“อย่าไปใส่ใจคำพูดของยัยทิพย์แกเลยครับ ยังไงวันนี้ผมว่าเพ็ญกลับไปก่อนดีกว่า ผมจะให้ลุงมั่นขับรถไปส่งที่คอนโดนะครับ” ตรีภพพูดตัดบทก่อนจะทำทีว่าจะเดินหนีจากแต่นางแบบสาวกลับเอื้อมมือมาฉุดรั้งต้นแขนของเขาเอาไว้ซะก่อน
“ได้ยังไงกันคะภพ ก็ไหนว่าคืนนี้คุณจะอยู่กับเพ็ญทั้งคืนยังไงล่ะคะ”
“ผมขอโทษที่ต้องผิดคำพูดกับคุณ แต่ว่าคืนนี้ไม่ได้จริงๆ ครับเพ็ญ คุณกลับไปก่อนแล้วพรุ่งนี้ผมจะโทรหา นะครับ” แม้ใจจะไม่อยากตกลงแต่หากยังดื้อดึงอยู่ต่อไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น อีกทั้งการคบหากับตรีภพนั้นก็ทำให้เธอมีโอกาสได้ทั้งเครื่องเพชร เสื้อผ้าแบรนด์เนมสุดหรูตามที่ใจต้องการ ทางที่ดีคอยทำตัวว่าง่ายเพื่อที่เขาจะได้เอ็นดูกันต่อไปเรื่อยๆ จะเป็นผลต่อในระยะยาวสำหรับตัวเธอเองเสียมากกว่า
หลังจากเดินไปส่งคู่ขาขึ้นรถเสร็จสรรพตรีภพก็มุ่งหน้าบ้านหลังเล็กของตัวเองอย่างรีบเร่งเพราะยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องสะสางเอาความจากแม่ตัวดีว่าเพราะอะไรทำไมหล่อนถึงได้กล้าไปยืนแนบชิดผู้ชายอื่นอีกทั้งยังยิ้มหวานขนาดนั้นได้!
ทว่าเมื่อมาถึงที่หมายสิ่งที่ได้พบกลับแต่ร่างเล็กที่ในตอนนี้อยู่ในชุดนอนสีขาวกำลังนอนขดอยู่ข้างเตียง ใบหน้าหวานยังคงเปรอะเปื้อนไปด้วยร่องรอยของคราบน้ำตาให้ได้เห็น และเมื่อมองเลยขึ้นไปบนเตียงก็พบกับชุดคลุมอาบน้ำที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้อย่างเป็นระเบียบเหมือนที่เคยเป็น ไหนจะกลิ่นหอมจางๆ จากนมอุ่นๆ ที่เขามักชอบดื่มก่อนนอนที่ถูกวางเอาไว้ให้ที่ข้างโคมไฟนั่นอีก ทุกๆ อย่างยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน จะต่างก็คงจะหนีไม่พ้นความรู้สึกของผู้ที่ได้รับมันเท่านั้นที่ได้แต่ยืนนิ่งมองดูทุกๆ สิ่งที่เธอทำให้ก่อนจะค่อยๆ ทรุดกายนั่งลงข้างๆ หญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเมียแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไร ดวงตากลมใสกลับปรือขึ้นมาซะก่อน…
“คุณภพ! เอ่อ…มีอะไรรึเปล่าคะ” รินลดาเอ่ยถามสามีด้วยน้ำเสียงที่เบาบางใบหน้าอ่อนหวานก้มลงอย่างช้าๆเพราะไม่อยากมองหน้าเขาในตอนนี้
“เธอลืมเตรียมน้ำอุ่นให้ฉัน แล้วแบบนี้จะให้ฉันอาบน้ำเย็นจนหนาวตายคาห้องน้ำหรือยังไงกัน!” หากจะพูดดีด้วยก็ไม่กล้า สุดท้ายจึงกลายเป็นเสียงที่ตะคอกใส่อย่างรุนแรงเสียจนอีกฝ่ายถึงกลับสะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบลุกพรวดขึ้นจากพื้นอย่างว่องไว
“ขอโทษค่ะ ฉันลืมจริงๆ คุณรออยู่ตรงนี่สักครู่นะคะฉันจะรีบเข้าไปจัดการให้ ไม่นานหรอกค่ะ” รินลดาร้องบอกก่อนจะรีบเดินหายเข้าไปในห้องน้ำและจัดเตรียมทุกๆ อย่างให้พร้อมสำหรับการใช้งาน
เธอใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นทุกอย่างก็เสร็จ ทว่าเมื่อกำลังจะหันหลังเดินออกมาบอกร่างสูงกำยำที่ตอนนี้มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวพันรอบเอวเอาไว้ลวกๆ เท่านั้นกลับปรากฏต่อสายตากันเข้าซะก่อน
“ฉันเตรียมน้ำเอาไว้ให้แล้ว เชิญคุณตามสบายนะคะ” หญิงสาวรีบพูดรีบบอกก่อนจะเบือนหน้าหนี ตกใจจนแทบขาดสติเพราะไม่คิดว่าเขาจะเดินเข้ามาโทงๆ แบบนี้ อดที่จะใจสั่นไหวไม่ได้กับภาพมัดกล้ามที่ได้เห็นและดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ได้ถึงอาการเอียงอายของเธอเข้าเพราะยังไม่ทันจะได้เดินหนีท่อนแขนแกร่งก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเสียก่อน
“จะไปไหน” เสียงเข้มร้องถามพร้อมใช้สายตาดุดันจ้องมองคนตัวเล็กอย่างคาดโทษ ราวกับว่าเธอทำอะไรให้ต้องรู้สึกไม่ถูกใจเข้าอีกแล้วก็ไม่ปาน
“เอ่อ…ฉันจะออกไปรอข้างนอกค่ะ”
“นี่ใจคอเธอไม่คิดจะทำหน้าที่เมียที่ดีให้สามีอย่างฉันคนนี้บ้างเลยหรือยังไง!”คำถามที่วกวนพาสับสนทำเอาคนตัวเล็กถึงกลับทำตัวไม่ถูกแต่ก็ยังใจดีสู้เสือเงยหน้าขึ้นสบตาสีดำสนิทคู่สวยก่อนจะถามกลับไปในทันทีที่สบโอกาสเหมาะๆ
“คุณจะให้ฉันทำอะไรให้ล่ะคะ” รินลดาถามกลับอย่างไม่รู้จริงๆ ว่าคนตรงหน้ากำลังต้องการสิ่งใดจากเธออีก อยากได้น้ำอุ่นเธอก็จัดการให้แล้วแท้ๆ
“ถูหลังให้ฉันสิ แค่นี้คิดว่าพอทำได้ไหม หรือมันยากเกินไปสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ ถ้าเปลี่ยนเป็นไปยืนออเซาะผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่ผัวคงทำได้ง่ายๆ สบายเลยล่ะสิท่า!” คนพาลก็มักจะพูดแต่ในสิ่งที่ตัวเองคิดไม่ได้เอ่ยถามความจริงจากอีกฝ่ายเลยว่าคิดแบบที่เขากล่าวหาจริงๆ หรือเปล่า
“ฉันทำได้ค่ะ ให้ฉันช่วยถูหลังให้คุณเถอะนะคะ” หญิงสาวตอบรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่อยากทำให้เขาต้องเข้าใจผิดเธอไปมากกว่านี้ประเดี๋ยวจะพาลเกลียดกันมากขึ้นไปอีกก็เท่านั้น แค่ที่ผ่านมามันก็ปวดร้าวมากพออยู่แล้วที่ท่าทีที่เขากระทำใส่ หากยังต้องมีอะไรมากขึ้นกว่านี้อีกเธอคงจะรับมันไม่ไหวอย่างแน่นอน
“ก็ดี! อย่างน้อยเธอก็ยังมีสำนึกในความเป็นเมียที่ต้องปรนนิบัตรผัวคนนี้อยู่บ้าง” สิ้นคำมือหนาก็เอื้อมไปกระตุกเอาปมผ้าขนหนูออกอย่างไม่ใส่ใจในขณะที่คนตัวเล็กถึงกลับผงะก่อนจะถอยร่นหนีไปหลายก้าว ใครเลยจะคาดคิดว่าจู่ๆ เขานึกจะถอดก็ถอดออกมาง่ายๆ แบบนี้ หากบอกกันล่วงหน้าสักนิดเธอก็ยังพอที่จะเตรียมใจรับมืออยู่บ้าง
“แล้วนั่นเธอจะถอยหนีไปไหนนักหนา ถ้าไม่แก้ผ้าเธอจะให้ฉันอาบน้ำทั้งๆ ที่นุ่งผ้าขนหนูอยู่รึไงกัน รีบๆ ตามมาเสียที ฉันง่วงและเหนื่อยมามากวันนี้ อย่าให้ต้องปวดหัวกับเธอไปอีกคน!” แม้จะถูกสั่งเช่นนั้นแต่รินลดาก็ใจเย็นรอจนกว่าชายหนุ่มจะเดินไปทิ้งตัวลงในอ่างน้ำเสียก่อนถึงค่อยขยับกายเดินตามเข้าไปใกล้ มือบอบบางที่ไม่เคยผ่านการทำงานหนักเลยสักครั้งในชีวิตค่อยๆ หยิบเอาฟองน้ำมาผสมกับสบู่เหลวก่อนจะบรรจงถูหลังให้เขาอย่างตั้งอกตั้งใจ
“นวดไหล่ให้ด้วยสิ วันนี้นั่งประชุมมาทั้งวันเมื่อยชะมัด” คำพูดที่แสนเรียบง่ายแต่กลับทำให้หัวใจกระชุ่มกระฉวยขึ้นอย่างอย่างบอกไม่ถูก นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มเอ่ยปากบอกเล่าถึงการทำงานของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้เหมือนกับสามีคนอื่นๆ ที่จะทำเช่นนี้กับภรรยาของตัวเอง
นิ้วเรียวสวยค่อยๆ เอื้อมเข้าไปใกล้หัวใจสั่นไหวอย่างหนักเพราะไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้ให้กับใครมาก่อน นิ้วเรียวยาวค่อยๆ นวดคลึงขมับทั้งสองข้างให้สามีหนุ่มอย่างใจเย็นส่งผลให้คนที่ต้องแบกรับความเครียดมาตลอดทั้งวันเริ่มที่จะรู้สึกผ่อนคลายไปอย่างเชื่องช้า พาลปลดปล่อยความเครียดที่หนักหนาสาหัสลงช้าๆ นาทีนี้มีเพียงความรู้สึกอ่อนไหวเท่านั้นที่พาลทำให้รู้สึกดีขึ้นเป็นอย่างมาก