รัญระวีย์

1191 Words
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? หรือว่า...” ความทรงจำสุดท้ายของหญิงสาว คือเธอตกลงไปในแม่น้ำกว้างใหญ่ เธอปล่อยตัวเองให้ดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำ ปล่อยให้กระแสน้ำที่เย็นเยือกพาร่างกายของเธอไหลไปเรื่อยๆ อย่างไร้ทิศทาง “รักขับรถชนราวสะพาน แล้ว...รถก็ตกลงในแม่น้ำ” เจตนิพัทธ์ไม่อยากพูดอะไรให้มันมากกว่านั้น เขากลัวว่าเธอจะตกใจเพราะเรื่องมันค่อนข้างจะรุนแรง “ขับรถ? ตกสะพานเหรอคะ?” หญิงสาวถามด้วยความตกใจ ทำไมเธอถึงจำเหตุการณ์นั้นไม่ได้เลย เรื่องตกแม่น้ำเธอยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี แต่ที่เขาบอกว่าขับรถตกลงไป เห็นทีว่าจะไม่ใช่เพราะเธอเป็นคนตั้งใจกระโดดลงไปเอง “หมอขอตรวจก่อนนะครับ” เจตนิพัทธ์พยักหน้ารับ ก่อนจะถอยออกมาที่โซฟา เพื่อให้หมอได้ตรวจดูอาการของภรรยาอย่างเต็มที่ หมอตรวจอยู่พักใหญ่ก่อนจะเดินเข้าไปขอคุยกับเจตนิพัทธ์ “เบื้องต้นหมอคิดว่าคนไข้น่าจะมีอาการความจำเสื่อม ตอนนี้ก็ยังบอกไม่ได้ว่าชั่วคราวหรือว่าถาวร และลืมไปเยอะแค่ไหน แต่เท่าที่ประเมิน ความทรงจำพื้นฐานยังอยู่ แค่เธอ...จำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้” เจตนิพัทธ์เข้าใจทันที ว่าทำไมก่อนหน้านี้ภรรยาของตน ถึงได้มีอาการแปลกๆ “หมอว่ายังไงบ้างคะ” เธอเอ่ยถาม “หมอบอกว่ารักความจำเสื่อม” หญิงสาวขมวดคิ้ว เธอไม่เห็นจะรู้สึกเลยว่าตัวเองเป็นแบบนั้น แต่อีกเรื่องที่เห็นว่าเธอจะต้องท้วงเขาก็คือ เธอไม่ได้ชื่อรัก อย่างที่เขาเรียกแทนเธออยู่ตอนนี้ “น่าจะเข้าใจอะไรกันผิดหรือเปล่าคะ ฉันชื่อรัญค่ะ รัญระวีย์ไม่ใช่...รักอย่างที่คุณเรียก” หญิงสาวพยายามจะอธิบาย ทั้งลูกสาวและสามีต่างก็พากันมองหน้าคนพูด และแสดงสีหน้าประหลาดใจ “คุณแม่ความจำเสื่อมจริงๆ ด้วยสินะคะ” ขวัญวิวาห์เอ่ยขึ้น “น้าไม่ใช่...” “คุณพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หมอจะพาคุณไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง” เจตนิพัทธ์พูดแทรกขึ้น แต่ลักษณ์นาราก็ดูเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ “ฉันขอบคุณที่พาฉันมาส่งโรงพยาบาลนะคะ แต่รบกวนช่วยติดต่อบอกสามี กับลูก...เอ่อ แค่สามีก็พอค่ะ ช่วยบอกสามีของฉันให้ทีได้ไหมคะ ฉันกลัวว่าเขาจะเป็นห่วงค่ะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร “ผมนี่ไงสามีของคุณ แล้วนี่ของขวัญ ลูกสาวของเรา คุณลืมไปหมดเลยเหรอรัก” เขายืนยันหนักแน่น แต่ก็เข้าใจว่าเธอคงจำไม่ได้ เพราะความทรงจำสูญหายไป เขาได้แต่หวังว่าลูกจะเป็นความทรงจำเดียวที่เธอจะไม่ลืม “ฉันมีลูกชายค่ะ แต่ก็น่าจะรุ่นเดียวกับลูกของคุณ แล้วก็...ลูกชายของฉัน...โอ๊ย!” อาการปวดหัวอย่างรุนแรงทำให้ลักษณ์นาราต้องยกมือขึ้นมากุมศีรษะของเธอ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีอาการแบบนี้ ตอนที่เธอฟื้นขึ้นมากลางห้องฉุกเฉิน ก่อนจะสลบไปเพราะอาการปวดหัวนี้ตามที่หมอได้บอกกับเจตนิพัทธ์ “พักผ่อนก่อนเถอะ เรื่องอื่นเอาไว้ว่ากันพรุ่งนี้ ถึงยังไงคุณก็ต้องนอนที่โรงพยาบาลอยู่แล้ว” เจตนิพัทธ์บอกกับคนบนเตียงผู้ป่วย ซึ่งเธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าสามีของตัวเองเป็นอย่างไร เขาไม่มีทางที่จะมาสนใจหรอก ต่อให้เธอตายเขาก็คงไม่สนใจ หญิงสาวค่อยๆ เอนตัวลงนอนตามคำแนะนำของเจตนิพัทธ์ เขาค่อยๆ ห่มผ้าให้กับเธอ โดยมีเด็กหญิงตัวน้อยยืนดูอยู่ไม่ห่าง แววตาของเด็กหญิงคนนี้ช่างเหมือนกับตอนที่ลูกของเธอมองเธอไม่มีผิด “คุณไม่กลับบ้านกันเหรอคะ?” เธอเอ่ยถามด้วยความรู้สึกแปลกใจ เมื่อเห็นว่าเขาพาลูกกลับไปนั่งลงที่โซฟา “พวกเราจะอยู่ดูแลคุณ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น นอนพักผ่อนเถอะ” หญิงสาวค่อยๆ หลับตาลง แม้ว่าจะรู้สึกติดใจอยู่หลายเรื่อง อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่หมอให้กับเธอผ่านสายน้ำเกลือ “คุณแม่จะจำพวกเราได้หรือเปล่าคะ” เด็กหญิงตัวน้อยถามอย่างเป็นกังวล เธอกลัวว่าแม่ของตัวเองจะลืมเธอกับพ่อไปจากความทรงจำ เพราะที่ผ่านมาเรื่องราวในชีวิตระหว่างคนทั้งสาม ก็ไม่ได้น่าจดจำเท่าไรนัก “ไม่ลืมหรอกค่ะ เดี๋ยวพอหมอรักษาให้คุณแม่หายดี จะต้องจำพวกเราได้อย่างแน่นอน” เขารับปากกับลูกสาว ทั้งที่ตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจเลยสักนิด กลางดึกคืนนั้นเอง ลักษณ์นาราสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะฝันว่าตัวเองจมลงสู่ก้นแม่น้ำ และกำลังจะขาดอากาศหายใจ เฮือกกก!!! “ฝันไปเหรอ” เธอเอ่ยขึ้น พร้อมกับมองไปรอบๆ ทุกอย่างยังเหมือนกับตอนก่อนที่เธอจะหลับไป แปลว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง เธอรอดพ้นจากการจมน้ำตายอย่างนั้นหรือ? เธอนั่งนิ่งงุนงงกับทุกอย่างอยู่บนเตียงผู้ป่วย ท่ามกลางแสงสลัว เด็กหญิงตัวน้อยนอนกอดกับพ่อของเธออยู่ที่โซฟา เขาค่อยๆ ขยับตัวหันมองภรรยาที่นั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะค่อยๆ วางลูกสาวลงบนโซฟาแล้วลุกเดินมาหาลักษณ์นารา “ให้ผมช่วยอะไรไหม” เขาเอ่ยถาม “อ๋อ...ฉันอยากเข้าห้องน้ำค่ะ” “เดี๋ยวผมช่วยนะ” เขาช่วยประคองเธอ เดินไปส่งที่หน้าห้องน้ำ หญิงสาวรู้สึกไม่ค่อยชินนัก ที่ต้องอยู่กับคนแปลกหน้า แม้ว่าเขาจะดูเป็นคนดีมากก็ตาม “เดี๋ยวฉันเข้าไปเองก็ได้ค่ะ คุณรอตรงนี้เถอะ” หญิงสาวพอจะทรงตัวเดินไหว เธอจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยตัวเอง และเมื่อหันหน้ามาที่กระจก ก็ต้องเบิกตากว้าง เพราะเงาที่สะท้อนอยู่ในกระจก มันไม่ใช่ใบหน้าของเธอ “นี่มันเรื่องอะไรกัน!!!” เธอเอ่ยขึ้น พร้อมกับยกมือขึ้นมาจับใบหน้าของตัวเอง เธอไม่ได้กำลังฝันอยู่ ทุกอย่างมันคือเรื่องจริง หญิงสาวพยายามคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น และความทรงจำก็ค่อยๆ หวนกลับมา รัญระวีย์กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ในเวลาเดียวกับที่ลักษณ์นาราขับรถตกน้ำ วิญญาณของลักษณ์นาราหลุดออกจากร่าง และถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของรัญระวีย์ เพราะความดีของเธอที่ทำมาตลอดทั้งชีวิต ทำให้เธอได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ในครอบครัวที่เหมาะสม “โอเคหรือเปล่ารัก” เสียงร้องเรียกของเจตนิพัทธ์ทำให้เธอได้สติ “ค่ะ กำลังจะออกไป” เธอขานรับ ตอนนี้คงต้องทำทุกอย่างให้เหมือนว่าเธอคือลักษณ์นาราไปก่อน ส่วนอะไรเป็นอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD