หลังจากจัดการปะทะคารมเล็ก ๆ น้อย ๆ กับอี้เหยียนซินจนหนีกลับเรือนไปเช่นทุกครานางร้ายภายใต้ใบหน้าอัปลักษณ์ก็ได้แต่ลอบยิ้มสะใจนิสัยอี้เหยียนซินเจ้าเล่ห์มารยาเพียงใดนางรับรู้ได้เป็นอย่างดี
“เหตุใดยอมปล่อยผ่านเจ้าคะ” ลู่เจียวไม่เข้าใจคุณหนูของตนแม้แต่น้อยว่าเหตุใดกันหนอถึงได้ปล่อยให้คุณหนูใหญ่ปล่อยข่าวเสียหายไปง่ายๆ โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง เช่นเมื่อครู่มองปราดเดียวก็รู้ว่าอี้เหยียนซินนั้นจงใกล้เสแสร้งให้ตนเองหน้าสงสารเพื่อใส่ร้ายคุณหนูของนาง
“เรื่องอะไรหรือลู่เจียว” อี้เวยหนิงไม่ได้ใส่ใจนักจึงเลือกจะปล่อยผ่านมองข้ามไปเหมือนคนโง่
“โถ่คุณหนูท่านก็รู้ว่าบ่าวหมายถึงสิ่งใด” สาวรับใช้มีสีหน้าเง้างอนคุณหนูที่ชอบทำอะไรไม่บอกผู้ใดเก็บทุกอย่างเอาไว้ในเพียงคนเดียวตลอดมา
“คิกคิก หน้าเจ้าตลกจริงๆ ทำเหมือนข้าไปฆ่าใครมาอย่างนั้นแหละ” ในโลกแห่งนี้คงมีสาวใช้ผู้นี้ที่นางไว้ใจที่สุด
“บ่าวกลัวท่านอ๋องจะทราบข่าวเข้า หากท่านอ๋องไม่พอใจคงหาทางเล่นงานคุณหนูแน่”
ท่านอ๋องนั้นใครๆ ก็ทราบดีว่ากำลังชอบพออยู่กับอี้เหยียนซินหากเรื่องข่าวปลอมๆ นี้ลอยถึงหูท่านอ๋องเข้าคุณหนูไม่แย่หรอกหรือ
“ท่านอ๋องผู้นั้นจะมาเล่นข้าด้วยเหตุใดข้าไม่ได้ทำร้ายอี้เหยียนซินเสียหน่อยก็แค่ข่าวลือ”
นางไม่เคยพบท่านอ๋องมาก่อนแต่ก็ได้ยินเรื่ิองราวมาบ้างและคิดว่าเขาคงจะฉลาดอยู่หลายส่วนไม่น่าจะสนใจเรื่องของสตรี // เป็นถึงอ๋องคงไม่หูเบาหรอกมั้ง อี้เวยหนิงคิดเล่นๆ
จวนอ๋อง
“นางร้ายกาจนัก” ไป๋เทียนจินได้ยินข่าวลือแล้วอยากเห็นหน้าสตรีอัปลักษณ์ผู้นั้นนักอยากรู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไรถึงทำร้ายพี่สาวตนเองได้
“ท่านอ๋องหมายถึงผู้ใดขอรับ”
หมิงซานมองท่านอ๋องที่แสดงสีหน้าเคร่งเครียดยามเอ่ยถึงสตรี อยากรู้นักว่าคนผู้นั้นเป็นใครเหตุใดถึงได้ทำให้ท่านอ๋องแสดงสีหน้าเช่นนี้ได้
“อี้เวยหนิง คุณหนูรองสกุลอี้” สตรีอัปลักษณ์แสนใจร้ายที่ผู้คนพากันด่าทั้งเมื่อง
“หากตามข่าวลือก็เป็นเช่นนั้นขอรับ” หมิงซานเองก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จประการใดเพียงแต่ได้ยินผู้คนเล่าลือมาเช่นนั้นว่าอี้เวยหนิงนั้นร้ายกาจยิ่งนัก
“คุณหนูอี้เหยียนซินถูกกลั่นแกล้งให้คุกเข่าหน้าจวนทั้งวันทั้งคืนเลยหรือ” เขานึกไปถึงสตรีผู้น่าสงสารที่เคยพบตอนออกไปเยี่ยมชมตลาด
อี้เหยียนซินสตรีบอบบางกิริยาอ่อนหวานที่เขาช่วยจากพวกโจรหลังจากนั้นได้ทราบว่าเป็นบุตรสาวอดีตท่านแม่ทัพที่เขาเองนับถือจึงพูดคุยกันเรื่อยมากและพอจะทราบถึงความร้ายกาจของน้องสาวอย่างอี้เวยหนิงบ่อยครั้งจนเชื่อสนิทใจว่านางร้ายกาจมากจริงๆ
“เรื่องนี้ความเป็นมาไม่แน่ชัดรู้เพียงแต่คุณหนูอี้เหยียนซินนั่งคุกเข่าอยู่หน้าจวนตั้งแต่เมื่อคืนไม่ได้ลุกไปไหน” หมิงซานไม่อยากฟันธงเพราะตั้งแต่ให้คนจับตาดูมาอี้เวยหนิงไม่เคยไปหาผู้ใดหมกตัวอยู่แต่ในจวนเท่านั้น
“เช่นนั้นก็สรุปได้ไม่ยาก สตรีอัปลักษณ์ทั้งกายใจนั่นกลั่นแกล้งเหยียนซินเป็นแน่” ไม่ต้องคิดให้มากความท่านอ๋องก็สรุปทุกอย่างให้เสร็จสรรพโยนความผิดทุกสิ่งให้อี้เวยหนิงจนหมด