"ถ้าไอ้ดินชวน...ก็ไม่ต้องมา”
เขาพูดมาเหมือนเป็นคำสั่งกลายๆ พร้อมกับสายตาที่ยังไม่ละจากฉันไปไหน ผู้พูดที่ดีต้องมองหน้าผู้ฟังสินะ
“ทำไมคะ?” ฉันถามพร้อมกับมองหน้ากลับไป ทำหน้าที่ผู้พูดที่ดีเช่นกัน
“มันเจ้าชู้”
กล่าวหาเพื่อนตัวเองซะงั้น พี่ดินก็เจ้าชู้จริงๆ อย่างที่เขาบอกนั่นแหละ แต่พี่เขาก็ไม่เคยทำอะไรไม่ดีกับฉันนี่นา แค่แซวเล่นตามประสาและคิดว่าพี่เขาคงคิดว่าฉันเป็นรุ่นน้องคนนึงเท่านั้น
“อ่า...แต่พี่อัคคีก็ยังบอกให้ฉันชวนพี่เหมือนกันหนิคะ”
เถียงกลับไปซะหน่อย อย่าให้เขาข่มเราได้ ไม่ได้เป็นอะไรกันนะ แล้วนี่สองคนนั้นทำไมไปนานจัง หรือตกถังน้ำแข็งตายไปแล้ว
“ไม่เหมือน”
“?”
“ฉันไม่เจ้าชู้”
พี่เขาบอกพร้อมกับส่งสายตามาประมาณว่าที่เขาพูดคือเรื่องจริง ใครอยากรู้กันล่ะ แล้วอีกอย่างใคร ๆ ก็บอกว่าถึงเขาจะเงียบแต่ก็อันตรายซึ่งฉันก็ได้สัมผัสมาแล้วว่าเขาน่ะอันตรายต่อหัวใจจริงๆ
“อีกอย่าง...” ค่ะพ่อคนพูดเก่ง ได้พูดแล้วพูดไม่หยุดเลยนะ
“ต่อไปไม่ต้องเรียกชื่อเต็ม มันดูห่างเหิน...” หื้มม แล้วไปสนิทกันตอนไหน
“แล้วจะให้เรียกว่าอะไรคะ พี่อัค?”
“ไม่...อยู่กันสองคนเรียก ’เฮีย’ ก็พอ” ใครจะไปอยู่กันสองคนกับเขากันล่ะ!
หลังจากที่เขาทำให้ฉันช็อกไปกับคำพูดของพี่เขาครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรกลับไป สองคนที่ไปเอาแก้วน้ำก็กลับมาซะก่อน
“สองคนนี้นั่งเงียบกันเชียวนะ” พี่ดินทักขึ้นหลังจากที่กลับมาแล้ว เห็นเรา เอ่อ...หมายถึงฉันกับพี่อัคคี นั่งเงียบกันทั้งคู่ เงียบเพราะพี่เขาใช้โควตาพูดหมดไปแล้วน่ะสิ แล้วนี่ก็กลับมาได้จังหวะจริงๆ
“ไม่หรอกค่ะ เขาสื่อสารกันทางสายตา” ซูซี่พูดเหมือนรู้ทันคงจะแอบเห็นว่าไม่ฉันก็เขาที่หันไปมองกันบ่อยๆ ไม่รู้สิสายตามันไปเอง
“แอบมีซัมติงกันเหรอวะ ไอ้อัค พู๊ดดดดด”
ไม่ว่าเปล่าพี่ดินหันไปเขย่าพี่อัคคีเพื่อเค้นเอาคำตอบ และเชื่อว่าคงไม่ได้คำตอบอะไรแน่ๆ เพราะมันไม่มีอะไร...มั้ง
“ยุ่ง!” เขาทำสายตาดุๆ ใส่พี่ดิน คำพูดของเขาคำเดียว ถึงจะไม่ได้เป็นการยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแค่บอกปัดไป
พอเขาพูดแบบนั้น ทั้งพี่ดินและซูซี่หันมามองหน้ากันและยิ้มเจ้าเล่ห์ เหมือนจับผิดอะไรได้สักอย่าง ฉันเริ่มปวดหัวแล้วตอนนี้ ทำไมเขาแทรกซึมเข้ามาในชีวิตฉันเร็วขนาดนี้ และเวลาเพื่อนถามถึง ฉันก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไร ไม่ได้ตั้งใจจะปิดปัง แต่เพราะว่าไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันคืออะไรต่างหาก เขามาคุยด้วยความเป็นรุ่นพี่หรืออะไรก็ตามแต่ ถ้าต่อไปเขายังเป็นแบบนี้ ฉันจะไม่ทนแล้วนะ เดี๋ยวจับกินซะเลย
“น้องซะ...” พอไม่ได้คำตอบจากทางนู้นพี่เขาก็เปลี่ยนเป้าหมายมาหาฉัน
“ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ กินข้าวกันดีกว่าเนอะ ข้าวมาแล้ว” พูดเป็นการตัดบทก่อนที่มันจะมากความไปมากกว่านี้
“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่จะบอกว่าหยิบพริกน้ำปลาให้พี่ที” พี่ดินว่าแล้วหัวเราะ โดนเข้าแล้วฉัน
“ร้อนตัวนะชะนีน้อย” เมื่อโดนรุมฉันเลยแอบหันไปมองค้อนใส่พี่อัคคี เพราะเขาคนเดียวเลย!
กินข้าวเสร็จพวกฉันก็แยกย้ายกัน โดยฉันกับยัยซูซี่แยกกันกลับเพราะเอารถมาคนละคัน ส่วนพี่สองคนนั้นก็กลับด้วยกัน เพราะมาคันเดียวรถก็น่าจะเป็นของพี่อัคคีเพราะเขาเป็นคนขับ
วันนี้เขาก็เป็นป๋า เลี้ยงข้าวพวกฉันสองคนแต่ไม่จ่ายให้พี่ดิน ซึ่งก็โดนโวยวายใหญ่เลยว่าสองมาตรฐาน ก็กินข้าวฟรีไปสิฉัน ยัยซูซี่ก็ยกยอปอปั้นไปใหญ่แค่เพราะเขาเลี้ยงข้าวไม่กี่บาท บอกแล้วว่ายัยนี่ถึงรวยมากก็งกมากเช่นกัน และอีกอย่างถึงแม้ว่าเขาจะบอกให้ฉันเรียกว่า ‘เฮีย’ แต่ฉันไม่เรียกหรอก มันรู้สึกกระดากปากยังไงไม่รู้ เอาเป็นว่าเรียกแบบเดิมนี่แหละดีแล้ว
กลับมาถึงหอฉันก็เก็บข้าวของอุปกรณ์การเรียนที่เอาไปเรียนออกจากกระเป๋า เปลี่ยนเสื้อผ้าและหอบโน้ตบุ๊กมานั่งทำรายงานที่โต๊ะหน้าโซฟา ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่หอพักแต่ที่นี่ก็ไม่ได้เล็กขนาดนั้นหรอกนะ ยังพอมีพื้นที่บริเวณแบ่งเป็นสัดส่วนพอสำหรับการใช้สอย อาจจะมากเกินหอพักปกติไปด้วยซ้ำไป
ทำรายงานไปสักพักฉันก็เริ่มรู้สึกเมื่อย เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาอะไรทำพักผ่อนสมองหน่อย โดยการเข้ากล้องและถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าอัปลงอินสตาแกรม เพื่อระบายความเครียดสักหน่อยแล้วกัน
(โพสต์รูปใบหน้าตัวเองแบบเนือยๆ พร้อมกับแคปชั่น)
ถูกใจโดย Dee.DINN และคนอื่นๆ อีก 203 คน
Sinsin_nn งานมันเครียด TT
Fluke_kk น่ารักครับ
SuZy_cute ช่วยฉันด้วยยยย
P. Preaww อุ้ย! หน้าสด
Dee.DINN พี่ช่วยได้นะคะน้องซิน
ลงรูปไปไม่กี่นาทีก็มีคนเข้ามากดหัวใจและคอมเมนต์มากมาย รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง ฉันก็ไล่ตอบคอมเมนต์ไปเรื่อยๆ คนจนครบทุกทน อ๋อ ชื่อ Dee.DINN นั่นก็คือพี่ดินนั่นแหละ เขามาติดตามฉันตั้งแต่ที่ร้านคืนนั้นแล้ว คอยมากดถูกใจและคอมเมนต์ตลอด ฉันก็ติดตามพี่เขากลับเหมือนกันนะ ซึ่งพี่เขาก็อัปรูปและลงสตอรี่บ่อยมาก จนกดถูกใจแทบไม่ทันเลย
เมื่อตอบคอมเมนต์และอัปเดตชีวิตตัวเองเรียบร้อย ฉันก็กลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่ค้างไว้จนเสร็จ เก็บของแล้วฉันก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำทันที ก็นั่งเน่าๆ ทำงานมาจนดึกแล้ว ต้องรีบทำความสะอาดร่างกายเพื่อความสบายตัวสักหน่อย
ก่อนจะนอนก็เช็กช่องทางโซเชี่ยวต่างๆ ของตัวเองและส่องของเพื่อนบ้างว่ามีอะไรอัปเดตรึเปล่า พอเข้าไลน์ก็เจอกับข้อความมากมาย ที่ทักมาทั้งจากเพื่อนของฉันทั้งสอง ที่ทักมาถามวิชาเรียนในวันพรุ่งนี้ และเรื่องงานการบ้านต่างๆ
ฉันก็ไล่ตอบไปเรื่อยๆ จนมาถึงไลน์ที่พึ่งเด้งขึ้นมาตอนที่คุยกับเพื่อนอยู่ใครอีกล่ะฉันง่วงแล้วนะ ว่าแล้วก็เปิดเข้าไปดูจนได้รู้ว่าเป็นใคร ก็เขาเล่นเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนรูป ฉันก็เลยจำไม่ได้
อัคคี : ทำไร?
ว้อท? สั้นง่ายไม่ได้ใจความตลอดคนนี้ ไม่บอกหรอกว่าใครเดาเอาแล้วกัน
ซิน :คะ
ซิน : กำลังจะนอนค่ะ
ฉันตอบเขากลับไป จากที่รู้สึกง่วงเมื่อกี้ตาสว่างทันที
อัคคี : อืม...
พิมพ์มาแค่นี้แล้วเขาก็เงียบไป ซึ่งฉันก็ไม่ได้กดออกไปไหนเพราะคิดว่าต้องมีอะไรพิมพ์ต่อมาอีกแน่ๆ
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด
อัคคี : ทำไม
อัคคี : ไอ้ดินมีไอจีเธอ
เขาถามกลับมาอีกแล้ว ถามเก่งเหลือเกิน
ซิน : พี่ดินเขาเคยขอมาค่ะ
ซิน : ก็เลยฟอลกลับไป
แล้วนี่ทำไมฉันต้องมาคอยตอบคำถามเขาด้วยเนี่ย อ๋อ ที่เขาไม่รู้มาก่อนและไม่มีไอจีฉันเหมือนอย่างพี่ดิน เพราะว่าตอนนั้นเขาไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ แล้วตอนนี้เขารู้ได้ยังไง
ซิน : ว่าแต่...พี่รู้ได้ไงคะ
อัคคี : มันมาอวดที่เธอตอบคอมเมนต์
ตอนนั้นพี่เขาคงอยู่ด้วยกันสินะ แล้วเรื่องอย่างนี้เขาต้องอวดกันด้วยเหรอ มีอะไรน่าอวดกันนะ
ซิน : แล้ว?
เออ...ก็คือไม่รู้ว่าพี่เขาต้องการอะไร แค่ทักมาถามเรื่องนี้ แค่นี้นะเหรอ
อัคคี : บล็อกมัน
ห๊า อะไรของเขา นี่เขาสั่งฉันอีกแล้ว มีสิทธิ์อะไรมาสั่งกัน แล้วพี่ดินไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมฉันต้องทำตามที่เขาบอกด้วย
ซิน : ทำไมต้องบล็อกด้วยคะ
ซิน : พี่ดินไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
อัคคี : ไม่ชอบ
อัคคี : เบื่อมันอวด
ซิน : นั่นมันเรื่องของพี่
ซิน : อีกอย่าง...
ซิน : พี่มีสิทธิ์อะไรถึงมาสั่งให้ทำนู่นนี่
อัคคี : ตอนนี้ไม่...
อัคคี : อีกหน่อย...มีสิทธิ์! แน่ๆ
แค่พิมพ์มาแต่เหมือนมีภาพและเสียงอยู่ข้างตัวเลย ทำเอาฉันขนลุกซู่ไปทั่วร่างกายนี่ฉันหลอนไปแล้ว
แล้วสิทธิ์ที่เขาหมายถึง นี่คือสิทธิ์อะไรกัน
พอเขาว่ามาแบบนั้นฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีกรีบปิดโทรศัพท์ข่มตานอนทันที แต่ก็ยังไม่วายมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาอีก ตอนนี้ไม่ดูแล้วขอทำใจก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน
จากที่คุยกับพี่อัคคีวันนั้นตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วที่รู้จักกันมาและพอเช้าวันนั้นฉันก็ได้รับการแจ้งเตือนว่าพี่เขามาฟอลโล่วไอจีของฉันตั้งแต่เมื่อคืน แต่ฉันคงหลับไปแล้ว
และเรื่องที่เขาให้ฉันบล็อกพี่ดินฉันก็ไม่ได้ทำหรอกนะ เพราะเป็นแค่คำสั่งของเด็กโข่งขี้อิจฉาบางคน จึงไม่จำเป็นต้องทำตาม อื้อ...เขาก็เป็นคนบอกเองนั่นแหละ และฉันก็พอจะดูออก
ความสัมพันธ์ของฉันกับเขาในตอนนี้ก็...จะเรียกว่าคืบหน้าก็ได้แหละมั้ง เพราะเขารุกหนักมาก เก่งแต่ในแชตอะนะ สั่งนู้นสั่งนี่ ซึ่งพอเขาทำแบบนี้บวกกับการแสดงออกของเขาเวลาที่เจอกัน ก็ทำให้ฉันคิดว่ามันไม่ใช่แค่รุ่นพี่รุ่นน้อง หรือแค่เพื่อนของแฟนเพื่อนแน่ๆ ฉันก็ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดที่จะไม่รู้ว่าการที่เขาเข้าหาคือการที่อยากสานสัมพันธ์ มันก็มีหวั่นไหวบ้างน่ะสิ
จริงๆ เราก็คุยกันแทบทุกวัน แต่ถ้าต่อหน้าเพื่อนเวลาเจอกันก็ไม่ได้ทักทายอะไรหรอก ทำเป็นเหมือนไม่สนใจอะไร เรื่องนี้เพื่อนของฉันและเขาก็น่าจะไม่รู้ เพราะไม่ได้บอกหรืออาจจะแอบรู้ไปแล้ว ก็คงมีสงสัยบ้างแหละ เพราะมีบางครั้งที่เผลอหลุดๆ แสดงออกเหมือนกัน
ไม่ได้ไม่อยากบอกหรอกนะ แต่เพราะว่าเราไม่เคยคุยกันจริงจังในความสัมพันธ์ของเรา หรือคุยกันว่าที่เป็นอยู่คืออะไร และฉันคิดว่าเป็นแบบนี้ไปก็สบายใจดีอยู่แล้ว ไว้วันนึงมั่นใจเมื่อไรมันก็ยังไม่สาย ความจริงเขาไม่เคยพูดถึงจะให้ฉันออกตัวแรงไปก็ไม่ได้ เกิดโป๊ะขึ้นมาหน้าแหกหมอไหนก็เย็บให้ไม่ได้
ตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่โมงกว่าแล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์ซึ่งฉันก็ไม่มีเรียนอยู่แล้ว และไม่ได้นัดกับเพื่อนหรอกแต่นัดกับบางคนไว้ต่างหาก เขาบอกว่าเดี๋ยวจะมารับไปกินข้าวด้วยกัน ว่าแล้วก็ไปเตรียมตัวก่อนดีกว่า อีกหน่อยก็คงมาละ
อยากจะเล่าว่าเวลาคุยกัน หรืออยู่ด้วยกันสองคนเขาเริ่มพูดมากแล้วล่ะ ตอนนี้บางครั้งฉันก็อยากจะบอกเขาว่าหยุดพูดได้ไหม บ่นเก่งเหลือเกิน ความนิ่งความแบดบอยที่เขามีหายไปไหนกัน เอาคืนมาได้ไหม
พูดถึงได้ไม่นานเขาก็โทรมาตามทันที
(ถึงแล้ว...รอข้างล่าง)
“โอเค เดี๋ยวลงไป” เมื่อรู้จักกันมากขึ้นฉันก็ไม่ได้พูดจาคะขาเหมือนเดิมหรอกนะ
(อ่า...หรือจะให้ขึ้นไปรอข้างบน)
“ไม่ต้องค่ะ!!! จะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ” แล้วก็รีบออกจากห้องลงมาหาเขาทันที ว่าไม่ได้นะเดี๋ยวขึ้นมาจริง