ชีวิตเฮงซวย

1318 Words
1 วันก่อนเกิดเหตุ ภายในบ้านหลังใหญ่ทุกอย่างดูรกไปหมด ข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทาง ภายในบ้านก็เงียบราวกับไม่มีคนอยู่ ร่างบางมองไปรอบๆ เธอรู้สึกว่าแค่เธอไม่อยู่เพียงสองวัน บ้านก็รกได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ รัญระวีย์ หญิงสาววัย 30 ปี เธอเป็นแม่บ้านเต็มตัวตั้งแต่แต่งงานกับสามีเมื่อ 8 ปีก่อน จากเคยเป็นพนักงานออฟฟิศก็ต้องผันตัวมาดูแลบ้านและดูแลลูก รอกินเงินเดือนจากสามีอย่างเดียว แต่สองวันก่อนหน้านี้ เธอมีเหตุจำเป็นต้องไปนอนเฝ้าน้าสาว ซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอ และจำเป็นต้องทิ้งลูกชายวัย 7 ขวบไว้กับสามีเพียงลำพัง “ที!!!โชแปง!!! ไปไหนกันหมด” เธอร้องถาม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ หญิงสาวค่อยๆ เดินเข้าไปในบ้าน และพยายามเดินหาว่าในบ้านมีคนอยู่หรือไม่ แต่เธอค่อนข้างมั่นใจว่ามี เพราะตอนที่เข้ามาทั้งประตูรั้ว และประตูบ้านไม่ได้ล็อกเลยสักบาน “ที…” หญิงสาวเอ่ยเรียก เมื่อเห็นว่าสามีของตัวเอง นอนอยู่บนพื้นในห้องครัว กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเขาแรงมาก และจากเศษจากขวดไวน์ ขวดเหล้า ที่กระจัดกระจายเต็มทุกพื้นที่ ก็พอจะเดาได้อยู่ว่าทำไมเขาถึงมานอนอยู่ตรงนี้ “เสียงดังอะไรวะ!!! คนจะนอน รำคาญ!!!” เขาตะคอกเสียงดังใส่ เธอและหันมาผลักร่างบางของรัญระวีย์จนล้มลง ทีปกรเป็นลูกชายคนเล็กของครอบครัวที่มีฐานะ เขามีรายได้หลักจากการไปเดินเล่นในโรงงานของพ่อแม่ เซ็นเอกสารบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนใจเอกสารเลยสักนิดก่อนจะเซ็น รัญระวีย์เคยเป็นพนักงานอยู่ที่โรงงานของเขา และได้พบรักกับทีปกรก่อนจะแต่งงานกัน หลังจากคบหาดูใจกันได้เพียง 2 ปี ทางบ้านของทีปกรไม่ค่อยชอบรัญระวีย์เท่าไรนัก ด้วยความที่เธอมีภูมิหลังเป็นแค่เด็กกำพร้า พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้ต้องมาอยู่ในความดูแลของน้าสาวตั้งแต่นั้นมา แต่ที่ทีปกรตัดสินใจแต่งงานกับเธอนั้น ก็คงเป็นเพราะนิสัยของรัญระวีย์ เธอเป็นคนใจเย็น ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่ตามหึงตามหวงเขาเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ เขานอกใจเธอก็จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แถมรัญระวีย์ยังมีฝีมือเรื่องงานบ้านงานเรือน ทำกับข้าวก็อร่อย ขยันก็ขยัน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะความเจ้าชู้ของเขาได้ หลังจากที่รัญระวีย์ท้องเขาก็ออกลายอย่างไม่ปิดบัง มีเรื่องผู้หญิงมากวนใจอยู่ตลอด จนสุดท้ายเธอต้องยอมปลงและปล่อยให้เขามีคนอื่น แต่เพราะทีปกรเป็นคนขี้เบื่อผู้หญิงคนอื่นเขาไม่ได้จริงจังอะไร ควงเล่นๆ จนเบื่อก็เลิก แล้วก็หาคนใหม่ไปเรื่อย “โชแปงอยู่ไหนคะ” เธอถามหาลูกชาย เพราะตั้งแต่เข้ามาก็ไม่เห็นลูกเลย “ไปโรงเรียนไปแล้วมั้ง ถามอะไรนักหนาวะ” เขาตอบด้วยความรำคาญ ถ้าไม่ติดว่ามึนหัวจนลุกไม่ไหว จะลุกขึ้นตบคนพูดให้หยุดเสียที “จะไปโรงเรียนได้ยังไง ถ้าทีไม่ไปส่งลูก แล้ววันนี้มันก็วันเสาร์ด้วย” “ไม่รู้โว้ย!!! ไปหามันเอาเองสิ มันโตแล้วมันจะไปไหนก็ได้หรือเปล่าวะ” รัญระวีย์ไม่พอใจกับคำตอบของสามีตัวเองเลย แต่ก็รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ เธอจึงเลือกที่จะลุกยืนขึ้น แล้วเดินออกไปตามหาลูกชายด้วยตัวเอง หญิงสาวเดินไปจนทั่วบ้าน แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของลูกชาย เธอเริ่มรู้สึกไม่ดี เพราะปกติแล้วลูกค่อนข้างจะติดบ้าน ไม่ค่อยชอบออกไปไหนนัก “โชแปงมาแถวนี้บ้างไหมคะ” เธอตัดสินใจเดินไปถามเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง แต่ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เห็น รัญระวีย์ยังคงเดินหาต่อไปเรื่อยๆ ทั้งยังมีชาวบ้านละแวกนั้นที่รู้เรื่อง มาช่วยตามหาอีกแรง คนแถวนี้มีแต่คนสงสารรัญระวีย์ เสียงที่เธอถูกสามีด่าทอ และตบตีดังไปทั่วซอย แต่ก็ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าไปยุ่งวุ่นวาย เพราะมันเป็นเรื่องของผัวเมีย และหากรัญระวีย์อยากจะตัดขาดจากสามีของเธอจริง ก็คงไม่ทนอยู่กันมาได้ตั้ง 8 ปีแบบนี้ “แจ้งตำรวจดีไหมคะคุณรัญ ไม่มีใครในซอยเห็นน้องโชแปงเลยตั้งแต่ที่คุณรัญไม่อยู่ กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับน้องเข้าน่ะค่ะ” หญิงสาวคนหนึ่งเสนอขึ้น แต่รัญระวีย์ก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลวร้ายขนาดนั้น เพราะถึงอย่างไรโชตินภัทรลูกชายของเธอ ก็อยู่กับพ่อทั้งคนเขาจะปล่อยให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับลูกเชียวหรือ “รัญ...คงต้องไปถามทีเขาก่อนค่ะ ว่าลูกหายไปตั้งแต่ตอนไหน เพราะถ้าเพิ่งจะหายไป กลัวจะแจ้งความแล้วตำรวจไม่รับเรื่อง” รัญระวีย์พูดอย่างเกรงใจ เพราะทุกคนดูตั้งใจมาช่วยเธอหาลูกชายมาก เมื่อได้เรื่องว่าอย่างนั้น ทุกคนจึงได้พากันแยกย้าย ส่วนรัญระวีย์ก็กลับมาที่บ้านของเธอ เพื่อจะคุยกับสามีเรื่องลูกให้มันรู้เรื่อง จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป “ที...ตื่นขึ้นมาคุยกับรัญให้รู้เรื่องทีเถอะ โชแปงหายไปตั้งแต่ตอนไหน” ถ้าหายไปนานแล้วรัญจะแจ้งตำรวจ” “ตำรวจ! อีสาระเลว นี่มึงจะเอาตำรวจมาจับกูเหรอ อยากมีผัวใหม่จนตัวสั่นแล้วสิ ใช่ไหม!!!” ทีปกรลุกขึ้นไปกระชากผมของภรรยาตัวเองอย่างแรง พร้อมกับด่าทอเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทั้งยังตบเข้าที่หน้าของเธออีกครั้ง “รัญไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ รัญถามว่าลูกหายไปนานแค่ไหนแล้ว จะไปแจ้งตำรวจให้ช่วยหา โอ๊ย!!!” “มึงไม่ต้องมาตอแหล เอาลูกมาอ้างที่แท้ก็อยากจะแจ้งความจับกู มึงคิดว่ากูไม่รู้เหรอ” เขาตบปากเธอซ้ำอีกจนรัญไม่กล้าพูดอะไร เธอเข้าใจว่าทำไมสามีของตัวเองถึงได้เป็นแบบนี้ เขากลัวตำรวจก็คงจะเป็นเพราะจัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาอีกแล้วแน่ๆ ดูจากสภาพบ้านก็คงไม่ผิดไปจากที่เธอคิดหรอก “รัญแค่เป็นห่วงลูก ตอนนี้รัญหาลูกไม่เจอ” “ก็เพราะว่ามึงมัวไปนอนกกกับชู้ไง มึงคิดว่ากูเชื่อลูกไม้ตื้นๆ ของมึงเหรอ น้ามึงแข็งแรงจะตายจะไปนอนโรงพยาบาลได้ยังไง” “หยุดพูดแบบนี้เลยนะที อย่าเอานิสัยตัวเองมาตัดสินคนอื่นสิ รัญไม่ใช่คนแบบทีนะ” เธอตะโกนเถียงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะเครียดเรื่องลูก และโกรธที่เขาดูถูกเธอ แถมยังพูดถึงผู้มีพระคุณเพียงคนเดียวของเธอในทางไม่ดีอีก “มึงกล้าเถียงกูเหรออีรัญ พอมีชู้เข้าหน่อยปากดีเหรอมึง!!!” ทีปกรตบตีและทำร้ายร่างกายรัญระวีย์อย่างหนัก ด้วยความโมโหผสมกับฤทธิ์ของยาเสพติดที่ยังไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา ครั้งนี้รัญระวีย์ก็พยายามต่อสู้อย่างไม่ยอมเช่นกัน เธอต้องการจะออกไปจากตรงนี้ เธอจะไปตามหาลูก เพราะรู้แล้วว่าอยู่ต่อไปก็คงไม่ได้คำตอบอะไร จากผัวเฮงซวยคนนี้แน่ “โอ๊ย!!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD