บทที่ 04 มีแผน
ติ๊ง~
เสียงการแจ้งเตือนโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชายหนุ่มจึงหยิบออกมาดูพลางกดรหัสผ่านประตูห้องพัก จากนั้นเขาก็ผลักเข้าไปในขณะที่มือกดเข้าไปในแชตกลุ่มที่มีเพียงเพื่อนสนิท
LINE… สันติไม่ใช่ทางออก (4)
Saint : แดกเหล้าปะ กูจองโต๊ะแล้ว
Siena : กูไป อกหัก
Saint : ไม่มีวันไหนที่มึงไม่อกหัก
Justin : อกหักเพราะฟังเพลงเศร้า ไม่นับ
Saint : เอาเรื่องอกหักมาอ้างเพราะจะหลอกแดกเหล้าเพื่อนฟรีก็พูดมาเถอะ
Saint : สรุป? ปลาทองไป แล้วมึงล่ะจัสตีนไปมั้ย ไอ้ควายฟารันไปไหน มันไปแข่งรถเหรอวันนี้หรือไปนอนที่ฮ่องกงกับพ่อทูนหัวในชุดสีกากี
Justin : จัสติน
Justin : จัสติน
Justin : จัสติน
Justin : ชื่อกู
Siena : กูชื่อเซน่า ไม่ใช่ปลาทองไอ้สมองกุ้ง
Saint : เหรอปลาทองเหรอ
Faran : ถ้าว่างมากก็ไปกัดนิ้วตีนเล่น เถียงกันหาพ่อง
Saint : ตัวตึงสน. ก็พูดไปเรื่อย มึงลองถ่ายรูปกัดนิ้วตีนมาก่อนสิ ถ้ามึงทำกูจะยอมทำ
Siena : กูอยากออกจากกลุ่มของพวกสมองกุ้งฉิบหาย แต่ติดที่ไม่มีเพื่อนคบ คนเกลียดทั้งมอ.เพราะสวยเกิ้น
Justin : …
Siena : กูไปแต่งตัวละ ห้าทุ่มเจอกัน
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีก เขาก้าวเดินไปวางโทรศัพท์ลงบนแท่นชาร์จแบต ทว่าสมองนึกถึงหญิงสาวคนนั้นที่เป็นเด็กของคู่อริที่เขาเกลียดขี้หน้า ก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวเดินเข้าไปอาบน้ำ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ร่างสูงที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนจนถึงข้อศอกกับกางเกงสีเดียวกันเดินไปคว้าโทรศัพท์กับกุญแจรถสปอร์ตหรูจากนั้นก็ก้าวขาออกจากห้องพัก
ฟารันที่กำลังจะเดินไปโรงจอดรถเมื่อมาถึงชั้นหนึ่งก็ต้องหยุดฝีเท้า เพราะสายตาเลื่อนไปเห็นคู่อริกำลังคุยกับผู้หญิงที่เขาให้ยืมเสื้อชอปอยู่หน้าคอนโด
ไม่นานหญิงสาวก็โบกมือลาแล้วหมุนตัวเดินเข้ามาพร้อมกับตุ๊กตากระต่ายตัวเล็ก ฟารันจึงก้าวเดินไปหลบที่มุมหนึ่ง
เขาพิงร่างกายไปกับผนังปูน สายตามองหญิงสาวที่มีท่าทางมึนเมาเล็กน้อยกำลังเดินไปที่ลิฟต์อย่างอารมณ์ดี เขาจึงตวัดสายตามองไปที่เอ็กซ์คิว ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป
@Arter You Pub
“กรี๊ด พวกนั้นมันส่งข้อความมาบอกว่าเจอพี่เซนต์กับพี่จัสตินอยู่ที่ผับด้วย”
“แสดงว่าคิงวิศวะต้องมา?”
“คิดว่ามานะ เห็นบอกว่าอยู่โต๊ะประจำที่โซนวีไอพี”
“อิจฉาพี่เซน่าที่ได้อยู่ในแก๊งคนหล่อ ชาติที่แล้วคงทำบุญมาเยอะ”
“ไม่ใช่เพราะแรดกับร่านเหรอ”
ชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึงกำลังจะเดินหนีบทสนทนาที่พูดถึงตัวเองเข้าไปในผับอย่างไม่ได้สนใจ แต่เมื่อได้ยินชื่อของเพื่อนสนิทในทางเสียหายดังเข้ามากระทบใบหู ทำให้เขาหยุดฝีเท้า ดันลิ้นเข้าหากระพุ้งแก้มด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์มากนัก
ถึงเขาจะไม่เคยใช้คำพูดดีๆ กับเซน่าที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มสักครั้ง แต่ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ด่าเพื่อนเขา ถ้าอยากพูดก็ไม่ว่าขอแค่อย่าให้ได้ยิน
“พะ…พี่ฟารัน” หญิงสาวที่เป็นคนเอ่ยประโยคนั้นร่างกายสั่นเทาเมื่อเห็นชายหนุ่มที่พูดถึงก้าวเดินเข้าไปหา
“ทวนประโยคเมื่อกี้ใหม่”
“เอ่อ ปะ…ประโยคไหนคะ หนูไม่ได้พูดอะไร”
“ไม่ได้พูด? ให้ฉันช่วยใช้ตีนทบทวนไหม”
“ฟารัน!” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทว่าฟารันไม่ได้สนใจหันไปมอง เขายังคงจ้องมองหญิงสาวทั้งสองคนที่ยืนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ซึ่งเซน่าก็รีบวิ่งเข้ามาจับแขนเพื่อนไว้
“มีอะไร?” เซน่าถามด้วยความแปลกใจเพราะปกติฟารันไม่ใช่คนชอบหาเรื่องผู้หญิงก่อนอยู่แล้ว ยกเว้นจะมีใครทำอะไรให้เขาไม่พอใจ
“พวกเธอด่ามึงว่าแรดกับร่าน”
“…”
“จัดการเอง”
“…”
“ถ้าสันติไม่ใช่ทางออกก็ต่อยให้มันจบ มีอะไรเกิดขึ้นกูเคลียร์เอง” พูดจบชายหนุ่มก็ดึงแขนเพื่อนออกแล้วก้าวเดินเข้าไปในผับอย่างไม่ได้สนใจ เพราะเขารู้ว่าเรื่องแค่นี้เซน่าจัดการได้
“พี่เซน่า หนูไม่ได้พูดแบบนั้นนะคะ พี่ฟารันคงได้ยินผิด”
“หึ…” เซน่าส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นรุ่นน้องตรงหน้ายกมือไหว้ขอโทษด้วยใบหน้ารู้สึกผิด แต่เธอเชื่อว่าฟารันได้ยินไม่ผิด เพราะเพื่อนในกลุ่มทุกคนไม่ใช่คนชอบใส่ร้ายใคร อีกอย่างคำพูดแบบนี้เธอได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน
“ที่พูดแบบนี้เพราะพี่สนิทกับคนหล่อใช่ไหม อืม…เข้าใจนะ เพราะพวกน้องคงอยากเป็นพี่จนตัวสั่น แต่โทษนะคะ กลุ่มพี่ไม่รับคนตอแหล” พูดจบก็คลี่ยิ้มบางๆ ตวัดรองเท้าส้นสูงเข้าไปในผับ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ด้วยท่าทางหงุดหงิด “พวกสมองกุ้ง บนหัวมีแต่ขี้!”
“ฟารัน มึงมานั่งนี่ กูมีเรื่องจะบอก” เซนต์กวักมือเรียกเพื่อนทันทีเมื่อเห็นฟารันเดินมาถึงโต๊ะประจำซึ่งอยู่บนชั้นวีไอพีของผับหรู ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปนั่งลงอย่างไม่เรื่องมาก
“อะไร?”
“เมื่อกี้กูเพิ่งคุยเรื่องคู่อริมึงกับไอ้จัสติน”
“เรื่อง?” ฟารันเลิกคิ้วถาม ก่อนจะรับเครื่องดื่มที่พนักงานรินให้ยกเข้าปาก
“ไอ้เอ็กซ์คิวมันลงฝึกงาน กำลังจะบินไปฝึกที่ต่างประเทศ”
“หงุดหงิด เอาเหล้ามาดิ๊” จังหวะนั้นเซน่าก็กระทืบเท้าเข้ามากระแทกตัวนั่งลงข้างจัสตินพลางเอ่ยพูด มือเล็กรีบคว้าเครื่องดื่มจากพนักงานยกเข้าปากจนหมด
“อะไรวะ… ดูแลมัน กูคุยกับไอ้ฟารันก่อน” เซนต์เอ่ยบอกจัสติน ก่อนจะหันมามองฟารันอีกครั้ง “ที่กูจะบอกก็คือ น้องซินเนียร์เพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว น่าจะช่วงที่มึงกับกูตามสาวไปพัทยา กูเห็นน้องอัปไอจีกระป๋องเบียร์”
“กูไม่ได้อยากไป วันนั้นมึงลากกูไป”
“เออ นั่นแหละ” เซนต์เอ่ยบอกแล้วตวัดท่อนแขนแกร่งกอดคอฟารัน “กูว่าคู่อริมึงต้องเข้าไปจีบน้องตอนนั้นแน่ๆ ปกติไม่เคยเห็นมันเมนต์ไอจีน้อง เพิ่งมาเมนต์ตอนที่น้องเศร้า แต่ฉลาดฉิบหายเข้ามาดามใจสาวตอนกำลังเสียใจ”
“…” ฟารันไม่ได้ตอบอะไร นอกจากใช้มือปัดไหล่ของคนข้างกายออกอย่างแรง จากนั้นเขาก็ยกเครื่องดื่มเข้าปากพลางนึกไปถึงเหตุการณ์ที่พัทยาเพราะคืนนั้นเธอเมามากและขอเขามีเซ็กซ์
“เออ กูรู้แล้ว นั่นไงแฟนเก่าน้องซินเนียร์ มันเป็นน้องรหัสเซน่า”
“…” ร่างสูงมองลงไปด้านล่างตามสายตาของเพื่อนทำให้เห็นคนที่เซนต์พูดถึงนั่งอยู่ในกลุ่มเพื่อนจำนวนหกคน
“มันชื่อทิคเกอร์” จัสตินเอ่ยพูดเมื่อนั่งมองเงียบๆ ถึงแม้ว่าเสียงเพลงในผับจะทำให้เขาแทบไม่ได้ยินบทสนทนาของเพื่อน แต่ก็จับใจความได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาคุยกับเซนต์มาแล้ว
“มีอะไร” เซน่าเลิกคิ้วถาม ขยับใบหน้าเข้ามาคุยกับเพื่อนท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม “นั่นน้องรหัสกู เห็นหน้าใสๆ แบบนั้นร้ายกาจเรื่องผู้หญิงมาก”
“ทำไมวะ?” เซนต์เอ่ยถาม
“ชอบควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเข้าโรงแรม เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครรู้หรอกเพราะเขาทำเงียบๆ แต่กูรู้จักกับผู้หญิงที่ทิคเกอร์พาไปกิน ก็เลยรู้ประวัติมาคร่าวๆ”
“…”
“ล่าสุดตอนที่คบกับน้องคณะบริหารก็ทำนะ แต่ตอนนี้เลิกกันแล้ว น่าจะเลิกเพราะเหตุผลนี้… นิสัยจริงๆ ทิคเกอร์โอเคเลยนะ ติดแค่เรื่องนี้แหละ ถ้าทำตอนไม่มีแฟนคงไม่มีปัญหา”
“…”
“พวกมึงสนใจทำไม?”
“ไอ้เอ็กซ์คิวมาว่ะ” เซนต์ไม่ได้ตอบคำถามของเซน่า เขาเอ่ยพูดเมื่อสายตาเลื่อนไปเห็นอีกคนกำลังเดินเข้ามาในผับพอดี
เอ็กซ์คิวเดินผ่านกลุ่มผู้หญิงที่หมายจะเข้าไปหาแล้วปลีกตัวไปนั่งดื่มคนเดียวที่บาร์ ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนที่มาชนแก้วด้วย สร้างความแปลกใจให้กับพวกเขาที่มองอยู่เป็นอย่างมาก
“มีคนบอกว่าช่วงนี้มันไม่ยุ่งกับผู้หญิงเหมือนเมื่อก่อน เรื่องจริงเหรอวะ ปกติเห็นควงไม่ซ้ำหน้าหรือมันจะจริงจังกับน้องซินเนียร์?”
“มึงว่ามันคบกับเธอยัง?” ฟารันถาม
“กูไม่รู้…”
“สืบหน่อย กูอยากรู้”
“ถ้ายังไม่คบมึงจะทำอะไร”
“…”
“ไอ้ฟารัน เงียบแบบนี้มึงมีแผนอะไร อย่าบอกนะว่า…”
“เอาเด็กมัน มาเป็นเด็กกู”