"ใหม่ บอกเกรซได้รึยังว่ามันเกิดอะไรขึ้น" เกวลินเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่นั่งนิ่งอยู่บนรถของเธอ แต่ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ทั้งยังมีแววตาที่ดูสับสนวุ่นวายจนน่าเป็นห่วง
"เกรซ ไปหาพอร์ชที่ร้านได้ไหม ไว้ค่อยเล่าให้ฟังพร้อมกันเลย ยังไงก็ต้องเล่าให้พอร์ชฟังด้วยอยู่ดี"
วันใหม่เอ่ยตอบเพื่อนก่อนจะหันไปนั่งคิดต่อว่าจากนี้ไปเขาต้องทำอะไรก่อนหลัง ตอนนี้เขาไม่สามารถกลับไปที่บ้านติณณภพได้อีกแล้ว ทั้งยังไม่รู้ว่ากันต์ธีและพัสกรจะเอายังไงต่อ
"เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่ใหม่อย่าลืมนะว่ายังมีเกรซกับพอร์ชอยู่ข้าง ๆ เสมอ"
"ขอบใจมากนะเกรซ"
เกวลินรีบไลน์ไปบอกพลช หรือพอร์ช เพื่อนที่สนิทอีกคนหนึ่งเอาไว้ก่อน ว่ากำลังพาวันใหม่เข้าไปหาที่ผับ รอจนอีกฝ่ายตอบกลับว่า "OK" เธอจึงทำหน้าที่สารถีขับรถหรูพาวันใหม่ไปที่ผับดังในย่านคนรวยทันที
30 นาทีต่อมา รถยนต์ยี่ห้อหรูของเกวลินเคลื่อนมาจอดที่หน้าผับของพลช โดยมีเจ้าของผับสุดหล่อลงมายืนรออยู่ด้านหน้าแล้ว
ปึก ปึก
"เกิดอะไรขึ้น ป่ะเข้าไปคุยข้างในดีกว่า"
พลชมองหน้าเพื่อนสนิททั้งสองอย่างเป็นกัลวลใจ เกวลินเพื่อนสาวขี้วีนประจำกลุ่มก็มีหน้าตาที่ดูเป็นห่วงเป็นใยวันใหม่ ชายหนุ่มร่างบางที่มีความอดทนอดกลั้นกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
"กระเป๋าเสื้อผ้าเราล่ะ"
"เอาไว้บนรถเราก่อนก็ได้ใหม่ เข้าไปคุยในร้านไอ้พอร์ชก่อนเถอะ" เกวลินไม่รอช้ารีบดึงตัววันใหม่เข้าร้านของพลชไปที่ห้องทำงานของเพื่อนอย่างรวดเร็ว
"เกิดอะไรขึ้น ไหนเล่าให้ป๋าฟังซิ"
ตุ๊บ
"เล่นไม่รู้เวลานะแกไอ้พอร์ช ดูหน้าไอ้ใหม่ดิ๊ เพื่อนเครียดขนาดนี้ยังมีหน้ามาเล่นอีก" ยังไม่ทันที่พลชจะพูดจบก็โดนกำปั้นของเกวลินฟาดเข้าให้ที่ต้นแขนไปหนึ่งที
"ก็พอร์ชไม่อยากให้เครียดนี่นา ทุกอย่างมีทางออกเสมอ เพียงแค่ว่าเราจะออกทางไหนเท่านั้นเอง เริ่มเล่ามาเถอะใหม่ มีอะไรจะได้ช่วยกันคิด"
"ใช่แล้วใหม่ ใหม่ยังมีเกรซกับพอร์ชอยู่ข้าง ๆ เสมอนะ เล่ามาเถอะ"
วันใหม่มองหน้าเพื่อนทั้งสองอย่างซาบซึ้งใจ ไม่เวลาไหนทั้งคู่ก็ไม่เคยรังเกียจเขาเลย นับตั้งแต่วันแรกที่เขาเป็นเด็กทุนสอบเข้าเรียนที่มหาลัยชื่อดังได้
เพียงแค่ได้ยินคำว่าเด็กทุน ทุกคนก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารักเกียจเขาเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนที่มาเรียนที่มาหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ได้มีแต่ลูกคนรวยที่พร้อมจ่ายเงินสนับสนุนให้กับทางมหาวิทยาลัยทั้งนั้น
มีเพียงเกวลินและพลชเท่านั้นที่พูดคุยกับวันใหม่อย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งพาเขาเข้าไปทำความรู้จักกับครอบครัวอีกด้วย ซึ่งครอบครัวของเกวลินก็เป็นครอบครัวเดียวกันกับกันต์ธี โดยที่แม่ของเกวลินเป็นน้องสาวของแม่กันต์ธี
วันใหม่เริ่มต้นเล่าเรื่องหนี้สินของพัสกรให้เพื่อนทั้งสองคนฟัง รวมทั้งสาเหตุที่วันนี้เขาต้องไปอยู่ที่ KM กาสิโน ทั้งหมดเท่าที่เขารู้
"มันเรื่องอะไรที่ใหม่ต้องไปใช้หนี้แทนไอ้แก่นั่นด้วย! มันทำตัวของมันเองแท้ ๆ ทำไมไม่ให้ลูกมันรับผิดชอบไปล่ะ เรื่องคราวก่อนที่มันลวนลามใหม่ เกรซยังโมโหไม่หายเลยนะ"
เกวลินเอ่ยออกมาอย่างเดือดดาลเมื่อได้ยินสิ่งที่วันใหม่เล่าให้ฟัง คราวก่อนวันใหม่มีรอยฟกช้ำตามตัวมาให้เห็น เธอพยายามเค้นถามอยู่นานกว่าจะได้ความจริงว่าเป็นพัสกรที่พยายามลวนลามวันใหม่ก็ทำให้เธอแทบอยากบุกไปด่าตาแก่หื่นกามทันที แต่วันใหม่ก็ห้ามเอาไว้เสียก่อนเพราะคุณนายเดือนแก้วขอเอาไว้
"บุญคุณไงเกรซ หลังจาก 1 ปี เราจะไม่มีอะไรติดค้างพวกเขาอีก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเหตุการณ์ในครั้งก่อน ที่ทำให้เราอยากออกจากบ้านหลังนั้น"
วันใหม่เอ่ยตอบเกวลินไปตามที่เขาคิด เขาเลือกที่จะเผิชญหน้ากับทุกอย่างให้จบภายใน 1 ปี หลังจากนั้นจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่รู้สึกติดค้างใครอีก
"แล้วใหม่จะเอายังไงต่อ ไปอยู่ที่บ้านพอร์ชก่อนไหม ช่วงนี้เรายังเหลือเวลาอีก 1 เดือนก่อนจะเปิดเทอม ยังพอมีเวลาคิดว่าจะเอายังไงต่อ"
พลชรีบเสนอตัวช่วยเหลือเพื่อนสนิทอย่างเต็มกำลัง แต่ไม่รู้ว่าวันใหม่จะยอมรับการช่วยเหลือนั้นหรือไม่ หากให้ทาย อย่างไรเสียวันใหม่ก็ต้องปฏิเสธ
"ไปอยู่บ้านเกรซก็ได้นะใหม่ อากง อาม่า พ่อ แม่ ทุกคนใหม่ก็รู้จัก รับรองว่าไม่มีปัญหาแน่นอน"
"อย่าเลย ขอบใจทั้งสองคนมากเลยนะ แต่ใหม่ขอไปเช่าห้องอยู่ดีกว่า ระหว่างนี้จะได้หางานทำไปด้วย"
วันใหม่รีบปฏิเสธความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิททั้งสองคนอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนกับเรื่องนี้ไปด้วย อีกอย่างที่เขากลัวมากก็คือเรื่องบุญคุณ ที่เขาต้องเป็นทุกข์ใจอย่างทุกวันนี้ก็เป็นเพราะคำว่าบุญคุณที่เขาต้องทดแทน
"เฮ้อ กลัวเรื่องบุญคุณสินะ จะให้พอร์ชพูดยังไงดีล่ะใหม่ พอร์ชกับเกรซไม่ได้ต้องการให้ใหม่มาตอบแทนอะไรทั้งนั้น พวกเราแค่ต้องการให้ใหม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบ้างก็เท่านั้น"
พลชถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อเพื่อนไม่ยอมรับความช่วยเหลืออะไรเลย จะให้โทษวันใหม่ก็ไม่ถูกเสียทั้งหมด เมื่อเขาถูกปลูกฝังมาแบบนั้น ไม่ว่าสองคนพ่อลูกบ้านติณณภพจะทำร้ายหรือใส่ร้ายอะไรวันใหม่ อีกฝ่ายก็ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตารับกรรมทดแทนบุญคุณของคุณนายเดือนแก้วที่รับตัวเองจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
"อย่าโกรธเราเลยนะ เราไม่อยากรบกวนใครจริง ๆ เดี๋ยวเราจะออกไปเดินหาที่พักแล้วก็หางานทำระหว่างที่รอเปิดเทอมดีกว่า"
"โอ๋ ๆ เจ้โกรธอิหนูไม่ลงหรอกลูกมา ๆ กอดที"
"เฮียก็โกรธหนูใหม่ไม่ลงเหมือนกัน มา ๆ กอดกัน ๆ " เกวลินกับพลชกอดให้กำลังใจวันใหม่ด้วยรอบยิ้มที่อบอุ่นเพื่อนให้เพื่อนสบายใจขึ้น
"หนูเน๋ออะไรกัน ใหม่ไม่ใช่สักหน่อย" ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองเรียกวันใหม่แบบนี้ ทุกครั้งไม่ว่าวันใหม่จะเจออะไรมาก็ยังมีเพื่อนทั้งสองที่เคียงข้างอยู่เสมอ
"หึ หึ ยิ้มได้แล้วหนิ งั้นมาคุยกันเรื่องงานเอาไหม คนทำบัญชีร้านพึ่งลาออกไปเมื่อวาน พอร์ชยังหาคนงานใหม่ไม่ได้เลย ใหม่สนใจทำงานกับพอร์ชไหม เงินเดือน 30,000 เวลางานใหม่สามารถเลือกเองได้ว่าสะดวกเข้ามาทำตอนไหน ถ้าเปิดเทอมแล้วก็ยังทำได้เหมือนเดิมนะ เลิกเรียกก็ติดรถพอร์ชมาที่ร้านได้เลย ว่าไง ถ้าสนใจพอร์ชจะให้คนไปป้ายรับสมัครออกจากหน้าร้าน"
เมื่อวันใหม่เห็นว่าตำแหน่งนี้ว่างจริง ไม่ใช่ว่าตนเองมาทำให้คนที่ทำอยู่ต้องเดือดร้าน เขาจึงรีบตกลงทำงานทันที
"ตกลง ใหม่ทำนะพอร์ช แต่ต้องสอนงานใหม่อย่างจริงจังนะ"
"หึ หึ เอาตามนั้น พอร์ชจะให้พี่ต้นผู้จัดการร้านสอนงานให้ใหม่ แล้วอย่าบ่นว่าเหนื่อยล่ะ"
พลชโยกหัวเพื่อนชายตัวน้อยเบา ๆ เมื่ออีกฝ่ายค่อนข้างเกรงอกเกรงใจคนอื่นไปทั่ว
"ไม่เหนื่อยแน่นอน ใหม่พร้อมสู้" วันใหม่ยิ้มสู้อย่างมีความหวัง แม้จะเป็นกังวลใจเรื่องของกันต์ธีอยู่ก็ตาม
"แล้วเรื่องห้องพัก ใหม่จะมาพักที่นี่เลยไหม ข้างบนยังมีห้องว่างนะ"
"ไม่ดีกว่าพอร์ช เดี๋ยวใหม่ออกไปหาที่อื่นดีกว่า ใหม่ไม่อยากรบกวนพอร์ชไปมากกว่านี้"
"เอางี้ไหม เกรซมีคอนโดอยู่ห่างจากที่นี่ไปอีก 2 สถานีรถไฟใต้ดิน เดินทางก็สะดวกทั้งมาร้านทั้งไปมหาลัย ใหม่ไปพักที่นั่นดีไหม"
"ไม่เอ.."
"หยุดเลยใหม่! ฟังให้จบก่อนอย่างพึ่งปฏิเสธ"
เกวลินเริ่มหงุดหงิดเมื่อเพื่อนชายตัวน้อยเอะอะก็ไม่ยอมรับการช่วยเหลือไปเสียหมด เธอจึงจำเป็นต้องเสียงดังใส่วันใหม่เพื่อนให้เพื่อนหยุดฟังสิ่งที่เธอกำลังจะเสนอก่อน
"ค่าเช่าเดือนละ 2,000 ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ใหม่ต้องรับผิดชอบเอง" เกวลินยิ้มร่าเมื่อได้ยื่นข้อเสนอเพื่อช่วยเหลือเพื่อนสนิท
"ถูกไปไหมเกรซ ปกติค่าเช่าคอนโดไม่น่าจะต่ำกว่า 15,000-20,000 เลยนะ" หลังจากที่วันใหม่เรียกสติกลับคืนมาได้ ก็รีบเอ่ยทักท้วงเกวลินทันที
"แค่นี้ก็ดีแล้ว ปกติเกรซไม่ค่อยได้อยู่ที่นั่นใหม่ก็น่าจะรู้ ดีซะด้วยซ้ำที่จะมีคนมาคอยจ่ายค่าส่วนกลางแทนเกรซ แถมยังได้เงินมากินขนมอีกด้วย คิก ๆ "
เกวลินรีบหาเหตุผลต่าง ๆ เพิ่มโน้มน้าววันใหม่ให้คล้อยตามความต้องการของเธอแต่โดยดี
"พอร์ชเห็นด้วยกับเกรซนะใหม่ ที่นั่นสะดวกทั้งการเดินทางทั้งเรื่องความปลอดภัย อีกอย่างพวกเราก็ไม่มีเวลาออกไปหาที่อื่นแล้วด้วย ตกลงไปเถอะ"
"เอาอย่างนั้นก็ได้ ว่าแต่เรื่องงานใหม่ขอเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะพอร์ช" สุดท้ายวันใหม่ก็ต้องยินยอมตกลงรับข้อเสนอที่เพื่อน ๆ โน้มน้าวก่อนที่เขาจะรีบพูดถึงเรื่องงานที่ตกลงเอาไว้
"ได้สิ เดี๋ยวเราจะให้พี่ต้นผู้จัดการร้านช่วยสอนงานให้ พรุ่งนี้ช่วงบ่าย 3 โมงใหม่ค่อยมาที่นี่ วันนี้พวกเราพาใหม่ไปพักที่ห้องกันดีกว่าเนอะ เผื่อจะได้ซื้อของใช้เข้าห้องด้วย"
พลชรีบรับคำเพื่อนสนิทพร้อมทั้งเตรียมตัวพาเพื่อนทั้งสองออกไปส่งที่คอนโดอีกด้วย
"เอางั้นก็ดีเหมือนกันนะใหม่ วันนี้พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยสู้กันใหม่" เกวลินบีบมือให้กำลังใจเพื่อนที่กำลังมีแววตาเคว้งคว้างอย่างเห็นได้ชัด
"อืม ขอบคุณเกรซกับพอร์ชมากเลยนะที่ไม่ทิ้งใหม่"
"ทิ้งได้ไง เพื่อนกันทั้งนั้น/ใช่ อย่าคิดมากเลยนะอิหนู เดี๋ยวป๋าจะดูแลหนู ๆ เอง ป๋ารวยนะเดี๋ยวจะหาว่าไม่บอก หึ หึ"
ยังคงเป็นพลชที่คอยทำให้เพื่อน ๆ มีรอยยิ้มได้เสมอแม้พึ่งเจอเรื่องแย่ ๆ มาก็ตาม