บทที่ 03 ให้ยืม
@The Base Condo
“ชวนกินเบียร์แบบนี้ เพราะยังลืมไม่ได้?”
“เปล่า…”
ซินเนียร์ละสายตาจากวิวตอนกลางคืนที่มองผ่านระเบียงห้องพักของคอนโดหรูมามองหน้าเพื่อนสนิทในขณะที่มือเล็กยังคงถือกระป๋องเบียร์ เธอจึงพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วก้าวเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเพื่อน
“หลังจากที่ฉันหนีไปพักใจถึงพัทยากลับมาก็โอเคขึ้นนะ แต่พอเจอหน้าเขาวันนี้… ฉันแค่รู้สึกเสียดายเวลา ไม่ได้รู้สึกอาลัยอาวรณ์อยากได้เขาคืนนะ แค่รู้สึกว่าทำไมฉันต้องเอาเวลาเป็นปีไปคุย ไปชอบผู้ชายแบบนั้นด้วย”
“อืม… ฉันเข้าใจแกนะ สิ่งที่พี่เขาทำถ้าให้พูดตรงๆ คือเหี้ยมาก มีที่ไหนวะคบกับผู้หญิงคนหนึ่งแต่ลับหลังพาผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเข้าโรงแรม”
“เหอะ! โง่มาตั้งนาน” หญิงสาวส่งเสียงหัวเราะในลำคอด้วยท่าทางเย้ยหยันราวกับนึกสมเพชกับความรักครั้งแรกในชีวิตที่คิดว่าจะดีของตัวเอง
มือเล็กจึงยกกระป๋องเบียร์ในมือเข้าปากอึกใหญ่หวังให้ความขมของแอลกอฮอล์เข้าไปล้างความรู้สึกโกรธแค้นในใจ
ตอนที่เธอจับได้ว่าแฟนเก่าชอบความสัมพันธ์แบบวันไนต์แสตนด์ ก็ได้รู้ว่าเขาทำแบบนั้นมาตลอดทำตั้งแต่คุยกับเธอจนเปลี่ยนสถานะมาเป็นแฟนกัน ต่อหน้าเธอเขาเป็นผู้ชายแสนดี อบอุ่น ให้เกียรติเธอทุกอย่างทว่าลับหลังชอบหิ้วผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเข้าโรงแรม
“แต่เอาจริง ฉันไม่ควรมานั่งเสียดายเวลาแบบนี้เลย” คนตัวเล็กว่าจบก็เลื่อนกระป๋องเบียร์ในมือที่ดื่มจนหมดกระแทกลงบนโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง “ในเมื่อหลงผิดแล้วก็ปล่อยไป”
“เริศ มันต้องแบบนี้” สมายยกนิ้วโป้งให้เพื่อนด้วยรอยยิ้มอย่างเห็นด้วย “มัวแต่นั่งเสียดายวันเวลาเก่าๆ แล้วเมื่อไหร่จะได้เริ่มต้นใหม่กับผู้ชายที่ดีล่ะคะ”
“หึ…”
“ไหนๆ พรุ่งนี้เราสองคนก็มีเรียนบ่ายแล้ว วันนี้มาดื่มฉลองที่แกกลับมาโสดเป็นเพื่อนฉันเหมือนเดิมดีกว่า”
ซินเนียร์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอดีขึ้นก็เป็นเพราะเพื่อนสนิทคนนี้ มือเล็กจึงคว้ากระป๋องเบียร์บนโต๊ะ ทว่าก็ชะงักเมื่อเห็นว่าเบียร์ของตัวเองหมดแล้ว
“อ้าว…หมดแล้วเหรอ” หญิงสาวพึมพำเสียงเบา เธอกวาดสายตามองพื้นระเบียงห้องก็เห็นแค่กระป๋องเบียร์เปล่าที่ดื่มจนหมดวางกระจัดกระจาย บนโต๊ะก็มีเพียงขนมเอาไว้ทานเล่นคู่กับเบียร์
“เดี๋ยวฉันไปซื้อเอง”
“ไม่เป็นไร แกรออยู่ตรงนี้แหละฉันเป็นเจ้าของห้องเดี๋ยวบริการเอง” พูดจบร่างบอบบางที่อยู่ในชุดกางเกงยีนขาสั้นพอดีตัวกับเสื้อเอวลอยสีขาวก็ผลุนผลันลุกขึ้น “แกเอาไรเพิ่มเติมมั้ย?”
“เอาแค่นั้นแหละ ขนมเรายังเหลือ แต่แกไหวใช่ไหม ไม่ใช่ว่าไปล้มหน้าเซเว่นนะ”
“ไม่ได้เมาขนาดนั้นเพิ่งกินไปสามกระป๋องเอง”
“แหม พูดเหมือนกินเก่ง”
“ไปละ เดี๋ยวมา” ซินเนียร์เอ่ยบอกเพื่อนแค่นั้นเพื่อตัดบทสนทนา เพราะเธอกลัวว่าถ้าคุยต่อจะไปไม่ถึงเซเว่นที่ตั้งอยู่หน้าคอนโดสักที จึงตัดสินใจก้าวเดินเข้าไปในห้องพักคว้ากระเป๋าสตางค์และคีย์การ์ดห้องตัวเองไปใส่รองเท้าให้เรียบร้อย
ระหว่างเดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล่างเธอก็ยกมือนวดขมับเพื่อตั้งสติไปด้วย ถึงจะไม่ได้เมาแต่ก็รู้สึกมึนๆ เล็กน้อย
หลังจากเลือกของที่ต้องการเสร็จหญิงสาวก็เดินกลับเข้ามาในคอนโดเช่นเดิม เธอคลี่ยิ้มบางๆ ด้วยท่าทางเป็นมิตรให้ผู้รักษาความปลอดภัยที่เดินผ่านมา จากนั้นก็รีบตรงไปที่ลิฟต์ที่มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปก่อน
ตุ้บ!
“..!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เพราะจังหวะที่เธอก้าวขาเข้าไปในลิฟต์ได้แค่สองก้าว กระป๋องเบียร์สั้นจำนวนแปดกระป๋องก็ร่วงออกมาจากถุงพลาสติกที่ห้อยอยู่บนแขนจนมันกลิ้งกระจัดกระจายอยู่ภายในลิฟต์และด้านนอกลิฟต์
ไม่ใช่แค่นั้น แต่ยังกลิ้งไปตกอยู่ปลายเท้าของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านใน
“เอ่อ…ขอโทษนะคะ” ซินเนียร์รีบก้มศีรษะขอโทษคนที่ยืนอยู่ในลิฟต์อย่างรวดเร็ว เธอมองซ้ายขวาเพราะไม่รู้ว่าจะเก็บกระป๋องไหนก่อน ถ้าวิ่งออกไปเก็บที่ด้านนอกก็กลัวว่าลิฟต์จะปิดก่อนแล้วไม่ได้เก็บที่อยู่ด้านใน
“ยืนทำอะไร” เสียงเข้มของชายหนุ่มดังขึ้น ทำให้หญิงสาวรีบเงยขึ้นมอง เธอชะงักไปเพราะเขาคือรุ่นพี่คนนั้น คนที่ขับรถเข้าไปจอดในที่จอดรถของอาจารย์ “ไปเก็บ”
“ค่ะๆ แต่ช่วยรอก่อนนะคะ” คนตัวเล็กรีบพยักหน้าตอบแล้วเอ่ยบอกอีกประโยค จากนั้นก็รีบวิ่งไปเก็บกระป๋องเบียร์ที่กระจัดกระจายอยู่ด้านนอก ทว่าเมื่อหลุบมองถุงใบใหญ่ในมือพบว่ามันขาดเป็นวงกว้าง “ซวยอะไรเนี่ย”
ฟารันพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย เขาก้มหยิบกระป๋องเบียร์ที่กลิ้งอยู่ข้างเท้าตัวเองขึ้นมาแล้วเดินไปเก็บกระป๋องอื่นๆ ที่อยู่ในลิฟต์ช่วยเธออย่างจำยอม มือหนาก็คอยกดปุ่มลิฟต์ไม่ให้ปิด
“ขอบคุณนะคะ” ซินเนียร์รีบก้มศีรษะขอบคุณอีกครั้งเมื่อวิ่งกลับเข้ามาในลิฟต์ก็เห็นว่าเขาช่วยเธอเก็บ เธอหลุบมองถุงพลาสติกที่ห้อยอยู่บนแขนอีกครั้ง ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เพราะไม่รู้ว่าจะถือกลับห้องยังไง “เอ่อ…พี่เอามาวางบนมือซินก็ได้ค่ะ”
“…” ร่างสูงหลุบมองมือเล็กที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะถือกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบถึงสามกระป๋อง เขาจึงตวัดสายตาขึ้นมองใบหน้าเล็กแล้วเลิกคิ้วขึ้น “ให้วางยังไง?”
“…งั้นวางบนถุงก็ได้ค่ะ” คนตัวเล็กว่าจบก็รีบย่อตัวลง เธอวางกระป๋องเบียร์ลงบนพื้นลิฟต์แล้วสะบัดมือไปมาด้วยความรู้สึกแสบ
“ชั้นไหน?” ฟารันเอ่ยถามเมื่อเห็นเธอกำลังใช้ถุงพลาสติกที่ขาดเพื่อห่อกระป๋องเบียร์ของตัวเอง
“ยี่สิบห้าค่ะ”
ชายหนุ่มใช้ข้อศอกไปกดปุ่มหมายเลข ‘25’ เพราะมือของเขาไม่ว่าง จากนั้นก็หลุบมองหญิงสาวที่พยายามถือเบียร์โดยมีถุงพลาสติกห่อขึ้นอย่างระมัดระวังเพราะกลัวมันจะกลิ้งหล่นอีกครั้ง ร่างสูงจึงตัดสินใจย่อตัวลงวางกระป๋องเบียร์ที่ถืออยู่ในอุ้งมือลงบนพื้นแทน
“พี่คะ เอามาวาง…”
“แน่ใจเหรอว่าจะวางได้?”
“ไม่แน่ใจค่ะ แต่ลองดู”
“…” เขาไม่ได้ทำตามที่เธอบอก นอกจากถอดเสื้อชอปวิศวะยื่นไปให้ ทำให้เธอขมวดคิ้วยุ่ง “ให้ยืม”
ตุ้บ!
“อ๊ะ!” ยังไม่ได้ตอบอะไร ร่างเล็กก็สะดุ้งเมื่อเบียร์ที่อยู่บนถุงพลาสติกในมือหล่นลงไปกองกับพื้นลิฟต์อีกครั้ง ทำให้เธอจำใจต้องยอมรับเสื้อชอปวิศวะจากเขามาแล้วจัดการห่อกระป๋องเบียร์ทั้งหมดไว้ “ขอบคุณนะคะ แล้วจะให้ซินเอาเสื้อไปคืนให้วันไหน ที่ไหนคะ?”
“…” ฟารันเงียบไปพักหนึ่ง สายตาจ้องมองหน้าเด็กของคู่อริด้วยแววตาเรียบนิ่ง “ฉันพักที่ชั้นสามสิบแปด ห้อง 3818”
“…”
“เอาไปแขวนไว้ประตูหน้าห้องก็ได้”
“อ้อ โอเคค่ะ แต่ขอเป็นช่วงเย็นได้ไหมคะ ถ้าช่วงเช้าน่าจะแห้งไม่ทัน…”
“อือ…”
ติ๊ง~
จังหวะนั้นเสียงลิฟต์ก็ดังขึ้น ทำให้คนตัวเล็กเลื่อนสายตาไปมองก็เห็นว่าลิฟต์เคลื่อนตัวมาเปิดที่ชั้นห้องพักของเธอแล้ว เธอจึงหันมาคลี่ยิ้มขอบคุณชายหนุ่มอีกครั้ง
“ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ พี่เอาเบียร์ไปกินไหม?”
“ไม่เป็นไร”
“ประมาณหกโมงเย็นซินเอาเสื้อไปคืนนะคะ”
“…” ฟารันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีก เขาจ้องมองเธอที่โค้งศีรษะให้ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นหญิงสาวก็เดินออกไป ในขณะที่ประตูลิฟต์ค่อยๆ ปิดลง