"พ่อแก้ว!! ตายแล้ว... "
"คุณนายนิ่มกลับมาแล้วหรือขอรับ! "
"ทำไมมีสภาพเช่นนี้! ใครทำกระไรเจ้าถึงได้สาหัสสากรรจ์ถึงเพียงนี้บอกข้ามา!!"
คุณนายนิ่มหญิงหม่ายเศรษฐีนีคลองบางรักที่พึ่งกลับจากค้าขาย นางเอาของจากเมืองเหนือมาฝากแก้วเห็นสภาพก็ตกใจ นางผลักบัวเสียกระเด็นหัวแทบโขกราวบันไดรีบสำรวจตามตัวแก้วก่อนพยุงขึ้นเรือน คุณหญิงน้ำทิพย์ออกมาต้อนรับนางสีหน้าหนักใจด้วยรู้นางเอ็นดูแก้วมาก
"ผู้ใดบังอาจทำร้ายเจ้าแก้วของดิฉันถึงบาดเจ็บเพียงนี้! บอกมาดิฉันจะให้คนไปกระทืบมัน!!"
คุณหญิงน้ำทิพย์ต้องรีบชี้แจงก่อนเรื่องจะวุ่นวายแค่นี้ท่านก็ปวดหัวจะแย่ แก้วต้องคอยปลอบและบอกนางไม่มีอะไรแค่เรื่องเข้าใจผิดกันขอให้เรื่องจบแค่นี้ นางแพ้ลูกอ้อนของแก้วจึงยอมเลิกลา ก่อนกลับนางให้บ่าวนำผ้าแพรเมืองเหนือมาฝากทุกคน
"แม่นิ่มไปหาอัญมณีแถวเวียงชัยนาราย์ได้แหวนพลอยจากพม่ามา แม่นิ่มว่าเหมาะกับเจ้าลองสวมดูสิ"
นางยื่นแหวนพลอยวงกระทัดรัดให้แก้วใส่ เขารับไหว้ก่อนปฏิเสธแต่นางไม่ยอมคุณหญิงน้ำทิพย์สั่งให้แก้วรับไว้อย่าขัดใจนางด้วยรู้นิสัย
"ดีมากเป็นเด็กดีเยี่ยงนี้แม่ชอบ ครานี้แม่นิ่มจะอยู่บางรักนานเสียหน่อยไว้พ่อแก้วหายดีไปหาแม่นิ่มที่เรือนบ้างหนา แม่อยู่คนเดียวเหงา"
แก้วพยักหน้ารับปากจะไปหา แต่เขาคงไปเยี่ยมนางบ่อยเหมือนแต่ก่อนไม่ได้เพราะมีคนคิดอกุศลหาว่าคุณนายนิ่มชอบจับเด็กหนุ่มเป็นสามี และเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น เขากลัวนางจะเสียหายจึงเลี่ยงที่จะไปหาที่เรือน
คุณนายนิ่มกลับไปแล้วแก้วขอรับประทานอาหารและทานยาก่อนจะเข้าไปนอนพักในห้องนอนห้องเล็กที่ติดกับห้องของขุนวิชิตที่ท่านเคยยกให้เขาแต่ไม่เคยขึ้นมานอนเสียที ท่านพระยาไชยากรสั่งคนตกแต่งใหม่อย่างสวยงาม ปิ่นขอตามไปดูแลแก้วแต่ทุกคนร้องห้าม
"ก็หนู่ปิ่นอยากพัดให้พี่แก้วนี่เจ้าคะ ข้างในร้อนจะตายทำไมไม่นอนข้างนอกเหมือนเคย หนูปิ่นจะได้ดูแลเหมือนตอนที่หนูปิ่นป่วยพี่แก้วก็อยู่ดูแลหนูปิ่นตลอด" เด็กน้อยถามอย่างสงสัย
"พี่เขานอนพักข้างในดีแล้วจะได้ไม่มีใครกวนจะได้หายเร็วๆ"
บัวบอกปิ่นแทนผู้เป็นแม่ก่อนจะขอตัวกลับเรือน คุณหญิงน้ำทิพย์ลืมถามหล่อนมาทำอะไรได้แต่สงสัย บัวเดินกลับบ้านของตนเจอเมี่ยงกับยอดที่เดินทะเลาะกันมาตามทาง ทั้งสองกำลังตามหาบัวพอดีเมี่ยงบอกบัวให้รีบขึ้นเรือนผู้ใหญ่กำลังรอ
หมื่นพิพัฒน์หลังจากหายหน้าไปหลายวันได้ซื้อของกำนัลมาให้คุณหญิงประยงค์กับนางพุดซ้อนสร้างความปราบปลื้มใจอย่างมาก
"น้ำอบฝรั่งอีกแล้วหรือ กลิ่นหอมมิเหมือนคราก่อน เกรงใจแย่ขวดหนึ่งราคามิใช่น้อย"
นางพุดซ้อนปากบอกเกรงใจแต่มือรีบรับของกำนัล คุณหญิงประยงค์นั้นก็ลูบคลำสร้อยไข่มุกที่หมื่นพิพัฒน์บอกว่าหายากและราคาแพงนักหนา
"กระผมติดต่อกับพวกพ่อค้าฝรั่งเศสเป็นประจำ เลยนำมาฝากอาพุดซ้อนกับคุณหญิงขอรับ อีกไม่นานจะมีชาวฝรั่งมาเปิดห้างที่บำรุงเมือง แถวๆกระทรวงมหาดไทยเขาลือกันว่าจะทำใหญ่โตเทียมเมืองฝรั่งเชียว ถึงตอนนั้นกระผมใคร่จะพาน้องบัวไปเที่ยวชมจะได้ไหมขอรับ"
หมื่นพิพัฒน์หาเรื่องชวนบัวคุยแต่หล่อนไม่สนใจถามคำตอบคำมีแต่ยายกับแม่ของหล่อนตอบเสียส่วนใหญ่ ชายหนุ่มนั่งคุยอยู่นานขอตัวกลับอ้างติดราชการ บัวลงมาส่งตามคำสั่งหน้าบอกบุญไม่รับ
"พี่ไปก่อนแม่บัว ประเดี๋ยวพี่จะมาใหม่ช่วงนี้งานพี่ยุ่งถ้างานนี้สำเร็จคิดว่าคงไม่นานดอกที่เราจะได้ตบแต่งกัน"
"เฮ้อ... นี่ก็พูดไม่รู้ความว่าอย่างไรฉันก็มิได้ชอบพอหัวหมื่น ไปหาแม่หญิงอื่นเชยชมเถิดฉันอยู่ตัวคนเดียวได้"
"พี่ไม่พูดกับแม่ละ อย่างไรเสียแม่ก็หนีไปไหนไม่พ้นดอก"
เขาย้ำสถานะกับบัวอีกครั้งก่อนไปไม่วายจับมือหล่อนแต่โดนสะบัดออกเช่นเคย บัวสะอิดสะเอียนเต็มทน นับวันยิ่งเห็นนิสัยใจคอที่คอยจะเอาเปรียบผู้หญิงที่มีโอกาส
"เอ็งจอดเรือแถวนี้แหละข้าจะเดินไปเอง"
หมื่นพิพัฒน์รีบเดินลัดเลาะไปตามทางโดยมีพวกบ่าวเดินตามคอยระวังภัยให้
"ประเดี๋ยวตรวจของเสร็จเอ็งรีบให้พวกมันขนไปเชียงตุงเลย อยู่ที่นี่นานจะไม่ปลอดภัย คราก่อนไอ้กับปิตันเวรนั่นเสือกดีนักบอกให้ส่งของให้กลับอยากรู้อยากเห็นโดนสั่งสอนเสียคงไม่กล้าฮืออีกนาน"
หมื่นพิพัฒน์สั่งงานคนที่ขนอาวุธจำพวกปืนไฟไปส่งลูกค้าที่เชียงตุงที่ป่าหลังตลาดก่อนจะเดินไปทางร้านเหล้าเพื่อจะดื่มสังสรรค์ตามปกติโดยไม่ทันระวังตัว บ่าวของเขาสองคนที่เดินนำหน้าเดินไปติดตาข่ายดักสัตว์ถูกดึงขึ้นต้นไม้ห้อยต่องแต่ง ที่เหลือสี่คนรีบคุ้มกันภัยให้นายแต่ไม่ทันท่วงทีมีชายฉกรรจ์ประมาณสิบกว่าคนใส่ผ้าปิดหน้ากู่เข้าทำร้าย พวกหมื่นพิพัฒน์พยายามสู้สุดกำลังแต่สู้ไม่ได้
"พวกเอ็งทำกระไรไว้ก็ได้รับกรรมตามที่เอ็งก่อนั่นเยี่ยงนั้นแหละ!"
พวกเขาปล่อยหมื่นพิพัฒน์กับพวกนอนกองที่พื้นสะบักสะบอมอย่างหน้าสมเพส
"เรียบร้อยขอรับแม่นาย หัวหมื่นตอนนี้นอนสลบอยู่วันพรุ่งโน้นถึงจะตื่น"
"ขอบน้ำใจพวกเอ็งมาก ไอ้หมื่นตัวนี้ศัตรูมันเยอะคงจะไม่รู้ใครลงมือดอก หึ... คนอย่างมันต้องเจอนักเลงอย่างข้าบังอาจมาทำร้ายลูกรักคุณนายนิ่มต้องโดนสั่งสอน... ไอ้สิงห์เอ็งแจกเบี้ยให้พรรคพวกเอ็งแล้วหนีไปสักพักก่อนเผื่อไว้จะดีกว่า ถ้ามีกระไรเรียกใช้ค่อยไปตาม"
คุณนายนิ่มส่งลูกน้องไปดักทำร้ายหมื่นพิพัฒ์เป็นการเอาคืนแทนแก้ว นางสั่งบ่าวให้หลบไปอยู่ที่อื่นซักพัก ก่อนจากบ่าวของนางบอกเห็นพวกหมื่นพิพัฒน์เตรียมขนอาวุธไปเชียงตุงที่ตอนนี้กำลังมีปัญหาสู่รบกัน นางจึงให้บ่าวส่งข้อความไปหาขุนวิชิตที่เรือนจึงเข้าทางกับคำให้การของแก้วที่สืบค้างไว้ มีคนดูไม่น่าไว้ใจมารับจ้างคุ้มกันสินค้าไปเมืองเหนือ ขุนวิชิตพอทราบข่าวก็รีบลงเรือนไปทันทีด้วยท่าทางรีบร้อน ส่วนแก้วก็ทำหน้าที่คัดลอกเอกสารตามคำสั่ง
"ทำไมมันคันคะเยอเยี่ยงนี้วะ โว้ย! เมื่อไหร่จะหายเสียทีรำคาญ!!"
แก้วนั่งเยียดขาข้างที่กระดูกแตกออกมือเขียนเอกสารไปเกาแผลที่กำลังตกสะเก็ดไปอย่างรำคาญ ป้าศรีเดินขึ้นเรือนนำหน้าบัวและเรไรมาหาแก้ว เรไรทันทีที่ออกจากวังก็ตรงมาเยี่ยมบัวที่เรือน
"พอดีฉันตามรุ่นพี่ออกมาหาวัตถุดิบแต่คงจะบ่ายโน้นถึงจะได้ของจึงแวะมาเยี่ยมแม่บัว"
หล่อนเพียงต้องการมาพบแก้วแต่หมื่นพิพัฒน์ให้คนจับตามองจึงแสร้งมาเยี่ยมเยียนบัวก่อนจะชวนบัวมาเยี่ยมแก้ว
"แล้วนี่บ่นกระไรของเอ็งหึเจ้าแก้วได้ยินไปถึงสวนโน้น"
"ก็มันคันนี่ป้า ไม่คันขาก็คันหลังไม่คันหลังก็คันหัว โอ้ย!"
แก้วบ่นพร้อมเกาแขนแรงๆจนเนื้อถลอก ป้าศรีใช้พัดประจำตัวตีมือบอกให้หยุดเกาจะเป็นแผลเป็น เรไรขอดูหล่อนบอกมีสูตรยาแก้คันที่ได้จากวังหลวงวันหลังจะเอามาให้ หล่อนนำขนมที่เป็นสูตรชาววังมาฝากทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แก้วกับบัวแย่งกันทานอย่างเอร็ดอร่อยด้วยชอบของหวานกันทั้งคู่ เรไรยิ้มแก้มปริที่มีคนชอบรสมือหล่อน
"อายุพึ่งจะสิบเจ็ดรสมือหาที่ติสมกับเป็นชาววัง ผิดกับข้า... ปิ้งปลายังทำไฟไหม้เรือน"
บัวชมจากใจจริง เรไรเขินอายบอกวันหลังจะมาปรุงอาหารให้ชิมใหม่
"แล้วแม่บัวทำอาหารไม่เป็นรึ แม่เจ้าออกจะเก่งงานบ้านงานเรือน"
"ปู่ของข้าป่วยจึงไปดูแลแทนพ่อท่าน เทียวไปเทียวมาหาพ่อท่านแม่ท่าน ปู่และย่าหาได้ให้เข้าครัวแกะสลักปักสดึงครึงไหม ท่านอยากได้หลานสาวจึงไม่เคยบังคับข้าอยากจะทำกิจอันใดก็ทำ"
ยศขึ้นเรือนมาเพื่อจะขออนุญาตลุงและป้าไปงานเลี้ยงรับตำแหน่งญาติของพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วกับผู้เป็นแม่เมื่อเห็นเรไรทำท่าทีสนิทสนมกับแก้วก็ไม่พอใจ เขาอยากจะกระโจนเข้าไปต่อยเสียให้หน้าหงายที่มายุ่งกับคนที่เขาชอบ
"ทีข้าเทียวหาเทียวเอาใจสารพัดไม่สนกลับไปสนไอ้แก้วเสียทุกคน เอ็งนี่ชักจะเป็นศัตรูกับข้าไปทุกเรื่อง"
"ทำเยี่ยงไรดีคุณยศ มันแย่งหญิงไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้จัดการเลยไหมขอรับ"
หมานบ่าวติดตามยุแยงแต่ยศทำเฉยไว้โอกาศหน้าเพราะพึ่งโดนทำโทษ รอยหวายที่กลางหลังพึ่งจะจางและไม่อยากแสดงท่าทีที่ไม่ดีต่อหน้าหญิงสาว
"แม่บัวเจ้าว่าพี่แก้วเป็นคนเช่นไรฮึ"
เรไรถามความคิดเห็น บัวนิ่งคิดก่อนจะตอบคำถาม
"มิรู้สิคงเป็นคนดีกระมังไม่เช่นนั้นคุณๆคงไม่ยกยอขนาดนั้นดอก ทำไมหรือแม่"
เรไรรู้สึกเขินอายที่จะบอกว่านางนั้นชอบแก้วเข้าแล้ว
"เออ...คือ... ฉันว่าฉันรู้สึกชอบพี่แก้วเข้าแล้วล่ะ... คงตั้งแต่คราวก่อนที่เขาช่วยฉันจากผู้ร้าย"
บัวอึ้งไม่คิดว่าเรไรจะพูดตรงเพียงนี้ เรไรบอกบัวต้องคอยช่วยเป็นแม่สื่อให้หล่อน
"ได้เยี่ยงไร... แม่ฟั่นเฟือนไปแล้วเป็นหญิงชาววังอยู่ดีๆจะมาชอบพอบ่าวในเรือนเบี้ยเช่นนั้นหรือ... ฉันมิใช่คนถือศักดิ์ดอกนะแต่มันไม่สมควร นี่มิใช่บทละครในวังนะแม่"
บัวเตือนสติเพราะถึงอย่างไรพวกนางไม่มีสิทธิ์หาคู่เอง เรไรไม่สนขอเพียงได้อยู่ใกล้ดูแลกันนางก็ดีใจแล้ว อีกอย่างตอนนี้พระยาไชยากรยกย่องแก้วออกหน้าเท่าเทียมยศนางจึงคลายกังวล
"ฉันมิใส่ใจดอกว่าผู้อื่นจะคิดเยี่ยงไร ฉันอยู่บ้านฉันเขาอยู่ส่วนเขา ตอนนี้พี่แก้วหาใช่ข้าในเรือนแล้วถ้าท่านสนับสนุนรับราชการจำเริญตามท่านขุนแล้วจะมีเหตุอันใดไม่เท่าเทียมกัน ขืนช้านังตลาดสองนางนั่นได้เอาพี่แก้วทำสามีเป็นแน่ ถ้าแม่หน้าบางมิกล้าก็มิต้องช่วย!"
บัวถึงกับถอนหายใจให้เรไรไม่คิดว่าหล่อนจะดื้อดึงถึงเพียงนี้ เรไรมองไปทางห้องนอนของแก้วยิ้มอย่างมีเล่ย์นัย แย้มบ่าวรับใช้ของหล่อนเห็นแล้วได้แต่กลุ้มใจกับเจ้านายที่เอาแต่ใจตนเองนัก บัวอึดอัดใจเรไรเซ้าซี้จนหล่อนยอมรับปากแบบส่งๆ
เมี่ยงที่นั่งฟังรู้สึกลางไม่ดีด้วยความรู้สึกว่าช่วงที่แก้วป่วย บัวกับแก้วจะเริ่มพูดคุยสนิทสนมกันมากขึ้น เมี่ยงเป็นห่วงถ้าผู้ใหญ่ในเรือนรู้บัวจะถูกทำโทษเอาเพราะคุณหญิงประยงค์ท่านไม่ชอบหน้าแก้วสักเท่าใดและสั่งห้ามไม่ให้บัวไปยุ่งเกี่ยวใกล้ชิดกับชายอื่นที่ไม่ใช่หมื่นพิพัฒน์ และยังกำชับให้เมี่ยงเฝ้าจับตาดูบัวไม่ให้ห่างสายตา
"เอาแล้วอีเมี่ยง... ความซวยเข้ามาแทรกแล้ว"