คำถามของเชลยสาวรัวออกมาเป็นชุดใหญ่ จนชีคหนุ่มต้องยกมือห้าม อาการตื่นๆ ของคนร่างเล็กตอนนี้ช่างดูไร้เดียงสานัก ราวกับเด็กสาวที่อายุยังไม่ถึงสิบแปด ทำให้ความขุ่นข้องหมองใจในพระทัยของชีคหนุ่มที่มีต่อเชลยสาวของพระองค์หายไปตั้งเกือบครึ่ง แต่มีแววขันขึ้นมาแทน
นี่เธอคิดว่าพระองค์เป็นโจรทะเลทรายงั้นหรือ ไม่สิ...เธอยังมองว่าพระองค์เป็นพ่อค้าทาสที่นำสาวๆ ไปประมูลขายในตลาดมืดอีก หน้าตาของพระองค์คงดูโหดเหี้ยมและร้ายกาจขนาดนั้นเชียวหรือ ชีคหนุ่มนึกขำยังไม่ตอบคำถามหญิงสาวในนาทีแรก
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบร่างบางก็ลุกขึ้นวิ่งไปเปิดประตูแต่ก็เปิดไม่ได้เพราะยังไม่ถึงเวลา พอวิ่งไปดูทางหน้าต่าง อารียาก็แทบสิ้นสติ เมื่อทอดสายตามองออกไปเห็นทะเลทรายเวิ้งว้างจนสุดลูกหูลูกตา และเห็นต้นปาล์มเป็นแนวยาวไปตามสันทราย
หัวใจดวงน้อยเต้นรัวราวกลับตีกลองชัย เมื่อรู้แน่ชัดว่าที่นี่คือเมืองทะเลทราย ไม่ใช่เมืองไทยประเทศที่เธอรัก
จากภาษาที่เขาใช้ กับภาพทะเลทรายที่เธอเห็น เป็นคำตอบได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้ตัวเองกลายเป็นเชลยของที่นี่ไปแล้ว ผู้ชายคนนี้คงจับตัวเธอมา แล้วเมื่อคืนเขาก็นอนกับเธอมาทั้งคืน คิดมาถึงตรงนี้แล้วหญิงสาวก็ใจหายวาบ รีบก้มมองสำรวจตัวเอง ปรากฏว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบ เขาอาจจะยังไม่ได้ทำอะไรเธอ
บางที...บางทีผู้ชายตัวโตน่ากลัวคนนี้อาจจะเป็นพ่อค้าทาสที่ไม่อยากให้สินค้าตนเองมีตำหนิก็ได้ แล้วเธอควรจะทำอย่างไรดี จะเรียกให้ใครช่วย ในเมื่อที่นี่เป็นถิ่นของเขา แล้วที่นี่มันที่ไหนก็ไม่รู้ รู้แค่ว่ามันเป็นเมืองทะเลทรายเท่านั้น แล้วเธอจะกลับไปหาท่านพ่อท่านแม่ของเธอได้อย่างไร
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ช่วยเล็กด้วย”
ร่างบางพึมพำออกมาเบาๆ น้ำตาก็เหมือนจะไหลซึมออกมาช้าๆ เมื่อหันไปมองร่างสูงใหญ่ที่กำลังค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ แต่สัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอดทำให้เธอต้องถอยหลังหนีทีละก้าวเช่นกัน พร้อมกับกะพริบตามองเขาปริบๆ จนแผ่นหลังบางไปชนเข้ากับฝาผนัง
ชีควาคิลรู้สึกแปลกพระทัยมากที่ไม่เห็นเชลยสาวร้องเอะอะโวยวาย ถ้าเป็นผู้หญิงอื่นที่รู้ว่าถูกจับตัวมาแบบนี้คงได้ร้องกรี๊ดลั่นแน่ แต่กับหญิงผู้นี้กลับนิ่งสงบไม่มีแม้แต่เสียงไม่มีแม้แต่วาจาด่าทอให้ระคายหู คงมีเพียงแค่อาการสั่นๆ เพราะหวาดกลัวพระองค์เท่านั้น
“เจ้ากลัวเรามากรึ”
“คุณ...จับฉัน...มาทำไม” เธอไม่ตอบคำถามเขาแต่กลับถามในสิ่งที่ตนเองอยากรู้ ทำให้ชีคหนุ่มต้องพิจารณาเธออีกครั้ง ก่อนจะที่ตรัสว่า
“เดี๋ยวอีกไม่กี่นาทีเจ้าก็จะรู้คำตอบ ว่าเราจับตัวเจ้ามาทำไม แต่ตอนนี้ใกล้ได้เวลาที่เจ้าจะต้องไปอาบน้ำแต่งตัวแล้ว และแต่งกายให้เรียบร้อยเสียใหม่ก่อน” สิ้นกระแสรับสั่ง นางกำนัลตัวพอๆ กับเชลยสาวก็เดินเข้ามาในห้อง
ร่างเล็กของนางกำนัลย่อกายลงเพื่อคำนับชีคหนุ่มก่อนที่จะเอ่ยว่า
“หม่อมฉันมารับนายหญิงไปอาบน้ำเพคะ”
คำราชาศัพท์ไม่คุ้นหูที่เปล่งออกมาจากปากเล็กของผู้หญิงคนนั้น ทำให้อารียาพอจะเดาออกว่าผู้ชายตัวโตข้างๆ เธอนี้ต้องเป็นเจ้าครองนครหรือไม่ก็ชีคแน่ๆ
เป็นถึงชีคแล้วเขาจับตัวเธอมาทำไม?
“อาร์ซู พานายหญิงของเจ้าไปอาบน้ำ เสร็จแล้วพานางไปยังห้องอาหาร เราจะทานอาหารเช้ากับนางสองคน”
“เพคะ ท่านชีค” อาร์ซูถวายคำนับอีกครั้งก่อนจะพาอารียาออกไปจากห้องพระบรรทม เชลยสาวเดินตามนางกำนัลที่ดูท่าทางเป็นมิตรไปอย่างว่าง่าย
ในห้องอาบน้ำสำหรับนางสนมคนโปรด
“เธอชื่ออาร์ซูใช่มั้ย ” อารียาเริ่มเปิดการสนทนาอย่างเป็นกันเองด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
ด้วยวิญญาณของการเป็นครูเธอจึงพยายามที่จะมีสติอยู่เสมอ ไหนๆ ก็รู้ตัวว่าถูกจับตัวมาเป็นนางสนมของท่านชีคอะไรนั่นแล้ว เธอก็ขอผูกมิตรไว้จะดีกว่า อย่างน้อยก็เพื่อสอบถามข้อมูลที่เป็นประโยชน์บ้างก็ยังดี หากมีโอกาสเมื่อไหร่ เธอจะได้หนีออกไปจากที่นี่ได้ แต่อารียาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เธอคิดมันคงเป็นได้แค่ในความฝันเท่านั้น
“นายหญิงถอดชุดนี่ออกนะเจ้าคะ จะได้ลงไปอาบน้ำสักทีเจ้าค่ะ ขืนช้า ท่านชีคจะรอนาน” อาร์ซูบอกนายสาวของเธออย่างร้อนรน
“งั้นฉันขออาบน้ำคนเดียวได้มั้ย” อารียาต่อรอง
“ไม่ได้เจ้าค่ะ อาร์ซูต้องทำตามคำสั่งของท่านชีค ถ้าไม่ทำอาร์ซูต้องถูกลงโทษ” น้ำเสียงของสาวรับใช้ดูจริงจังและน่าสงสาร ทำให้อารียาใจอ่อน แต่ก็ยังอดที่จะต่อรองอีกครั้งไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นอาร์ซูหันไปก่อนได้มั้ย รอให้ฉันเดินลงไปในบ่อน้ำแร่ก่อน แล้วอาร์ซูค่อยหันกลับมา”
อาร์ซูไม่อยากให้เวลายืดเยื้อไปนาน จึงได้ยอมตามใจนายสาวไปก่อน
“ได้เจ้าค่ะ แต่รีบๆ ถอดนะเจ้าคะ ถ้าชักช้า อาร์ซูต้องถูกโบยจนหลังลายแน่เลย”
คำบอกเล่าของสาวรับใช้ทำให้อารียาอดคิดไม่ได้ว่าชีคหนุ่มต้องเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนแน่ๆ แต่เธอจะทำยังไงถึงจะเอาตัวรอดจากการเป็นสนมของเขาได้นะ แต่ที่แน่ๆ เธอต้องรีบอาบน้ำและแต่งตัวให้เรียบร้อยและกินข้าวให้อิ่มท้องเสียก่อน มีแรงเมื่อไหร่ เขารังแกเธอไม่ได้ง่ายๆ แน่ ผู้หญิงอย่างอารียา สู้ไม่ถอยอยู่แล้ว
ทันทีที่ร่างกายจุ่มลงไปในบ่อน้ำแร่ใสสะอาด อารียาก็รู้สึกผ่อนคลายทันที สบู่สมุนไพรมีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพรรณหลายชนิด ยิ่งสูดดมก็ยิ่งรู้สึกสดชื่นและมีแรงขึ้นมา อาร์ซูตั้งใจขัดฟอกเนื้อตัวของนายสาวด้วยผงขัดสมุนไพรสีเหลืองอ่อนซึ่งมีกลิ่นหอมละมุนมากๆ ยิ่งสูดดมยิ่งรู้สึกเคลิบเคลิ้ม
“ผิวของนายหญิงสวยมากๆ เลยเจ้าค่ะ ทั้งขาวทั้งเนียน มิน่าท่านชีคถึงได้โปรดปรานท่าน” อาร์ซูกล่าวชมออกมาตรงๆ เพราะอดไม่ได้ที่จะชื่นชมร่างงามสะพรั่งดั่งกุหลาบแรกแย้มตรงหน้า
“เธอบอกว่าท่านชีคโปรดปรานฉันเหรอ ไม่จริงหรอก ฉันถูกจับตัวมานะอาร์ซู ฉันไม่อยากเป็นนางสนมของเขา เธอช่วยฉันหนีออกไปจากที่นี่ได้มั้ย ได้มั้ยอาร์ซู”
สาวรับใช้อาร์ซูพอได้ยินเรื่องที่นายสาวของเธอเล่ามาก็ตาโตตกใจอย่างคาดไม่ถึง และที่น่าตกใจมากกว่านั้นก็คือ นายสาวของเธอคนนี้กำลังคิดหนีด้วยการขอร้องให้เธอเป็นคนช่วย ร่างเล็กรีบสั่นหัวทันทีเพราะความรักตัวกลัวตาย
“ไม่ได้เจ้าค่ะ อาร์ซูทำตามที่นายหญิงสั่งไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ไม่อย่างนั้น อาร์ซูต้องอายุสั้นแน่ๆ เลย ได้โปรดนะเจ้าคะนายหญิง อย่าได้คิดหนีอีกเลย”
เมื่อเห็นอาการปฏิเสธอย่างรุนแรงของสาวรับใช้ ก็ทำให้อารียาต้องถอนหายใจยาวออกมา แล้วทีนี้เธอจะขอให้ใครช่วยเธอได้บ้างล่ะนี่
“ตกลง ไม่หนีก็ไม่หนี แต่ว่าอยู่กับฉันสองคน อาร์ซูคุยกับฉันแบบธรรมดาก็ได้นะ แล้วก็ไม่ต้องเรียกฉันว่านายหญิงหรอก ฉันยังไม่ได้เป็นอะไรกับเขา”
“ตอนนี้ไม่เป็น แต่อีกประเดี๋ยวก็คงจะเป็นเจ้าค่ะ”
อาร์ซูรีบตอบทันควันจนเชลยสาวตกใจกะพริบตาปริบๆ ตัวแข็งทื่อเป็นหินขึ้นมาทันที ที่สาวรับใช้พูดเมื่อครู่นี้หมายความว่า อีกไม่เกินข้ามวันเธอก็ต้องตกเป็นของเขาอย่างนั้นหรือ ไม่มีทาง...เธอไม่ยอมเด็ดขาด อารียาขอสู้ตาย
ความสาวความสวยของเธอมีไว้สำหรับชายที่เธอรักเท่านั้น เธอจะไม่มีวันให้เขามาพรากความสาวไปจากเธอได้โดยเด็ดขาด!