สองสัปดาห์ผ่านไป เอรินได้มีวันหยุดพักผ่อน โดยการนอนเอกเขนกอยู่กับบ้านนำหนังสือที่อยากอ่านติดมือมาวางลงข้างๆ ตัว กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ถอนใจเบาๆ เพราะว่างเป็นไม่ได้ต้องนึกถึงคนใจดีอยู่ตลอด
“สติกลับมาได้แล้ว อยากจะอ่านหนังสือ” เอรินพูดเตือนตัวเองพร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆ ถอนใจเบาๆ มองออกไปนอกหน้าต่าง คิดถึงเมื่อวันที่ไปรบกวนปานรวีจนกระทั่งรุ่งสาง ซึ่งเจ้าบ้านดูแลเป็นอย่างดี แต่หลังจากวันนั้น เอรินเลือกที่จะไม่รบกวนคงจะดีกว่า เพราะหลังจากที่ได้ไปพูดคุยและไถ่ถามบางเรื่องจากนิมาและทองทิพย์แล้ว บางทีการอยู่ห่างๆ แบบคนรู้จักไม่ไปทำความสนิทสนมคุ้นเคยน่าจะดีระหว่างตัวเองกับปานรวี แต่เสียงแตรรถที่ดังอยู่หน้าบ้านนั้นทำให้เจ้าของบ้านต้องรีบลุกขึ้นในทันที
“ตรัย” เอรินรำพึงออกมาเบาๆ
เอรินดูเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนที่จะวิ่งตึงๆ จากชั้นบนลงมา เพื่อเปิดประตูบ้านให้ตรัยขับรถเข้ามาภายใน แต่เมื่อมองเลยไปที่นั่งด้านหลัง ภาพของคนที่กำลังยิ้มน้อยๆ ให้นั้นทำให้เอรินต้องถอนใจอีกครั้ง
“สวัสดีตอนสายๆ ครับ คุณหมอ” ตรัยทักทายหลังจากขับรถเข้ามาจอดด้านหน้าตัวบ้านของเอริน ซึ่งยิ้มน้อยๆ ให้ พนมมือไหว้ทักทายโตมรและปานรวีที่เอรินไม่ได้มองสบตาด้วย
“บ้าหรือเปล่าเนี่ย” เอรินหยิกตรัยเข้าให้ที่แขน เจ้าตัวร้องเอะอะเล็ก น้อย แต่เพียงครู่เดียวก็หัวเราะออกมา
“มาชวนไปกินข้าวกลางวัน ร้านอยู่แถวนี้เลยแวะมารับ” ตรัยกระซิบบอกคนที่ทำหน้าบึ้งใส่ แต่ตรัยกลับยิ้มๆ และเดินตามเอริน ซึ่งไปเตรียมน้ำดื่มให้กับแขกที่มา
“อ๋อมขอโทษด้วยค่ะ ที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย ไม่คิดว่าจะมีใครมาที่บ้าน” เอรินบอกมองสบตากับโตมรที่ยิ้มให้อยู่
“นายตรัยน่ะสิ บอกบ้านอ๋อมอยู่แถวนี้ ป๊อบเลยแนะให้แวะรับไปทานกลางวันด้วยกัน ร้านอยู่ไม่ไกลนักไปด้วยกันนะคะ อ๋อม”
โตมรเอ่ยปากชวนในฐานะผู้ใหญ่ เอรินแอบถอนใจ เมื่อได้ยินว่า คนที่แนะนำให้แวะรับนั้นเป็นคนที่เธอกำลังหันไปยิ้มน้อยๆ ให้
“ขอบคุณค่ะ แต่อ๋อมไม่ค่อยสบายค่ะ ต้องขอโทษพี่โตกับพี่ป๊อบด้วยนะคะ ตรัยก็นะ ไม่โทรฯ มาก่อนอีกแล้วนะ” เอรินหันไปดุตรัยที่ทำหน้าจ๋อยจนโตมรพี่ชายอดที่จะขำไม่ได้
“ทานยา หรือยังคะ” โตมรมักพูดคะขากับคนที่คุ้นเคยด้วย การที่ตรัยพาเอรินเข้าไปรับประทานอาหารที่บ้านเมื่อครั้งก่อน โตมรถือว่าเป็นการแนะนำตัวว่าที่น้องสะใภ้ ซึ่งตัวเขาเองค่อนข้างพอใจที่ตรัยคบหากับเอริน
“ยังเลยค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ พี่โต”
“งั้นเดี๋ยวเราซื้อมาฝากก็แล้วกันนะ” ตรัยยิ้มให้เอริน
“ไม่เป็นไรหรอก เราอยากพัก อยากนอนมากกว่า เดี๋ยวหาอะไรทานง่ายๆ ก็ได้ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” เอรินบอก
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันดีกว่าค่ะ จะได้ไม่รบกวนน้อง หายไวๆ นะคะ” ปานรวียิ้มจางๆ ให้เอรินที่พนมมือไหว้และบอกขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะ”
“พี่รบกวน ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ” ปานรวีพูดขึ้น
“เชิญค่ะ พี่ป๊อบ” ปานรวีจึงเดินตามเจ้าบ้านไป
“ว่าแต่ คุณหมอจ่ายยาให้ตัวเองได้ใช่ไหมคะ” ปานรวีถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“ได้ค่ะ” เอรินยิ้มๆ ให้กับปานรวี
“ทานอาหารด้วยนะคะ เดี๋ยวพี่จะซื้อฝากตรัยมาให้”
“อ๋อมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ เหนื่อยๆ แค่อยากพัก” เอรินบอก
“ไม่อยากเจอกัน ไม่อยากไปไหนด้วยกัน พี่ควรจะเข้าใจแบบนั้นหรือเปล่า” ปานรวีพูดจบ ก็เดินเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตู
“ตรัยนะ ตรัย พามาทำไมนะ” เอรินส่ายหน้า เดินออกมามองไปยังสองพี่น้องที่พูดคุยกัน สลับกับเสียงหัวเราะที่ดังขึ้น
ปานรวีไม่ได้พูดอะไรอีกเลย หลังจากกลับออกมานั่งอยู่ข้างๆ โตมรซึ่งเห็นสมควรแก่เวลาที่ควรจะกลับได้แล้ว เพราะมารบกวนเอริน ซึ่งไม่สบายอยู่นานพอสมควร
“เอออีกเรื่องหนึ่งคะ อีกสองสัปดาห์ไปหัวหินด้วยกันนะคะ แจ้งล่วง หน้าไว้ก่อน คุณหมอเคลียร์คิวให้หน่อยนะคะ” โตมรพูดขึ้นหันไปมองสบตากับตรัยที่แอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“คือ อ๋อม”
“พี่ป๊อบจะได้มีเพื่อน ไปเถอะนะ ไปสูดอากาศบริสุทธิ์เสียบ้าง อยู่แต่กับคนป่วย นะ อ๋อมนะ” ตรัยพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“เดี๋ยว อ๋อม บอกอีกทีได้ไหม คงต้องไปดูงานก่อน” เอรินบอก
“ไปเถอะค่ะ คุณหมอจะได้พักบ้าง” ปานรวีมองสบตา แล้วยิ้มน้อยๆ ให้กับเจ้าของบ้าน
หลังจากส่งแขกกลับเรียบร้อยแล้ว เอรินจึงส่งข้อความถึงตรัยว่า ไม่อยากทานอะไร ไม่ต้องซื้ออะไรเข้ามา พร้อมกับขู่ว่า ถ้าไม่ฟังจะไม่ยอมพูดคุยด้วยอีก คนอ่านข้อความขำๆ กับคำขู่นั้น
“เห็นหน้าจ๋อยๆ ก็รู้แล้วว่า ไม่อยากให้รบกวน พักผ่อนเถอะ” ข้อความตอบกลับมาจากตรัย ทำให้เอรินรู้สึกโล่งใจ
บ่ายแก่ๆ เอรินตัดสินใจมานั่งอยู่ที่ร้านขนมของนิมา ซึ่งยิ้มกว้างทันที เมื่อได้เห็นเอรินเดินเข้ามาในร้านพาไปเลือกขนมและชา รวมถึงมานั่งพูดคุยเป็นเพื่อน
“หยุดหรือ อ๋อม”
“ใช่แล๊ว” เอรินยิ้มให้นิมา
“ถ้าอย่างนั้นทานมื้อเย็นด้วยกันสิ” นิมาเอ่ยชวน
“ไม่เป็นไรจ๊ะ เกรงใจเดี๋ยวสาวร้ายจะหาว่ามาเป็นก้างขวางคอ” เอรินพูดยิ้มๆ นิมาหัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน
“มีประชุมที่สปอร์ตคลับคงกลับค่ำ บอกไม่ต้องรอทานมื้อเย็น”
“นิ่มก็ทานคนเดียวสิ งั้นก็ได้ กราบงามๆ นะ แม่นิ่มนวล” เอรินแกล้งพนมมือยกท่วมหัว ทำให้นิมาหัวเราะอีกครั้ง
“ไอ้หมอบ้า ถ้าไม่เห็นใส่ชุดทำงานล่ะก็ ใครจะไปรู้นะว่าเป็นหมอ”
“มาอีกคนแล้ว เห็นอ๋อมเป็นเด็กกะโปโลล่ะสิ” เอรินพูดด้วยน้ำเสียงแสดงอาการน้อยใจ นิมายิ้มๆ มองสบตากับคนที่แววตาเรียบนิ่ง
“ใครกล้าว่า เดี๋ยวเราไปจัดการให้”
“ไม่มีอะไร พูดเล่นไปงั้นแหละ เอวันนี้คนไม่เยอะนะ” เอรินถาม
“เยอะไปเมื่อช่วงเช้าจ๊ะ เออว่าแต่นายตรัยเป็นไง ไม่ได้เจอนานแล้ว” นิมาถามถึงตรัยทำเอารอยยิ้มของเอรินจางลง
“เมื่อตอนสายๆ ไปหาที่บ้าน ชวนไปกินข้าวกลางวัน แต่อ๋อมขี้เกียจ”
“เอ๊ามีแบบนี้ด้วย ขี้เกียจแต่ขับรถมากินขนมได้นะ” นิมาพูดแหย่
“อยากนั่งคิดอะไรเพลินๆ” เอรินแอบถอนใจ แต่ไม่รอดไม่พ้นสายตาคนช่างสังเกตอย่างนิมา
“งั้นนิ่มไปข้างในก่อน อ๋อมจะได้คิดอะไรเพลินๆ” นิมายิ้ม
“คุยกันก่อนสิ แหมที่มาก็อยากคุยด้วยไม่ได้อยากนั่งคนเดียว”
“จะรู้ไหมล่ะ”
“นิ่มยุ่งอยู่ไหม นั่งคุยเป็นเพื่อนก่อน เอาจริง คือ เบื่อๆ อย่างไรก็ไม่รู้”
“มีปัญหาอะไรทะเลาะกับตรัยมาหรือเปล่า อ๋อม”
“ตรัยน่ะ อารมณ์ดีขนาดนั้น เคยทะเลาะกับใครเสียที่ไหน คนอะไรก็ไม่รู้หัวเราะได้ทุกเรื่อง” เอรินบ่นพึมพำ
“ไม่ดีหรือไง อยากได้คนชวนทะเลาะ ว่างั้น”
“เปล่าสักหน่อย” เอรินพูดยิ้มๆ นึกถึงปานรวีที่พูดอะไรบางอย่างตอนไปที่บ้านของเธอ
นิมาเดินไปเดินมาดูแลลูกค้า รวมถึงเอรินซึ่งดูเงียบไป มีเพียงรอยยิ้ม ขาดเสียงหัวเราะ ซึ่งค่อนข้างผิดปกติสำหรับคุณหมอสาวที่แสนจะอารมณ์ดี หรืออาจจะเหนื่อยมาจากการทำงาน เพราะเล่าว่า สองสัปดาห์ที่ผ่านมาทำ งานทุกวันเพิ่งได้พักวันนี้
“สวัสดีค่ะ” นิมาทักทายลูกค้าที่เดินยิ้มเข้ามา
“สวัสดีค่ะ วันนี้เจอเจ้าของร้านด้วย” เสียงนั้นทำให้เอรินถึงกับต้อง หันมามองคนที่พูดคุยอยู่กับนิมา
“รับอะไรดีคะ วันนี้” นิมาถาม แต่เห็นเอรินเดินตรงมาท่าทางน่าจะรู้จักกับลูกค้าคนที่กำลังมองดูขนมอยู่
“สวัสดีค่ะ พี่ป๊อบ” เอรินยิ้มจางๆ เมื่อปานรวีหันมาและรับไหว้
“สวัสดีค่ะ หายดีแล้วหรือคะ” น้ำเสียงเรียบๆ นั้น นิมาเองยังรู้สึกเย็นวาบทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ลูกค้าที่เพิ่งเข้ามานี้ยังพูดจาด้วยน้ำเสียงสดใสอยู่เลย
“คือ นิ่ม นี่พี่ป๊อบ แฟนพี่โต พี่ชายตรัย” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ
“สวัสดีอีกครั้งค่ะ พี่ป๊อบ” ปานรวียิ้มพนมมือรับไหว้นิมาที่สังเกตท่า ทีแปลกๆ ของสองสาวที่ดูอึดอัดกับการพบเจอกัน
“นิ่มว่า เชิญพี่ป๊อบดื่มชาก่อนดีกว่าค่ะ ระหว่างรอขนม”
“อย่าเลยค่ะ รบกวนเวลาพักผ่อนของหมอ” ปานรวีหันมายิ้มให้เอริน
“อ๋อมพาพี่ป๊อบไปนั่งด้วยไป๊” นิมาพูดเอ็ดเพื่อน
“เชิญค่ะ พี่ป๊อบ” เอรินมองสบตากับปานรวีที่มีสายตาเรียบนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินไปยังโต๊ะที่พอขยับตัว เอรินก็รีบเดินนำ
หน้าไปก่อน
เอรินนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับปานรวี ซึ่งมองไปทางนิมาที่กำลังดูแลเรื่องจัดเตรียมขนม เพื่อมาเพิ่มเติมให้กับสองสาวที่เป็นแขก รวมถึงขนมส่วนที่ถูก สั่งซื้อ นิมาแอบมองมาทางสองสาวที่ยังคงนั่งนิ่งไม่มีการพูดคุยกันอยู่ครู่ใหญ่
“พี่ป๊อบ สบายดีนะคะ” เอรินถามขึ้นก่อน ปานรวีจึงหันมามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“สบายดีค่ะ อ๋อมล่ะ ทานยาหรือยัง”
“อ๋อมไม่ได้ป่วย แต่อยากพักผ่อนน่ะคะ” เอรินรู้สึกผิดก้มหน้าเล็กน้อย แต่อยากบอกปานรวีตามตรง
“พี่มาทำให้อ๋อมอึดอัด หรือเปล่า” ปานรวีถาม
“เปล่าค่ะ ดื่มชาก่อนไหมคะ ชาร้านนิ่มหอมดีนะคะ”
“แต่ท่าทางอ๋อมไม่อยากเจอพี่นะ ส่งข้อความไปหา เงียบหายไปเลย” ปานรวีพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอยู่ตลอด
“เกรงใจน่ะคะ ไปรบกวนที่บ้านทั้งคืนเลย คืนนั้น”
“พี่นึกว่า เราจะเป็นว่าที่คู่สะใภ้ที่เข้ากันได้ดีเสียอีกนะคะ” ปานรวีพูด และมองไปทางนิมาที่หันมายิ้มน้อยๆ ให้
“อ๋อมคิดถึงพี่ป๊อบนะคะ แต่ไม่อยากไปรบกวน”
“คิดถึง ใครๆ ก็พูดได้นะ อ๋อม แต่การเงียบหายไป มันไม่ได้เป็นเหมือนที่อ๋อมบอกเลยนะ” ปานรวีพูดเสียงเข้ม
“อ๋อมว่าเราสนิทกันเร็วเกินไปค่ะ พี่ป๊อบ” เอรินบอก
“ค่ะ ก็เลยอยากอยู่ห่างๆ ก็แล้วแต่อ๋อมแล้วกัน” ปานรวียิ้มน้อยๆ จ้องมองเอรินที่ไม่ค่อยกล้าสบตาด้วยนัก
“ความรู้สึกของอ๋อม อาจจะไม่เหมือนของพี่ป๊อบก็ได้ค่ะ”
“ถ้าความสนิทสนมที่มีเร็วเกินไป เราก็เป็นแค่คนรู้จักกันไปก็แล้วกัน อ๋อมจะได้สบายใจไม่ต้องสนิทสนมมากนัก ไปมาหาสู่กัน
ตามมารยาท”
“พี่ป๊อบ ไม่เข้าใจ”
“พี่ทำอะไรไม่ดี ถึงเป็นเพื่อน เป็นพี่กับอ๋อมไม่ได้ ไหนว่าจะพาไปเลือกกล้วยไม้ ไหนว่าจะพามาทานขนมมาดื่มชา อยู่ๆ อ๋อมก็
หายไปเฉยๆ แบบนี้ อ๋อมคิดว่า พี่ควรจะรู้สึกอย่างไร” ปานรวีพูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวทำเอานิมารีบหันมามอง แต่เอรินส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกว่า ไม่มีอะไร นิมาจึงปล่อยให้สองสาวได้คุยกัน
“อ๋อมขอโทษค่ะ”
“ช่างเถอะ พี่จะเป็นแค่คนรู้จักของอ๋อม อย่างที่อ๋อมอยากให้เป็นก็แล้วกัน ในเมื่อมิตรภาพที่พี่มีให้ดูจะไม่สำคัญอะไรในสายตาอ๋อมเลย พี่ขอตัวก่อนนะคะ คุณนิ่มคงจัดขนมเสร็จแล้วล่ะ” ปานรวีถอนใจเล็กน้อยมองคนที่ยัง คงนั่งนิ่งหน้าจ๋อยท่าทางอึกอักไม่ยอม
พูดอะไรอีก