"แม่นายเจ้าขา... อย่าทำโทษคุณหนูเลยเจ้าค่ะ บ่าวผิดเองที่ดูคุณหนูไม่ดี"
เมี่ยงกราบขอโทษคุณหญิงประยงค์ที่ถือไม้เรียวเตรียมเฆี่ยนหลานสาวตัวดี
"เอ็งกับพี่เอ็งก็ต้องรับโทษเหมือนกัน! ให้ดูเจ้าชะนีโหนต้นไม้นี่ให้ดีไยถึงได้เกิดเรื่อง! ถ้าแข้งขาหลานกูหักน้ำหน้าอย่างเอ็งจะรับผิดชอบได้รึ! เจ้าบัวก็เหมือนกัน! ทำงามหน้านักแขกเหรื่อเข้าออกบ้านเราทุกวันเกิดมาเห็นเจ้าทำตัวเป็นลิงทะโมนเยี่ยงนี้ได้ลือกันทั่วคลุงน้ำแน่! "
"ตกลงจะให้หลานเป็นลิงหรือชะนีเจ้าคะ"
เพียะ!!
"โอ้ย!! คุณยาย! ยังมิได้ตั้งตัวเลย!"
บัวลูบแขนที่โดนไม้เรียวฟาด
"เถียงฉอดๆ อย่างกับนางในตลาด! อีเงี่ยมโบยเจ้าบัวสิบที!! "
บ่าวคนสนิทกระอักกระอวนใจที่จะต้องลงหวายที่ก้นบัว คำสั่งท่านเด็ดขาดไม่มีใครกล้าขัด เมี่ยงกับยอดสองพี่น้องรีบกอดขาท่านขอร้องอีกครั้งแต่ไม่เป็นผล
"คุณหนูโดนสิบทีเอ็งกับข้าโดนคนละยี่สิบที่เป็นแน่พี่ยอด... ซวยแท้ๆ "
"เดี๋ยวๆๆคุณยาย เมี่ยงกับพี่ยอดไม่ผิดนะเจ้าคะ ขอร้องล่ะอย่าตีเขาเลยบัวรับผิดคนเดียว"
หล่อนยอมให้ลงหวายหล่อนคนเดียวยอมรับผิดแต่สองพี่น้องก็ไม่ยอมเช่นกัน ถึงทั้งสองจะกลัวเจ็บแต่ก็เป็นห่วงคุณหนูของพวกเขามากกว่า คุณหญิงประยงค์ไม่ฟังเสียงคัดค้านเพราะคิดไว้แล้วว่าถ้าบัวกลัวคนของตนเองเจ็บตัววันหลังหล่อนจะได้ไม่เล่นซนอีก หล่อนยืนกอดอกหันหลังให้นางเงี่ยมเฆี่ยน แต่มีคนมาที่เรือนพอดี หลวงสุรศักดิ์พ่อของคนที่คุณตาคุณยายหล่อนหมายหมั้นจะให้ออกเรือนกับลูกชายท่าน
"ถือว่ากระผมขอเถิดขอครับคุณหญิง นางคงเล่นซนตามประสาเด็กไปเยี่ยงนั้นเองนางคงจักเบื่อ วันหลังกระผมจะให้ลูกหมื่นมาพาไปเที่ยวชมเมืองด้านนอกแก้เบื่อนะจะได้ทำความรู้จักกัน"
"หึ รอดตัวไปนะเจ้าบัว ไปอาบน้ำสาระรูปนี่ดูมิได้ขัดหูขัดตาเสียจริง"
บัวรีบไหว้หลวงสุรศักดิ์แล้วรีบลงไปท่าอาบน้ำสำหรับเจ้านายกระโดดม้วนลงน้ำอย่างสวยงามยิ้มแฉ่งให้เมี่ยงกับยอด
"วู้! รอดตัว! มาๆ นังเมี่ยงพี่ยอดเล่นน้ำกัน! "
"ครั้งนี้รอดครั้งหน้าเราตายแน่ไอ้พี่ยอด..."
ดูบัวจะไม่ใส่ใจนักว่ายน้ำเล่นจนหน่ำใจแล้วขึ้นท่ามาขัดผิว ยอดเมื่อส่งหญิงสาวท่าน้ำแล้วก็ได้ไปรอที่ต้นไม้ใหญ่ให้น้องสาวดูแลนาง
"ไอ้แก้ว ข้าว่าไก่เอ็งจะกินข้าวเปลือกเปลืองเสียแล้วนะ"
"โธ่พี่ม่วง ก็ไอ้โชคพึ่งฟื้นไข้จะต้องบำรุงเสียหน่อย"
แก้วหว่านข้าวเปลือกเข้าไปในสุ่มไก่และพูดคุยยังกับไก่มันพูดได้
"อิ่มไหมพ่อ ถ้าไม่อิ่มข้าจะไปขุดหัวมันมาสับให้อีก"
ม่วงได้แต่ส่ายหัวให้แก้วที่วันๆ ถ้าไม่ได้ไปทำงานอะไรก็จะคลุกอยู่กับไก่ชน ที่เรือนมีไก่อยู่หลายตัวแต่ก็ไม่เห็นจะรักใคร่เท่ากับตัวนี้ วันดีคืนดีมานั่งเป่าขลุ่ยให้ฟังยังเคย
"ไอ้แก้วไปตลาดกับข้าที"
"ป้าไม่ให้ลุงเจิมพาไปล่ะ ข้ายังมีงานอื่นต้องทำอีกเยอะ"
เขาผิวปากเรียกไก่ตัวอื่นๆ มาจิกข้าวเปลือกที่หว่านไปทั่วลานกว้าง
"กูไม่เห็นมึงจะทำกระไร อย่ามาเล่นลิ้นโตแล้วใช้นิดใช้หน่อยขี้คร้านนักนะมึง"
แก้วได้แต่จำยอมทำตามคำสั่งป้าศรี ที่จริงเขาก็ไม่ได้ขี้เกียจอะไรแค่แย่คนแก่เล่นไปอย่างนั้นเอง พายเรือไปไม่นานถึงตลาดที่ตอนนี้คึกคักยิ่งนักเต็มไปด้วยผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ พอผูกเรือที่ท่าน้ำข้างหลวงพ่อที่บิณฑบาตรเสร็จแล้วกำลังจะกลับวัด บ่าวในเรือนสองสามคนเดินตามป้าศรีไปซื้อของเข้าเรือนตามคำสั่งคุณหญิงน้ำทิพย์มีแก้วเดินตามหลังเผื่อแกจะใช้สอยพลางทักทายชาวตลาดไปเรื่อยเนื่องจากเขาเป็นคนอัธยาสัยดีผู้คนจึงรักใคร่
"ป้าศรีข้าอยากกินขนมโค ซื้อให้ข้ากินหน่อย" แก้วดึงชายเสื้อป้าศรีออดอ้อนเหมือนเด็ก
"วะไอ้นี่! เบี้ยเอ็งไปไหนเสียหมดเอาไปตีไก่หมดแล้วหรือ เดี๋ยวกูจะฟ้องคุณชิด"
นางบ่นก่อนจะควักเหรียญให้แก้วอย่างรำคาญ เขายกมือไหว้ท่วมหัวทำหน้าทะเล้นก่อนจะวิ่งหายไปอีกทาง
"เร็วเข้าสิเมี่ยง เดี๋ยวหมื่นพิพัฒน์ก็เห็นข้าดอก"
บัวกึ่งเดินกึ่งวิ่งมือข้างหนึ่งก็ลากแขนบ่าวรับใช้ให้ตามตนมา
"คุณหนูเจ้าคะ ประเดี๋ยวคุณยายจะเอ็ดเอานะเจ้าค่ะเล่นหายไปดื้อๆ เยี่ยงนี้"
หล่อนไม่สนยังคงไปต่อด้วยกลัวจะเจอคู่หมั้นที่ถูกคุณหญิงประยงค์นัดหมายโดยไม่บอกกล่าว หากรู้ก่อนคงจะแกล้งนอนป่วยที่เรือนไม่ต้องออกมาด้วย เมื่อหันหลังดูคู่หมั้นเห็นเขาเดินตามมาไกลๆ จึงรีบวิ่งโดยไม่ทันดูทางบัวจึงวิ่งชนเข้ากับแก้วที่วิ่งส่วนมาอีกทาง
"โอ้ย...ชนมาได้!" บัวล้มก้นจ้ำเบ้า
"คุณหนูบัวเจ้าคะ! เจ็บตรงไหนรึเปล่าเจ้าคะให้บ่าวดูซิ! "
เมี่ยงรีบฉุดผู้เป็นนายลุกยืนพร้อมปัดฝุ่นให้
"นี่เอ็งอีกแล้วรึ! จะรีบไปตามควายที่ไหนถึงไม่ดูทางชนคุณหนูข้าเจ็บไปทั้งตัว!!"
เมี่ยงจำหน้าได้ด่าแก้วจนผู้คนหันมามองว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น
"เออ...คือ..."
แก้วกำลังจะขอโทษแต่บัวชิงพูดเสียก่อน
"ช่างเถอะเมี่ยงรีบหนีเร็วประเดี๋ยวหัวหมื่นจะตามทัน"
"หนีคนอยู่รึขอรับตามบ่าวมาทางนี้สิ"
แก้วอาสา บัวมองอย่างลังเลใจก่อนตัดสินใจเดินตาม เขาพาหญิงสาวเดินอ้อมไปหลังตลาดแถวลานชนไก่ที่เขากับขุนวิชิตมาประจำ
"ที่นี่แหละขอรับ คงไม่มีผู้ใดคิดว่าคุณหนูจะมาที่นี่ดอก"
"ขอบน้ำใจเจ้ามาก"
บัวไม่ใส่ใจนักเดินดูรอบๆ บริเวณที่เต็มไปด้วยสุ่มไก่ มีผู้ชายหลายคนนั่งให้น้ำไก่ชนเพื่อเตรียมความพร้อมลงสนามอีกครั้ง ที่นี่มีทั้งไก่ชนสายเลือดไทยและสายเลือดพม่า หญิงสาวไม่เคยมาที่แบบนี้ก็ตื่นเต้นจนเผลอยิ้มออกมา
"ไก่พวกนี้เขาจะเอาไว้ตีหรือ? "
"ใช่ขอรับวันนี้มีไอ้เพชรจากเมืองวิเศษชัยชาญจักมากับพวกนักมวยที่จะมาเทียบมวย เดิมพันครั้งนี้มากโขขอรับ"
เขาเองก็ว่าจะนำไก่ชนตัวเอกมาเดิมพันเหมือนกัน
"เมี่ยงข้าอยากดู"
บัวสะกิดบ่าวสีหน้าตื่นเต้นเนื่องจากมีพี่ชายตั้งสองคนที่ชอบชนไก่ พอมาเห็นอย่างนี้ให้นึกถึงสมัยเด็ก
"ไม่ได้เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวโดนหวายทวนหลังอีก"
"เอ๊ะ! เอ็งนี่ขัดข้าเรื่อย"
บัวเดินดูไก่ที่ถูกขังในสุ่มไปเรื่อยสักพักก็กลับไปรอที่ท่าน้ำด้วยกลัวหายไปนานจะโดยคุณยายตำนิ แก้วถือโอกาสเดินตามหลังไปส่งโดยอ้างว่าเขาก็จะไปท่าน้ำเหมือนกันแต่ไม่ทันถึงท่าน้ำแตงอ่อนแม่ค้าขายผักก็เรียกตัวไว้ก่อน บัวเห็นแก้วมีธุระก็ไม่สนใจเดินกลับเอง หล่อนอุตสาห์จะซื้อขนมตอบแทนน้ำใจสักหน่อยแต่ชายหนุ่มคงจะไม่อยากรับแล้ว
"พี่แก้ววันนี้มาชนไก่หรือจ้ะ"
แตงอ่อนสาวสวยวัยสิบเจ็ดปีแม่ค้าขายผักยิ้มหวานให้ วันนี้พ่อนางไม่อยู่จึงเรียกชายหนุ่ม
"ข้ามากับป้าศรีน่ะ"
เขาหันไปมองบัวแต่นางก็หายไปเสียแล้ว
"แล้วเมื่อตะกี่ผู้ใดกันที่พี่เดินตาม ข้าไม่เคยเห็นหน้า"
นางใคร่รู้เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ซ้ำหญิงสาวยังงดงามจนหล่อนนึกอาย
"อ๋อ...หลานท่านพระยาภักดี ข้าเพียงนำทางกลับเรือ ข้าไปแล้วประเดี๋ยวป้าศรีจักด่าข้าอีก"
เขาไม่รอช้ารีบวิ่งตามบัว
"พี่แก้ว! พี่! โธ่...อุตส่าห์พ่อไม่อยู่ว่าจักได้คุยนาน ๆ "
แตงอ่อนบ่นเสียดาย แก้วกว่าจะตามทันหญิงสาวก็ลงเรือเตรียมกลับเรือน เขาเสียดายที่มีโอกาสอยู่ใกล้หญิงสาวน้อยมากและเขาเป็นแค่บ่าวไม่รู้ชาตินี้จะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือไม่ก่อนจะเดินซึมกลับเข้าไปตลาดอีกรอบเพื่อช่วยถือของ แต่แล้วหูเขาก็บังเอิญได้ยินชาวต่างชาตินั่งคุยกันเรื่องสินค้าที่หายไป เขาจึงแสร้งยืนดูของเพื่อจะฟังเรื่องราว เขานั้นได้ร่ำเรียนภาษากับมิชชันนารีอยู่บ้างจึงพอฟังออกพูดได้แต่ไม่เก่งเท่าขุนวิตรีบจับใจความเพื่อนำความไปบอกขุนวิชิต อีกหน้าที่หนึ่งของแก้วคือคอยสอดแนมผู้คนว่ามีใครกระทำผิดในย่านที่เขาอยู่อาศัย
"ไอ้แก้วหายไปไหนมา อย่าชักช้าเป็นเต่าคลานรีบขนของกลับแดดเริ่มแรงแล้ว เอาพวกมึงเร่งมือ! เร็วๆๆๆ!!"
"ป้ากลับเรือนไปก่อนข้าขอไปทำธุระประเดี๋ยวจะเดินกลับเอง"
เขาไม่รอให้นางอนุญาตเดินตามกลุ่มคนชาวต่างชาติไปเงียบๆ ในมือถือมะม่วงมันหนึ่งลูกกัดกินไปพลางหูตาก็สอดส่องผู้คนไปทั่ว
"ไปซะแล้วไอ้เวรเอ้ย! จะให้ผู้หญิงพายเรือ กลับกันหรือไอ้แก้ว! กลับมาส่งข้าก่อน!!"
ป้าศรีหัวเสียหมายมั่นว่ากลับเรือนจะฟ้องนายที่แก้วปล่อยพวกนางพายเรือกลับเอง
"มันชักดื้อดึงขึ้นทุกวันสงสัยบ่าวต้องตีสั่งสอนเสียหน่อย ดูสิเจ้าคะให้บ่าวกับอีพวกนี้พายเรือกลับเอง ส่วนมันคงจะไปกินเหล้าเป็นแน่ หัดเมาแต่เด็กใช้ได้ที่ไหน"
"มันอายุสิบแปดไม่เด็กแล้วปล่อยไปเถอะ ไม่มีมันเอ็งก็กลับได้นี่"
คุณหญิงน้ำทิพย์ขี้เกียจจะฟังเรื่องไม่เป็นเรื่อง สั่งบ่าวเร่งมือปรุงอาหารคาวหวานไม่อยากพูดมากเรื่องที่แก้วหายหน้าไป