราะเห็นว่าล่าสุดต้องไปกู้แบงค์มาเพราะเพื่อนโกงเงินไปเนี่ยแหละ
หนูเล็กกุมขมับตัวเองไว้แน่นก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างทำใจ เธอจะไม่ทำให้บริษัทของคุณพ่อเสียหายเพราะฉะนั้นเธอยอมที่จะเอาร่างกายแลกทุกอย่างเพื่อยื้อไว้และหาโอกาสที่จะเอามันคืนมาจากเขาคนนั้น หญิงสาวลุกขึ้นนั่งตัวตรงสูดลมหายใจเข้าลึกๆเป็นยังไงก็เป็นกันเธอจะทำตามที่เขาต้องการทุกอย่างและภาวนาให้มันจบเรื่องนี้เร็วที่สุด
ทางด้านของคุณภวินเขาหยิบนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูและตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้วเขาลุกขึ้นเตรียมตัวออกไปเจอกับหญิงสาวตามที่นัดไว้ในใจก็คิดหาเรื่องแกล้งเธอสารพัดเพื่อสนองความสะใจของตัวเองโดยไม่แคร์ว่าเธอจะรู้สึกยังไงเพราะในสมองตอนนี้มันมีแต่ความอยากเอาชนะเท่านั้น
“นายจะกลับบ้านเลยหรือยังไงครับ”
“ไปโรงแรมสาขาหนึ่ง ไปส่งหน่อยแล้วก็ถ้าฉันจะกลับเดี๋ยวโทรไปเอง”
“ได้ครับ”
คุณริชเดินออกไปจากห้องทำงานของท่านประธานเตรียมของที่จำเป็นก่อนจะไปเอารถที่จอดอยู่โซนผู้บริหารแล้วมารับเจ้านายที่หน้าประตู ภวินออกจากห้องไปขึ้นรถที่หน้าประตูทางเข้าจากนั้นก็ตรงไปยังสถานที่นัดหมายกับหญิงสาว
และเมื่อมาถึงเขาก็ขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าที่โทรศัพท์ให้ทางผู้จัดการจองไว้ให้ เมื่อมาถึงก็เจอหนูเล็กรออยู่แล้วทำให้รู้สึกพอใจที่เธอมาตรงต่อเวลาดี
“ตรงต่อเวลาดีนี่”
“สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มอย่างน้อยเขาจะได้เอ็นดูเธอบ้างอาจจะล้มเลิกที่จะอยากเอาชนะเธอในตอนนี้ก็ได้
“นั่งเถอะแล้วสั่งอะไรหรือยังล่ะ”
เขาเดินไปนั่งลงตรงโซฟาข้างหญิงสาว เธอรู้สึกตัวเกร็งเล็กน้อยแต่ก็พยายามปกปิดความรู้สึกตัวเองเอาไว้ไม่ให้ชายข้างกายรู้สึกว่าเธอกำลังกลัวเขาอยู่
“ยังค่ะคุณสั่งเลย”
“เธอสั่งสิอยากกินอะไรก็สั่ง แพงๆก็สั่งไปเถอะ”
เธอเหลือบสายตามองชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้ามองเมนูอย่างสนใจ ก็เคยมานั่งกินกับเพื่อนครั้งสองครั้งแต่ว่าไม่มาบ่อยเพราะเป็นโรงแรมที่หรูและแพงมากไม่มีใครมานั่งชิวมากหรอกถ้าไม่มีเงินมากพอ
“สั่งเป็นเซ็ตก็ได้นะ แบบนี้เธอชอบมั้ย”
“อันนี้ก็ได้ค่ะ”
“เอานี่แหละ”
“สวัสดีค่ะคุณภวิน”
เขายิ้มให้พนักงานเล็กน้อยรับไหว้ก่อนจะส่งเมนูคืนไปให้ หญิงสาวมองซ้ายมองขวาอย่างสนใจเห็นว่าเป็นสาขาแรกน่าจะเป็นสาขาที่สวยที่สุดแล้วล่ะมั่งอยูใจกลางเมืองด้วย
“อุ้ย มีอะไรเหรอคะ”
ภวินยื่นมือไปเกลี่ยแก้มหญิงสาวนั่นทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยอย่างตกใจเพราะอยู่ๆเขาก็มาแตะเนื้อต้องตัวเธอไม่ได้บอกก่อน
“เปล่านี่จับตัวไม่ได้เหรอไง.. ไหนบอกมาเป็นผู้หญิงของฉันทำไมไม่ให้จับ”
“ขอโทษค่ะคือหนูไม่ชินเท่าไหร่ คือเราสองคนยังไม่รู้จักกันดีเลยมันรู้สึกเกร็งๆค่ะ”
เธอพยายามแก้ตัวแล้วก็ปล่อยให้เขาจับตัวเธอคงต้องฝึกไว้ให้ชินเพราะยังไงสุดท้ายเธอทำใจไว้แล้วว่าต้องโดนมากกว่านี้
“งั้นเหรอ… งั้นเรามาทำความรู้จักกันดีกว่าจะได้สนิทกันมากขึ้นไงดีมั้ย”
เขาโอบเอวหญิงสาวก่อนจะดึงเธอเข้ามานั่งใกล้ๆ จากนั้นก็ถามเรื่องส่วนตัวของเธอให้และก็แนะนำตัวเองด้วยจะได้แลกเปลี่ยนกัน และพอได้รู้จักกันมากขึ้นเธอจึงรู้ว่าเขารวยมากรวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย มิน่าล่ะถึงซื้อหุ้นพ่อเธอร้อยล้านโดยไม่คิดเลย เพียงแค่อยากเอาชนะเธอเขาใช้เงินจำนวนมากแลกมา ไม่ธรรมดาจริงๆ
ทั้งสองคนทานอาหารด้วยกันคุยกันไปจนเริ่มรู้จักกันมากยิ่งขึ้น และทั้งคู่ชอบกินชอบทานอะไรเหมือนกันจึงพอจะอยู่ด้วยกันได้
“อร่อยมั้ย”
“อร่อยค่ะ พึ่งรู้ว่าคุณเป็นเจ้าของที่นี่”
“อืม ของครอบครัวนะเผอิญว่าเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้องก็เลยสบายไม่ต้องมาแย่งมรดกกับพี่น้องคนไหน เธอก็ลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ”
เขาเอ่ยถามพร้อมกับยกไวน์ขึ้นดื่ม เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มแล้วมองไปรอบๆอย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อ
“กลับเถอะฉันอยากพัก”
“ค่ะ ถ้างั้นแยกกันตรงนี้นะคะ”
หนูเล็กยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ในที่สุดเธอจะได้กลับบ้านสักที ไม่ใช่ว่าอยู่กับเขาแล้วมันไม่ดีหรืออึดอัดแต่เธอยังไม่ชินที่ต้องอยู่กับผู้ชายโดยเฉพาะคนแบบเขาด้วย
“แยกกันอะไรวันนี้เธอต้องไปค้างกับฉันที่บ้านนะ”
“อะไรนะคะ! ทำไมฉันต้องไปด้วย”
“ก็เธอเป็นผู้หญิงของฉันก็ต้องนอนกับฉันสิ ทำไมหรือว่าจะไม่ทำตามที่พูด แล้วแต่นะฉันไม่ซีเรียสนะ”
หนูเล็กอึ้งไปทันทีอย่างพูดไม่ออก เธอคิดว่าวันนี้แค่มาทานข้าวด้วยกันซะอีก นี่จะให้ไปนอนค้างด้วยเลยเหรอมันจะเร็วเกินไปรึเปล่า
“มันเร็วไปมั้ยคะคุณภวิน ฉันว่า…”
“ไม่นะไม่เร็วเราเจอกันสองสามครั้งแล้วไม่เร็วแล้วแหละ”
เขาตีหน้ามึนก่อนจะเรียกพนักงานให้มารับบัตรไปชำระเงิน จากนั้นเขาก็พาหญิงสาวไปขึ้นรถที่หน้าทางเข้าซึ่งมีผู้ช่วยของเขารออยู่แล้ว
ตลอดทางหนูเล็กนั่งตัวสั่นอย่างรู้สึกกลัว เธอไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อนด้วยซ้ำแล้วเค้าทำกันยังไงบ้างล่ะเธอเกร็งไปหมด และเมื่อมาถึงที่บ้านเธอก็เดินตามเข้าไปชั้นบนและน่าจะเป็นห้องนอนของเขา จะเรียกว่าบ้านก็ไม่ถูกน่าจะเป็นคฤหาสน์มากกว่า
“อ๊ะ!คุณภวินอย่าค่ะ”
เธอรีบร้องห้ามเขาทันทีเมื่อเข้ามาถึงห้องนอนก็จู่โจมเข้ามาหาเธอจนตั้งหลักไม่ได้ เขาผละออกเล็กน้อยอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะเอ่ยออกมาติดรำคาญ
“อะไรอีกล่ะ”
“คือให้เวลาฉันหน่อยสิคะ คือเรายังไม่รู้จักกันดีพอเลย”
“นี่ก็ดีพอแล้วนะยังต้องรู้อะไรอีก”
เขามองเธออย่างสงสัย จะต้องรู้จักกันมากขนาดไหนล่ะถึงจะเรียกว่าเพียงพอ
“คือหนูยังไม่พร้อมค่ะ”
“เรื่องมากจังเธอเนี่ย ให้เวลาหน่อยก็ได้ว่าแต่เรามาทำข้อตกลงกันก่อน ในระหว่างที่เธอเป็นผู้หญิงของฉันห้ามไปนอนกับผู้ชายคนอื่นเพราะฉันกลัวติดโรค ถ้าฉันรู้ขึ้นมาเอาเธอตายแน่”
เขาขู่หญิงสาวเสียงต่ำอย่างกดดัน ถ้าเขารู้ว่าเธอไม่ได้มีเขาคนเดียวรับรองว่าเอาเรื่องแน่นอน หนูเล็กกัดริมฝีปากตัวเองไว้ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“หนูไม่เคยนอนกับผู้ชายค่ะ”
“ก็ดีจะได้ไม่ต้องไปตรวจโรคไง”
“งั้นคุณก็ห้ามไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน”
“มีสิทธิ์อะไรมาต่อรองไม่ทราบ หืม”
เขาขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะหอมแก้มเธออย่างแผ่วเบา หญิงสาวมองสบตากับเขาก่อนจะเอ่ยเสียงจริงจัง
“คุณไม่คิดว่าฉันก็กลัวติดโรคร้ายเหมือนกันเหรอคะ”
“นี่เธอ!”
เขาอึ้งไปอย่างเถียงไม่ออก เพราะถ้าเทียบกันแล้วความเสี่ยงน่าจะเป็นเขามากกว่าที่จะเป็นเธอ ภวินมองหน้าหญิงสาวที่จ้องหน้าเขาเช่นกันเหมือนจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ในเรื่องนี้เขาก็เลยต้องยอมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เออ ก็ได้ๆ”