หนูเล็กลากกระเป๋าลงมาจากบันไดคนเดียวโดยมี่ภวินจะช่วยแต่ก็ไม่ยอมเอาแต่ไล่เขาให้ไปไกลๆไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายด้วยอีก
“หนูเล็กคะพี่ขอโทษ พี่ผิดเองที่ไม่เคลียร์ให้มันจบๆปล่อยคาราคาซังไว้แบบนี้ พี่จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยหนูไปพักผ่อนที่บ้านก่อนสักวันสองวันก็ได้แล้วจะไปรับนะโอเคมั้ยคะ”
เขาเดินตามหญิงสาวไปอย่างง้องอนแต่เธอไม่สนใจลากกระเป๋าลงไปจนถึงชั้นล่างก็เจอนิวเยียร์ยืนกอดอกมองเธอด้วยสายตาสมเพช
“โชคดีนะจ้ะไปแล้วไปรับอย่างกลับมาอีกละ”
เธอเบะปากใส่อย่างหมั่นไส้ก่อนจะหันไปควงแขนภวินที่ยืนอยู่เคียงข้างหญิงสาว เขาพยายามดันตัวเธอออกก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงหนูเล็กที่มองมาด้วยสายตาไม่พอใจสุดขีด
“ไปเอารถมาสิคะหนูจะได้รีบไป”
“หนูเล็ก…”
“รีบไปสิคะ”
เธอมองหน้าเขาอย่างกดดัน ภวินถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปเอารถที่จอดอยู่มารอรับหญิงสาวหน้าประตู หนูเล็กหันไปมองหน้านิวเยียร์ที่ตอนนี้มองเธอด้วยสายตาแห่งชัยชนะ
“ฉันรู้นะว่าหล่อนไม่ใช่แม่บ้าน แต่ก็เอาเถอะผู้หญิงที่เป็นดอกไม้ข้างทางเขากินเล่นๆแป๊บเดียวก็เบื่อ ฉันก็เห็นใจเธอนะแต่ว่าช่วยไม่ได้เพราะเขาเป็นของฉัน”
เธอเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจในตัวเองมาก คนที่มาก่อนจะต้องชนะคนที่มาหลังแน่นอนเธอมั่นใจ หนูเล็กเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวตรงหน้าก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“ฉันเห็นใจคุณมากเลยนะคะเพราะท้ายที่สุดคุณภวินต้องเลือกฉัน เพราะอะไรนะเหรอคะ… เพราะว่าฉันกำลังท้องลูกของเขาอยู่ไง”
หญิงสาวยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะลากกระเป๋าออกไปจากตัวบ้านทันที นิวเยียร์ได้ยินแบบนั้นก็อ้าปากค้างอย่างตกใจ เธอมองตามหนูเล็กไปก่อนจะปาของตามไปอย่างทำอะไรไม่ถูก
“ฉันไม่เชื่อแกหรอกนังบ้า! ภวินไม่ปล่อยให้แกท้องหรอก กรี๊ดดดดดด”
หนูเล็กเดินออกมาข้างนอกและได้ยินเสียงกรีดร้องของนิวเยียร์ก็ยิ้มออกมาอย่างสะใจ คิดว่าเป็นต่ออยู่หรือไงคนอย่างเธอไม่มีทางจนมุมและไม่มีทางยอมแพ้ใครทั้งนั้น ภวินจอดรถวิ่งลงมาช่วยหญิงสาวถือของเธอปรับสีหน้าให้เย็นชาก่อนจะทำหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
“พี่ช่วยค่ะ”
เธอเบือนหน้าหนีไปอีกทางเดินขึ้นรถไปไม่ยอมคุยกับเขาอีก ชายหนุ่มไม่รู้จะทำยังไงตอนนี้คงต้องเออออไปก่อนแต่ต้องจัดการนิวเยียร์รีบเคลียร์กับเธอให้เร็วที่สุดไม่อย่างนั้นปล่อยไว้นานเธอจะไม่ไปไหนแน่นอน
“ไม่คุยกันจริงเหรอ… พี่สาบานเลยนะว่าบอกเลิกกับเธอไปแล้ว ไม่ได้คุยกันเกือบสองเดือนแล้วมั่งอีกอย่างนิวเยียร์ก็มีนายแบบที่ควงอยู่พี่ก็มีหนูจะกลับมาหากันได้ยังไงจริงมั้ย”
“ไม่รู้สิคะมันเป็นเรื่องของคุณกับผู้หญิงคนนั้นไม่เกี่ยวกับหนูสักหน่อย”
เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เบือนหน้าไปทางอื่นและตลอดทางจนถึงบ้านหนูเล็กไม่ยอมคุยกับชายคนรักเลยแม้แต่น้อย ในความเงียบมันมีแต่ความอึดอัดเต็มไปหมดเขาคิดกังวลตลอดทางว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงมันถึงจะมีทางออกที่พอใจทั้งสองฝ่าย
และเมื่อมาถึงที่บ้านของหนูเล็ก เธอลงจากรถก็วิ่งเข้าไปในบ้านทันที ภวินถือกระเป๋าตามไปก่อนจะยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่ทั้งสองคน
“เกิดอะไรขึ้นทำไมหนูเล็กดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”
“ผมขอโทษครับคุณพ่อคุณแม่ พอดีว่าเกิดเรื่องนิดหน่อยผมจะรีบกลับไปเคลียร์ ยังไงฝากน้องสักสองสามวันนะครับผมจะรีบมารับ”
ภวินยกมือไหว้ขอโทษขอโผยคุณพ่อคุณแม่และขอฝากหญิงสาวไว้ที่นี่สักพักจะได้รีบกลับไปเคลียร์ทุกอย่างให้จบ พวกท่านหันไปมองหน้ากันอย่างมึนงงไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกันแต่ว่าถ้าเคลียร์ได้ก็ดีไป
“แม่ดูให้ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงก็รีบเคลียร์กันปล่อยไว้นานมันไม่เป็นผลดีต่อใคร”
“ครับคุณแม่ผมจะรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย งั้นฝากน้องด้วยนะครับผมขอตัวก่อน”
เขายกมือไหว้บอกลาผู้ใหญ่ก่อนจะส่งกระเป๋าหนูเล็กไปให้จากนั้นก็เดินไปที่รถแล้วขับเดินทางกลับไปที่บ้านเพื่อนเคลียร์กับนิวเยียร์ให้รู้เรื่อง หญิงสาวมองออกไปนอกระเบียงเห็นรถเขาเคลื่อนที่ออกไปภายในใจก็เป็นกังวลว่าถ้าเขากลับไปที่บ้านตอนนี้แล้วเกิดเคลียร์กันได้ ทั้งสองคนกลับไปคืนดีกันเธอจะทำยังไงต่อนั่นเป็นเรื่องที่คิดไม่ตก เพราะฉะนั้นเธอจะต้องทำให้เขาไม่ไปใกล้ผู้หญิงคนนั้นจะปลอดภัยที่สุด เธอกดส่งข้อความไปหาภวินหนึ่งประโยคซึ่งทำให้เขาถึงกับต้องจอดรถข้างทางอย่างรวดเร็ว
‘รีบกลับไปหาแฟนเก่าเหรอคะ อ่อ ไม่ใช่สิแฟนคนปัจจุบันเพราะยังไม่เลิกกัน ถ้าคุณกลับไปหาก็ขอให้โชคดีนะคะแล้วไม่ต้องมาเจอกันอีก หนูเล็กก็จะไปตามทางของตัวเองเหมือนกัน’
ภวินวางโทรศัพท์ลงก่อนจะกุมขมับตัวเองไว้แน่นอย่างคิดหนัก ถ้ากลับไปที่บ้านตอนนี้หนูเล็กต้องระแวงกลัวว่าเขาจะกลับไปหานิวเยียร์แน่นอนเพราะฉะนั้นคืนนี้เขาคงต้องไปนอนที่อื่น แต่ว่าตอนนี้เครียดมากไปหาเพื่อนหาที่ปรึกษาดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็หยิบโทรศัพท์กดไปหาหญิงคนรักอีกครั้งเพื่อให้เธอสบายใจว่าคืนนี้เขาไม่ได้กลับไปนอนที่บ้าน
‘พี่ไม่ได้กลับบ้านค่ะไปหาไอ้แบล็คที่ร้านเหล้าไม่ต้องกังวลนะ พรุ่งนี้ค่อยไปเคลียร์ตอนเช้าถ้าหนูไม่ไว้ใจเดี๋ยวพี่โทรไปหาเลยโอเคมั้ย’
หนูเล็กหยิบโทรศัพท์กดอ่านข้อความที่เขาส่งมาก่อนจะยิ้มออกมาแก้มปริ เพียงแค่นี้เธอก็สบายใจแล้วแต่เพื่อความมั่นใจว่าเขาจะไม่มีทางไปไหนจากเธอก็ต้องใช้แผนที่สอง ซึ่งรับรองว่าเขาน่าจะไปไหนไม่รอดแน่…
หนูเล็กหยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาเพียวเร่เพื่อนสนิทของเธอเพื่อฝากดูแลคนรักของเธอหน่อย อย่าให้ออกนอกลู่นอกทางไปไหนถึงจะโกรธยังไงเขาก็เป็นพ่อของลูกและที่ทำเพียงแค่อยากเอาคืนเขาเท่านั้น
(ว่าไงจ๊ะเพื่อนรัก คิดถึงเหรอ)
“อืมคิดถึงมากเลย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันเลยอ่ะว่างจะไปหานะ”
(อ่าว เห็นพี่แบล็คบอกว่าพี่ภวินโทรศัพท์มาเมื่อกี้เองบอกว่าจะมาหาที่นี่ก็นึกว่าแกมาด้วย)
เพียวเร่ทำหน้ามึนงงอย่างแปลกใจ ปกติเห็นตัวติดกันตลอดก็เลยคิดว่าจะมาด้วยกันซะอีก หนูเล็กเดินไปนั่งลงบนเตียงยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกไปเสียงหวาน
“พอดีว่าไม่ค่อยสบายนะก็เลยไปไม่ได้”
(เป็นอะไรแกทำไมถึงไม่สบาย เป็นไรมากมั้ย)
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกก็แค่แพ้ท้องเอง”
เพียงเร่ได้ยินแบบนั้นก็ร้องกรีดออกมาเสียงดังลั่นร้านอย่างตื่นเต้น ไม่คิดว่าจะท้องเร็วขนาดนี้เธอก็อยากมีนะแต่คิดว่าเร็วไปเพื่อนแซงหน้าไปก่อนซะงั้น
(อร๊ายยยย แกท้องหรอหนูเล็ก แบบนี้ฉันก็กำลังจะมีหลานนะสิ กรี๊ดดดด)
“เตรียมรับขวัญหลานไว้ด้วยล่ะ ถ้าพี่ภวินเค้าไปที่ร้านแกก็แสดงความยินดีกับเค้าสิจะได้เป็นพ่อคนแล้วอ่ะ”
(โอเค เดียวถ้าเจอจะแซวสักหน่อย งั้นแกพักผ่อนเถอะหนูเล็กดูแลตัวเองด้วยไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะทำอะไรก็คิดเยอะๆเข้าใจมั้ย)
เพียวเร่บ่นออกมาอย่างเป็นห่วง คนคบกันมานานก็รู้จักนิสัยกันดีเป็นธรรมดา ที่เธอบ่นก็เพราะว่าเป็นห่วง
“รู้แล้วน่าจะดูแลตัวเองอย่างดีที่สุดนะไม่ต้องห่วง ยังไงอย่าลืมแสดงความยินดีกับพี่ภวินด้วยนะ”
(โอเค เดี๋ยวถ้าเจอจะพูดเลย)
หนูเล็กยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะกดปิดโทรศัพท์ของตัวเองทันที ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเขารู้ว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นพ่อคนจะแสดงออกแบบไหนกันนะ….