#วันพฤหัสสีเขียว 5

1190 Words
#วันพฤหัสสีเขียว 5 งานช่วงหนัก ๆ ได้ผ่านพ้นไป เจ้านายทำตามที่บอกไว้คือจะเปิดรับคนเพิ่มอีกหนึ่งคน ตอนนี้ได้คนมาแล้วเป็นน้องผู้ชายน่ารักคนหนึ่ง พอแนะนำตัวและแบ่งหน้าที่งานกันเสร็จก็แยกย้ายกันทำงานโดยฉันให้มินนี่เป็นคนช่วยดูแลน้องคนใหม่ ส่วนตัวฉันเองเตรียมกล้องเช็กกล้องที่จะใช้ในวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ที่สนามมีงานแข่งและฉันก็ถูกไหว้วานจากพี่ณัฐช่วยถ่ายรูปบรรยากาศในงานให้ “พี่กรีน พรุ่งนี้ให้แท็ปไปช่วยด้วยไหมครับ” แท็ปน้องใหม่ของแผนเราเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น “ถ่ายเป็นใช่ไหม?” ฉันถามอย่างหยั่งเชิง “ใช่ครับ” น้องยิ้มกว้างสดใส “งั้นก็ได้ ถ้ามีกล้องที่คุ้นมือก็เอามาด้วยนะเผื่อให้ใช้กล้องตัวเอง” “ได้เลยครับ ว่าแต่เที่ยงนี้เราไปทานข้าวที่ไหนดีครับ” แท็ปยังถามต่อ มินนี่มองแท็ปนิ่ง ๆ ก่อนจะก้มหน้าพิมพ์อะไรสักอย่างในโทรศัพท์ มื้อเที่ยงอย่างนั้นเหรอ ฉันยังนึกไม่ออกเลยว่าจะไปทานข้าวที่ไหน พี่ ๆ ในแผนกก็เร่งงานกันอยู่ “พี่ ๆ คะ เที่ยงนี้ทานข้าวที่ไหนกันดี” ฉันตะโกนถาม “ร้านเดิมไหม ที่มีแอร์อะ” พี่คนหนึ่งตอบกลับมา “ได้ ๆ ร้านนั้นเลย” พี่ ๆ คนอื่นเสริม เป็นอันว่าฉันต้องจองโต๊ะสินะ “งั้นหนูจองโต๊ะเลยนะคะ” ฉันตอบกลับไปและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ร้านอาหารเพื่อจองโต๊ะ ฉันไม่ได้ตอบอะไรน้องแท็ปอีกเพราะคิดว่าน่าจะได้ยินทั่วกันแล้วตอนที่ถามพี่ ๆ ในห้อง เมื่อเช็กกล้องเสร็จก็เตรียมไว้พร้อมใช้งาน ตัวฉันเองที่ตั้งใจจะหมุนเก้าอี้ไปดูมินนี่ทำงานก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะจู่ ๆ โทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้ามาเป็นการโทรจากแอพลิเคชันไลน์ แปลกนะ ทำไมโทรมาได้ก็ไม่รู้ “ว่าไง” ฉันเอ่ยทักปลายสายทันทีที่สัญญาณถูกเชื่อมต่อ (แค่ติดซ้อมยาวหน่อยมีคนมาจีบเลยเหรอครับ) เสียงปลายสายถามงอน ๆ “ฮะ? อะไรกัน ไม่มีสักหน่อยถึงมีแล้วเราเกี่ยวอะไรเนี่ย” (เหอะ! ใช่สิ) อะไรของน้องเขาเนี่ย ฉันเริ่มงงแล้วนะ “อะไร เป็นอะไร” ฉันถามอย่างไม่สบายใจ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าน้องเป็นอะไรกัน (...มีคนบอกว่ามีคนจีบพี่) หลัง ๆ มาเด็กคนนี้มันช่างงอแงนัก ตั้งแต่วันที่มาอยู่เป็นเพื่อนตอนทำงานดึก ๆ ดื่น ๆ จนถึงตอนนี้ ก็ยังวอแวไม่เลิกซ้ำยังงอแงเก่งอีกต่างหาก “ไม่มี ใครไปพูดอะไรอีกเนี่ย” (เที่ยงนี้รอผมด้วย จะไปทานข้าวด้วย) “ได้ เลิกซ้อมแล้วบอก” (ครับ แต่พี่น่ะห้ามให้ใครจีบนะ) ว่าจบน้องก็วางสายไป ฉันได้แต่มองตามอย่างงุนงง “อะไรกันเจ้าเด็กคนนี้นี่” ฉันมองโทรศัพท์อย่างไม่เข้าใจ แต่พอถึงเวลาไปทานข้าวแท็ปก็เดินเข้ามาชวนพร้อมกับบอกว่าขอไปด้วยคน พี่ ๆ คนอื่นทยอยออกไปจนหมดฉันที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำออกมาพอถูกขอแบบนี้ก็ไม่กล้าปฏิเสธ “พี่ ๆ ไปกันหมดแล้ว ผมขอไปด้วยนะครับ” แท็ปบอกมาแบบนั้น “ได้ แต่เดี๋ยวจะมีคนไปด้วยนะ” “ครับ” แท็ปยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่ฉันเองก็รู้สึกแปลกไปด้วย เหมือนดีใจอะไรสักอย่าง ฉันหยิบกระเป๋าสะพายและโทรศัพท์เสร็จก็เดินออกจากห้องพร้อมกับแท็ป เมื่อเดินไปรอที่โซนรับแขกของสนาม ร่างสูงโปร่งของเธิร์สเดย์ก็เดินยิ้มกว้างเข้ามาใกล้ ตามกรอบหน้ายังมีหยดน้ำเกาะพราวตาไปหมด “รอนานไหมครับ” น้องเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้ม กระทั่งเดินเข้ามาใกล้และเห็นแท็ปนั่งอยู่ด้วยรอยยิ้มนั้นก็หายไปทันที พร้อมกับมองฉันนิ่ง ๆ “ไม่นาน ไปกันเลยไหมหิวแล้ว” “หือ?” เธิร์สเดย์แบมือมาตรงหน้า ฉันมองมือขาว ๆ นั้นอย่างสงสัย กระทั่งทนไม่ไหวเธิร์สจึงเอ่ยบอกเสียงเรียบ โกรธอะไรอีกเนี่ย “กุญแจรถครับจะขับให้” “อ้อ” ฉันพยักหน้ารับรู้ เธิร์สรับกุญแจไปก่อนจะชวนเดินไปที่รถ ฉันเองก็ไม่ลืมที่จะเรียกแท็ปให้เดินตามมาด้วย ระหว่างเดินทางไปที่ร้านอาหารฉันรู้สึกเงียบและมันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เธิร์สเดย์เงียบจนแปลกไปต่างจากแท็ปที่ชวนฉันคุยไม่หยุด เมื่อถึงร้านเราทั้งสามก็เข้าไปด้านใน พี่ ๆ สั่งอาหารกันมาแล้วล่ะ มินนี่โบกมือให้เข้าไปนั่งข้าง ๆ ฉันนั่งข้างมินนี่เก้าอี้ข้าง ๆ ก็มีผู้ชายสองคนยืนจ้องหน้ากันอยู่มือทั้งสองจับที่เก้าอี้ ไม่มีใครยอมใคร ที่ว่างก็ตั้งเยอะเด็กพวกนี้นี่มันยังไงฉันไม่เข้าใจเลยจะแย่งกันทำไม ฉันวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ข้างกายอย่างตัดปัญหา ทั้งสองมองฉันอย่างไม่พอใจเช่นเดียวกัน “ไม่ให้นั่งแล้ว ไปนั่งมุมนู้นเลย ไม่ต้องมามองแบบนั้น” ฉันบอกเสียงเข้มอย่างจริงจัง แท็ปพยักหน้าเข้าใจเดินคอตกไปนั่งที่ว่างอีกที่แต่เจ้าเด็กเธิร์สเดย์นี่สิ ทำไมไม่ยอมไป ไหนจะ... “ไม่ให้นั่ง” “ผมจะนั่ง ผมหิวแล้วด้วย” เธิร์สเดย์บอกอย่างงอแง “ก็มัวแต่ทะเลาะกัน นั่งดี ๆ ไม่ต้องมาใกล้พี่” ฉันบอกดุ ๆ แต่มีเหรอคนอย่างเธิร์สเดย์จะสนใจ เขายังนั่งเบียดฉันไม่หยุด “เอาละ ๆ ทานข้าวกันได้แล้ว วันนี้คุณเกรฟเลขาเจ้านายขอเป็นเจ้ามือเองเลยนะครับ” พี่ณัฐเอ่ยบอก ฉันก็ไม่ได้พูดอะไร ช่วงนี้พี่ชายฉันทำงานหนักไม่ค่อยได้มาเจอกันเท่าไหร่ จะโอนเงินมาให้ฉันก็ไม่เอาเพราะเกรงใจ เจ้าตัวเลยเลือกที่จะเลี้ยงพี่ ๆ ที่สนิทกับฉันแทน อันนี้ฟ้าใสเล่าให้ฟังนะ “แล้วพรุ่งนี้มีใครแข่งบ้างจากสนามเรา” “ทั้งสี่คนเลย ให้เธิร์สลงลองสนามด้วยปกติมีแต่ซ้อมรอบนี้นายอยากให้ลองแข่งก่อนเจอสนามใหญ่ปลายปี” “ดี ๆ เดี๋ยวออกไปให้กำลังใจ” “เขาคงมีกำลังใจของเขาแล้วล่ะ” เธิร์สมีกำลังใจอยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ เจ้าเด็กมีแฟนแล้วสินะ อยากรู้จังแฟนเจ้าเด็กจะเป็นยังไง ระหว่างคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยฉันก็ทานข้าวแล้วยังชวนมินนี่คุยเรื่องงานอีกด้วย มื้อเที่ยงเราจบลงเกือบบ่ายสอง เมื่อถึงเวลาสมควรต่างก็แยกย้ายกันกลับไปทำงาน รถฉันมีสามคนดังเช่นตอนมาเมื่อถึงเธิร์สเดย์ก็เดินตามเข้ามาส่งที่ห้องทำงาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD