บทที่ 8

1169 Words
“ผู้พัน เอาจริงหรือครับ” ผู้หมวดอาดีลตะโกนถาม เบิกตากว้างมองตามร่างใหญ่ล่ำสันของผู้พันหนุ่ม ซึ่งกำลังเดินดิ่งตรงไปยังเป้าหมายบางอย่าง “อาดีล ผู้พันทำอะไร” ขณะตะโกนถามผ่านไมค์อันเล็ก ผู้หมวดซารุสแทบกระโจนออกมาจากรถ เมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนตะโกนถามผู้บังคับบัญชาเช่นนั้น “เอาจริงสิ ผู้หมวดอาดีล” ผู้พันฟาเรลล์ยิ้มกว้าง ยักคิ้วให้กับลูกน้องขณะเอ่ยตอบ ไม่สนใจสายตาของผู้หมวดอาดีล ที่กำลังจ้องมองเขม็งเป็นการห้ามปรามไปในตัว “อย่านะผู้พัน” “เฮ้ย! อาดีล บอกมาเร็วๆ สิว่ะ ว่าผู้พันกำลังจะทำอะไร” ผู้หมวดซารุสถามเสียงดังลั่นรถ และคราวนี้ คนที่ตอบคำถามของเขาก็คือผู้พันฟาเรลล์! “เราแค่จะกดสัญญาณกันขโมยก็เท่านั้นเอง” “ฮ้า!” ผู้หมวดซารุสเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน ร้องห้ามเสียงหลงในทันที “ผู้พันอย่านะครับ เดี๋ยวก็หนีห่ากระสุนไม่ทันกันพอดี” “หนีไม่ได้ทันได้ยังไง เราเป็นคนออกแบบโรงแรมนี้เอง รู้ทุกซอกทุกมุมของโรงแรมดีกว่าท่านพี่คนที่เป็นเจ้าของซะอีก” ผู้พันฟาเรลล์เอ่ยกลั้วหัวเราะ ยื่นมือไปวางบนปุ่มสัญญาณกันขโมย แล้วเอ่ยบอกลูก น้องต่อ ไม่ได้นึกหวาดกลัวกับคำเตือนของผู้หมวดทั้งสอง แม้แต่นิดเดียว “ถือซะว่าเป็นการซ้อมรบก็แล้วกัน” “แต่ตอนซ้อมรบเราใช้กระสุนปลอมนะครับ ผู้-พัน-” ผู้หมวดอาดีลโอดครวญ “ถูกกระสุนจริงเจาะสักรูสองรู ก็คงไม่เจ็บเท่าไรหรอกน่า...ผู้หมวด ทำยังกับไม่เคย” ผู้พันฟาเรลล์เถียงกลับ เดาใจลูกน้องออกว่าถึงแม้จะโวยวายไม่ให้เขากดสัญญากันขโมย แต่ลึกๆ แล้ว ผู้หมวดทั้งสองคนนี้ก็นึกสนุกอยู่ไม่น้อยกับการวิ่งแข่งกับห่ากระสุนปืน “พวกนายพร้อมหรือยัง เรานับสาม แล้วเตรียมตัววิ่งหน้าตั้งได้เลย” “อยากจะบ้าตาย” ปากนั้นบ่นอุบ แต่ผู้หมวดอาดีลเตรียมพร้อมทุกวินาที ทางด้านผู้หมวดซารุสก็มีอาการไม่ต่างจากเพื่อน เขาพร้อมสำหรับการไปรับทุกคนขึ้นรถในทุกวินาทีเช่นเดียวกัน “สาม...สอง...หนึ่ง...ไป!” สิ้นเสียงคำสั่ง เสียงสัญญาณกันขโมยก็ดังลั่นทั่วตึก และไม่ต้องรอนาน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งได้รับคำสั่งว่ามีการกดสัญญาณกันขโมยจากตำแหน่งบริเวณใดของโรงแรม ต่างก็วิ่งกรูมายังบริเวณดังกล่าว ทันได้เห็นชายฉกรรจ์ในชุดสีดำสนิท ปิดบังใบหน้าไว้จนมิดชิด กำลังวิ่งออกไปทางด้านหลังของโรงแรม และหนึ่งในนั้นก็แบกร่างของหญิงสาวในชุดสีแดงหลบกระสุนปืนไปด้วย “วิ่งเต็มที่เลยผู้หมวด” ผู้พันฟาเรลล์ตะโกนบอกลูกน้อง “ผมกำลังทำอยู่นี่ยังไงล่ะครับ” ผู้หมวดอาดีลกัดฟันกรอดๆ และขณะเอ่ยตอบผู้บังคับบัญชา ก็วิ่งห้อเต็มที่ เพื่อไปให้ถึงรถยนต์เร็วที่สุด ผู้พันฟาเรลล์หัวเราะร่วนหลังจากฟังคำตอบจากผู้หมวดอาดีล ตัวเขาเองก็วิ่งเต็มฝีเท้าตรงไปยังจุดนัดพบกับผู้หมวดซารุส ไม่ได้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแม้แต่นิดเดียวที่ต้องอุ้มชายิกาไว้ในอ้อมแขน ขณะวิ่งหนีลูกกระสุนปืนด้วย ทางด้านของผู้หมวดซารุส พอได้ยินเสียงสัญญาณกันขโมยดังขึ้น ก็นั่งแทบไม่ติดเบาะรถ คอยชะเง้อมองไปยังทางออกว่าเมื่อไรผู้บังคับบัญชากับผู้หมวดอาดีลจะโผล่หน้ามาให้เห็นสักที “ผู้พันปลอดภัยไหมครับ” ผู้หมวดซารุสตะโกนถาม พอได้ยินคำตอบ ก็ช่วยให้โล่งอกขึ้นมาบ้าง “เราปลอดภัย” “อาดีล ยังอยู่ดีไหม” “ยังไม่ตาย แต่เฉียดๆ แล้ว” ผู้พันฟาเรลล์กับผู้หมวดซารุสถึงกับหัวเราะร่วนกับคำตอบประชดประชันของผู้หมวดอาดีล อีกไม่กี่นาทีต่อมา ผู้หมวดซารุสก็เห็นร่างใหญ่ล่ำสันของทั้งสองคน วิ่งหน้าตั้งออกมาจากประตูทางออก ก็รีบเปิดประตูรถยนต์รอคนทั้งสองในทันที “เร็วครับผู้พัน เพื่อนวิ่งตามหลังมาเป็นพรวนเลยครับ” ผู้พันฟาเรลล์เป็นคนแรกที่วิ่งมาถึงรถยนต์ เขาโยนร่างบางอ่อนปวกเปียกเข้าไปอย่างไม่ปราณีปราศรัย ก่อนจะกระโจนเข้าไปในรถอีกคน ทางด้านของผู้หมวดอาดีล ซึ่งคอยยิงคุ้มกันให้กับผู้บังคับบัญชา ได้กระโดดเข้ามานั่งในรถยนต์ด้านหน้าคู่กับคนขับเป็นคนสุดท้าย พร้อมกับตะโกนบอกผู้หมวดซารุสเสียงดัง “ไปเลย ซารุส เหยียบเต็มตีนเลย” ผู้หมวดซารุสรออยู่แล้ว เขากระชากรถออกในทันทีที่ผู้หมวดอาดีลกระโดดเข้ามาในรถ โดยไม่ทันได้ปิดประตูรถยนต์ด้วยซ้ำไป “พวกมันยังตามเป็นพรวนเลยครับผู้พัน” ผู้หมวดซารุสเอ่ยบอก ขณะมองผ่านกระจกหลัง ผู้พันฟาเรลล์หันไปมองทางด้านหลังตัวเอง เห็นรถตำรวจกำลังขับตามไล่หลังมาหลายคัน ทว่ากลับไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่นิดเดียว กลับออกคำสั่งกับลูกน้องด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เห็นเป็นเรื่องสนุกตื่นเต้นสำหรับคืนนี้ “นายก็ลองเล่นไล่จับกับตำรวจพวกนี้หน่อยสิ...ซารุส ลองดูว่าพวกมันจะซิ่งรถ ตามพวกเราทันหรือเปล่า” ผู้หมวดซารุสกระตุกยิ้มขณะรับคำสั่ง “ได้เลยครับผู้พัน เกาะให้แน่นๆ นะครับ” ได้ยินเช่นนั้น ผู้หมวดอาดีลก็รีบใส่เข็ดขัดนิรภัย กลอกตาอย่างเซ็งๆ ทั้งซารุสและผู้บังคับบัญชาต่างก็ขี้เล่นด้วยกันทั้งคู่ โดยเฉพาะผู้พันฟาเรลล์ ที่มักจะเล่นสนุก เสี่ยงอยู่บนความตายมาหลายครั้งแล้ว ผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ผู้หมวดซารุสก็ซิ่งรถหนีรถตำรวจชนิดที่ว่าไม่เห็นฝุ่น ขับรถลัดเลาะตามซอกซอยต่างๆ จนกระทั่งรถตำรวจตามไม่ทัน “ไม่มีใครตามมาแล้วครับ” ผู้หมวดซารุสถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขณะเอ่ยบอกทุกคน “ได้กินลูกตะกั่วบ้างหรือเปล่า อาดีล” แม้น้ำเสียงที่เอ่ยถามบ่งบอกให้รู้ว่าสนุกและตื่นเต้นกับเกมในครั้งนี้มาก แต่ผู้หมวดอาดีลก็รู้ว่าผู้พันฟาเรลล์เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่ครับ ผมปลอดภัยครับ” “สงสัยเราต้องบอกท่านพี่ให้ส่งลูกน้องไปหัดยิงปืนใหม่ ไม่มีใครยิงปืนแม่นสักคน” “แล้วผู้หญิงถูกยิงหรือเปล่าครับผู้พัน” ผู้หมวดซารุสเริ่มชะลอความเร็วของรถ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามพวกเขามาแล้ว และขณะเอ่ยถามผู้พัน ก็เอี้ยวตัวมามองทางด้านหลัง เพราะอยากเห็นสีหน้าของชายิกาด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD