หลังจากวันนั้นภวินก็ไม่ใส่น้ำหอมอีก และต้องให้แม่บ้านเปลี่ยนน้ำยาปรับผ้านุ่มใหม่เอากลิ่นที่คนรักของเขาชอบที่สุด เอาจริงเขาก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรแต่พอบอกว่าจะพาไปหาหมอก็โกรธเขาบอกว่าไม่เป็นอะไรทั้งนั้นเขาจึงไม่อยากทะเลาะกับเธออีก
“ท่านครับนี่เป็นมะม่วงเปรี้ยวแล้วก็ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวผมหามาได้เท่านี้แหละครับ”
“ขอบคุณมากเลยนะคุณริช”
เขายิ้มออกมาอย่างดีใจจะได้รีบเอาไปให้หญิงคนรักเธอจะได้อารมณ์ดีและใจเย็นลงเมื่อเห็นของอร่อย ช่วงนี้เธอเหวี่ยงหนักมากเขาจึงหาของอร่อยมาทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น
“ว่าแต่คุณภวินเอาไปทำอะไรนักหนาครับ มันเปรี้ยวมากเลยนะผมว่า”
“เอาไปให้หนูเล็กกินนะสิ ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้อยากกินแต่ของเปรี้ยวแถมยังเหวี่ยงเก่งมากด้วย ผมพยายามไม่หาเรื่องเธอแล้วก็ตามใจทุกอย่างแต่ยังไม่พ้นโดยด่าว่าสนใจเธอน้อยลงอีก”
เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ พยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะไม่เพียงพอ ปกติหนูเล็กเป็นคนที่มีเหตุผลและไม่งี่เง่าขนาดนี้เขาจึงสงสัยว่าเธอเป็นอะไรนักหนาถึงได้กลายเป็นแบบนั้น หรือว่าเขาควรจะไปปรึกษาคุณหมอ
“หรือว่าผมควรไปปรึกษาคุณหมอ”
“ผมว่าไม่น่าจะมีอะไรหรอกครับ แต่ถ้าคุณไม่สบายใจก็ลองคุยกับคุณหมอดูก็ได้นะครับเผื่อเขาช่วยได้”
คุณริชแนะนำให้ปรึกษาผู้เชียวชาญดีกว่าถ้ามาคาดเดาแบบนี้อาจจะไม่รู้ความและอาจจะปล่อยเวลาเสียไปซะเปล่า เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะตัดสินใจว่าจะพาคนรักไปหาคุณหมอให้มันรู้ไปเลยว่าเธอเป็นอะไรกันแน่
ทางด้านของหนูเล็กวันนี้เธอไม่ได้ออกไปทำงานเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายและอาเจียนไม่หยุด แต่ที่น่ากังวลไม่ใช่เรื่องที่เธออารมณ์แปรปรวนหรืออาเจียนแต่มันเป็นเรื่องประจำเดือนที่ไม่มาเหมือนปกติ
“ทำไมประจำเดือนไม่มาก็ถึงเวลาแล้วนะ”
เธอเปิดปฏิทินดูอย่างสงสัย ควรจะมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วด้วยซ้ำถ้าจะมาช้าขนาดนี้ไม่ควรจะผ่านเลยไปเกือบสองอาทิตย์แบบนี้ เธอรู้เลยว่าร่างกายผิดปกติแน่นอนและที่กังวลมากที่สุดคือเรื่องนี้แหละ เธอหยิบโทรศัพท์กดโทรไปคุยกับคุณแม่อยากจะปรึกษาคนที่ผ่านชีวิตมาก่อนน่าจะไดีอะไรดีๆ
(ว่าไงลูกมีอะไรรึเปล่า)
“แม่คะประจำเดือนหนูไม่มาสองอาทิตย์แล้วค่ะ ไม่รู้ว่าทำไม”
(ตรวจครรภ์สิเราป้องกันรึเปล่า ไปอยู่กับเค้าทุกวันแบบนั้นถ้าไม่ป้องกันตัวเองก็เรียบร้อยจ้ะ)
คุณแม่เอ่ยออกมาเสียงเรียบก็ไม่ตกใจเท่าไหร่เพราะภวินพาลูกสาวของเธอไปอยู่ด้วยทุกวันแบบนั้น อีกอย่างชายหญิงนอนด้วยกันทุกคืนคงไม่นอนจับมือกันหรอก
“ตรวจครรภ์เลยเหรอคะแม่”
(แน่นอนที่สุดจ้ะ อาการทุกอย่างหนูใช่หมดเลยนะลูกไปโรงพยาบาลก็ได้หรือไม่อย่างนั้นก็ร้านขายยาลองตรวจเองดูก่อน บางทีอาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้อย่าปล่อยไว้มันจะอันตราย)
“ขอบคุณค่ะคุณแม่ งั้นหนูไปร้านขายยาก่อน”
(มีอะไรก็โทรหาแม่นะ แล้วถ้าท้องก็ต้องบอกพ่อภวินเค้าด้วย จะได้รีบแต่งงานกันให้เร็วที่สุด)
“ค่ะแม่”
เธอกดวางสายก่อนจะรีบไปร้านขายยาซื้ออุปกรณ์ในการตรวจครรภ์มาหลายชิ้น เธอต้องการให้ชัวร์ที่สุดว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด แต่บอกเลยว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงมากเพราะเธอไม่ได้กินยาคุมและเขาไม่ได้ป้องกันด้วย
หลังจากที่ซื้อมาเธอก็ทำตามคำแนะนำของเภสัชกรทำตามทุกขั้นตอนก่อนจะมาลุ้นผลตรวจอยู่หน้ากระจก และก็ไม่ต้องลุ้นเพียงแป๊บเดียวเท่านั้นทุกอันขึ้นตรงกันหมดคือสองขีด
“ท้องจริงด้วย”
เธอเข้าแทบทรุดลงกับพื้นเมื่อสิ่งที่เธอไม่คาดคิดว่าจะมากลับมาเสียได้ บางคนลุ้นมาสิบปียังไม่ท้องสักทีทำไมของเธอถึงมาเร็วขนาดนี้
“โอ๊ยยย ทำยังไงดีเนี่ย”
เธอมองตัวเองในกระจกอย่างเป็นกังวล เรื่องแฟนเก่าของเขายังไม่เคลียร์เลยเธอจะมาท้องตอนนี้ได้ยังไง หญิงสาวทำลายหลักฐานทุกอย่างก่อนจะเดินมานอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า
“ทำไรไม่ได้แล้วล่ะมั่ง คงต้องบอก…”
หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนเพราะวันนี้เธอแพ้ท้องหนักมากกินอะไรก็ไม่ได้เลย คงต้องนอนพักให้หายเหนื่อยก่อนจะคิดไปถึงเรื่องใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น และเขาต้องรับรู้ในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป…
ภวินเดินทางกลับมาถึงที่บ้านถือขอเปรี้ยวทุกอย่างติดมือมาและส่งให้แม่บ้านข่วยเตรียมเป็นจานใหญ่จะได้เอาไปให้หญิงสาวกินให้อารมณ์ดี
“ฝากจัดการให้ด้วยครับ ว่าแต่คุณหนูเล็กอยู่ที่ไหนเหรอ”
“ในห้องค่ะอาเจียนไม่หยุดเลยค่ะ น่าจะเหนื่อยอาการน่าเป็นห่วงนะคะคุณภวินพาไปโรงพยาบาลเถอะกลัวว่าจะเป็นอะไรมาก”
แม่บ้านเอ่ยออกมาอย่างห่วงใยหญิงสาว เห็นสภาพแล้วสงสารมากควรจะพาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคถ้าไม่เป็นไรมากก็ดีไป แต่อาการแบบนี้เหมือนจะเป็นข่าวดีมากกว่า เพราะมันเหมือนเพื่อนของเธอตอนที่แพ้ท้องลูกคนแรกเลย
ชายหนุ่มเดินขึ้นมาในห้องนอนมองหาหญิงสาวก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเจอเธอกำลังแต่งตัวอยู่ หนูเล็กเห็นก็ยิ้มกว้างออกมาทันที
“มาแล้วเหรอคะคุณภวิน”
“กลับมาแล้วค่ะ เป็นยังไงบ้างเห็นว่าอาเจียนไม่หยุดเลย พี่พาไปโรงพยาบาลดีกว่ามั้ยถ้าเกิดว่าเป็นอะไรมากมันไม่คุ้มเลยนะ”
เขาเดินมาสวมกอดเธอจากทางด้านหลังช่วงนี้เข้าใกล้ได้เพราะไม่ใส่น้ำหอมเนื่องจากอยู่ๆหนูเล็กก็เหม็นขึ้นมาซะอย่างนั้น เธอพยักหน้ายิ้มๆอย่างอารมณ์ดีก็คิดว่าจะชวนเขาไปโรงพยาบาลนั่นแหละให้คุณหมอตรวจให้ชัวร์จะได้รู้พร้อมกันไปเลย
“ไปสิคะตอนนี้เลย”
“โอเค งั้นไปกันค่ะ”
เขากุมมือหญิงสาวเดินไปด้วยกันชั้นล่าง ชายหนุ่มคอยดูแลประคองเธอลงไปกลัวว่าจะเป็นลมล้มพับไปจะแย่กว่าเดิมอีก และเมื่อมาถึงชั้นล่างแม่บ้านก็เดินมาหาทั้งสองคนด้วยสีหน้ากังวล
“คุณภวินคะ”
“ว่าไง… มีอะไรรึเปล่าครับ”
เขามองอย่างสงสัย แม่บ้านมองไปยังประตูห้องรับแขกส่งซิกให้เขารู้ตัวแต่ไม่พูดอะไร ภวินนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปดูตามสายตาของเธอ
“เดี๋ยวพี่มานะคะ”
“ค่ะ”
ภวินเดินตรงไปยังห้องรับแขกก่อนจะตาโตอย่างตกใจเมื่อผู้หญิงที่อยู่ในห้องรับแขกก็คือนิวเยียร์คนรักเก่าของเขานั่นเอง
“นิวเยียร์…”
“ไฮเบบี๋ นิวเยียร์กลับมาหาคุณแล้วค่ะ”