ตอนที่ 5 : ใช้เวลาของตัวเอง

1769 Words
สองสาวรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันเงียบๆ เอรินแอบชำเลืองมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอยู่บ่อยๆ ถอนใจเบาๆ เมื่อเห็นดอกกุหลาบขาวซึ่งยังคงวางอยู่ที่โต๊ะทำงาน เพราะดอกไม้ช่อนั้นหรือไม่ที่ทำให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเงียบไป “อร่อยไหมคะ” เอรินถามขึ้น เพราะความเงียบนั้นเข้าครอบคลุมหัวใจอยู่นานพอสมควร “ค่ะ” ปานรวีตอบเพียงสั้นๆ แต่ยังนั่งก้มหน้าเล็กน้อย “น้ำค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” ปานรวียิ้มจางๆ ให้เอริน แล้วหันกลับมาสนใจอาหารที่อยู่ในจานของตัวเองเหมือนเดิม “ถ้าอ๋อมยื่นนิ้วก้อยให้บ้าง พี่ป๊อบจะยิ้มให้อ๋อมไหมคะ” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ รู้สึกไม่ค่อยดีนักที่ปานรวีเงียบไป “ไม่มีนิ้วก้อย พี่ก็ยิ้มให้อ๋อมอยู่แล้วนะคะ” ปานรวียิ้มจางๆ ให้คนที่นั่งจ้องมองอยู่ คนที่ถูกจ้องมองรู้ดีว่าถูกมองและถูกสังเกตอยู่ตลอดเวลา “แต่ไม่สวยเหมือนตอนมาถึง” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ ยิ้มน้อยๆ ให้กับคนที่กลับมาจ้องมองแววตาที่ดูนิ่งๆ ของเอริน “พี่ก็ยิ้มปกตินะ” “ไม่ปกติค่ะ” เอรินยื่นนิ้วก้อยให้กับปานรวี บางทีอาจจะยิ้มออกเหมือนที่ตัวเองได้เห็นปานรวีทำอย่างนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา “อย่ากังวลเลย ไม่มีอะไรจริงๆ” ปานรวีพยายามยิ้มให้กว้างมากขึ้นกว่าเดิม เผื่อว่าคนที่นั่งหน้านิ่งๆ ยื่นนิ้วก้อยให้อยู่นั้นอาจจะ สบายใจขึ้น “เด็กงอแงคงไม่น่ารักแล้ว ไม่ได้นิ้วก้อยของผู้กองมาเกี่ยวไว้” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ หน้าจ๋อยทำให้ปานรวีรู้สึกสงสาร แต่ก็อดที่ยิ้มออกมาไม่ได้ “เด็กงอแง น่ารักตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นแล๊ว” ปานรวียิ้มกว้างมากขึ้นเมื่อแววตาของเอรินสดใสและเริ่มมีรอยยิ้มสวยๆ ให้เห็น “ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ ดีกันเน๊าะ พี่ป๊อบเน๊าะ” เอรินพยักหน้าแล้วยิ้มแป้นให้กับปานรวีที่หัวเราะเล็กๆ และยื่นนิ้วก้อยตัวเองไป เกี่ยวไว้ที่นิ้วก้อยของ คนที่ทำหน้าทะเล้นทันที เมื่อได้รับสัมผัสเล็กๆ จากนิ้วก้อยของปานรวี “ร้ายเหมือนกันนะคะ คุณหมอ” ปานรวีพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ถ้าร้ายแล้ว พี่ป๊อบยิ้มได้ อ๋อมยอมเป็นสาวร้ายเลยค่ะ” เอรินยิ้ม “ขอบคุณนะ อ๋อม” “ไม่ชอบกุหลาบขาว ไว้อ๋อมเอากล้วยไม้ไปฝากดีกว่านะคะ” “พี่ไม่ได้บอกสักหน่อยว่า ไม่ชอบ” ปานรวีบอก “อ๋อมไปวิ่งออกกำลังกายมาเมื่อเช้า ขากลับผ่านร้านดอกไม้เห็นแล้วนึกถึงพี่ป๊อบ แต่จากรอยยิ้มจางๆ แล้วก็ช่อดอกไม้ที่ คล้ายๆ กันนั้น อ๋อมเดาเอาว่า พี่ป๊อบคงไม่ชอบเท่าไรนัก” เอรินบอกที่มาของดอกกุหลาบขาวที่ได้ส่ง ไปให้เมื่อช่วงเช้า ไม่รู้ทำไมต้องอธิบายถึงที่มาที่ไป แค่บอกว่าอยากขอบคุณก็น่าจะพอแล้ว สำหรับขนมกับการได้พบเจอกันในค่ำคืนที่ผ่านมา “ชอบสิคะ เพราะทำให้พี่ยิ้มได้ตั้งแต่เห็นวางอยู่ที่โต๊ะและยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้น ตอนที่เห็นลายมือขยุกขยิกแอบขำด้วยล่ะ” ปานรวียิ้มให้กับคนที่ยิ้มอายๆ เมื่อได้ยินปานรวีพูดถึงลายมือ “อายจัง รู้แบบนี้ให้ร้านเขียนให้ดีกว่า” “ดูยุ่งๆ ไปนิด แต่ก็น่ารักดีค่ะ เขียนเองนั่นแหละดีแล้ว” “จะบ่ายแล้ว อ๋อมต้องไปเตรียมตัวแล้วค่ะ แต่อยากเดินไปส่งพี่ป๊อบที่รถก่อน” เอรินมองดูนาฬิกาข้อมือของตัวเอง “จ๊ะ ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันนะคะ” “คนทำ คือ เจ้าของร้านขนมที่พี่ป๊อบซื้อส่งมาให้อ๋อมนั่นแหละค่ะ” “หรือคะ” “ค่ะ เป็นเพื่อนอ๋อม เอาไว้จะพาไปดื่มชาที่ร้านนะคะ” “ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ” ปานรวียิ้มๆ กับคนที่ลุกขึ้น แล้วหันรีหันขวาง จนกระทั่งเดินเข้ามาสวมกอด “ขอบคุณที่มานะคะ ผู้กอง” เอรินกระซิบบอก “ขอบคุณเช่นกันค่ะ คุณหมอ” ปานรวีหัวเราะเล็กๆ กระชับอ้อมกอดเล็กน้อยแล้วคลายออกพร้อมด้วยรอยยิ้ม “ยินดีค่ะ จะทำธุระอยู่แถวนี้ จนถึงช่วงเย็นเลยหรือเปล่าคะ” “ค่ะ” ปานรวียิ้มน้อยๆ ให้คนที่เดินมาส่งที่รถ “พี่ป๊อบมีนัดหรือยังคะ เย็นนี้” เอรินถาม พร้อมด้วยยิ้มอายๆ ซึ่งไม่รู้จะอายทำไมรู้แต่ว่าใบหน้าร้อนๆ ชอบกล “นัดเลยไหม จะได้รับนัดคุณหมอไว้เลย” ปานรวีบอก “นัดเลยค่ะ เอารถมาจอดที่โรงพยาบาลแล้วไปรถอ๋อมนะคะ” “ได้ค่ะ พี่คงเสร็จงานประมาณห้าโมงเย็น ไว้เจอกันนะคะ” “ขับรถดีๆ นะคะ ผู้กอง” เอรินอมยิ้มกับคนที่หัวเราะเล็กๆ ออกมาก่อนที่จะเคลื่อนรถออกไป โตมรเดินลงมารับปานรวีที่ชั้นล่าง หลังจากได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ เนื่องจากมีนัดหมายการประชุมในเรื่องเดียวกัน คนที่เพิ่งมาถึงยิ้มๆ เมื่อเห็นนายทหารหนุ่มเดินมาเปิดประตูรถให้ ซึ่งโตมรปฏิบัติอยู่เป็นปกติ “ขอบคุณค่ะ ที่จริงพี่โตไม่ต้องลงมารอก็ได้ ข้างนอกร้อนออก” “แป๊บเดียวเองค่ะ ทานกลางวันมาหรือยังคะ” โตมรถาม “เรียบร้อยค่ะ แวะที่โรงพยาบาล อ๋อมเลยชวนทานกลางวันด้วยก่อนมาที่นี่น่ะคะ พอดีขับรถผ่านไป” ปานรวีบอก โตมรยิ้มกว้าง ขึ้น คงรู้สึกสบายใจที่คนรักตัวเองกับคนรักของน้องชายเข้ากันได้ดี ได้พบแค่เพียงครั้งเดียวเริ่มมีการพบปะพูดคุยกัน “นายตรัยคงดีใจนะ ถ้ารู้ว่าป๊อบแวะเยี่ยมอ๋อมด้วย” โตมรยิ้ม “ไปค่ะ เดี๋ยวเข้าห้องประชุมสายจะโดนเพ่งเล็ง” ปานรวีบอก แดดร่มลมตกปกติเอรินจะกลับบ้านทันทีหลังจากเลิกงาน หากไม่มีนัดหมายกับใคร เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เอรินยิ้มรีบเดินออกไปต้อนรับคนที่นัดหมายเอาไว้ในทันที แต่รอยยิ้มกลับจางลง เมื่อเห็นว่าคนที่มานั้นเป็นใคร “สวัสดีตอนเย็นครับผม คุณหมอคนสวย” ตรัยทักทายพร้อมด้วยรอย ยิ้มที่แฝงความทะเล้นไว้เล็กน้อย เพราะคนที่มาเปิดประตูดูท่าทางแปลกใจ “สวัสดีค่ะ คุณนายแบบมาทำไมกันคะ ทั้งกลางวัน ทั้งเย็น” “มารับไปทานข้าวสิขอรับ ดีใจแทบแย่เห็นรถจอดอยู่ ว่าแต่ว่าทำไมวันนี้กลับช้าล่ะ มีงานต่อหรือ” ตรัยถาม “อ๋อมมีนัด จะมาน่าจะโทรศัพท์มาก่อนนะ” “เศร้าเลยเรา” ตรัยแกล้งทำหน้าจ๋อย แต่ก็ยิ้มได้ภายในไม่กี่วินาที “ช่วยไม่ได้ ทุกทีเห็นโทรศัพท์มาก่อน” เอรินอมยิ้ม “ตรัยไปด้วยไม่ได้เหรอ นะ นะ” ตรัยพูดอ้อน แต่เห็นเอรินส่ายหน้าก็พอจะรู้แล้วว่า ท่าทางคงจะไม่มีโอกาส “กลับได้แล้วค่ะ” เอรินผลักตรัยเล็กน้อย แต่เจ้าตัวกลับแกล้งขืนตัวไม่ยอมไป แถมยังยิ้มทะเล้นให้อีก “ไม่อยากกลับ ก็อ๋อมยังไม่ไป ตรัยจะอยู่ก่อนนัดที่นี่หรือเปล่า” “ไปได้แล้ว” เอรินพูดเสียงเข้มเหลือบไปเห็นที่ลานจอดรถด้านนอก “ไม่ไปจะตื้ออยู่แบบนี้แหละ” ตรัยอมยิ้ม แต่เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่ดังขึ้นนั้น ดึงเอรินออกไปจากการหยอกล้อของนายแบบหนุ่มที่ยังคงยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตูเหมือนเดิม “สวัสดีค่ะ” เอรินทักทายหันไปมองทางตรัยเล็กน้อย ยังเห็นยิ้มแป้นอยู่ที่เดิม “พี่ติดธุระ คงไปตามนัดไม่ได้แล้วค่ะ เอาไว้คราวหน้านะคะ” ปานรวีพูดเสียงเรียบ เอรินได้ยินเข้าทำให้รู้สึกไม่สบายใจ อาจจะ เป็นเพราะเห็นรถของปานรวีที่จอดอยู่ด้านหน้าอาคารเมื่อสักครู่ “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพี่ป๊อบไม่อยากไปขับรถกลับบ้านดีๆ นะคะ” “ขอบคุณค่ะ” “อ๋อมกลับถึงบ้านแล้ว โทรฯ หาพี่ป๊อบได้ไหมคะ มีเรื่องอยากคุยด้วย” เอรินพูดเสียงเรียบน้ำเสียงเย็นๆ นั้น ปานรวีรู้สึกได้มองไปที่ห้องทำงานของ เอรินยังคงเห็นตรัยยืนอยู่ที่เดิม “ไม่เป็นไรค่ะ ใช้เวลาของตัวเองดีกว่านะ จะได้ไม่ต้องกังวล ไปล่ะค่ะ พี่ต้องขับรถแล้ว” ปานรวีบอก “เอาเป็นว่าอ๋อมจะโทรฯ หา แล้วแต่พี่ป๊อบก็แล้วกันค่ะ ว่าจะรับหรือ ไม่ขับรถดีๆ นะคะ” เอรินยิ้มจางๆ มองไปทางตรัย ซึ่งยิ้ม กว้างมากกว่าเดิมเพราะคาดเดาเอาว่า นัดหมายของเอรินคงจะถูกยกเลิก ถึงแม้จะไม่ได้ยินการพูดคุยทางโทรศัพท์ก็ตาม “ยกเลิกนัดหรือเปล่าครับ คุณหมอ” ตรัยยิ้มจนเห็นฟันเรียงสวย “เปล่าค่ะ ต้องไปแล้วล่ะไว้ค่อยคุยกันนะ ตรัย” เอรินบอกแล้วเดินไปหยิบกระเป๋า แต่โดนตรัยเอาตัวบังไว้ไม่ให้ออกไปจากห้อง “อ๋อมใจร้ายจะแอบขับตามไป” ตรัยพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ “เราจะโกรธไม่พูดด้วยเลยนะ ถ้าแอบขับตามน่ะ” เอรินพูดเสียงเข้ม “ดุดีแท้ไม่ตามก็ได้คร้าบบบบบ ขับรถดีๆ นะ กลับถึงบ้านแล้ว โทรฯ บอกตรัยหน่อยนะ ขอรับ” ตรัยอมยิ้ม “พ่อคุ๊ณไปเที่ยวตามสบายเถอะค่ะ อ๋อมถึงบ้านก่อนตรัยแน่ แล้วจะส่งข้อความไป ตรัยจะได้ไม่ต้องตะโกนคุยกับอ๋อม” เอรินยิ้มๆ เมื่อเห็นตรัยทำหน้าจ๋อยเบื่อคนรู้ทัน “ไปเที่ยวไม่ห้ามสักหน่อย หรือ” ตรัยถามเสียงอ่อยๆ “ไม่ล่ะอ๋อมเองยังไม่ชอบให้ใครมาห้ามเลย ความสุขของตรัย อ๋อมไม่ควรจะห้ามหรอกว่าไหม” เอรินบอก “ครับ ขับรถดีๆ นะครับ” ตรัยยิ้มๆ เดินตามมาส่งเอรินที่รถ “ขอบคุณค่ะ คุณนายแบบ” “ครับผม” ตรัยโบกมือให้เอรินจนกระทั่งขับรถออกไปจากโรงพยาบาล “ไม่เคยจะใจอ่อนเลยสักนิด หรือยังเคืองเรื่องที่พาไปบ้านเมื่อวานอยู่” ตรัยทำท่าคิด แต่เพียงครู่เดียวรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้น เพราะเสร็จงานเร็วโอกาสได้ท่องราตรีก็กำลังจะเริ่มขึ้น เอรินถือได้ว่า รู้ใจผู้ชายอย่างตรัยมากที่สุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD