ตอนที่ 6 ผลกรรม

1423 Words
“สมใจ ไปตามมัจมาหาฉันหน่อย” “ค่ะ คุณผู้หญิง” สมใจรับคำนาย แล้วเดินออกมาจากบ้านกลางสระ ระหว่างเส้นทาง สมใจรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างผิดปกติ สีหน้าแววตาเจ้านายสาวดูดุดันน่ากลัว มื้อเช้าเต็มไปด้วยความเงียบ คุณผู้หญิงไม่ยิ้มแย้มเช่นทุกวัน ส่วนคุณผู้ชายก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาราวกับทำความผิดมา สมใจมาถึงครัว กวาดตามองหาแต่ไม่พบมัจจรี เลยเดินตามหาจนกระทั่งได้ยินเสียงอาเจียนในห้องน้ำ หญิงกลางคนยืนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย พอประตูห้องน้ำเปิดสมใจจ้องหน้าอันซีดเผือดของเพื่อนร่วมงาน “เป็นอะไรมัจ ยังไม่หายอีกรึ!” เธอถาม ดูท่าอาการป่วยนี้คงหนักหนา เห็นอ้วกแทบทุกวันอย่างกับคนท้องไม่มีผิด คนถูกถามหน้าซีดเผือด รีบยิ้มแก้เก้อ “หายแล้วจ้ะป้า พอดีกินข้าวไม่ตรงเวลาลมเลยตี” มัจจรีรีบแก้ตัว “ไปพบคุณผู้หญิงหน่อย ท่านให้มาตาม” พูดจบไม่รอให้มัจจรีตอบ สมใจเดินนำไปก่อน มัจจรีขมวดคิ้วสีหน้าไม่สู้ดี มีเรื่องอะไรกัน เมื่อเช้าเธอเองรู้สึกแปลก สายตาคุณพิมไม่เหมือนทุกวัน แถมจักรินทร์ยังเอาแต่ก้มหน้ากินข้าวไม่พูดไม่จา เหมือนสองคนกำลังโกรธกันอย่างนั้น คงไม่ใช่เพราะเรื่องแดงหรอกนะ ภาวนาให้ไม่ใช่ทว่าในใจกลับหวั่นไหวพิกล ร่างบางคุกเข่าลงตรงหน้าเจ้านาย เห็นคุณพิมพิมลกำลังถักไหมพรมอยู่ เธอวางมือแล้วหันมาสบตาสาวใช้หน้าตาหมดจด ใช่เธอพอรู้ว่ามัจจรีหน้าตาค่อนข้างสะสวย ผิวขาวเนียนละเอียด ริมฝีปากแดงจัดอาจเพราะเป็นคนเหนือ แต่ไม่คิดว่าสามีจะนอกลู่นอกทางไปยุ่งกับสาวใช้ในบ้านได้ เพราะผู้หญิงสวยกว่ามัจจรีนั้นสมัยนี้หาได้ง่ายดายนัก หากเขานอนกับพวกนั้นยังสบายใจกว่าเสียอีก อย่างน้อยพวกบ่าวไพร่ในบ้านนั้นไม่รู้ เธออับอายขายขี้หน้า เหมือนถูกประจานว่าทำหน้าที่ภรรยาไม่ดีพอ ทำให้สามีไปหาเศษหาเลยกับคนในบ้าน จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน มัจจรีก็ใช่ย่อย เหตุใดมาหยามหน้ากันเช่นนี้ เธออึดอัดจนแทบบ้า แต่ไม่กล้ากระโตกกระตากกลัวเรื่องบานปลาย กลายเป็นที่ติฉินนินทาของคนอื่นทั่วไป “สมใจ ไปทำอะไรก็ไปทำก่อนไป ไม่ต้องมาเฝ้าฉันหรอก” เธอบอกสาวใช้คู่กาย มัจจรีรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ดูเหมือนคุณพิมพิมลกำลังต้องการพูดคุยอะไรบางอย่าง มือบางจับกันแน่น เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมา “ได้ค่ะคุณผู้หญิง” สมใจรับคำแล้วเหลือบมองไปยังเพื่อนร่วมงาน สงสัยแต่เธอไม่กล้าขัดคำสั่ง เลยจำต้องออกจากเรือนกลางสระไป พิมพิมลจ้องมองคนตรงหน้าแล้วระบายลมหายใจ “มัจ ฉันมีเรื่องอยากถามเธอ” พิมพิมลเริ่มคำถามเข้าเรื่องทันที มัจจรีเงยหน้าสบตา สีหน้าแววตาคุณพิมไม่เหมือนทุกวัน เธอไม่ได้คิดไปเองเลย “มีเรื่องอะไรอยากถามมัจเหรอคะคุณพิม” “เธอกับสามีฉัน นอนด้วยกันแล้วใช่ไหม” เธอยิงคำถามตรงประเด็น ทำเอาคนถูกถามชะงัก ราวกับถูกค้อนทุบกลางศีรษะ มัจจรีกัดริมฝีปากหน้าซีดเผือด แววตาไหวระริก “คะ...คือว่าคุณพิม” “หึ!” พิมพิมลทำเสียงในลำคอ กล้ำกลืนน้ำตาเอาไว้ “ใช่สินะ ทำไมกัน! ฉันไม่เข้าใจ ทำไมเธอทำแบบนี้!” เสียงหวานนุ่มกลับกลายเป็นตวาดขึ้นมา คนฟังสะดุ้งน้ำตาคลอ “มัจไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ มัจห้ามแล้ว ขัดขืนแล้ว แต่มัจสู้แรงสามีคุณพิมไม่ได้ มัจไม่ได้สมยอมเลย!” คนถูกกระทำสะอื้น ร้องขอความยุติธรรมให้ตนเอง เธอไม่ผิด เพราะผู้ชายอย่างจักรินทร์ปลุกปล้ำขืนใจเธอต่างหาก เหมือนหนังคนละม้วน สามีบอกอีกอย่าง แต่มัจจรีพูดอีกอย่าง แล้วควรเชื่อใครดี เธอเหมือนคนโง่หรือไงกัน แค่สมสู่กันไม่พอ ยังโทษกันไปมาเสียอีก “แต่คุณจักรไม่ได้บอกฉันแบบนั้นเลยนะ เขาบอกว่าเธอไม่ยอมแค่ตอนแรก ตอนหลังสมยอม” “นั้นเพราะคุณจักร เอารูปถ่ายมาขู่มัจบอกว่าจะบอกคุณพิม มัจกลัวว่าคุณจะรู้ เลยจำใจต้องยอม!” เธอพยายามอธิบาย ต่อให้เจ้านายสาวจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม พิมพิมลหลับตาเพื่อสงบสติอารมณ์ “ทำไมตอนนั้นเธอไม่ร้องตะโกนให้คนช่วย ทำไมเธอไม่บอกฉันว่าคุณจักรคิดไม่ซื่อกับเธอ ถ้าเธอบอกฉันเรื่องทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้ เธอกลับพยายามปิดบังมันเอาไว้ นี่นะเหรอที่บอกว่าไม่ได้ต้องการ ไม่ได้คิดหักหลังฉัน ตกลงเธอถูกข่มขู่หรือสมยอมกันแน่มัจจรี!” “มัจไม่เคยคิดหักหลังคุณพิม มัจไม่เคยคิดกับคุณจักรินทร์นอกไปจากเจ้านาย มัจไม่เคยรู้สึกอะไรด้วยเลย มัจขอยืนยัน ถ้าคุณพิมต้องการให้มัจพิสูจน์ มัจยินดี ไม่ว่าคุณพิมต้องการให้มัจทำอะไร มัจก็จะทำให้คุณพิมเชื่อให้ได้!” หญิงสาวยืนยันหนักแน่น เห็นสีหน้าแววตามัจจรี พิมพิมลเริ่มไขว่เขว “เธอแน่ใจเหรอมัจกับสิ่งที่พูดมา” คุณผู้หญิงของบ้านถามย้ำอีกครั้ง “แน่ใจค่ะ มัจลาคุณพิมไปแต่งงานแล้วนะคะ มัจมีคนที่รักอยู่แล้ว มัจรักเขามากไม่เคยคิดทรยศหรือมีใจให้ชายอื่น แล้วคุณพิมคิดว่ามัจจะยุ่งกับคุณจักรได้เหรอคะ ต่อให้มัจไม่ได้ร่ำรวยอะไร ก็ไม่เคยคิดยุ่งกับคุณจักรแม้แต่น้อย เพราะมัจไม่เคยรักชอบคุณจักรเลย!” ยิ่งคิดยิ่งปวดร้าว ทำไมต้องเจอสถานการณ์เช่นนี้ แล้วตัวตนเองไม่อยู่ มัวแต่หดหัวไปไหน กระทำเรื่องเลวทรามแล้วปล่อยให้เธอแบกรับเพียงผู้เดียว จักรินทร์ช่างเป็นผู้ชายไร้ความรับผิดชอบ มองผู้หญิงเป็นแค่เครื่องระบายความต้องการของตัวเองเท่านั้น คนเป็นนายถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในสมองกลัดกลุ่ม ไม่รู้ควรหาทางออกเช่นไรกับปัญหาที่สามีก่อดี มัจจรีเองท่าทางไม่ได้คิดชอบต่อสามีเลย หรือทุกคำพูดของจักรินทร์นั้นโกหก “แล้วเธอจะเอายังไงมัจ เพราะถ้าหากเธอต้องการอยู่ที่นี่ในฐานะของภรรยาอีกคน ฉันขอบอกตามตรงว่าคงให้ไม่ได้” มัจจรีส่ายหน้าปฏิเสธทันที “มัจยังคงยืนยันที่จะกลับต่างจังหวัดเหมือนเดิมค่ะ” “แล้วแฟนเธอจะรับได้งั้นเหรอ ในเมื่อเธอกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว” “มัจไม่คิดกลับไปหาคนรักหรอกค่ะ แค่กลับไปยังบ้านเกิด ไปทำสวนอย่างที่มัจต้องการเท่านั้น มัจไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว!” พิมพิมลมองอีกฝ่ายด้วยรู้สึกสงสาร และเริ่มเห็นใจ “แน่ใจแล้วเหรอมัจ ที่จะกลับไปทั้งแบบนี้” “แน่ใจค่ะ คุณพิมไม่ต้องเป็นห่วง มัจจะไม่กลับมาที่นี่อีก เพราะมัจเองก็รู้สึกขยะแขยงตัวเอง และรังเกียจที่ถูกกระทำราวกับไม่ใช่คนแบบนี้เหมือนกัน!” พูดจบน้ำตามันดันไหลออกมาไม่หยุด ต่อให้ไม่อยากอ่อนแอก็ตาม ทว่าเธอต้องกล้ำกลืนความรู้สึกเจ็บปวดไว้ภายใน สุดแสนเสียดาย ไม่กล้าสู้หน้าคนรัก ความอัปยศอดสู่เช่นนี้ ทำไมต้องเป็นเธอที่แบกรับ คนฟังเอื้อมมือจับไหล่มน “มัจฉันขอโทษ ฉันไม่รู้จะชดใช้ให้เธอยังไง” “คุณพิมไม่ได้เป็นคนผิด คนผิดคือคุณจักรต่างหากล่ะคะ อย่าขอโทษมัจเลย เพราะคนทำไม่เคยพูดคำนี้สักครั้ง!” พิมพิมลสะอึกกับคำพูดสาวใช้ หัวอกคนเป็นภรรยาเช่นเธอ แทบอยากไปหาสามีเพื่อถามไถ่ความจริง ทว่าตอนนี้ต่อให้ต้องการทำอย่างใจ กระนั้นกลับทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเกรงบุตรสาวอาจทนแบกรับความอับอายไม่ไหว ยังอยากให้ลูกเคารพพ่อตัวเองเช่นเดิม “มัจ ฉันจะให้เงินมัจสักก้อนไปตั้งตัว อาทิตย์หน้ามัจจะเดินทางไปจากที่นี่ใช่ไหม” “ใช่ค่ะ” “ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง และขอโทษด้วยนะมัจ ให้อภัยฉันด้วยที่เห็นแก่ตัวแบบนี้” เธอยอมรับว่าไม่ต้องการให้มัจจรีอยู่ที่บ้านหลังนี้อีก เพราะกลัวสามีจะทำเรื่องเสื่อมเสียจนกลายเป็นที่รู้กัน เธออายเกินกว่าแบกรับเรื่องพวกนี้ไว้ “มัจบอกแล้วว่าอย่าขอโทษมัจเลยค่ะ มัจเองก็ต้องการให้ทุกอย่างมันจบเหมือนกัน ขอบคุณที่คุณพิมเห็นใจมัจ เท่านี้มัจก็พอใจแล้ว” มัจจรียกมือไหว้ “งั้นมีอะไรก็ไปทำให้เรียบร้อยเถอะจ้ะ” “ค่ะ” เธอรับคำแล้วลุกยืน เดินออกจากบ้านกลางสระไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD