ทุกคนขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 52 เป็นชั้นที่มีร้านอาหารชื่อดังเปิดอยู่ เมื่อทุกคนมาถึงพนักงานก็พาเดินไปที่โต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ทันที
อาหารหลายอย่างเรียงรายอยู่บนโต๊ะ แต่วันใหม่ไม่กล้าตักกินจึงนั่งรอให้คนพี่ที่เช็กงานในมือถือลงมือตักอาหารก่อน
"ทำไมไม่กิน จะรอให้ฉันตักให้รึไง ฮึ อย่าได้ฝัน!"
กันต์ธีเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ก็เห็นว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านั่งรออยู่และไม่ยอมตักอาหารกินทั้งที่ท้องร้องขนาดนั้น แม้ในใจของเขาจะเป็นห่วงแต่ปากของเขาก็ยังไม่ทิ้งความร้ายกาจเหน็บแนบวันใหม่อยู่ตลอด
"เปล่าครับ ผมแค่รอให้คุณทานก่อน"
"หนวกหู! กิน ๆ เข้าไปสิ!"
"ครับ"
วันใหม่ได้แต่ก้มหน้าก้มตาตักอาหารใส่จานตัวเองแล้วกินไปเงียบ ๆ เขาไม่อยากเป็นจุดสนใจ ดูเหมือนเขาทำอะไรก็น่ารำคาญไปเสียหมดสำหรับอีกฝ่าย
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังนั่งกินข้าวอยู่มีชายสูงวัยที่เป็นลูกค้าของกันต์ธีเดินเข้ามาทักทายด้วยถ้อยคำที่ดูเหมือนสนิทสนมแต่เพียงฝ่ายเดียว
"อ้าวคุณกันต์ธีนี่เอง สวัสดีครับสวัสดี"
"สวัสดีครับเสี่ยเดช ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่" กันต์ธีเอ่ยเป็นนัยเมื่อได้เจออีกฝ่ายที่ร้านอาหาร เพราะปกติมักจะเจอกันตอนทวงหนี้เสียมากกว่า
"แหม๋ก็ต้องเจอสิครับ วันนี้ผมมือขึ้นก็เลยพาเด็ก ๆ มาหาอะไรทานกันหน่อยครับ"
เสี่ยเดชพูดกับกันต์ธี แต่สายตากลับจ้องมองไปที่คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไม่หยุด จนกันต์ธีเริ่มไม่ชอบใจสักเท่าไหร่
"งั้นเชิญทานข้าวให้อร่อยนะครับ เราสองคนดูแลเสี่ยเดชให้ดี ๆ ล่ะ"
"ครับเจ้านาย/ได้เลยครับเจ้านาย นาวจะทำงานให้ดีรับรองว่าเจ้านายไม่ผิดหวังแน่นอนครับ"
มะนาวเด็กหนุ่มตัวเล็กไม่วายที่จะเล่นหูเล่นตากับกันต์ธีแต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจ
"เอ่.. ว่าแต่วันนี้คุณกันต์ธีมากับใครเหรอครับ เด็กใหม่รึเปล่าทำไมผมไม่คุ้นหน้าเลย"
"ใช่ครับเด็กใหม่ ยังอยู่ในช่วงเทรนงาน"
กันต์ธีขบกรามแน่นเมื่อได้ยินเสี่ยเดชพูดแบบนั้น ไหนจะสายตาแทะเล็มที่อีกฝ่ายมองไปที่คนตัวเล็กอีก.
"อย่างนั้นเหรอครับ ว้าา น่าเสียดายจัง ถ้าผมจะชวนคุณกันต์ธีไปคุยเรื่องที่ดินที่เคยคุยกันไว้ พอจะมีเวลาว่างสักหน่อยไหมครับ พอดีผมเปิดห้องคาราโอเกะไว้แล้ว"
"เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ลุกขึ้น!" ยังไม่ทันที่วันใหม่จะได้กินข้าวอิ่มก็ถูกคนพี่เรียกด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง
เจคอปรีบไปจัดการเรื่องค่าอาหารมีเพียงวิลเลียมที่เดินตามเจ้านายไปก่อน วันใหม่เห็นเสี่ยเดชไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่จึงได้แต่เดินหลบหลังกันต์ธีอยู่ตลอดเวลา
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เสียงโทรศัพท์ของกันต์ธีดังขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคน ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นสายจากมารดาที่โทรมาจากต่างประเทศเขาจึงจำเป็นต้องแยกตัวออกไปรับสายก่อน
"หนุ่มน้อย ชื่ออะไรบอกเสี่ยได้ไหม?" เมื่อเห็นว่ากันต์ธีเดินออกไปแล้วเสี่ยเดชจึงฉวยโอกาสเข้ามาจับมือถือแขนวันใหม่อย่างถือวิสาสะ
"เอ่อ ปล่อยก่อนได้ไหมครับ ผมว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่"
วันใหม่รีบถอยออกจากสถานการณ์ตรงหน้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าเสี่ยเดชจะยอมทิ้งโอกาสนี้ไปโดยง่าย
"หื้ออ ไม่ต้องกลัวคุณกันต์หรอก เสี่ยสนิทกับคุณกันต์มาก ถ้าเสี่ยอยากได้อะไรรับรองว่าคุณกันต์ให้หมด แม้กระทั่งตัวหนูเสี่ยก็เชื่อว่าคุณกันต์ต้องยกหนูให้เสี่ยแน่นอน"
พูดจบคนแก่จอมหื่นก็เข้าใกล้กระชับตัววันใหม่เข้าไปหาตัวเองไม่ยอมปล่อย
"ปล่อยครับ ผมไม่ได้ขายตัว!"
วันใหม่พยายามฝืนตัวเองพร้อมทั้งอธิบายแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับฟัง
"ถ้าเสี่ยไม่อยากลำบากก็ปล่อยคุณวันใหม่เถอะครับ" วิลเลียมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามาช่วยอีกแรง
"เกิดอะไรขึ้น!" เมื่อกลับมาจากโทรศัพท์กันต์ก็เห็นมือของเสี่ยเดชวางอยู่บนเอวของวันใหม่ นั่นยิ่งทำให้ความโมโหของเขาเพิ่มมากยิ่งขึ้น
"ก็เด็กของคุณนะสิครับ อยากไปสนุกกับผม ผมห้ามเท่าไหร่ก็ห้ามไม่ฟัง"
เสี่ยเดชรีบฉวยโอกาสโกหกหน้าตายแล้วเดินกลับไปหาเด็กของตัวเองทันที
"ไม่ใช่นะครับ"
"หุบปาก!" แม้วันใหม่จะพยายามปฏิเสธแต่กันต์ธีก็ไม่รับฟังอะไรแล้วเดินนำทุกคนเข้าไปในห้องคาราโอเกะ วันใหม่เห็นแบบนั้นจึงมองหน้าวิลเลียมเพื่อขอความช่วยเหลือ
"เดี๋ยวผมเป็นพยานให้ครับ ตามนายไปก่อนเถอะเดี๋ยวจะโกรธไปกว่านี้" วิลเลียมเอ่ยเบา ๆ แล้วเดินแยกตัวออกไป
"ขอบคุณครับ"
วันใหม่เอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องตามที่วิลเลียมแนะนำ
พนักงานเสิร์ฟทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี เมื่อเข้ามาถึงในห้องกันต์ธีก็เริ่มคุยเรื่องที่ดินหลายร้อยไร่แถวชานเมือง เนื่องจากเขาต้องการที่ดินจำนวนมากเพื่อทำเป็นโกดังเก็บของ เมื่อมีโอกาสเขาจึงไม่ปล่อยให้เสียเวลา
"ผมต้องการที่ดินแปลงนั้นทั้งหมด เรื่องราคาเสี่ยเรียกมาได้เลยครับ" กันต์ธีเริ่มเปิดประเด็นถึงความต้องการของตัวเอง
"เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ แต่ผมมีบางเรื่องที่อยากจะขอเพิ่มเติมสักหน่อย" เสี่ยเดชยังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะครอบครองวันใหม่ เขาจึงคิดที่จะยื่นข้อเสนอเพิ่มเติม
"ว่ามาเลยครับ?"
"ผมอยากได้เด็กคนนั้น ถ้าคุณกันต์ธีตกลงผมก็พร้อมโอนที่ทันที"
วันใหม่ที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบดึงชายเสื้อของกันต์ธีเพื่อขอความช่วยเหลือ จริงอยู่ที่เขาต้องมาอยู่จุดนี้เพื่อให้หนี้แทนครอบครัวติณณภพ แต่ยังไงเขาก็ไม่ใช่สิ่งของที่อยากจะยกให้ใครก็ได้
"เด็กคนนี้ผมได้มาในราคาที่สูงมาก เสี่ยพร้อมจ่ายไหมครับ ผมจ่ายไป 1 ปี 250 ล้าน ถ้าเสี่ยอยากได้ 1 เดือน ผมคิด 25 ล้าน สนใจไหมครับ"
กันต์ธีพูดออกไปเพราะยังโกรธที่วันใหม่ให้เสี่ยเดชจับมือถือแขนและโอบเอว เขาโกรธมากจนไม่รับฟังสิ่งที่คนตัวเล็กพูดเลยแม้แต่น้อย
"ว้าว แพงมากจริง ๆ ด้วย แต่ผมคิดว่าคุณภาพคงดีมาก ไม่งั้นคุณกันต์ธีคงไม่ยอมจ่ายตั้ง 250 ล้าน ผมตกลงรับข้อเสนอ 1 เดือนครับ แต่ผมมี 1 เรื่องที่อยากจะถาม"
"ว่ามาเลยครับ"
"ถ้าเป็นคนอื่นมาขอแชร์เด็กคนนี้ คุณกันต์ธีก็ยินดีใช่ไหมครับ" คำพูดของเสี่ยชัยทำให้กันต์ธีเริ่มพูดอะไรไม่ออก เขาเพียงคิดจะขู่คนตัวเล็กไม่ได้คิดที่จะให้ไปจริง ๆ
ปึก
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังรอคำตอบจากกันต์ธีอย่างใจจดใจจ่อ มีเพียงเสียงแก้วกระแทกกับโต๊ะที่ดังมาจากทางที่วันใหม่นั่งอยู่ คนตัวเล็กที่ดื่มเหล้าไม่เก่ง แต่วันนี้วันใหม่เลือกที่จะดื่มจนหมดแล้วเพื่อฉลองให้กับชีวิตของตัวเองที่กำลังจะถูกส่งต่อไปถึงใครต่อใคร
"ผมขอไปรอข้างนอกนะครับ ถ้าตกลงกันได้แล้วก็ให้คนมาเรียก"
สิ้นเสียงของวันใหม่ น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลออกมาเป็นสาย ก่อนออกไปจากห้องคนตัวเล็กเดินไปหยิบขวดเหล้าแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
"คุณวันใหม่จะไปไหนครับ" วิลเลียมที่พึ่งกลับมาจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิดเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่เดินร้องไห้ออกมาจากห้องพร้อมกับขวดเหล้าในมือ
"อึก อึก อึก หะ..หาที่นั่งครับ ผมนั่งรออยู่ทางนี้ ถ้าข้างในเสร็จแล้วเรียกผมได้เลย"
วันใหม่ชี้ไปทางบันไดหนีไฟก่อนจะเอ่ยตอบวิลเลียมไป
"ครับ"
วิลเลียมและเจคอปได้แต่มองตาหลังคนตัวเล็กไป ทั้งคู่ไม่รู้ว่าในห้องมีบทสนทนาที่น่าอึดอัดอะไรถึงทำให้เด็กหนุ่มเดินออกมาในสภาพนี้
"หึ หึ แกไม่น่าเกิดมาเป็นภาระของทุกคนจริง ๆ เลยไอ้ใหม่ หึ ฮึก ฮื้ออ อึก อึก แค่ก ๆ"
นาทีนี้วันใหม่ทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ให้กับชีวิตของตัวเอง เด็กหนุ่มยกขวดเหล้าขึ้นกรอกปากตัวเองหลายอึกจนสำลัก
"จะไม่มีสักครั้งเลยใช่ไหมชีวิตที่เหมือนคนปกติ ไม่ต้องมีคนรัก ไม่ต้องมีคนเกลียด อย่างน้อยก็มีชีวิตเพื่อตัวเอง"
คนตัวเล็กนั่งกอดขวดเหล้าพึมพำกับตัวเองอยู่บันไดทางหนีไฟพร้อมกับสติที่ไม่เหมือนเดิม เมื่อฤทธิ์แอลกอฮอล์กำลังเข้าครอบงำสติของเขาอย่างรวดเร็ว
"วันใหม่อยู่ไหน?" กันต์ธีเดินออกมาจากห้องคาราโอเกะก็รีบเอ่ยถามหาคนตัวเล็กทันที
"ผมมีอะไรอยากจะให้เจ้านายดูก่อนครับ ก่อนที่เจ้านายจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปมากกว่านี้"
วิลเลียมยื่นภาพกล้องวงจรปิดตอนที่เสี่ยเดชดึงตัววันใหม่เข้าไปหาให้ผู้เป็นนายดู หากเป็นคนอื่นเขาคงไม่ต้องวุ่นวายขนาดนี้ แต่ครั้งนี้เจ้านายของเขามีหลายอย่างที่แปลกไป วิลเลียมจึงไม่ปล่อยผ่านให้ทั้งคู่เข้าใจผิดกันได้
"หมายความว่าไอ้เสี่ยเดชโกหกอย่างนั้นเหรอ แล้ววันใหม่อยู่ไหน?" กันต์ธีเอ่ยถามลูกน้องอย่างร้อนใจ เพราะความเข้าใจผิดและไม่ยอมรับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพยายามอธิบาย จึงทำให้เขาพูดสิ่งแย่ ๆ ออกไปมากมาย
"ทางนั้นครับ"
กันต์ธีรีบเดินไปทางหนีไปตามที่ลูกน้องบอกด้วยความร้อนรุ่มในใจ เมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นคนตัวเล็กนั่งคอพับอยู่ที่พื้นทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ในเวลาเดียวกัน ภาพนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดเพิ่มมากขึ้น
"ลุกขึ้น"
"หึ ปายแล้วหรา ตกลงกันได้แล้วหรา ฮึก อาวเลย อาวปายหนายก็ปาย ฮึก ฮื่ออ~"
เสียงร้องไห้ของคนตัวเล็กทำเอากันต์ธีทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว จะโทษใครก็ไม่ได้ เมื่อตัวเขาเองที่เป็นคนสร้างเรื่องนี้ขึ้นจนคนตัวเล็กต้องมาอยู่ในสภาพนี้
"ลุกเร็ว ๆ ไม่ให้ไปไหนแล้ว" เสียงคนพี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเอื่อยอ่อยไม่เต็มเสียงสักเท่าไหร่
"ฮื้อออ ไอ้คนใจร้าย มีสิทธิ์อารายขายโผมให้คนนั้นคนนี้ ฮึก ฮื้ออ โผมไม่ใช่ตัวภาระ จำไว้ อย่าพูดอีก มันเจ็บ! เจ็บตรงนี้ อึก ฮื้ออ คนใจดำ ปึก ปึก"
วันใหม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับด่าทออีกฝ่าย มือเล็ก ๆ กำจนแน่นแล้วทุบลงที่อกข้างซ้ายของตัวเอง ทุกคำพูดถูกกลั่นกรองออกมาจากใจของคนตัวเล็ก หากวันนี้วันใหม่ไม่เมา เขาอาจจะไม่กล้าพูดแบบนี้ก็ได้
"ทำไมปล่อยให้กินจนเมาขนาดนี้?" กันต์ธีไม่รู้จะทำยังไงต่อ ใบหน้าคมเข้มได้แต่หันไปถามลูกน้องที่อยู่ด้านหลัง
"ผมนึกว่านายอนุญาตแล้วครับ เห็นคุณวันใหม่ถือขวดเหล้าออกมาจากในห้องที่นายนั่งอยู่ เดี๋ยวผมดูแลต่อเองครับ วันนี้ให้เจคเรียกเด็กให้นายก่อนดีกว่าไหมครับ"
วิลเลียมพูดจบก็เดินมาหาวันใหม่ ยังไม่ทันที่จะโดนตัวคนตัวเล็กกันต์ธีก็เข้ามาขวางไว้เสียก่อน
"ไม่ต้อง! ถอยไป"
กันต์ธีขยับตัวเข้ามาอุ้มคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ที่พื้นแต่ก็ถูกเจ้าตัวขัดขืน
"ไม่ต้องมาจับ ฮึก ไอ้คนจายร้าย หนายคืนนี้จาให้ปายกับคาย ฮึก อึก อึก"
"เงียบ! ใจร้ายแต่ฉันก็เป็นก็ผัวนายแล้วกัน" การขัดขืนยังคงไม่จบสิ้น ไม่ว่าคนพี่จะพยายามอุ้มวันใหม่เท่าไหร่อีกฝ่ายก็ยังคงขัดขืน
"หึ ไม่นับ คืนเดียวใครเค้านับเป็นผัว"
"ปากดีนัก! เดี๋ยวได้เจอโจ้ย 59 ฟาดปากเข้าให้ ลุกเร็วจะพาขึ้นไปพักข้างบน"
"จาขี่หลัง ขี่หลังหน่อย" วันใหม่ร้องขอกับคนพี่ด้วยท่าทางที่น่ารักน่าเอ็ดดู ดวงตากลมโตกระพริบถี่รัวออดอ้อนคนพี่จนอีกฝ่ายใจอ่อนยวบ
"อื้อ ๆ จะขี่ก็ลุกมา"
เมื่อได้ยินคนพี่อนุญาตวันใหม่ก็รีบพยุงตัวเองขึ้นมาปีนขึ้นหลังคนตัวใหญ่อย่างรวดเร็ว
"ทีอย่างนี้ล่ะลุกเร็วเชียว กอดคอดี ๆ จะพาขึ้นไปพักข้างบน"
"ม่านปายข้างบน นั่นที่ของคนอื่น กลับห้อง กาบห้องของหม่ายนะเฮียกาน"
วันใหม่กระซิบบอกความต้องของตัวเองให้คนพี่ได้รับรู้ ในระหว่างที่คนพี่กำลังพาเดินไปทางลิฟต์โดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้างและลูกน้องที่กำลังเดินตามมา
"อืม กลับห้องก็กลับห้อง อ่ะ! ซี๊ด อย่ากัด! เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ได้นอนหรอก"
กันต์ธีโดนคนตัวเล็กกัดที่ใบหูจนเสียวซ่าน กว่าลิฟต์จะลงมาถึงชั้นล่างเขาต้องพยายามข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ตลอด มือของคนตัวเล็กไม่ใช่ว่าจะอยู่เฉย ๆ เลื้อยไปเลื้อยมาล้วงเข้าเสื้อของคนพี่ไปหยอกเย้ายอดอก จนอีกฝ่ายขนลุกขนพอง
ทันทีที่ลงมาถึงข้างล่างรถยนต์คันหรูก็จอดรออยู่หน้าประตูใหญ่แล้ว เจคอปรีบเปิดประตูให้เจ้านายค่อย ๆ วางวันใหม่ลงที่เบาะแล้วเข้าไปนั่งในรถเคียงข้างกันก่อนที่คนขับจะเคลื่อนรถออกไป
"วันใหม่อยู่นิ่ง ๆ คนหรือปลาหมึกว่ะเนี่ย!"
"อื้อ เฮียกันต์อยู่นิ่ง ๆ ใหม่จากิน เนี่ย ๆ น่ากินจัง"
มือเรียวเล็กหยอกเย้าอยู่กับยอดอกของคนพี่ กระดุมหลายเม็ดถูกคนตัวเล็กปลดออกจนหมด
"ถึงห้องค่อยกิน เฮียจะให้หนูกินทั้งตัวเลย"
กันต์ธีเริ่มชอบเวลาที่คนน้องเมาแบบนี้เสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสรรพนามคำเรียกขานก็ดูสนิทสนมทั้งยังคลอเคลียออดอ้อนเหมือนลูกแมวตัวน้อยอีกด้วย
"ไม่! หม่ายจากิน หิวแล้ว"
พูดจบลิ้นเล็กก็เริ่มปาดเลียที่ยอดอกของคนพี่ก่อนจะดูดดึงขบกัด
"ซี๊ดดด กูจะทนถึงคอนโดไหมว่ะเนี่ย"
เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กทำท่าจะถอดเสื้อของตัวเองกันต์ธีจึงรีบกดปุ่มแผ่นกั้นระหว่างเบาะผู้โดยสารกับคนขับขึ้นเพื่อความเป็นส่วนตัว
ฟืดดดดดด
"มานี่"
จ๊วบบ จ๊วบบ จ๊วบบ
ชายหนุ่มเริ่มทนไม่ไหวเมื่อโดยวันใหม่เล่นงานไม่หยุด แขนแกร่งดึงตัวคนน้องขึ้นมานั่งคร่อมที่หน้าตักแล้วประกบจูบอย่างดูดดื่ม
ลิ้นร้อนของคนพี่ดูดดึงหยอกเย้าในโพรงปากของคนตัวเล็กที่มีแต่กลิ่นบรั่นดีคละคลุ้งอยู่
จ๊วบบ จ๊วบบ จ๊วบบ
"อืม จ๊วบ โคตรดี เด็กดีคืนนี้เราจะเล่นสนุกกัน นั่งนิ่ง ๆ พักเอาแรงก่อน เดี๋ยวก็ถึงคอนโดแล้ว"
"ค้าบบบ เฮียมีเหล้าอีกไหม ฮึก"
วันใหม่รับคำอย่างว่าง่าย แต่พอได้นั่งนิ่ง ๆ แวบหนึ่งความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจรวมทั้งความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้ามาแทนที่ความเสียวซ่านที่พึ่งผ่านพ้นไป
"พอแล้วไม่กินแล้ว เฮียขอโทษ ไม่ต้องไปไหนแล้ว เฮียจะดูแลใหม่เอง"
กันต์ธีพยายามปลอบใจคนตัวเล็กพร้อมกับเอ่ยคำขอโทษสำหรับการกระทำที่สิ้นคิดของตัวเอง สิ้นเสียงของคนพี่กลับทำให้วันใหม่ปล่อยโฮออกมาจนกันต์ธีต้องรีบปลอบ
"ฮึก ฮื้ออ ฮืก ฮื้ออ จริงหรอ ฮะ..เฮียพูดจริงหรอ"
"เฮียพูดจริง หยุดร้องได้แล้ว" มือหนาลูบหลังคนน้องเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม
"เฮียก็หยุด ฮึก ห้ามพูดอีกว่าใหม่เป็นตัวภาระ ฮึก ฮื้ออ ใหม่ไม่ใช่ ยะ..อย่าพูด"
"ตกลง ตกลง เฮียไม่พูดอีก"
กันต์ธีรู้สึกผิดไม่น้อยที่คำพูดเพียงเล็กน้อยสำหรับเขา แต่กลับทำให้คนตัวเล็กเล็กเสียใจได้ขนาดนี้
"ดีมาก เด็กดีเดี๋ยวให้ตังค์กินหนม"
วันใหม่ไม่พูดเปล่า แต่มือเรียวยังยื่นมาลูบหัวคนพี่เหมือนกำลังสนทนากับเด็กอยู่
"เอาแล้วไง! นี่ผัวไม่ใช่เด็กที่จะได้ขอตังค์กินขนมนะ"
ระหว่างที่กันต์ธีกำลังหาวิธีจัดการกับคนตัวเล็กอยู่เสียงหัวเราะของวิลเลียมกับเจคอปก็ดังลอดเข้ามาให้ได้ยิน ไม่นานรถยนต์คันหรูก็เคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าคอนโด กันต์ธีรีบพาตัววันใหม่ขึ้นไปที่ห้องของเจ้าตัว พร้อมทั้งหันมาสั่งงานคนของตัวเองด้วย
"ช่วงนี้พวกนายเอาเสื้อผ้ามาสำรองไว้ที่ห้องข้าง ๆ เยอะหน่อย คืนนี้แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ"
"ครับเจ้านาย/ครับ"
สิ่งที่วันใหม่ยังไม่รู้คือกันต์ธีมีหุ้นอยู่ที่คอนโดแห่งนี้กว่า 40% ส่วนที่เหลือก็เป็นของครอบครัวเกรซญาติผู้น้องของเขา