ตอนที่ 13
สามชั่วโมงต่อมา
จิรพิมนตร์ก็ฟื้นขึ้น เธอน้ำตาคลอและเสียใจที่ถูกกลั่นแกล้งแต่เธอก็ต้องตกใจเมื่อมีมือหนาเอื้อมมาปาดน้ำตาให้เธอ
“คุณเจต!!!” เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณ
“ค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจะโอนคืนให้”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมเต็มใจช่วยคุณ ว่าแต่คุณเถอะ ทำไมถึงไปยอมทำอะไรแบบนั้น มันอันตรายรู้มั้ย” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ตอบคำถามอะไรกับชายหนุ่ม เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องก็ดังขึ้น
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก..
คุณหมอเจ้าของไข้ที่รักษาอาการของจิรพิมนตร์ เดินเข้ามาพร้อมกับพยาบาล คุณหมอถือแฟ้มในมือแล้วเอ่ยขึ้น
“คุณจิรพิมนตร์ อาการคุณเป็นอย่างไรบ้างครับตอนนี้”
“อาการตอนนี้ปกติดีแล้วค่ะ...คุณหมอ ที่แน่นหน้าอกก็ไม่มีแล้ว”
“หมอจะให้คุณออกโรงพยาบาลวันนี้เลยสะดวกมั้ยครับ”
“สะดวกค่ะ”
“เบื้องต้นหมอจัดยาให้แล้วนะครับ เป็นยารักษาภูมิแพ้ให้คุณทานต่อเนื่องจนยาหมด”
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” หญิงสาวยกมือไหว้คุณหมอหนุ่ม
“แล้วต้องระวังอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ” เจตนิพัทธ์ถามคุณหมอบ้าง คุณหมอขยับแว่นก่อนอธิบายขึ้น
“สองวันแรกคุณต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษและพยายามให้ภรรยาของคุณทานยาให้ครบ ตามที่หมอสั่งนะครับ” เขายิ้มเมื่อคุณหมอบอกแบบนั้น หญิงสาวชำเลืองมองค้อนเขา เมื่อเห็นว่าเจตนิพัทธ์ยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนหน้านี้เขาอ้างว่าเธอเป็นภรรยาของเขากับหมอ เพื่อจะได้สอบถามอาการของเธออย่างละเอียด
“ขอบคุณครับคุณหมอ” เจตนิพัทธ์ยกมือไหว้
นายแพทย์หนุ่มหันมาบอกเขาอีกครั้งก่อนจะเดินออกห้องไป
“หากภรรยาของคุณมีอาการแพ้อีก คุณต้องรีบพาเธอมาที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุดนะครับ” คุณหมอย้ำกับเจตนิพัทธ์
หลังจากคุณหมอออกห้องไปจิราพิมนตร์ก็ถามเขาขึ้นมา
“คุณเจตคะ ทำไมคุณหมอต้องคิดว่ามนตร์เป็นภรรยาคุณด้วยล่ะ”
“ผมก็ไม่รู้ครับ เขาคงเห็นว่าผมเฝ้าคุณตลอดมั้ง”
“ไม่จริงหรอก ก่อนหน้านี้คุณไปบอกอะไรกับหมอเค้าหรือเปล่า” หญิงสาวจ้องตาของเขาอยากจับผิด
“เปล่า!!! อย่าคิดมากสิ คุณเพิ่งจะหายดีนะครับ” เขายักไหล่แล้วรีบปฏิเสธ
“มนตร์จะกลับบ้านแล้ว” พูดจบหญิงสาวก็ลุกเตรียมตัวเปลี่ยนชุดหลังพยายาบาลถอดสายน้ำเกลือออกให้เธอ จิรพิมนตร์กำลังจะกลับบ้าน เจตนิพัทธ์จึงรีบเสนอตัวขับรถไปส่งเธอ
“ให้ผมไปส่งนะครับ”
“วันนี้..คุณไม่ต้องทำงานเหรอคะ”
“ไม่ครับ..ผมลาหยุด อันที่จริงผมไม่อยากให้คุณรีบออกจากโรงพยาบาลเลยด้วยซ้ำ เพราะผมอยากดูแลคุณ” "อย่าเลยค่ะ โรงพยาบาลเอกชนค่าใช้จ่ายมันสูง"
หลังจากหญิงสาวเก็บข้าวของบางอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอก็จะไม่ยอมให้เขาไปส่งที่บ้านอีก แต่เจตนิพัทธ์ไม่ยอม
“ทำไม คุณกลัวใครเห็นเหรอ”
“ก็แม่ของฉันไงคะ ท่านคงไม่สบายใจ หากเห็นคุณไปส่งฉันที่บ้าน” แต่เจตนิพัทธ์ก็ไม่ยอม จนเขาได้ไปส่งเธอที่บ้านในเวลาต่อมา
จิราพิมนตร์รีบขอร้องให้เขาจอดแค่ปากซอยเท่านั้น แล้วเธอจะเดินเข้าไปเอง แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมเพราะเขาเป็นห่วงเธอ
“ให้ผมไปส่งคุณอีกนิดได้มั้ย ก่อนถึงรั้วบ้านก็ได้ เดี๋ยวผมถอยออกเลย ไม่มีใครเห็นรถผมหรอก”
หญิงสาวจำต้องยอมปล่อยให้เขาขับรถเข้าไปในซอย และเขาก็ทำตามสัญญาคือจอดก่อนถึงรั้วบ้านของเธอ เมื่อหญิงสาวกำลังจะก้าวลงจากรถ เขาก็รีบบอกเธอ
“มนตร์!!!..คุณอย่าลืมกินยาตามที่หมอสั่งนะ” เขาลดกระจกลงเพื่อบอกเธอ
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”