ตัวภาระ

1852 Words
"ข้อมูลของเด็กคนนั้นหามาได้ไหม?" กันต์ธีเอ่ยถามลูกน้องเมื่อเข้ามาถึงห้องทำงานของตัวเองแล้ว คืนที่ผ่านมามีหลายอย่างที่เขารู้สึกว่าเรื่องราวที่เขาเคยได้ยินมามันไม่ตรงกับสิ่งที่เขาสัมผัสได้ "ได้มาแล้วครับ นี่เป็นประวัติทั้งหมดรวมทั้งการเงินและงานต่าง ๆ ของเด็กคนนั้นครับ" วิลเลียมยื่นเอกสารให้ผู้เป็นนายด้วยโดยไม่ทันได้สังเกตดูสีหน้าของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าเขาจะทำอะไรผิดพลาดไปโดยไม่ทันรู้ตัว ครั้นเจคอปอยากจะสะกิดเพื่อนก็สายเกินไปแล้ว "วิล! ฉันให้โอกาสนายพูดใหม่อีกรอบ!" วิลเลียมมองหน้าเจ้านายด้วยความสงสัยพลางหันกลับไปมองหน้าเจคอปเพื่อขอคำตอบว่าเขาพูดอะไรผิดไป "พะ..พูดอะไรใหม่เหรอครับเจ้านาย?" "วันใหม่เป็นคนของฉัน นายควรให้เกียรติคนของฉันด้วย ถ้าจะดุด่ามีเพียงฉันคนเดียวที่สามารถทำได้" น้ำเสียงแข็งกระด้างเปล่งออกจากปากหยักในระหว่างที่กันต์ธีกำลังเปิดเอกสารอ่านประวัติของวันใหม่อยู่ "ขอโทษครับ ต่อไปผมจะระวังคำพูดให้มากกว่านี้ครับ" ผู้ช่วยทั้งสองคนของกันต์ธีมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ เพียงชั่วข้ามคืนเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของเขา ทำไมพฤติกรรมหลายอย่างของเจ้านายถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ "อืม แล้วเรื่องน้ำเพชรมีอะไรคืบหน้าบ้าง" "ดูเหมือนทั้งคู่กำลังเตรียมงานแต่งกันอยู่ครับ" เจคอปยื่นไอแพดเปิดไอจีของน้ำเพชรให้เจ้านายได้ดูความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย "หึ มีความสุขกันให้มาก ๆ กลับมาเมื่อไหร่มึงจะรู้ว่ากูนี่แหละนรก" กันต์ธีขบกรามแน่นจนนูนเป็นสัน เขาดูเหมือนคนโง่ในสายตาของครอบครัวติณณภพ ทั้งความเจ็บใจความแค้นในใจ ทุกอย่างผสมผสานปนเปจนชายหนุ่มรู้สึกร้อนรุ่มอยู่ตลอดเวลา "แล้วเรื่องคุณวันใหม่เจ้านายจะให้พวกผมส่งคนคอยดูแลไหมครับ" "ยังไม่ต้อง คอยดูไปก่อน ถ้าเขารู้หน้าที่ก็ไม่ต้องตามให้เสียเวลา แล้วในบ่อนเป็นยังไงบ้าง" "วันนี้ปกติทุกอย่างครับ มีแค่เสี่ยเดชที่ดูเหมือนจะเริ่มขอเครดิตเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่คนของเราดูแลได้ครับ" เจคอปตอบผู้เป็นนายอย่างฉะฉาน หากเป็นเรื่องงานกันต์ธีจะให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องอื่น ๆ ลูกน้องทุกคนจึงต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีอย่าให้มีข้อผิดพลาด "แล้วตารางงานของวันนี้ล่ะ" "เช้านี้มีงานเอกสารต้องเซ็นครับ ตอนบ่ายมีประชุมผู้ถือหุ้น KM Shopping Mall ครับ" "อืม เอาเอกสารมาเลย" แม้กันต์ธีจะตอบกลับลูกน้อง แต่สองมือยังคงไม่ปล่อยเอกสารที่เกี่ยวกับวันใหม่ สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ตัวอักษรที่บอกเรื่องราวของคนตัวเล็กอย่างตั้งอกตั้งใจ บช.ของวันใหม่ มีเงินโอนเข้าจาก บช.พัสกร เดือนละ 4,000 บาท แต่ยอดเงินนั้นกลับถูกโอนต่อไปที่ บช.สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าทั้งหมด "พูดเรื่องจริงสินะ แล้วเรื่องที่น้ำเพชรพูดคืออะไรกันแน่ เฮ้ออ" กันต์ธีทอดหลังพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกสับสน หากเด็กคนนี้โอนเงินให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วเอาเงินที่ไหนใช้ เพราะเหตุนี้หรือที่ทำให้วันใหม่ต้องออกไปทำงาน "นี่เป็นเอกสารที่ต้องเซ็นวันนี้ครับเจ้านาย" วิลเลียมจัดเตรียมแฟ้มเอกสารที่ต้องรีบเซ็นให้ผู้เป็นนาย แต่ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหนก็ต้องหยุดชะงักเสียก่อน "ซื้อมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดให้ฉัน 1 เครื่อง ขอเร็วที่สุด" "ครับ ให้ผมเอาเครื่องเก่าของเจ้านายไปถ่ายโอนข้อมูลใส่ไหมครับ" วิลเลียมเอ่ยถามความต้องการของอีกฝ่าย ทุกครั้งที่กันต์ธีเปลี่ยนมือถือใหม่ก็เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องจัดการเรื่องพวกนี้ให้เรียบร้อย "ไม่ต้อง เอาเครื่องเปล่ามา แต่ลงแอปติดตามไว้ในเครื่องนั้นด้วย" "ครับ" วันนี้มีหลายเรื่องที่ทำให้วิลเลียมและเจคอปแปลกใจ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่อาจละลาบละล้วงเรื่องของเจ้านายได้ บ่าย 3 โมงเย็น วันใหม่วิ่งกระหืดกระหอบมาที่ทางเข้าผับของพลชอย่างเร่งรีบ เขาพยายามทำเวลาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะไม่อยากมาทำงานสายตั้งแต่วันแรก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก "พู้ววว นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว" "อ้าว คุณใหม่ ทำไมวิ่งมาแบบนั้นล่ะครับ" ผู้จัดการร้านเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนของเจ้านายด้วยความสงสัย เขาได้รับหน้าที่สอนงานให้อีกฝ่ายตามที่ผู้เป็นนายสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน "สวัสดีครับพี่ต้น วันนี้ใหม่มาทำงานเป็นวันแรกเลยไม่อยากมาสายครับ เดี๋ยวเจ้านายจะหักเงินเดือน" วันใหม่ตอบกลับอีกฝ่ายอย่างเป็นกันเอง เขาเคยมาที่นี่บ่อยแล้วจึงพอจะรู้จักทุกคนอยู่บ้าง "โฮ๊ะ คุณพอร์ชเหรอครับจะกล้าหักเงินเดือนคุณใหม่ ผมว่ามีแต่จะขึ้นให้เสียมากกว่า เชิญที่ห้องบัญชีดีกว่าครับ ผมจัดโต๊ะทำงานไว้ให้แล้ว" "ขอบคุณครับพี่ต้น" จบบทสนทนาวันใหม่ก็เดินตามผู้จัดการร้านไปที่ห้องทำงานทันที เอกสารบัญชี รายรับ-รายจ่าย บิลสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ ถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ วันใหม่เปิดแล็ปท็อปและเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมหยิบจับใช้งานได้สะดวก เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กพร้อมแล้วผู้จัดการร้านก็เริ่มทำหน้าที่ของตัวเองทันที ชายหนุ่มสอนงานให้คนตัวเล็กเพียงไม่นานอีกฝ่ายก็ทำตามได้ถูกต้อง "ผมขอตัวลงไปดูเด็ก ๆ จัดร้านข้างล่างก่อนนะครับ ถ้าคุณใหม่มีอะไรไม่เข้าใจโทรเรียกผมที่เบอร์นี้ได้เลย น้ำเย็นและน้ำผลไม้ผมเตรียมไว้ให้ในตู้เย็นนะครับ" "ขอบคุณครับพี่ต้น" เมื่อเสร็จสิ้นหน้าที่ของตัวเองผู้จัดการร้านก็ลงไปทำงานข้างล่างต่อ และปล่อยให้วันใหม่ได้มีเวลาทำงานของตัวเอง วันใหม่ทำงานอยู่ในห้องนานกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยความตั้งอกตั้งใจทำงานจนลืมดูเวลา พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเด็กหนุ่มต้องรีบตั้งสติเก็บของแล้วเร่งฝีเท้าไปที่รถไฟฟ้าใต้ดินอย่างรวดเร็ว "ตาย ๆ ไอ้ใหม่เอ้ย วันแรกก็สายจนได้" กว่ารถไฟจะมาก็กินเวลาไป 10 นาที โชคที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ใกล้ตึก KM เมื่อถึงสถานีปลายทางวันใหม่ก็เร่งฝีเท้าเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อติดต่อขอเข้าพบเจ้านายของพวกเขาทันที "ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบว่าลูกค้าติดต่อ..." ยังไม่ทันที่พนักงานต้องรับจะเอ่ยถามจบ เสียงของเจคอปก็ดังขึ้นมาเสียก่อน "คุณวันใหม่เชิญด้านนี้เลยครับ เจ้านายรออยู่นานแล้ว ต่อไปถ้าคุณวันใหม่มาที่นี่ ให้พาเข้าไปหาเจ้านายได้ตลอดเวลาเข้าใจไหม?" "ค่ะคุณเจคอป" พนักงานสาวรีบตอบรับคำสั่งแล้วหันไปทำหน้าที่ของเธอต่อทันที เจคอปเดินนำหน้าเด็กหนุ่มไปที่ห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านายอย่างเร่งรีบ ตอนที่เขาเดินออกมาสีหน้าของเจ้านายเริ่มฉายแววหงุดหงิดออกมาหลายส่วนแล้ว ก๊อก ก๊อก ก๊อก "คุณวันใหม่มาแล้วครับเจ้านาย" "อืม! เข้ามา" สิ้นเสียงของกันต์ธี มีเพียงวันใหม่เท่านั้นที่เดินเข้าไปในห้อง คนตัวเล็กแอบมองเห็นท่าทีเย็นชาของคนพี่ด้วยใจที่หวาดหวั่น ด้วยรู้ว่าวันนี้ตัวเองมาไม่ตรงต่อเวลา แม้คนพี่ไม่พูด แต่การดูนาฬิกาข้อมือก็เป็นการตำหนิวันใหม่โดยไม่ต้องใช้คำพูดใด ๆ "ขอโทษครับ ผมจะไม่ให้สายแบบนี้อีก" "เอามือถือมานี่" เด็กหนุ่มแปลกใจไม่น้อยที่กันต์ธีไม่ได้ต่อว่าเรื่องมาสาย แต่กลับเอ่ยปากถามถึงมือถือของเขา "นี่ครับ" "เจค นายเข้ามาเอามือถือเครื่องนี้ไปจัดการให้เรียบร้อย" กันต์ธีรับมือถือเครื่องเก่าจากเด็กหนุ่มแล้วกดอินเตอร์โฟนเรียกลูกน้องที่อยู่หน้าห้องให้มาเอาไปจัดการต่อ "ครับเจ้านาย" "สั่งอาหารไว้ด้วย เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปกินเลย" "ครับเจ้านาย ละ..แล้วให้ผมเปิด.." "ไม่ต้อง" "อ้าวแล้ว..." "ไม่ต้องถามมาก ไปทำตามที่สั่ง!" "ครับเจ้านาย" เจคอปรีบเดินออกจากห้องไปด้วยความสงสัย หากไม่ให้เปิดห้องแล้วคืนนี้เจ้านายของเขาจะไปต่อกับเด็กหนุ่มที่ไหน แต่ก็ไม่สามารถถามอะไรต่อได้ หากยังคงเร้าหรือมิวายที่ระเบิดจะลงหัวเป็นแน่ จ๊อก จ๊อก ๆ ๆ เมื่อได้ยินเสียงท้องของคนตัวเล็กร้อง กันต์ธีรีบเคลียเอกสารตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากชวนคนตัวเล็กไปกินข้าวที่สั่งไว้ "ตามมา มีเวลาทั้งวันไม่รู้จักหาอะไรกินรึยังไง ปล่อยให้ท้องตัวเองร้องอยู่ได้ ผอมยังกะพวกขาดสารอาหาร ใช้หนี้ไม่ทันหมด อยู่ ๆ เกิดตายขึ้นมาจะทำยังไง น่ารำคาญชะมัด" "ขอโทษครับ ผมจะไม่ให้ท้องร้องให้คุณได้ยินอีก" วันใหม่ได้แต่พูดเบา ๆ แล้วเดินก้มหน้าตามคนตัวใหญ่ไป แต่สรรพนามที่เปลี่ยนไปก็ทำให้คนพี่หงุดหงิดไม่น้อย "ดี! อย่ามาทำตัวให้เป็นภาระของคนอื่น" ปากหยักของคนตัวโตเอ่ยค่อนขอดวันใหม่ออกมาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว แต่คำว่า"ตัวภาระ" กลับไปสะกิดแผลในใจของคนน้องเข้าอย่างจัง วันใหม่จุกในอกก้อนใหญ่ สองขาหยุดเดินอย่างไร้เรี่ยวแรงโดยอัตโนมัติโดนที่กันต์ธีไม่ทันได้หันกลับมามอง มีเพียงวิลเลียมกับเจคอปเท่านั้นที่ดูอยู่ห่าง ๆ "ไอ้ตัวภาระ ถ้าไม่มีแกบ้านฉันก็ไม่ต้องเปลืองข้าวเปลืองน้ำ เมื่อไหร่แกจะไปจากที่นี่สักที" "ใช่ครับคุณพ่อ ทำไมคุณแม่ต้องไปเอาคนเร่ร่อนแบบนี้เข้ามาเป็นภาระให้พวกเราด้วย ไม่เห็นจะมีประโยชน์เลย" ถ้อยคำของพัสกรและน้ำเพชรยังคงฝังอยู่ในหัวของวันใหม่ไม่เลือนหาย ทุกครั้งที่เขาได้ยินคำว่า"ตัวภาระ" มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ควรเกิดมาให้คนอื่นลำบากไปด้วยเลยสักนิด เป็นเพราะคำนี้รึเปล่าที่ทำให้พ่อแม่เอาเขามาทิ้งไว้ข้างถนน เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ ดวงตากลมโตเริ่มร้อนผ่าว วันใหม่เงยหน้าขึ้นฟ้าก่อนจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาแล้วรับเดินตามคนพี่ไปให้ทัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD